Friday, 9 May 2025
TheStatesTimes

กิจกรรมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ณ เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม ครั้งที่ 20

หลวงพ่อพระพรหมบัณฑิต คือ พระมหาเถระที่ยืนหนึ่งบนเวทีระดับโลก สิ่งที่เห็นและเป็นไป ในกิจกรรมเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาโลก ณ เมืองโฮจิมินห์ เวียดนาม ครั้งที่ 20 โดยใช้สมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกบน Platform ในการทำหน้าที่เป็นสะพานในการเชื่อมชาวพุทธนานาชาติ ทั้งสามนิกาย: เถรวาท มหายาน และวัชรยาน เชื่อมทั้งศรีลังกา ไทย พม่า จีน เกาหลี เวียดนาม สู่ภูฏานและอินเดีย ข้ามสู่ยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ในขณะที่ประเทศจีน โดยพุทธสมาคมจีน และรัฐบาล ได้เดินทางมาพบทั้งประเทศไทย และเวียดนามในช่วงการจัดงานวิสาขบูชา เพื่อยืนยันถึงความพร้อมของประเทศจีนในการเป็นเจ้าภาพ ครั้งที่ 21 

วันวิสาขบูชาโลก  มุ่งสู่โอกาส World Wellness Complex: WWC  วันวิสาขบูชาโลก เป็นตลาดนัด หรือ Sunday Market ของชาวพุทธ ที่เดินทางมาพบปะแลกเปลี่ยน โดยใช้ความสัมพันธ์ที่ดีงามผ่านการทะลายกำแพง แล้วสร้างสะพานไปสู่ความร่วมมือในระดับพหุภาคี และทวิภาคีไปทำเรื่องอื่นๆ รวมถึงการนำหลักธรรม พลังความเชื่อ วัฒนธรรม วัดวาอาราม และวิถีปฏิบัติแบบสติ และสมาธิไปช่วยเป็นพลังในการเสริมสร้างความสุข สงบร่มเย็นเป็นสุขแก่ชีวิต โดยใช้การศึกษา การเผยแผ่ และสร้างสรรค์พลังร่วมมือและความสุขแก่ชาวโลก เวียดนาม ทุ่มงบ 200 กว่าล้าน ใช้วันวิสาขบูชาโลกเป็น Soft Power ดึงนักท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรมและศาสนา

ประเทศไทยในปี 2548 โดยรัฐบาลไทย เคยใช้แนวนโยบายวิสาขบูชาโลกเป็น Soft Power มาก่อน ทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้าน ดึงพลังทุกกระทรวง รวมถึงดึงศักยภาพของเอกชนมาสนับสนุนให้ผู้นำศาสนา ทั้งมหาเถรสมาคมและมหาจุฬาฯ โดยหลวงพ่อพระพรหมบัณฑืต เมื่อครั้งเป็นพระเทพโสภณ จัดกิจกรรมยกระดับวิสาขบูชาโลก เปิดประเทศดึงชาวพุทธทั่วโลกมาร่วมกิจกรรม นำสู่การท่องเที่ยวเชิงพุทธ ในขณะที่เวียดนามนั้น คณะสงฆ์และรัฐบาลก็นำใช้โมเดลดังกล่าวมาใช้ยกระดับการสร้างแบรนด์เพื่อสร้างคุณค่าให้กับประเทศ

ด้านคณะสงฆ์เวียดนาม ใช้วันวิสาขบูชาปลุกพลังศรัทธา ทุ่มพัฒนาการศึกษายกระดับสู่นานาชาติ การจัดพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ณ มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเวียดนาม หรือ Viet Nam Buddhist University ตีความเป็นอื่นไปไม่ได้  นอกจากการใช้พิธีนี้ เปิดมหาวิทยาลัยแห่งนี้อย่างเป็นทางการ ชี้นำให้ชาวโลกเห็นความพร้อมของการศึกษาพระพุทธศาสนาสมันใหม่ภายใต้การเชื่อมการศึกษาระดับนานาชาติของรัฐ สร้างความไว้ใจและแสดงความพร้อมสำหรับการศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาในระดับโลก

