Wednesday, 4 June 2025
TheStatesTimes

‘ชวน-นิพนธ์’ นำคณะเยือนจีน สานสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย ดันลงทุนในอุตสาหกรรมเด่นของภาคใต้…สู่ตลาดโลก

(25 พ.ค. 68) นายชวน หลีกภัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะผู้แทนไทยเดินทางเยือนมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 24–28 พฤษภาคม 2568 จัดกิจกรรมโรดโชว์สานสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย–จีนต่อเนื่อง พร้อมผู้แทนราชการ นักธุรกิจ และนักวิชาการ หวังขยายความร่วมมือด้านการค้า เทคโนโลยี และการลงทุน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเด่นของภาคใต้ไทย

ไฮไลต์ของภารกิจคือการจัดงาน “Southern Thailand Night” เปิดเวทีส่งเสริมการลงทุนภาคใต้ ชูจุดแข็งของ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในฐานะสะพานเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคอาเซียน หวังดึงดูดนักลงทุนจีนสู่โครงการ Rubber City และนิคมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล

นอกจากนี้ คณะยังมีกำหนดเยี่ยมชมกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีล้ำสมัยของจีน เช่น อุตสาหกรรมโดรน ยางสมัยใหม่ เมืองจัดการพลังงาน และศูนย์เกษตรอัจฉริยะ เพื่อศึกษาต้นแบบพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ของไทยในอนาคต โดยหวังให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม สร้างอาชีพและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

‘โฆษก รทสช.’ เผย เตรียมขุนพลถกงบฯ ปี 69 เน้นข้อมูลแน่น เสนอทางออก-ไม่ปะทะเดือด

(25 พ.ค. 68) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า พรรคเตรียมความพร้อมสำหรับการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28–31 พฤษภาคมนี้ โดยสมาชิกพรรคจะประชุมหารือร่วมกันในวันที่ 27 พฤษภาคม เพื่อกำหนดกรอบแนวทางการอภิปรายและคัดเลือกผู้อภิปรายที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

จากการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น พรรคพบว่ามีบางหน่วยงานที่จัดสรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่ง ส.ส.ของพรรคได้เตรียมข้อมูลและข้อเสนอแนะไว้พร้อมสำหรับอภิปราย ทั้งในวาระแรกและชั้นกรรมาธิการ เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพสูงสุด

พรรครวมไทยสร้างชาติได้รับจัดสรรเวลาอภิปรายรวม 1 ชั่วโมง 25 นาที โดยจะเน้นการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ กระชับ และมีเนื้อหาชัดเจน พร้อมเสนอแนวทางเชิงบวกต่อรัฐบาล นายอัครเดชยังเน้นย้ำว่า การอภิปรายควรเป็นไปอย่างมีสาระ ไม่ควรมีการประท้วงหรือออกนอกประเด็นซึ่งจะทำให้เสียเวลาและไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนผู้ติดตาม

โฆษก รทสช. ฝากถึงฝ่ายค้านให้ยึดกรอบการอภิปรายงบประมาณ ไม่ใช้เวทีนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พร้อมหวังให้ทุกฝ่ายอภิปรายอย่างมีวุฒิภาวะ และเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง ภายใต้การถ่ายทอดสดที่ประชาชนทั่วประเทศกำลังเฝ้าจับตา 

‘นิด้าโพล’ ชี้ คนไทยเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจ หากยกเลิกแจกเงินดิจิทัล ประชาชนส่วนใหญ่ไม่โกรธ

(25 พ.ค. 68) ผลสำรวจ “วิกฤติเศรษฐกิจกับการแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 และ 4” โดยนิด้าโพล ชี้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 83.66 เห็นว่าไทยกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจที่ควรแก้ไขเร่งด่วน โดยเกือบครึ่งหนึ่งต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน

ในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับกลุ่มอายุ 16–20 ปี ร้อยละ 57.25 เห็นด้วยให้ดำเนินการตามแผนในปีนี้ ส่วนเฟส 4 สำหรับกลุ่ม 21–59 ปี มีผู้สนับสนุนสูงถึงร้อยละ 62.98 ที่ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าต่อในปีนี้เช่นกัน

แม้ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุนโครงการ แต่หากรัฐบาลยกเลิกนโยบายดังกล่าว ร้อยละ 54.12 ระบุว่า “ไม่โกรธเลย” ขณะที่ร้อยละ 32.68 แสดงความไม่พอใจในระดับต่าง ๆ สะท้อนความเข้าใจของประชาชนต่อภาวะทางเศรษฐกิจและการบริหารงบประมาณ

นิด้าโพลระบุผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนถึงการคาดหวังของประชาชนต่อบทบาทของรัฐในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และความยืดหยุ่นในการยอมรับการปรับเปลี่ยนนโยบาย หากเป็นไปเพื่อประโยชน์โดยรวมของประเทศ

‘หมอสุรันต์’ เผยภาพประทับใจ ‘จัตุรัส ร.9’ กลางบอสตัน ตั้งแท่นหินแกรนิตจารึกประวัติ กษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักของชาวโลก

(25 พ.ค. 68) ทพ.สุรันต์ จันทร์พิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แบ่งปันเรื่องราวสุดแสนประทับใจ หลังเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่า…

จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช ตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ จัตุรัสแห่งนี้ตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่9 อันเป็นที่รักที่เทิดทูนของปวงชนชาวไทย

พระองค์เสด็จพระราชสมภพที่โรงพยาบาล เมาท์ ออเบิร์น(Mount Auburn Hospital) เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวในโลกที่พระราชสมภพบนแผ่นดินอเมริกา นายกเทศมนตรีเมืองเคมบริดจ์ จึงขอพระราชทานนามว่า “จัตุรัสภูมิพลอดุลยเดช” เพื่อเป็นเกียรติแก่เมืองเคมบริดจ์

เหตุที่ทรงเสด็จพระราชสมภพที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเนื่องมาจากสมเด็จพระบรมราชชนกได้ทรงศึกษาวิชาการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

โดยเช่าอพาร์ทเม้นท์ใกล้ๆมหาวิทยาลัย เป็นที่พำนักอยู่กับสมเด็จพระบรมราชชนนี (หม่อมสังวาลย์มหิดล ณ อยุธยาในขณะนั้น) ซึ่งต่อมาเจ้าชายพระองค์นี้ทรงเติบใหญ่เป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งแห่งราขวงศ์จักรี

บนแท่นหินแกรนิตกลางจัตุรัส มีอักษรโลหะบันทึกบอกเรื่องราวการเสด็จพระราชสมภพของพระองค์ Hampton Hotel Boston,Massachusetts, United States Of America 22May 2025 10°C(Feel like6°C),Rainy 07.05A.M. “เพราะโลกมันกว้าง เราจึงอยากแบ่งปัน”

FKII ผนึกเครือข่ายต้านโกง เปิดแพลตฟอร์ม ‘คอรัปชั่น ฟ้องดู’ ชวนประชาชนแจ้งทุจริตทั่วไทย แบบเรียลไทม์ ผ่าน AI อัจฉริยะ

(25 พ.ค. 68) นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. (FKII Thailand) เปิดเผยวันนี้ว่าสถาบันเอฟเคไอไอ. ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน เปิดตัวแพลตฟอร์ม “คอรัปชั่น ฟ้องดู” อย่างเป็นทางการ วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ณ TVA Hall กรุงเทพฯ หวังใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI เป็นแนวรบใหม่ในการปราบปรามการทุจริตที่สร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี

ภายในงานจะมีการบรรยายพิเศษจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายภาคส่วน เช่น ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์, ดร.มานะ นิมิตรมงคล และอดีตผู้ว่าการ สตง. โดยมีหัวข้ออภิปรายเกี่ยวกับวิกฤตคอร์รัปชั่นและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงการสาธิตใช้งานระบบแจ้งเบาะแส “คอรัปชั่น ฟ้องดู”

