Tuesday, 29 April 2025
TodaySpecial

12 พ.ศ. 2553 ‘จ่าเพียร’ วีรบุรุษแห่งเทือกเขายูโด เสียชีวิต จากเหตุลอบวางระเบิด และกราดยิง

ครบรอบ 13 ปี จ่าเพียร’ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ถูกลอบวางระเบิดและกราดยิง เสียชีวิตพร้อมลูกน้องขณะลาดตะเวน

วันที่ 12 มีนาคม 2553 ในขณะที่ พล.ต.อ.สมเพียร นั่งรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา พร้อมลูกน้อง 3 นาย และอส.คนสนิท อีก 1 นาย คือ ร.ต.ท.กิตติศักดิ์ โรมา รองสว.สส.สภ.บันนังสตา, ด.ต.โสภณ อินทรบวร,ส.ต.ท.ระวิกรณ์ สังข์ศิริ และอส.อับดุลอาซิ กาจะลากี ออกไปติดตามหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หลังทราบข่าวว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ได้ออกมาเคลื่อนไหวในพื้นที่ เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ เมื่อขับรถยนต์มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่ม จำนวน 5-8 คน กดระเบิดที่ฝังไว้ และใช้อาวุธสงครามยิงเข้าใส่ จำนวนหลายชุด เกิดการปะทะกันประมาณ 10 นาที เมื่อกำลังเสริมเข้าไปกลุ่มคนร้ายได้ล่าถอยเข้าไปในป่า ทั้งหมดถูกลำเลียงทั้งทางรถยนต์ และทางเฮลิคอปเตอร์เป็นการด่วน แรงระเบิดและคมกระสุนส่งผลให้ พล.ต.อ.สมเพียร ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ยะลา สิริอายุ 59 ปี ส่วนลูกน้องคนสนิท 4 นาย บาดเจ็บสาหัสส่วน ด.ต.โสภณ อินทรบวร เสียชีวิตในเวลาต่อมา

แสง สี เสียง จัดเต็ม ชวนคนไทยเที่ยว ‘เทศกาลดอกลำดวนบาน’ หนุนการท่องเที่ยว-ชมประเพณีสี่เผ่า ‘ไทศรีสะเกษ’

ชวนคนไทย เที่ยว เทศกาลดอกลำดวนบานฯ ศรีสะเกษ ททท. ส่งเสริมการท่องเที่ยว ชมอัตลักษณ์ วิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม 4 เผ่าไท  

(11 มี.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมงานเทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทศรีสะเกษ ประจำปี 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-12 มี.ค. 2566 ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ โดยเทศกาลดอกลำดวนบานฯ เป็นการแสดงอัตลักษณ์ วิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม ของชาว จ.ศรีสะเกษ ที่มีความหลากหลายของ 4 เผ่า ไทศรีสะเกษ ได้แก่ กูย เขมร ลาว เยอ อยู่ร่วมกันมานับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ รักษามรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันเทศกาลดอกลำดวนบานฯ ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งกิจกรรมโดดเด่นในปฏิทินที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) แนะนำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติไปเยี่ยมชมด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เทศกาลดอกลำดวนบานฯ มีกิจกรรมทั้งภาคกลางวันและภาคกลางคืน โดยกิจกรรมช่วงกลางวัน มีการแสดงรากวัฒนธรรม อาทิ บ้านจำลองของ 4 เผ่า ไทศรีสะเกษ (กูย เขมร ลาว เยอ) การแสดงที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อ พิธีกรรมประเพณี และวิถีชีวิตของชุมชน ที่มีความงานและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละชนเผ่า พร้อมอาหารพื้นบ้านของแแต่ละชนเผ่า  มีการจัดจำหน่ายสินค้าโอทอป (OTOP) อาหาร เครื่องดื่ม สมุนไพร ผ้าทอเบญจศรี ของใช้ เครื่องประดับ เป็นต้น กิจกรรมภาคกลางคืน ชมการแสดง เเสงสี เสียง "อารยธรรมแห่งศรัทธา มนตราศรีพฤเธศวร" ตอน รอยบรรพชน ซึ่งเป็นชุดการแสดงที่มีความยิ่งใหญ่ ใช้นักแสดงร่วมกว่า 400 คน

13 มีนาคม ของทุกปี กำหนดเป็น ‘วันช้างไทย’ ปลูกฝัง ปชช. หันอนุรักษ์สัตว์คู่บ้านคู่เมือง