การสร้างชาติให้เติบโตอย่างมั่งคง ต้องไม่หลงลืมพลังศาสนา ไทยเคยแนวนโยบาย 3 พลังในการสร้างชาติไทย คือ การผนึกกำลังชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หลอมรวมให้เป็นหนึ่งจนประเทศไทยเคยสามารถยืนหนึ่งในอาเซียนอย่างมั่นคง ในขณะที่เวียดนามได้รวมพลังสร้างชาติมาตลอด 50 ปี หลัง 30 เมษายน 2518 ที่เป็นวันแห่งการปลอดปล่อยเวียดนามรวมเป็นหนึ่ง แล้วใช้แนวทางชาติกับศาสนาเสริมพลังกัน ตนเห็นชัดเจนในการจับงานฉลอง 50 ปีการสร้างชาติเวียดนามใหม่มารวมกับการจัดพิธีวิสาขบูชาโลกครั้งที่ 20 หลังยื่นขอเป็นเจ้าภาพมาร่วม 5 ปี ทั้งการล๊อบบี้และพูดในเวทีต่างๆ

ทั้งหมดคือสิ่งที่เห็นจากการเข้ามาคลุกคลีและช่วยชาวพุทธเวียดนามเตรียมการจัดงานมาตลอดทั้งปัที่ผ่านมา และขอแสดงความชื่นชม ทั้งพี่น้องชาวพุทธเวียดนามที่มุ่งมั่นนำพุทธศาสนามาปักธงในประเทศนี้ โดยมีท่านติ๊ก กว่าง ดึ๊ก ได้เสียสละเผาตัวตายให้ชาวโลก และชาวเวียดนามได้ลืมตาตื่นขึ้นมารักษาภูมิปัญญาที่ยิ่งใหญ่ใหญ่ ทิ้งหัวใจไว้เตือนใจให้ชาวพุทธเวียดนามได้ตระหนัก รักษาพุทธให้คงอยู่คู่กับชาวเวียดนามและชาวโลกตลอดไป

‘เกาหลีเหนือ’ ยิง ‘ขีปนาวุธพิสัยใกล้’ หลายลูกลงทะเลญี่ปุ่น หลังผู้นำ ‘คิม จองอึน’ เยี่ยมโรงงานกระสุนที่เพิ่มกำลังผลิต 4 เท่า

(8 พ.ค. 68) สื่อเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้หลายลูกจากเขตวอนซาน ทางตะวันออกของประเทศ ลงสู่ทะเลญี่ปุ่น โดยยังไม่ระบุพิสัยหรือจำนวนที่แน่ชัด ขณะกองทัพเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กำลังวิเคราะห์รายละเอียดเพิ่มเติม

การยิงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค. คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เดินทางเยี่ยมชมโรงงานผลิตกระสุนขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งรายงานว่าได้เพิ่มกำลังการผลิตกระสุนปืนใหญ่ขึ้น 4 เท่าจากระดับเฉลี่ย และเกือบ 2 เท่าของระดับสูงสุดก่อนหน้า

ก่อนหน้านี้ในเดือนเมษายน เกาหลีเหนือได้ทดสอบระบบอาวุธบนเรือรบใหม่ พร้อมประกาศแผนส่งมอบเรือพิฆาตหนัก 5,000 ตันให้กับกองทัพเรือต้นปีหน้า โดยคิมย้ำถึงเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถนิวเคลียร์ทางทะเลของประเทศ

นอกจากนี้ สื่อทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า โรงงานกระสุนดังกล่าวอยู่ภายใต้คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจที่สอง ซึ่งดูแลอุตสาหกรรมทหารโดยตรง ซึ่งผู้นำคิมจองอึนแสดงความหวังว่าการผลิตกระสุนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยขยายกำลังรบของกองทัพ

ขณะเดียวกัน มีรายงานจากตะวันตกว่า เกาหลีเหนือได้ส่งกระสุนปืนใหญ่ให้รัสเซียระหว่างสงครามในยูเครนแล้วกว่า 4–6 ล้านลูก ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณของความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศ

PETA โพสต์อีกระลอก! อ้างลิงไทยโดนบังคับเก็บมะพร้าว ชี้บางแบรนด์น้ำกะทิไทยยังคงใช้ ‘แรงงานลิง’ ทั้งที่มีทางเลือกอื่น