นอกจากนี้ ยังมีการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านทุจริตจากเครือข่ายภาคประชาชน เช่น สมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น สมาคมธุรกิจไม้ สภาวิสาหกิจ SME และองค์กรธรรมาภิบาล เพื่อสร้างพลังร่วมผลักดันให้เกิดการตรวจสอบอย่างเป็นรูปธรรมทั่วประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ. ระบุว่า ปัญหาคอร์รัปชั่นเป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการเติบโตของประเทศ จำเป็นต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน พร้อมเชิญชวนประชาชนร่วมงาน และลงทะเบียนผ่าน LineOA: FKII Thailand เพื่อสร้างสังคมโปร่งใสอย่างยั่งยืน

MK ออกโรงแจงกรณีงานวิ่งทิพย์ ยันหนุนแค่บางส่วน ‘จ่อฟ้องผู้จัด’ ทำแบรนด์เสียหาย

(25 พ.ค. 68) ร้านสุกี้เอ็มเค (MK Restaurant) ร้านชื่อดังที่อยู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าให้การสนับสนุนงบประมาณบางส่วนแก่กิจกรรม “Run for Destination 2025” จริง ด้วยเจตนาส่งเสริมสุขภาพของประชาชน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการจัดงาน รวมถึงการยกเลิกกิจกรรมในวันจริงที่ทำให้ผู้สมัครกว่า 70 คนได้รับความเสียหาย

กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อผู้จัดงานไม่ปรากฏตัว และไม่มีการแจกของตามที่สัญญาไว้ในโปสเตอร์โปรโมท ทั้งเสื้อ นาฬิกา รองเท้า และกระเป๋า ทั้งที่ผู้เข้าร่วมจ่ายค่าสมัครเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในโปสเตอร์มีโลโก้ MK ปรากฏเป็นผู้สนับสนุน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์

ทางเอ็มเคเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมดำเนินคดีกับผู้จัดงาน เนื่องจากบริษัทได้รับความเสียหายทั้งในด้านชื่อเสียงและการเงิน ด้านชาวเน็ตแสดงความเห็นใจ พร้อมมองว่า MK เองก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของ “งานวิ่งทิพย์” ครั้งนี้เช่นกัน

‘สี จิ้นผิง’ ยกหูคุย ‘มาครง’ ถกด่วนภาษี–สงคราม–การค้าโลก ย้ำจีนพร้อมร่วมมือกับอียู รับมือความปั่นป่วนจากสหรัฐ

(25 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ได้หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการร่วมมือด้านการค้าโลก พร้อมเคลียร์ข้อพิพาทภาษีนำเข้าบรั่นดีฝรั่งเศสในจีน ขณะเดียวกัน ผู้นำจีนเรียกร้องให้ฝรั่งเศสร่วมกันปกป้องกฎเกณฑ์การค้าโลก ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากภัยคุกคามของภาษีสหรัฐฯ

สี จิ้นผิง ระบุว่า จีนและฝรั่งเศสในฐานะสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ควรเป็นกำลังสำคัญในการธำรงระเบียบเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และยึดมั่นในพหุภาคีนิยมอย่างแท้จริง โดยย้ำว่าจีนมองยุโรปเป็นขั้วอำนาจอิสระที่ควรมีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก พร้อมจับมือรับมือกับความท้าทายระดับโลก

การพูดคุยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนเริ่มสอบสวนการทุ่มตลาดบรั่นดีจากอียู ขณะที่ฝรั่งเศส ซึ่งส่งออกคอนญัก (บรั่นดีที่ผลิตจากไวน์องุ่นในเขตคอนญัคของฝรั่งเศส) ไปจีนกว่า 1.4 พันล้านยูโรต่อปี ได้รับผลกระทบรุนแรง คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 50 ล้านยูโรต่อเดือน โดยมาครงระบุว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงจะเร่งคลี่คลายประเด็นนี้โดยเร็ว เพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตฝรั่งเศส

