Monday, 9 June 2025
TheStatesTimes

HARLEY-DAVIDSON® เผยโฉมมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นใหม่ล่าสุด ขุมพลัง Milwaukee-Eight™ 117 พร้อมฉลอง Fat Boy™ ครบรอบ 35 ปี

(8 มิ.ย. 68) Harley-Davidson จัดงานเปิดตัว “BEYOND THE ORDINARY POWERED BY 2025 HARLEY-DAVIDSON CRUISER 117 LINEUP” อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปรับโฉมใหม่เหล่านี้ ถือเป็นรุ่นสานต่อตำนานแห่งดีไซน์ สมรรถนะ และนวัตกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson พร้อมยกระดับขุมพลังด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight™ V-Twin ขนาด 117 ที่ติดตั้งมาในทุกรุ่น

งานเปิดตัวสุดพิเศษในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ Factopia Studio โดยมีสื่อมวลชน เหล่าสมาชิก Harley-Davidson Freedom Crew อินฟลูเอนเซอร์ และตัวแทนจำหน่ายจากทั่วประเทศมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

โดยมี มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย เป็นผู้เปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser รุ่นปี 2025 อย่างเป็นทางการ ประกอบด้วยรุ่น Low Rider™ S, Low Rider™ ST,  Breakout™, Heritage Classic, Fat Boy™ และ Street Bob™ พร้อมกันนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจาก กาย รัชชานนท์ สุประกอบ หนึ่งในสมาชิก Freedom Crew มาร่วมดำเนินรายการอย่างเป็นกันเอง 

นอกจากนี้ เหล่าผู้ร่วมงานยังได้ร่วมกันฉลองให้กับรถมอเตอร์ไซค์ระดับไอคอนิกรุ่น Fat Boy ในโอกาสครบรอบ 35 ปี โดยมีไฮไลต์สำคัญ คือการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ Fat BoyTM Gray Ghost ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 1,990 คันทั่วโลก โดยคันที่นำมาจัดแสดงในงานนี้ เป็นรถของลูกค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ มีเพียงคันเดียวในประเทศไทย เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสสุดพิเศษในปีนี้อย่างยิ่งใหญ่ 

การเปิดตัวไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 117 รุ่นปี 2025 ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Harley-Davidson ที่มีต่อตลาดประเทศไทย พร้อมส่งมอบความตื่นเต้นครั้งใหม่และแรงบันดาลใจให้กับเหล่านักขับขี่และผู้หลงใหลในแบรนด์ โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser 6 รุ่นใหม่นี้ ล้วนสะท้อนถึงเป้าหมายของแบรนด์ในการผลักดันและสร้างความคึกคักให้กับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียอย่างต่อเนื่อง

รถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025
Harley-Davidson พลิกโฉมรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ระดับไอคอนนิกจำนวน 6 รุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ผสานกับสมรรถนะที่ได้รับการยกระดับและดีไซน์อันทันสมัย โดยรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 พร้อมด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ และโครงสร้าง Harley-Davidson Softail TM ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนหลังแบบโมโนช็อค (Monoshock) โดยไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล Cruiser ปี 2025 ประกอบด้วยรุ่น Low Rider S, Low Rider  ST, Breakout , Heritage Classic, Fat Boy, และ Street Bob ซึ่งรถแต่ละรุ่นล้วนสะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวตั้งแต่ความคลาสสิกย้อนยุคไปจนถึงสมรรถนะที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดล้ำ

ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson Cruiser 117 รุ่นปี 2025 จะวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ ที่ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Harley-Davidson ทั่วประเทศ 

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อผู้แทนจำหน่าย Harley-Davidson เพื่อทดลองขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงบริการให้คำแนะนำสำหรับการคัสตอม และข้อมูลอัพเดทล่าสุดเกี่ยวกับอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์รุ่นใหม่ทั้งหมด

ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2025 และพร้อมจำหน่ายในประเทศไทย มีดังนี้ 
• Street Glide™ Ultra ราคาเริ่มต้นที่ 1,715,000 บาท
• CVO™ Street Glide™ ราคาเริ่มต้นที่ 3,191,000 บาท
• CVO™ Road Glide™ ราคาเริ่มต้นที่ 3,246,000 บาท
• CVO™ Road Glide™ ST ราคาเริ่มต้นที่ 3,439,000 บาท
• Street Bob™ ราคาเริ่มต้นที่ 889,000 บาท
• Heritage Classic ราคาเริ่มต้นที่ 1,136,000 บาท
• Fat Boy™ ราคาเริ่มต้นที่ 1,272,000 บาท
• Breakout™ ราคาเริ่มต้นที่ 1,262,000 บาท
• Low Rider™ S ราคาเริ่มต้นที่ 1,171,000 บาท
• Low Rider™ ST ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท
• Sportster™ S ราคาเริ่มต้นที่ 638,000 บาท
• Nightster™ (สี Snake Venom) ราคาเริ่มต้นที่ 527,000 บาท

‘นิติศักดิ์’ สส.รวมไทยสร้างชาติ อาสาเป็นสื่อกลาง รวมน้ำใจชาวพัทลุง รวบรวม!! ยางรถยนต์ ส่งให้ทหารหาญบริเวณชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’

(8 มิ.ย. 68) นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพัทลุง เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ปัจจุบันทหารหาญของไทยมีความต้องการสิ่งของต่าง ๆ โดยเฉพาะยางรถยนต์ ประกอบกับพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงก็มีความเป็นห่วงและต้องการช่วยเหลือเหล่าทหารหาญ โดยเฉพาะในส่วนของความปลอดภัย ตนจึงขออาสาเป็นสื่อกลางนำส่งน้ำใจของพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงด้วยการรวมรวบยางรถยนต์ ทั้งยางรถยนต์ 4 ล้อ, ยางรถบรรทุก 10 ล้อ และยางรถจักรยานยนต์ โดยพ่อแม่พี่น้องชาวพัทลุงสามารถนำยางรถยนต์มาบริจาคส่งให้คณะทำงาน ได้ที่บริเวณลานกว้าง ใกล้สำนักงานเทศบาลตำบลเขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง ตั้งแต่วันที่ 14-16 มิถุนายน เพื่อประสานนำส่งไปยังพื้นที่ชายแดนดังกล่าวต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับส่งของที่จะนำมาให้นั้น ขอเน้นให้เป็นยางรถยนต์หรือยางรถจักรยานยนต์ ส่วนสิ่งของอื่น ๆ ขอให้เน้นเป็นข้าวสารที่สามารถรวบรวมส่งไปได้เช่นกัน

นายนิติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด อีกทั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถในการปกป้องอธิปไตยและดินแดนของประเทศไทย จึงรับรู้สถานการณ์และความจำเป็นต่าง ๆ ในพื้นที่เป็นอย่างดี จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องวางใจได้ และยืนยันว่าทหารหาญไทยทุกนายจะได้รับความปลอดภัยและการดูแลเป็นอย่างดี

‘สหรัฐอเมริกา’ เตือน!! ‘เซเลนสกี’ การตอบโต้ของรัสเซีย ยังไม่หยุดแค่นี้

(8 มิ.ย. 68) การยิงขีปนาวุธถล่มเคียฟเมื่อวันศุกร์ยังไม่ใช่การตอบโต้ที่แท้จริง นั่นเป็นเพียงการ "อุ่นเครื่อง" ของรัสเซียก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีก

เจ้าหน้าที่สหรัฐคาดว่าจะมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธ โดรน และการตอบโต้ที่รุนแรงยิ่งกว่านั้น โดยจะมุ่งเป้าไปที่ศูนย์ข่าวกรองและระบบการป้องกันของยูเครน

สหรัฐยังคาดการณ์ไปถึงการโจมตีเป้าหมายที่เป็นสัญลักษณ์ของยูเครน ซึ่งอาจจะเป็นอาคารของรัฐบาล เพราะจะเป็นการสื่สารจากรัสเซียได้อย่างตรงไปตรงมาว่า "ไม่มีที่ใดปลอดภัยอีกต่อไปในยูเครน"

ขณะที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เผยว่าเครื่องบินรบของรัสเซียถูกทำลายมากกว่า 10 ลำ จากการโจมตีของโดรนยูเครน 117 ลำ

‘ศอ.ปชด.’ ยกระดับ!! มาตรการป้องกัน และปราบปรามฯตามแนวชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’ ควบคุมจุดผ่านแดนเข้มงวด