‘ช้าง’ เป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์และผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นเวลานานแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยโบราณ ช้างเป็นพระราชพาหนะเคียงคู่พระบารมีพระมหากษัตริย์ไทยทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียว แต่สมัยปัจจุบัน คนไทยกลับเห็นคุณค่าและความสำคัญของช้างไทยลดลงไปทุกขณะ จนช้างถูกนำไปเร่ร่อนหาผลประโยชน์โดยควาญช้าง และล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นทุกที 

ดังนั้น เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญ และการดำรงอยู่ของช้างไทย รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทุกคนหันมาช่วยกันอนุรักษ์ช้าง ทางคณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบกำหนดให้ทุก ๆ วันที่ 13 มีนาคมของทุกปีเป็นวันช้างไทย 

ทั้งนี้ วันช้างไทยริเริ่มขึ้นจากคณะอนุกรรมการประสานงานการอนุรักษ์ช้างไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานประสานงาน องค์การภาครัฐและเอกชนที่ทำงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างไทยคณะกรรมการ เอกลักษณ์ของชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมีการสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น

คณะอนุกรรมการฯ จึงได้พิจารณาหาวันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำยุทธหัตถีมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา แต่วันดังกล่าวถูกใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้พิจารณาวันอื่น และเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกสัตว์ประจำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้นำเสนอมติตามลำดับขั้นเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เห็นชอบให้ วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็น ‘วันช้างไทย’ และได้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2541

14 มีนาคม พ.ศ. 2422 วันเกิด ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะชาวเยอรมนี

14 มีนาคม พ.ศ. 2422 เป็นวันเกิด อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพและสูตรอันโด่งดัง E=mc2 เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์เมื่อปี 2465 

อัลแบร์ท ไอน์ชไตน์ (Albert Einstein) หรือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และนักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ไอน์สไตน์เป็นชาวยิวที่เกิดในเยอรมนี เมื่อฮิตเลอร์ขึ้นสู่อำนาจตัดสินใจอพยพจากเยอรมนีไปอเมริกา และคัดค้านการขยายอิทธิพลของลัทธินาซี มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้สหรัฐสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม กลศาสตร์สถิติ และจักรวาลวิทยา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ใน 2464 จากการอธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก และจาก 'การทำประโยชน์แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี'

‘นายกฯ อบจ.ชลบุรี’ ปลื้มหนัก!! ‘ยองแจ GOT7’ ปักหมุด ‘บางแสน’ ถ่าย MV เพลงใหม่ ‘Errr Day’

บางแสนดังไกลถึงขั้นศิลปินนักร้องชื่อดังสมาชิกวง GOT7 ต้องยกกองมาถ่ายทำ MV เพลงใหม่ Errr Day ทำ นายก อบจ.ชลบุรี สุดปลื้ม

(13 มี.ค.) นายวิทยา คุณปลื้ม นายก อบจ.ชลบุรี ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวกล่าวถึงชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี ที่ขณะนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไปไกลถึงขนาดที่ศิลปินนักร้องชื่อดังจากเกาหลียังต้องบินมาถ่านทำ MV

โดยระบุข้อความว่า "หาดบ้านเราดังถึงเกาหลี เมื่อ ยองแจ หนึ่งในสมาชิกวง GOT7 มาถ่ายMV เพลงใหม่ Errr Day ที่หาดบางแสน ผมนี่ปลื้มสุดๆครับ ผมดีใจที่เราพัฒนาหาดบางแสนจนปัจจุบันบางแสนสวยและมีคนนิยมมาเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติ ครั้งนี้ศิลปินระดับโลกอย่างยองแจเลือกที่จะมาถ่ายทำที่บางแสน ผมเชื่อว่าต้องมีอากาเซ่(แฟนคลับ)หลายๆท่านมาตามรอยยองแจแน่ๆครับ เป็นการประชาสัมพันธ์บางแสนไปทั่วโลกและกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับชลบุรีอีกทางหนึ่งครับ ขอบคุณยองแจอีกครั้งครับ💚"


ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9660000023751
 

15 มีนาคม พ.ศ. 2401 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานกำเนิดหนังสือราชกิจจานุเบกษา

วันนี้ เมื่อ 165 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 โปรดให้จัดพิมพ์หนังสือแจ้งข่าวราชการที่เรียกว่า 'ราชกิจจานุเบกษา' นับเป็นสิ่งพิมพ์ของไทยเล่มแรกที่จัดทำโดยคนไทย