(8 พ.ค. 68) องค์การพิทักษ์สัตว์ PETA โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กพร้อมภาพประกอบ ระบุว่า “It's true💔 Some Thai coconut milk brands use forced monkey labor…” กล่าวหาว่าบางแบรนด์ของน้ำกะทิไทยยังคงใช้ 'แรงงานลิง' เพื่อเก็บมะพร้าว แม้จะมีทางเลือกทางจริยธรรมอื่นให้ใช้แทนแล้วก็ตาม

โพสต์ดังกล่าวอ้างว่า ลิงเหล่านี้ถูกพรากจากครอบครัวตั้งแต่ยังเล็ก และถูกฝึกให้ทำงานอย่างหนักเหมือนเครื่องจักรเก็บมะพร้าว เพื่อผลผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร ข้อความของ PETA นี้ ได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างชัดเจนว่า “พวกมัน (ลิง) ถูกขโมยจากครอบครัว และถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเครื่องจักรเก็บมะพร้าว”

ที่ผ่านมา PETA เคยเปิดเผยข้อมูลและทำแคมเปญรณรงค์ในประเด็นนี้หลายครั้ง ส่งผลให้ซูเปอร์มาร์เก็ตและแบรนด์ต่างประเทศหลายแห่งแบนผลิตภัณฑ์จากไทยบางยี่ห้อที่เข้าข่ายใช้แรงงานลิง แม้หน่วยงานในไทยจะเคยออกมาโต้แย้งและยืนยันว่ากรณีดังกล่าวมีเพียงส่วนน้อย

“จนกว่าอุตสาหกรรมมะพร้าวไทยจะปลอดจากการใช้แรงงานลิงโดยสิ้นเชิง ทาง PETA ขอเรียกร้องให้ผู้บริโภคเลือกซื้อน้ำกะทิจากแบรนด์ที่ได้รับการรับรองจาก PETA เท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำชี้แจงจากแบรนด์หรือหน่วยงานทางการไทยต่อโพสต์ล่าสุดของ PETA แต่ประเด็นนี้อาจจุดกระแสให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะในตลาดส่งออกสินค้ามะพร้าวของไทยในสหรัฐฯ และยุโรป

กกต.สั่งถอนชื่อผู้สมัคร 'สท.ศรีราชา' เหตุเคยต้องโทษจำคุกคดีค้ายาเสพติด

พรรคประชาชนฉาวอีก หลัง กกต. สั่งถอนชื่อ 'สิทธิชัย สัมฤทธิ์' ผู้สมัคร สท.ศรีราชา เหตุขาดคุณสมบัติต้องคำพิพากษาจำคุกคดีค้ายาเสพติด

(8 พ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีมีการเผยแพร่คำวินิจฉัยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้มีการถอนชื่อนายสิทธิชัย สัมฤทธิ์ สมาชิกพรรคประชาชน ออกจากการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ หมายเลข 13 เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองศรีราชา จ.ชลบุรี เนื่องจากขาดคุณสมบัติในการลงสมัครนั้น น.ส.มนัสนันท์ วิทนา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี ยอมรับว่า กกต.มีมติสั่งถอนชื่อนายสิทธิชัย ออกจากการเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์จริง และได้แจ้งไปยังผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์แล้ว

โดยนายสิทธิชัยต้องคำพิพากษาในคดีเก่า ซึ่งเป็นเหตุทำให้ไม่มีคุณสมบัติในการลงสมัครและเข้าข่ายรู้อยู่แล้วว่าตนเองไม่มีสิทธิ์สมัครแต่ยังมาลงสมัครตามมาตรา 120 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ที่กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด20 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามคำวินิจฉัยของ กกต.ระบุว่า นายสิทธิชัยเคยต้องคำพิพากษาศาลจังหวัดพัทยาซึ่งพิพากษาว่ากระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และสั่งลงโทษจำคุกลงโทษจำคุก 4 ปี 6 เดือน ปรับ 300,000 บาท จะมี พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรม มีพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธ.ค. 2550 ก็ไม่ได้เป็นผลให้การกระทำอันเป็นเหตุให้ถูกลงโทษลบล้างไปด้วยนายสิทธิชัย จึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี ตามพ.ร.บ.การเลือกสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 50 (10)