(8 มิ.ย. 68) จากสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา โดยปัจจุบันมีกำลังติดอาวุธ ของฝ่ายกัมพูชาได้วางกำลังรุกล้ำอธิปไตยของไทยทั้งนี้ รัฐบาล กระทรวงกลาโหมและกองทัพบก ได้ใช้ความพยายาม อย่างถึงที่สุดในการคลี่คลายความตึงเครียดตามแนวชายแดน โดยใช้กลไกทวิภาคีที่มีการตกลงกันไว้ กับกัมพูชา แตไม่ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกจากฝายกัมพูชา ทั้งยังปรากฏว่ากัมพูชาได้มีการเพิ่มเติมกำลังพล อาวุธและยุทโธปกรณเขามาประชิดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการดัดแปลงที่มั่นทางทหารซึ่งอาจมีความเสี่ยง ที่เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบแก่พี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน กองทัพบกและกองทัพเรือ ภายใต้มติสภาความมั่นคงแห่งชาติและตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม 

จึงได้กำหนดมาตรการควบคุมการเปิด-ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภทเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดน ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 และคำสั่งกองทัพเรือ (เฉพาะ) ที่ 447/2568 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2568 ดังนั่น เพื่อเป็นการสนับสนุนมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนดังกล่าว จึงให้หน่วยงานภายใต้กลไก ศอ.ปชด. ดำเนินการดังนี้ 1. ให้จังหวัดชายแดนในฐานะศูนยสั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านดานกัมพูชา และหนวยงาน ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้การสนับสนุนกองกำลังสุรนารี กองกำลังบูรพา และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด ในการรักษาความสงบเรียบร้อยและดำเนินการตามมาตรการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนดังกล่าว 2. ใหสำนักงานตรวจคนเขาเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้มงวดการผ่านเข้า-ออก ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ของบุคคลและกลุมบุคคล โดยเฉพาะพื้นที่ ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและบอนการพนัน อาทิ พื้นที่ชายแดนอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร อำเภอบานกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว อำเภอโปงน้ำรอน จังหวัดจันทบุรี และอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด นอกจากนั้นยังปรากฏข้าวสารว่ามีบุคคลและกลุ่มบุคคลยังคงมีการกระทำผิดด้านอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี และการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการบอนทำลายสภาพเศรษฐกิจและสังคม ทั้งภายในประเทศไทย และประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดังนั่นเพื่อให้การปองกันและปราบปรามอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ศอ.ปชด. จึงมีมาตรการ ดังนี้ 

1. แจ้งใหฝ่ายกัมพูชาเร่งรัดปราบปรามผูกออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ในทุกพื้นที่ทันที จับกุมและบังคับใชกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดรวมถึงผู้สนับสนุนทั้งหมด 

2.จะได้ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามฯ อาทิเช่น การตัดกระแสไฟ้ฟ้า การระงับสัญญาณ อินเตอร์เน็ตที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ ที่เป็นบอนการพนันและสแกมเมอร์ การควบคุมสิ้นค้าและยุทโธปกรณที่อาจจะนำไปใช้ในการก่ออาชญกรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ โดยจะได้นำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อ สภาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป ทั้งนี้ ศอ.ปชด. จะอำนวยการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดข้างตน ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติโดยไม่ให้กระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ของพี่น้องประชาชนบริเวณชายแดน พรอมทั้งจะได้ติดตามสถานการณ์อยางใกล้ชิดและพิจารณาเพิ่มเติมมาตรการ ที่จำเป็นจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายต่อไป

‘ทรัมป์’ โพสต์!! ชมเชย ‘กองกำลังป้องกันประเทศ’ ที่โชว์ผลงาน!! สลายม็อบในแอลเอ อย่างเหี้ยมหาญ

(8 มิ.ย. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

#ทรัมป์ ปธน. #สหรัฐฯ โพสต์ข้อความชมเชย #กองกำลังป้องกันประเทศ (National Guard) ที่สลายม็อบใน #แอลเอ อย่างเหี้ยมหาญ ว่า

“กองกำลังป้องกันประเทศทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมในลอสแองเจลิส หลังจากเกิดความรุนแรง การปะทะ และความไม่สงบเป็นเวลาสองวัน เรามีผู้ว่าการรัฐ (นิวส์คัม) และนายกเทศมนตรี (บาสส์) ที่ไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว (แค่ดูวิธีที่พวกเขาจัดการกับไฟป่า และตอนนี้การอนุญาตที่ล่าช้ามากของพวกเขา ใบอนุญาตของรัฐบาลกลางเสร็จสมบูรณ์แล้ว!) ไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้”

“การประท้วงของฝ่ายซ้ายสุดโต่งเหล่านี้ โดยผู้ยุยงและมักเป็นผู้ก่อปัญหาที่ได้รับค่าจ้าง รัฐบาลจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น และจากนี้ไป จะไม่อนุญาตให้สวมหน้ากากในการประท้วง คนเหล่านี้ต้องปกปิดอะไร และทำไม???”