ราชกิจจานุเบกษา (Royal Thai Government Gazette ปกติเรียกสั้น ๆ ว่า Government Gazette) เป็นหนังสือรวบรวมคำประกาศของทางราชการ โดยเริ่มจัดพิมพ์ขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเมีย นพศก จุลศักราช 1219 ตรงกับวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2401 นับเป็นเอกสารหลักในการแจ้งประกาศ กฎหมาย และคำสั่งทางราชการให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการจวบจนปัจจุบันนี้

โดยมีสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบจัดพิมพ์และเผยแพร่

ประเภทของราชกิจจานุเบกษา

16 มีนาคม พ.ศ. 2424 พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระนางเรือล่ม อัครมเหสีองค์แรกในล้นเกล้า รัชกาลที่ 5

วันนี้ เมื่อ 142 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานเพลิงพระศพ ‘สมเด็จพระนางเรือล่ม’ อัครมเหสีองค์แรกในล้นเกล้า รัชกาลที่ 5

ถ้าเอ่ยถึงพระนาม 'สมเด็จพระนางเรือล่ม' คนไทยจะคุ้นเคยดี เพราะพระนามนี้มาจากเหตุการณ์สลดที่พระองค์ต้องมาสิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่มลงกลางแม่น้ำ

อย่างไรก็ดี สำหรับพระนามเต็มนั้น คือ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี โดยทรงมีพระนามเดิมว่า 'พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์' ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือล้นเกล้ารัชกาลที่ 4 และ สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2403 เป็นพระเจ้าลูกเธอรุ่นเล็ก ลำดับที่ 50 ในจำนวนทั้งหมด 82 พระองค์

นอกจากนี้ที่สำคัญยิ่งคือ พระองค์ยังทรงเป็นพระภรรยาเจ้าในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระขนิษฐาร่วมพระโสทรทั้ง 2 พระองค์ ได้แก่ พระองค์เจ้าสว่างวัฒนา (สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า) และ พระองค์เจ้าเสาวภาผ่องศรี (สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง)

โดยภายหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งขณะนั้นมีพระชันษาเพียง 8 ปี จึงเปลี่ยนพระฐานันดรศักดิ์จาก 'พระเจ้าลูกเธอ' เป็น พระเจ้าน้องนางเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์

และเมื่อพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ได้ถวายตัวรับราชการเป็นภรรยาเจ้าเมื่อพระชนมายุประมาณ 15–16 พรรษา จึงดำรงพระอิสริยยศเป็น พระนางเธอ พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์

เป็นที่รู้กันดีว่า พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์มีพระสิริโฉมงดงาม พระสติปัญญาฉลาดเฉียบแหลม จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น 'พระอัครมเหสี' ทรงรับราชการรับใช้สนองพระเดชพระคุณชิดใกล้ และยังทรงเป็นที่นับถือในพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพาร

ต่อมาวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2421 พระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ประสูติพระราชธิดาพระองค์แรกของพระองค์ โดยเป็นพระราชธิดาพระองค์ที่ 21 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระราชทานพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ โสภางคทัศนียลักษณ์ อัครวรราชกุมารี

แต่แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2423 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จประพาสพระราชวังบางปะอินพร้อมพระมเหสีทุกพระองค์ และข้าราชบริพาร

โดยวันนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้เคลื่อนขบวนเรือต่างๆ ออกไปก่อนในเวลาประมาณ 2 โมงเช้า ซึ่งพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ประทับบนเรือเก๋งกุดัน โดยมีเรือปานมารุตซึ่งเป็นเรือกลไฟจูงเรือพระประเทียบ

หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสร็จพระราชกิจแล้ว จึงได้เสด็จพระราชดำเนินด้วยเรือพระที่นั่งโสภาณภควดีตามไป เมื่อขบวนเรือพระที่นั่งไปถึงบางตลาดนั้น จมื่นทิพเสนากับปลัดวังซ้ายลงมากราบทูลข่าวร้ายว่า

“เรือพระที่นั่งพระองค์เจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ซึ่งเรือปานมารุตจูงไปนั้นล่มที่บางพูด องค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงกรรณาภรณ์เพชรรัตน์ แลพระชนนีสิ้นพระชนม์” ยังความโทมนัสแก่พระองค์เป็นอันมากหาที่เปรียบมิได้

