โลกระทึก 7 Swing States ทรัมป์ คะแนนนำ แฮร์ริส 4 ต่อ 2 รัฐ
(6 พ.ย. 67) ยังสูสีพร้อมพลิกกลับได้เสมอ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาปิดหีบไปแล้วส่วนใหญ่ที่ 41 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐ โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่รัฐสวิงสเตต (Swing States) ซึ่งจากผลคะแนนตอนนี้โดนัลด์ ทรัมป์" แทบจะสูสีกันแบบคนละครึ่งกับ "คามาลา แฮร์ริส"
ทรัมป์มีคะแนนนำใน 4 รัฐ คือ จอร์เจีย, มินเนโซตา, นอร์ทแคโรไลนา และวิสคอนซิน
ส่วนแฮร์ริสมีคะแนนนำในรัฐ 2 รัฐ คือ มิชิแกน และเพนซิลเวเนีย
ก่อนหน้านี้ด้านสำนักข่าว NBC เผยผลสำรวจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาวสหรัฐช่วงระหว่างวันที่ 30 ต.ค. ถึง 2 พ.ย. โดยพบว่าจากผลสำรวจทั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกกัน และนางกมลา แฮร์ริส ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต มีคะแนนผลสำรวจที่สูสีเท่ากับ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์หลายฝ่ายที่เชื่อว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2024 นี้ผู้สมัครทั้งสองจะต้องอาศัยการชิงชัยในพื้นที่รัฐสวิงสเตท (Swing States) ที่จะเป็นตัวตัดสินว่าใครจะก้าวสู่ทำเนียบขาว
สำหรับรัฐสวิงสเตทที่จะเป็นตัวชี้ขาดของทั้งสองฝ่ายประกอบด้วย รัฐเนวาดา, รัฐแอริโซนา, รัฐวิสคอนซิน, รัฐมิชิแกน, รัฐเพนซิลเวเนีย, รัฐนอร์ทแคโรไลนา, และรัฐจอร์เจีย
สำหรับผลโพลสำรวจผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงในแต่ละรัฐสวิงสเตทพบว่า ทั้งกมลา แฮร์ริสและนายโดนัลด์ ทรัมป์มีคะแนนเสียงสูสีในสวิงสเตททั้ง 7 รัฐ โดยผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า รองประธานาธิบดีแฮร์ริสมีคะแนนนำเพียงเล็กน้อยในรัฐเนวาดา นอร์ทแคโรไลนา และวิสคอนซิน ส่วนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์มีคะแนนนำเพียงเล็กน้อยในรัฐแอริโซนา ขณะที่ทั้งคู่มีคะแนนสูสีกันในรัฐมิชิแกน จอร์เจีย และเพนซิลเวเนีย
รัฐเพนซิลเวเนีย
เพนซิลเวเนียเคยเป็นรัฐที่เดโมแครตวางใจได้ แต่ปัจจุบันเดโมแครตไม่สามารถยึดฐานเสียงในรัฐคีย์สโตนได้อีกต่อไป ทรัมป์จากพรรครีพับลิกันเคยชนะเสียงข้างมากในรัฐนี้ ซึ่งมีประชากร 13 ล้านคน ด้วยคะแนนนำ 0.7% ในปี 2016 จากนั้นไบเดนก็สามารถเอาชนะในรัฐนี้ได้ด้วยคะแนนนำ 1.2% ในปี 2020
รัฐแอริโซนา
โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะในรัฐแอริโซนาในปี 2016 ด้วยคะแนนเกือบ 4 เปอร์เซ็นต์ แต่แพ้รัฐนี้ให้กับโจ ไบเดนในปี 2020 ด้วยคะแนนน้อยกว่าครึ่งเปอร์เซ็นต์ การสำรวจความคิดเห็นในปีนี้พบว่าทรัมป์และกมลา แฮร์ริสมีคะแนนเท่ากัน
รัฐวิสคอนซิน
วิสคอนซินเป็นรัฐที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน โดยโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งที่นั่นในปี 2016 ด้วยคะแนนน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโจ ไบเดนชนะการเลือกตั้งที่นั่นในปี 2020 ด้วยคะแนนน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
รัฐจอร์เจีย
โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะในรัฐจอร์เจียในปี 2016 ด้วยคะแนนประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่แพ้ให้กับโจ ไบเดนในปี 2020 ด้วยคะแนนน้อยกว่า 12,000 คะแนน การแข่งขันในปีนี้เป็นการเสี่ยงดวง โดยทรัมป์และแฮร์ริสมีคะแนนเท่ากันในการสำรวจความคิดเห็น
รัฐมิชิแกน
โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งในรัฐมิชิแกนในปี 2016 สร้างความประหลาดใจให้กับพรรคเดโมแครตในรัฐที่พรรครีพับลิกันไม่เคยชนะเลยตั้งแต่ปี 1988 โจ ไบเดนชนะในรัฐนั้นในปี 2020 โดยเอาชนะทรัมป์ไป 3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อกมลา แฮร์ริสและทรัมป์มีคะแนนเท่ากันในทางสถิติ จึงเป็นการเสี่ยงดวงก่อนวันเลือกตั้ง
รัฐเนวาดา
พรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเนวาดาใน 2 ครั้งล่าสุด แต่ผลสำรวจและแนวโน้มการลงคะแนนในรัฐทำให้รัฐนี้กลายเป็นเป้าหมายที่น่าสนใจสำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อพยายามเปลี่ยนรัฐให้หันมาสนใจเขา กมลา แฮร์ริสและทรัมป์มีคะแนนเท่ากัน และรัฐนี้ถือเป็นรัฐที่ “เสี่ยงดวง”
รัฐนอร์ทแคโรไลนา
รัฐนอร์ทแคโรไลนาไม่ได้ลงคะแนนให้พรรคเดโมแครตเป็นประธานาธิบดีตั้งแต่ปี 2008 แต่ทีมหาเสียงของกมลา แฮร์ริสตั้งเป้าว่ารัฐนี้จะเป็นรัฐที่เธอสามารถชนะได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชากรผิวดำจำนวนมาก โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในรัฐนี้ในปี 2016 ด้วยคะแนน 3 เปอร์เซ็นต์ และในปี 2020 ด้วยคะแนน 1 เปอร์เซ็นต์