“ขอบคุณกองกำลังป้องกันประเทศอีกครั้งสำหรับงานที่ทำได้ดีเยี่ยม"

‘อ.เจษฎา’ โพสต์ข้อความ!! เป็นห่วงการท่องเที่ยว ชี้!! ถ้าปั่นกันหนัก นักท่องเที่ยวจะหายหมด

(8 มิ.ย. 68) รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า …

ถ้าปั่นกันหนัก จนเหมือนเตรียมเข้าสู่สงคราม … 

นักท่องเที่ยวที่ไหน จะอยากมาไทย  ยิ่งน้อยๆ อยู่

“พล.ต.อ.ประจวบฯ” ประชุมขับเคลื่อนงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สรุปผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในรอบ 8 เดือน เข้มปราบยาเสพติด และดูแลนักท่องเที่ยว

(7 มิ.ย. 68) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในฐานะศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) , ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) , ศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทท.ตร.) , ประธานอนุกรรมการป้องกัน ปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่ภาคใต้ และหัวหน้าคณะทำงานปราบปรามความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทั่วประเทศ 

โดยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2568 พล.ต.อ.ประจวบฯ พร้อมด้วย พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทั่วประเทศ ในห้วง 8 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนพฤษภาคม 2568 สรุปผลการปฏิบัติในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนี้ 

1. ผลการดำเนินงานตัวชี้วัดแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี พ.ศ.2568 : ด้านการควบคุมอัตราการเกิดคดีกลุ่มชีวิตร่างกาย เพศ และทรัพย์ ในภาพรวม ผ่านเกณฑ์ ทั้ง 4 ตัวชี้วัด ถือได้ว่าภาพรวมอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมอัตราการเกิดคดีกลุ่มชีวิต ร่างกาย เพศ และทรัพย์ได้ 

2.ผลการดำเนินงานของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) : ผลการดำเนินคดีอาญาฟอกเงิน มีสัดส่วนการดำเนินคดีที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับห้วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในปี 2568 มีการดำเนินคดีความผิด 29 มูลฐาน จำนวน 161,194 คดี คดีอาญาฟอกเงิน 352 คดี คิดเป็นสัดส่วนคดีอาญาฟอกเงิน  0.218% เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 28.23% และมีผลการดำเนินงานตามโครงการ “สืบสวนสอบสวนและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568” โดยในภาพรวมทั้งประเทศสามารถสืบทรัพย์ได้ 419 เป้าหมาย ทรัพย์สินรวม1,178,097,883 บาท

3. ผลการดำเนินการของศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล คนร้ายสำคัญ และมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) : ในห้วง 4 เดือนที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2568) มีผลการจับกุม 137 คดี ผู้ต้องหา 239 ราย จำแนกเป็น คดียาเสพติด 68 ราย , คดีเรียกรับผลประโยชน์เส้นทางสาธารณะ 2 ราย , บุกรุกที่ดินสาธารณะ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ 3 ราย , ลักลอบค้าอาวุธสงคราม 11 ราย , มือปืนรับจ้าง 11 ราย , ลักลอบนำคนเข้าออกประเทศโดยผิดกฎหมาย 78 ราย , เปิดบ่อนการพนัน 6 ราย และนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ 38 ราย นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 เปิดปฏิบัติการ “ธรณีนี้มีขื่อ มีแป” ผลการตรวจค้น 653 เป้าหมาย 667 จุดตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหา 218 คน ตรวจยึดอาวุธปืน 236 กระบอก , เครื่องกระสุนปืน 5,314 นัด และวัตถุระเบิด 9 ลูก , ยาบ้า 17,397 เม็ด , ไอซ์ 113.15 กรัม และยานพาหนะ 314 คัน