ชื่นชมทัศนคติ แน็ก ชาลี เปิดโหมดจริงจัง แนะเรียนให้จบ ใบปริญญาสำคัญในเมืองไทย แม้ตนเรียนไม่จบ อย่าเอาอย่าง โอกาสประสบความสำเร็จตามคนรวยแต่เรียนไม่จบน้อยมาก

เป็นนักแสดงที่เรียกเสียงฮา ปล่อยมุขตลกให้แฟนๆ ได้ขำขันตามตลอด สำหรับ แน็ก ชาลี แต่อีกด้านในโหมดจริงจัง หนุ่มแน็ก ก็มีเช่นกัน ล่าสุดเจ้าตัวได้ไลฟ์สดในติ๊กต็อก สอนให้แฟนคลับตั้งใจเรียนให้จบ เแม้ว่าตนจะเรียนไม่จบก็ตาม ไม่อยากให้เอาเป็นแบบอย่าง เพราะใบปริญญาสำคัญมากสำหรับเมืองไทย เป็นใบเบิกทางให้โอกาสหลายด้านกับชีวิต นอกจากจะมีความถนัดทำธุรกิจแล้วรวย แต่ไม่ควรลาออกเพื่อทำตามคนรวยที่สำเร็จแล้วแต่เรียนไม่จบ เพราะโอกาสประสบความสำเร็จตามมีน้อยมาก

โดย แน็ก กล่าวว่า “ใครที่อยู่ที่เมืองไทย ต้องพยายามฝืนเรียนให้จบปริญญา อย่างน้อยก็มีโอกาสเยอะกว่าคนอื่น อันนี้ผมพูดแบบตรงๆ นะ ทั้งที่ผมเรียนไม่จบ แต่ผมก็ไม่เคยสนับสนุนให้เอาเป็นตัวอย่างการเรียนไม่จบ ผมจะบอกง่ายๆ ว่า มีหลายคนที่สอนผิดๆ นะ ที่แบบว่าตัวเองเรียนไม่จบแล้วประสบความสำเร็จ แล้วไปสอนคนอื่น ที่บอกว่าคุณไม่ต้องเรียนอะไรก็ได้ อันนั้นคือสิ่งที่ผิด

สำหรับผมถ้าจะสอนคน ผมจะบอกว่า ถ้าคุณไม่อยากเรียนมหาวิทยาลัยจริง คุณต้องหาทางออกอื่นให้ได้ก่อน สมมติว่าคุณเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ใช่ไหม ฝืนเรียนให้จบซะ นอกจากว่าเรียน ม.6 แล้วจับทางได้ว่าขายของเก่ง ทำธุรกิจได้ตั้งแต่เรียน ม.6 แล้วจะมีเงินเยอะมาก อันนั้นคุณหยุดเรียนมหาวิทยาลัย แล้วไปทำงานให้รวยไปเลย

หรือว่าถ้าใครเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ คุณห้ามคิดเด็ดขาดว่าเห็นคนนี้เป็นตัวอย่าง อยากออกไปทำแบบเขา ผมบอกเลยว่า 90% ไม่ประสบความสำเร็จ หรือถ้าไปมองตัวอย่างฝรั่งที่เขารวยอันดับต้นๆ แล้วใช้ข้ออ้างว่าเขาเรียนไม่จบแต่รวยมาก ผมบอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย

แม่ ๆ ปลื้ม!! ‘ฮาย Paper Planes’ โชว์ล้างจมูก แก๊งฟันน้ำนมยอมทำตาม ร้องขอเพิ่มทำคลิป ‘กินผัก’ บ้าง

‘ฮาย Paper Planes’ โชว์ล้างจมูก แม่ๆ ปลื้มลูกยอมทำตาม ขอคลิปกินผักบ้าง

หลังจากสร้างฐานแฟนคลับเจนใหม่กลายเป็นหัวหน้าแก๊งค์ฟันน้ำนม ล่าสุดในช่องติ๊กต๊อกของวง Paper Planes (เปเปอร์ เพลนส์) ได้สร้างตำนานบทใหม่อีกครั้ง โดยได้มีการเผยคลิปวีดีโอหนุ่ม ฮาย และ เซน ออกมาโชว์ล้างจมูกแบบทรงอย่างแบด ล้างจมูกอย่างบ่อยให้เหล่าน้องๆ หนูๆ ไปทำตามที่บ้าน