เวียดนามปฏิวัติการเดินทางและธุรกิจด้วย ‘วีซ่าทองคำ’ 10 ปี เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยว-ดึงดูดนักลงทุน-ตั้งเป้าเป็นจุดหมายถาวรแห่งใหม่

รัฐบาลเวียดนามประกาศแผนเปิดตัวโครงการ 'วีซ่าทองคำ' ระยะเวลา 10 ปี เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ โดยตั้งเป้าเปลี่ยนประเทศจากจุดหมายปลายทางชั่วคราวให้กลายเป็นศูนย์กลางการเดินทางและเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางมาเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจัยสำคัญคือการเพิ่มเที่ยวบินตรงจากเมืองหลักของอินเดีย เช่น เดลี มุมไบ และเจนไน ส่งผลให้เวียดนามกลายเป็นปลายทางที่เข้าถึงง่ายและน่าสนใจยิ่งขึ้น

ด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตเร็ว ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ และค่าครองชีพที่เหมาะสม เวียดนามกลายเป็นจุดหมายใหม่ที่ได้รับความสนใจจากสตาร์ตอัป นักลงทุนชาวอินเดีย โดยเฉพาะกลุ่มคนดิจิทัลในอุตสาหกรรมไอที พลังงานหมุนเวียน และการท่องเที่ยว

เวียดนามยกระดับกระบวนการขอวีซ่าให้เป็นระบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางชาวอินเดีย พร้อมเสนอไลฟ์สไตล์ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและความทันสมัย เมืองใหญ่อย่างโฮจิมินห์ ฮานอย และดานัง กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัย เข้าถึงได้ และน่าอยู่อย่างแท้จริง

‘สี จิ้นผิง’ ถึงมอสโกร่วมเฉลิมฉลอง ‘วันแห่งชัยชนะ’ ครบรอบ 80 ปี ย้ำสัมพันธ์ ‘จีน-รัสเซีย’ คือแบบอย่างเพื่อนบ้านในศตวรรษใหม่

(8 พ.ค. 68) ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแห่งจีน เดินทางเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 พฤษภาคม เพื่อเข้าร่วมพิธีครบรอบ 80 ปี 'วันแห่งชัยชนะ' ของรัสเซีย โดยออกแถลงการณ์ย้ำว่าจีนและรัสเซียได้ค้นพบแนวทางที่ถูกต้องในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศใหญ่ที่เป็นเพื่อนบ้าน ผ่านมิตรภาพถาวรและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ลึกซึ้ง

ผู้นำจีนระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียเป็นแบบอย่างของความร่วมมือที่เติบโตอย่างมั่นคงและเป็นอิสระ ซึ่งไม่เพียงนำประโยชน์ต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ แต่ยังส่งเสริมเสถียรภาพระดับโลกและระเบียบโลกแบบพหุขั้วที่เท่าเทียม ขณะเดียวกัน ยังเป็นโอกาสรำลึกถึงชัยชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์และการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติในปี 1945

จีนและรัสเซียยืนยันจะร่วมกันปกป้องหลักการระหว่างประเทศที่มีสหประชาชาติเป็นศูนย์กลาง ต่อต้านการเมืองเชิงอำนาจ และส่งเสริมระบบธรรมาภิบาลโลกที่ยุติธรรม โดยสีจิ้นผิงเตรียมหารือเชิงลึกกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เกี่ยวกับความร่วมมือในประเด็นทวิภาคีและระหว่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน

การเยือนครั้งนี้ถือเป็นการเข้าร่วมพิธีวันแห่งชัยชนะของรัสเซียในรอบทศวรรษของผู้นำจีน โดยมีพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่นที่ท่าอากาศยานวนูโคโวในกรุงมอสโก พร้อมการคุ้มกันทางอากาศโดยกองทัพรัสเซีย แสดงถึงระดับความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศมหาอำนาจ

จีน เมียนมา เวียดนาม ลาว และมองโกเลีย จากฝั่งเอเชีย เตรียมเข้าร่วมขบวนพาเหรดใหญ่ ‘วันแห่งชัยชนะ’ ของรัสเซีย

รัสเซียเตรียมจัดงานเฉลิมฉลอง 'วันแห่งชัยชนะ' (Victory Day) อย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ณ กรุงมอสโก โดยมีผู้นำจากหลายทวีปตอบรับเข้าร่วมอย่างคึกคัก รวมถึงประเทศในเอเชียที่เข้าร่วมอย่างโดดเด่น ได้แก่ จีน เวียดนาม เมียนมา มองโกเลีย และลาว สะท้อนทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างมอสโกและภูมิภาคเอเชียที่ใกล้ชิดขึ้นท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ผันผวน

รายชื่อผู้นำจากเอเชียที่เข้าร่วมมีทั้งระดับประธานาธิบดีและเลขาธิการพรรค โดย ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีนถือเป็นหนึ่งในแขกสำคัญ เช่นเดียวกับ โต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม, มิน ออง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา, อุคนากีน คูเรลซูค ประธานาธิบดีมองโกเลีย และ ทองลุน สีสุลิด ผู้นำลาว การเข้าร่วมของผู้นำเหล่านี้มีนัยสำคัญเชิงสัญลักษณ์และการทูต ท่ามกลางแรงกดดันจากตะวันตก

ไม่เพียงแค่ในเอเชีย ผู้นำจากประเทศในละตินอเมริกา แอฟริกา ตะวันออกกลาง และยุโรปตะวันออก เช่น เซอร์เบีย อาร์เมเนีย และเบลารุส ต่างทยอยเข้าร่วมพาเหรดครั้งนี้ รวมถึงประเทศมหาอำนาจจากโลกใต้ เช่น บราซิล และแอฟริกาใต้ ขณะที่อินเดีย แม้ไม่ได้ส่งผู้นำสูงสุด แต่ก็มีตัวแทนระดับสูงเข้าร่วม 

ทั้งนี้ งานวันแห่งชัยชนะถือเป็นเวทีสำคัญที่รัสเซียใช้สื่อสารพลังและพันธมิตรต่อสายตาชาวโลก และปีนี้ยิ่งมีความหมายเป็นพิเศษในยุคที่สงครามยูเครนยังดำเนินอยู่ การรวมตัวของผู้นำโลกตะวันออกและใต้จึงไม่เพียงแค่ 'รำลึกอดีต' แต่ยังสะท้อน 'พันธมิตรโลกใหม่' ที่กำลังก่อตัวอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ลงพื้นที่ติดตาม การขับเคลื่อนงานด้าน อววน. ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ณ มทร.ธัญบุรี

(8 พ.ค.68) นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ลงพื้นที่ติดตามการขับเคลื่อนงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อววน. ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ในการนี้มี นายองค์รักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี รองศาสตราจารย์ ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาการในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี รองศาสตราจารย์ ดร.เกียรติศักดิ์ แสงประดิษฐ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี พร้อมทั้งผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดปทุมธานี อาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และประชาชนในพื้นที่ ร่วมต้อนรับและเข้าร่วมกิจกรรมอย่างคับคั่ง ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยในช่วงเช้า เป็นการนำเสนอผลงานการขับเคลื่อนที่สำคัญๆ ด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ อววน. ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัย ราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 

ผ่านการรายงานและการจัดนิทรรศการภายในหอประชุมใหญ่ และในโอกาสนี้ นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้เกียรติ เยี่ยมชมบูธนิทรรศการและผลิตภัณฑ์ ที่ผ่านการพัฒนาและยกระดับด้วย อววน. จากมหาวิทยาลัย จำนวน 30 บูธ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายผู้ประกอบการ / วิสาหกิจชุมชน / SME / ภาคเอกชน และหน่วยงานในสังกัด อว. พร้อมทั้งกล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานด้าน อววน. ให้กับคณะผู้บริหาร อาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และประชาชนที่เข้าร่วมงาน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้นำเสนอผลการดำเนินงานด้าน อววน. ผ่านการดำเนินงานหลากหลายมิติ ในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการนำไปใช้ประโยชน์ ที่เชื่อมโยงกับความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น การพัฒนางานวิจัย การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการบริการวิชาการในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมหาวิทยาลัยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์กับพื้นที่ได้อย่างแท้จริง โดยชุมชนสามารถนำงานวิจัยที่ได้พัฒนาร่วมกันกับทางมหาวิทยาลัยไปต่อยอดเชิงพาณิชย์ และก่อเกิดรายได้ สร้างงานสร้างอาชีพได้อีกด้วย โดยภายในงานจะมีนิทรรศการหลักๆ ดังนี้