นอกจากนี้ ทั้งสองผู้นำยังหารือเรื่องสงครามยูเครน โดยมาครงระบุว่าทั้งคู่เห็นพ้องในเป้าหมาย “สันติภาพที่ยั่งยืนและมั่นคง” ซึ่งต้องเริ่มจากการหยุดยิงทันทีแบบไม่มีเงื่อนไข รวมถึงยังจะร่วมมือกันเตรียมการประชุมว่าด้วยทางออกแบบสองรัฐในตะวันออกกลางที่กำหนดจัดขึ้นที่นิวยอร์กในเดือนมิถุนายนนี้ โดยฝรั่งเศสร่วมเป็นเจ้าภาพกับซาอุดีอาระเบีย

 “บช.ทท.ยุค ผบช.เผือก“ล้ำหน้า ใช้ระบบกล้อง AI จับแล้วเกือบ 200 ราย ทั่วประเทศ

(24 พ.ค.68) เวลาประมาณ (18.28 น.) พลตำรวจโท ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผย ว่า จากนโยบายและข้อสั่งการ ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ให้นำเทคโนโลยี่สมัยใหม่มาพัฒนาปรับใช้กับการปฏิบัติหน้าของข้าราชการตำรวจทุกหน่วย เพื่อความรวดเร็ยวฝนการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในยุคปัจุบัน ทางกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ริเริ่มนำเทคโนโลยีกล้อง A.I. ที่เชื่อมต่อข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาติดตั้งในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อคัดกรองบุคคลที่เคยกระทำความผิดและมีหมายจับ รวมถึงบุคคลกลุ่มเสี่ยง ป้องกันไม่ให้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ อันเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว 

ตนได้สั่วการให้เริ่มนำเทคโนโลยีกล้อง A.I. ที่เชื่อมต่อข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มาติดตั้งในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อคัดกรองบุคคลที่เคยกระทำความผิดและมีหมายจับ รวมถึงบุคคลกลุ่มเสี่ยง ป้องกันไม่ให้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่ อันเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว 

ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจท่องเที่ยว 4 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว 1 ปฏิบัติหน้าที่อยู่ กล้อง A.I. ที่เชื่อมข้อมูลบุคคลตามหมายจับกับฐานข้อมูลของ บช.ก. ได้แจ้งเตือนว่าตรวจพบบุคคลตามจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 676/2568 ลงวันที่ 21 พ.ค.2568 คือ

นายพรพงษ์(นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น, ทำให้เสียทรัพย์ และพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ” จากการตรวจสอบพบ นายพรพงษ์ฯ และยืนยันว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงจับกุมตัวนำส่ง สภ.บางบัวทอง ภ.จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

ซึ่งกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวได้เริ่มนำระบบกล้อง A.I. มาใช้ในเดือนกรกฎาคม 2567 ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับรายแรกได้ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 และจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมได้แล้วรวม 180 ราย ประกอบด้วย ชลบุรี (เมืองพัทยา) 102 ราย , เชียงใหม่ 54 ราย , นครราชสีมา 21 ราย และ สมุทรปราการ(สนามบินสุวรรณภูมิ) 3 ราย

นอกจากนี้ยังได้นำข้อมูลบุคคลกลุ่มเสี่ยง ที่มีพฤติกรรมเป็นกลุ่มแก้งค์ หรือเคยการกระทำความนัในแหล่งท่องเที่ยว เช่น แก้งค์ล้วงกระเป๋าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แก้งค์แลกเงิน เป็นต้น จำนวนกว่า 600 ราย ลงไว้ในฐานข้อมูล หากบุคลคลเสี่ยงกลุ่มนี้เข้ามาในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญระบบจะแจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบเพื่อจะเฝ้าระวัง ตรวจสอบ ติดตามดูพฤติกรรม อันเป็นการป้องกันไม่ให้บุคคลกลุ่มนี้เข้ามาก่อเหตุกับนักท่องเที่ยวได้