เรียกว่าทำเอาเหล่าผู้ปกครองของเด็กๆ ออกมาคอมเมนต์รีวิวว่า ‘ในฐานะแม่ ขอขอบคุณมากเลยค่ะ จากที่ลูกไม่ยอมล้างจมูกพอดูพี่ฮาย ยอมล้างเฉยเลย’, ‘น่ารักมากกกก น้องล้างจมูกง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ จับไซริ้งเองด้วย, ขอบคุณคลิปดีๆนะคะ’ และมีที่บอก ‘กินผักให้ดูหน่อยค่ะ จะเปิดให้ลูกดู ลูกจะได้กินผักตาม’, ‘กินนมกล่องดูดหลอดให้ด้วยค่ะยังไม่ยอมปล่อยขวดนมเลย’, ‘ขอกินผัก กินยา ไปรร. แล้วไม่ร้อง เก็บที่นอนเอง แปรงฟัน เข้านอนเร็ว ไม่ดูจอ ทำการบ้าน’ ฯลฯ


ที่มา : https://www.matichon.co.th/entertainment/news_3875670

17 มีนาคม ของทุกปี วันนักมวย หรือ วันมวยไทย รำลึกถึงบรมครูมวยไทย ‘นายขนมต้ม’

วันมวยไทย หรือวันนักมวย ตรงกับวันที่ 17 มีนาคม ของทุกปี ซึ่งในวันนี้ถือเป็นวันระลึกเหตุการณ์ในอดีตสมัยกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงครั้งที่ 2 ที่ ‪ 

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2317 นายขนมต้ม‬ นักมวยคาดเชือกชาวกรุงศรีอยุธยา ได้ขึ้นชกมวยต่อหน้าพระที่นั่งพระเจ้ามังระ และสามารถชนะได้ถึงสิบคน ทำให้ศิลปะการต่อสู้ การป้องกันตัวของไทยได้เป็นที่รู้จัก และมีชื่อเสียงตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาพร้อมกันนี้นายขนมต้มยังได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือน 'บิดามวยไทย' อีกด้วย

นายขนมต้ม เกิดที่ตำบล บ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายเกิดและ นางอี มีพี่สาวชื่อ เอื้อย แต่หลังการบุกของทัพพม่าได้ทำให้พ่อแม่และพี่สาวถูกพม่าฆ่าตายทั้งหมด มีเพียงแต่นายขนมต้มคนเดียว ที่รอดชีวิตมาได้ จากการถูกจับเป็นเชลยในระหว่างการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 และได้ไปอาศัยอยู่ในวัดตั้งแต่เล็ก ก็ได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้แม่ไม้มวยไทยอย่างต่อเนื่อง จนมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ ดังปรากฏในพงศาวดารว่า

“เมื่อพระเจ้ามังระโปรดให้ปฏิสังขรณ์และก่อเสริมพระเจดีย์ชเวดากองในเมืองย่างกุ้งเป็นการใหญ่นั้น ครั้นงานสำเร็จลงในปี พ.ศ. 2317 พอถึงวันฤกษ์งามยามดี คือวันที่ 17 มีนาคม จึงโปรดให้ทำพิธียกฉัตรใหญ่ขึ้นไว้บนยอดเป็นปฐมฤกษ์ แล้วได้ทรงเปิดงานมหกรรมฉลองอย่างมโหฬาร ขุนนางพม่ากราบทูลว่า “นักมวยไทยมีฝีมือดียิ่งนัก”

พระเจ้ามังระจึงตรัสสั่งให้เอาตัวนายขนมต้ม นักมวยดีมีฝีมือตั้งแต่ครั้งกรุงเก่ามาถวาย พระเจ้ามังระได้ให้จัดมวยพม่าเข้ามาเปรียบกับนายขนมต้ม โดยจัดให้ชกต่อหน้าพระที่นั่ง ปรากฏว่านายขนมต้มชกพม่าไม่ทันถึงยกก็แพ้ถึงเก้าคนสิบคนก็สู้ไม่ได้

พระเจ้ามังระทอดพระเนตรยกพระหัตถ์ตบพระอุระตรัสสรรเสริญนายขนมต้มว่า

“คนไทยนี้มีพิษสงรอบตัว แม้มือเปล่ายังเอาชนะคนได้ถึงเก้าคนสิบคน นี่หากว่ามีเจ้านายดี มีความสามัคคีกัน ไม่ขัดขากันเอง และไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว และโคตรตระกูลแล้ว ไฉนเลยกรุงศรีอยุธยาจะเสียทีแก่ข้าศึก ดั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top