1. ผลงานวิจัยที่ได้รับรางวัลการประกวดในเวทีระดับนานาชาติ
​2. ผลงานที่ได้รับการจดอนุสิทธิบัตร และสิทธิบัตร (IP)
3. ผลงาน Innovative Start Up (UBI RMUTT)
4. Local Life Market – ตลาดวิถีไทย ใจกลางวิทยาศาสตร์ (ผลงานการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนภายใต้งานบริการวิชาการ และคลินิกเทคโนโลยี)
​5. กิจกรรมตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ สร้างสังคมสุขภาพดี
​6. ศูนย์ความเป็นเลิศด้าน Human and Business Development
7. นิทรรศการจากมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานการบูรณาการงานด้าน อววน. การแสดงผลงานการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมพัฒนา“ดอกบัว” อัตลักษณ์จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่ ต้นน้ำ – ปลายน้ำหลากหลายผลงาน ได้แก่

7.1 ความหลากหลายทางพันธุกรรมของบัวหลวงปัทมา ในจังหวัดปทุมธานี
7.2 การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากบัว (น้ำพริกผัดแห้งจากเม็ดบัว, ข้าวเกรียบรากบัว)
7.3 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยา สมุนไพร และเครื่องสำอางจากบัว (ขนมปังชาดีบัว, ครีมเกสรบัวหลวง)
7.4 การพัฒนาเส้นด้ายบัวหลวงด้วยเทคนิคการย้อมสีธรรมชาติ
7.5 การใช้ประโยชน์จากบัวเพื่อบ่งชี้คุณภาพสิ่งแวดล้อม
7.6 การวิเคราะห์ต้นทุน ผลประโยชน์ และคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร เครื่องดื่มไทย จากบัวหลวง

8. นิทรรศการจากเครือข่ายของพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
​8.1 นิทรรศการจากเครือข่ายคลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 
​8.2 นิทรรศการจากหน่วยงานในสังกัด อว. (วว./NIA/สทน.)
​8.3 นิทรรศการจากสถาบัน Wellness x Academy
​8.4 บริษัท TnK Beauty จำกัด (ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง และสกินแคร์)
​8.5 IMI Wellness Clinic สาธิตการฝังเข็มแพทย์แผนจีน

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงรับชมการแสดงศิลปะการแสดงรำไทยประยุกต์ชุดนวัตภูษา (ผ้า) ใยกล้วย โดย คณะศิลปกรรมศาสตร์ โดยชุดการแสดงจะเป็นการส่งเสริมนวัตกรรมเส้นใยกล้วยจากธรรมชาติสู่การออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อยกระดับสินค้าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรม ผ่านมิติการแสดงสื่อให้เห็นถึงคุณค่าของทุนทางวัฒนธรรมท้องถิ่นในจังหวัดปทุมธานีโดยผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้เศษวัสดุทางด้านการเกษตรมาสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เด่นของ อววน. ผ่านชุดการแสดงแฟชั่นโชว์ โดย คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ โดยชุดการแสดงจะสื่อถึงการนำผลงานวิจัยที่ได้รับการพัฒนา มาใช้ประโยชน์ในเชิงสร้างสรรค์และยังมีกิจกรรมตรวจสุขภาพฟรีเบื้องต้น จากคณะพยาบาล มีกิจกรรมนวดแผนไทยคณะการแพทย์บูรณาการ และการสาธิตวิชาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการทำยาดมสมุนไพรจากเปลือกส้มโออีกด้วย