ทั้งนี้จะได้ขยายการติดตั้งระบบกล้อง A.I. ดังกล่าวให้ครอบคลุมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ เพื่อดูแลความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป “ผบช.ทท.กล่าว”

คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา เดินทางไปประชุมและไปเยือนต่างประเทศ  ณ สหราชอาณาจักร

เมื่อวันจันทร์ที่ (19 พ.ค. 68) เวลา 10.00 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา นำโดย พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารฯ และกรรมาธิการการทหารฯ เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการพัฒนากับความร่วมมือเปลี่ยนถ่ายด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่ทันสมัยและประสิทธิภาพสูง ของ BEA System ประเทศอังกฤษ

โดยมี Mr.Dominic Morley Mr.Kevin Joyce
Mr.Stepen Luk Mr.Zakiy Manji Mr. Huw Davies
และ Mr.Ben Long  พร้อมเจ้าหน้าที่ BEA System ประเทศอังกฤษเข้าร่วมประชุมและให้การต้อนรับ รวมถึงนำคณะเยี่ยมชมโรงงานผลิตเทคโนโลยีป้องกันประเทศและสาธิตการบิน drone and anti drone technology ของกลุ่ม BEA System ที่เมืองเคมบริดจ์ด้วย

จากนั้น คณะกรรมาธิการได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการยุทโธปกรณ์ด้านความมั่นคงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีป้องกันประเทศสำหรับใช้ในทางทหารหรือทางด้านอื่นด้วย เพื่อพัฒนาสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเทคโนโลยีด้านการป้องกันประเทศร่วมกันระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการการทหารฯ จะได้นำข้อมูลที่ได้จากการประชุมทวิภาคีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่อไป 

นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

รอง ผบ.ตร.สั่งการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า และพื้นที่เสี่ยง ที่ส่งผลกระทบทำให้การจราจรติดขัด ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

(24 พ.ค. 68) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยบางช่วงอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้า และพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว

เมื่อวานที่ผ่านมาจึงได้ประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า และพื้นที่เสี่ยง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยรองผู้บัญชาการที่รับผิดชอบงานจราจร ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจสอบสวนกลาง , ตำรวจภูธรภาค 1 , ตำรวจภูธรภาค 7 และสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (สยศ.ตร.) , พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (คจร.ตร.) , พล.ต.ต.วีรพัฒน์ ศิวะแพทย์ รอง ผบช.สยศ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและลดอุบัติเหตุ คจร.ตร. , ผู้แทนกระทรวงคมนาคม , ผู้แทนสำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร , ผู้แทนกรมชลประทาน , ผู้ช่วยผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ,ผู้แทนบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้า และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.ไกรบุญฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อม บริหารจัดการร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในดำเนินการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมที่ส่งผลกระทบทำให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล โดยให้แต่ละกองบังคับการ และตำรวจภูธรจังหวัด สำรวจจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ อาทิ กรุงเทพมหานคร (สำนักการระบายน้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง) หน่วยงานเจ้าของถนน เทศบาล รวมทั้งชลประทานจังหวัด เพื่อแก้ปัญหารองรับการระบายน้ำท่วมขังกรณีที่มีฝนตกในปริมาณ 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง โดยใช้วิธีการแก้ปัญหาให้เหมาะสมในพื้นที่ เช่น เพิ่มจำนวนเครื่องสูบน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่มีกำลังสูง รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าในจุดนั้น ๆ ไม่ให้มีเครื่องจักร อุปกรณ์ วัสดุต่าง ๆ กีดขวางทางระบายน้ำ เป็นต้น

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนต้องการสอบถามข้อมูล แจ้งเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม สามารถติดต่อสายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร หมายเลข 1197 หรือสายด่วนตำรวจทางหลวง หมายเลข 1193 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top