4. ผลการดำเนินการของคณะทำงานปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ : ในห้วง 3 เดือนที่ผ่านมา (26 กุมภาพันธ์ - 5 มิถุนายน 2568) จับกุม 2,594 คดี ผู้ต้องหา 2,707 ราย ยึดของกลางบุหรี่ไฟฟ้ารวม 1,591,570 ชิ้น มูลค่ารวม 405,755,746 บาท

5. ผลการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปทท.ตร.) : ในห้วง 5 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม – พฤษภาคม 2568) มีการตั้งจุดตรวจรวมทั้งประเทศ 108,022 จุด เป็นจุดตรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ (จุดตรวจ 007) 14,128 จุด โดยในเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา มีผลการตรวจรวม 446,613 ครั้ง สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวในห้วง 5 เดือนที่ผ่านมา รวม 13,156,354 คน เกิดเหตุกับนักเที่ยวชาวต่างชาติ รวม 178 คดี ซึ่งลดลงถึง 7.19 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

6. ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการป้องกัน ปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ : ในห้วง 4 เดือนที่ผ่านมา (กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม 2568) มีการจับกุมรวม 82,448 คดี ผู้ต้องหา 82,410 คน ตรวจยึดของกลาง ยาบ้า 367,024,741 เม็ด , ไอซ์ 17,747 กิโลกรัม , เฮโรอีน 483 กิโลกรัม และยาอี 161,112 เม็ด 

ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประจวบฯ กล่าวว่า ได้กำชับสถานีตำรวจทั่วประเทศในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน และดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลอดจนอาชญากรรมอื่นที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน การปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ การปราบปรามความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าซึ่งมาทำลายสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน และการปราบปรามยาเสพติดซึ่งแพร่ระบาดไปยังชุมชน หมู่บ้าน ไปทั่วประเทศ เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี บำรุงขวัญและตรวจความพร้อมกำลังพล อาวุธ ยุทโธปกรณ์ แผนปฏิบัติการ รับฟังการบรรยายสรุป 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันมีความพร้อมในทุกด้าน

เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย. 68) เวลา 08.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปประชุมติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมความพร้อมกำลังพลในพื้นที่ ณ ห้องประชุมสุขวิมล กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล , พล.ต.ต.ประสงค์ เรืองเดช รองจเรตำรวจ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยผู้บังคับการ และผู้กำกับการ ในพื้นที่ และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม 

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดชายแดน โดยเฉพาะตำรวจพื้นที่ , ตำรวจทางหลวง , ตำรวจน้ำ , ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด และตำรวจสันติบาล จะต้องติดตามสถานการณ์ด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง บังคับใช้กฎหมายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับฟังการป้องกันสถานที่ราชการ สถานีตำรวจต่าง ๆ การตั้งรับและรั้งหน่วง , แผนการถอยร่นและช่วยเหลือประชาชน , แผนการอพยพ หลุมหลบภัย บังเกอร์ และเส้นทางในพื้นที่ โรงพยาบาลทางการแพทย์ และแผนการปฏิบัติส่วนหลังของแต่ละจังหวัด พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยซักซ้อมแผนการปฏิบัติ ทั้งการซักซ้อมในการควบคุมสั่งการ การซ้อมปฏิบัติบนโต๊ะ (TTX) และการปฏิบัติเสมือนจริงในพื้นที่กับจังหวัด และกองกำลังทหารในพื้นที่ ทั้งนี้ ทุกหน่วยยืนยันมีความพร้อม เจ้าหน้าที่มีขวัญและกำลังใจที่ดี มีการฝึกอบรมในพื้นที่ และได้รับการสนับสนุนจากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นอย่างดี โดยยังคงให้เตรียมความพร้อมเต็มอัตรา พร้อมช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และศูนย์การเรียนรู้

จากนั้นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจกองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดยกำชับให้ร่วมกันตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ร่วมกับตำรวจพื้นที่ เตรียมเส้นทางพื้นที่ชายแดน เส้นทางจังหวัด เส้นทางฉุกเฉิน และการนำส่งทางการแพทย์ สนับสนุนการเคลื่อนย้ายกำลังพลขนาดใหญ่ของภาคส่วนต่าง ๆ

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมสนับสนุนทุกด้าน ขอให้ทุกนายตั้งมั่นและร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top