และในช่วงบ่าย ผู้ช่วยรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บัว แห่งบ้านราชมงคลธัญบุรี โครงการตามแนวพระราดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช เพื่อรับชมนิทรรศการแสดงผลงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมจาก“ดอกบัว” โดยมีรายละเอียดดังนี้ การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื้อ การปรับปรุงสายพันธุ์บัว ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสเต็มเซลล์จากบัวฉลองขวัญ เครื่องดื่มบัวเข้มข้นป้องกันอาการสมองเสื่อม เครื่องดื่มชาหมักกลีบบัวสาย / ผลิตภัณฑ์น้ำรากบัวผงเสริมโปรไบโอติคสำเร็จรูปโดยวิธีทำแห้งแบบโฟมแมท โดยมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การสาธิตการทำผ้า Eco Print พิมพ์ลายบัว ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านพรพิมาน การสาธิตวาดภาพโดยใช้สีจากบัว และสาธิตการชงชาจากเกสรบัว  จากนั้นผู้ช่วยรัฐมนตรีและคณะเข้าเยี่ยมชม Aircraft Maintenance Facilities หลักสูตร “อิเล็กทรอนิกส์อากาศยาน” ภายใต้การบริหารจัดการของ ศูนย์สถาบันการบินแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยมีกิจกรรมดังนี้ สาธิตภาคปฏิบัติการถอด ประกอบ ตรวจเช็ค ใบพัดเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ สาธิตการสตาร์ทเครื่องยนต์เครื่องบินขนาดเล็ก สาธิตการจำลองการซ่อมบำรุงอากาศยานเครื่องบิน Airbus รับชมต้นแบบห้องเครื่องอากาศยานเสมือนจริงในห้องปฏิบัติการควบคุมจราจรทางอากาศ (Simulation room)

ประกันสังคมปรับเพิ่มสิทธิ 'ว่างงานจากการเลิกจ้าง' รับเงินทดแทนเป็น 60% จากเดิม 50% ของค่าจ้าง

(8 พ.ค. 68) นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคม โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม ได้เสนอร่างกฎกระทรวง ปรับเพิ่มอัตราการได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานเหตุเพราะถูกเลิกจ้าง จากอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน เป็นร้อยละ 60 ของค่าจ้างรายวัน โดยได้รับครั้งละไม่เกิน 180 วันต่อปีปฏิทิน เพื่อให้ผู้ประกันตนที่ว่างงานจากการถูกเลิกจ้างได้รับประโยชน์ทดแทนเพียงพอต่อการดำรงชีวิตจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 68 ได้มีมติเห็นชอบ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนตามกฎหมายของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการส่งกลับมาให้สำนักงานประกันสังคมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงนามในร่างกฎกระทรวง และส่งประกาศราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันถัดจากวันประกาศ

นางมารศรี กล่าวต่อไปว่า ประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานนั้น นอกจากจะให้การดูแลลูกจ้างที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ในกรณีถูกเลิกจ้างแล้ว ยังครอบคลุมถึงการว่างงานจากกรณีลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างอีกด้วย โดยผู้ประกันตนจะได้รับเงินทดแทนในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้างรายวัน ครั้งละไม่เกิน 90 วันต่อปีปฏิทิน ซึ่งการรับประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงานของผู้ประกันตนมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข คือ จะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงาน โดยมีระยะเวลาการว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป พร้อมทั้งต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน https://unemploy.doe.go.th และรายงานตัวผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

11 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 ในหลวง ร. 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระพันปีหลวง ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา ณ วัดพระธาตุเชิงชุมฯ

วันนี้ เมื่อ 57 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร พระอารามหลวง ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 

วัดพระธาตุเชิงชุมฯ ถือเป็นวัดที่มีความสำคัญในจังหวัดสกลนคร เป็นพระอารามหลวงที่พระบรมวงศานุวงศ์ แทบทุกพระองค์เคยเสด็จฯ บำเพ็ญพระราชกุศล เมื่อเสด็จฯมาทรงงานยังพื้นที่จังหวัดสกลนคร 

โดยครั้งที่มีความสำคัญครั้งหนึ่ง คือเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ ในขณะทรงผนวชและดำรงพระยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายสักการะองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระองค์แสน ณ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2521


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top