Tuesday, 29 April 2025
TheStatesTimes

ผู้บัญชาการทหารเรือตรวจเยี่ยมการฝึกการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง (CALFEX) ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2568

(28 เม.ย. 68) เวลา 10.00 น. พลเรือเอก จิรพล  ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ เดินทางตรวจเยี่ยมการฝึก CALFEX ของ นย. ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี

การฝึก CALFEX นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล (FTX) ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2568 ซึ่ง เป็นการฝึกปฏิบัติการจริงของหน่วยกำลังรบประเภทต่าง ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและประสบการณ์ให้กับกำลังพล โดยมีจุดประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการและทดสอบความพร้อมทั้งด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์

สำหรับการฝึก CALFEX จะทำการเข้าตี ยึดครอง รักษาที่หมายและสถาปนาเส้นแนวหัวหาดพร้อมทั้งสนับสนุนการเข้าตีด้วยการยิงอาวุธสนับสนุนของ นย. และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) รวมถึงร้องขอการโจมตีเป้าหมาย High Value Targets จากกองทัพอากาศ ซึ่งได้จำลองสถานการณ์และพื้นที่การฝึกมาที่สนามฝึก กองทัพเรือหมายเลข 16 
   
สำหรับอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกในส่วนของกองทัพเรือประกอบด้วย ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV จำนวน 6 คัน ยานเกราะโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก VN16 จำนวน 3 คัน ยานเกราะล้อยาง BTR -3E1 จำนวน 4 คัน รถ AWAV 7 คัน รถยนต์บรรทุกฮัมวี่ 4 คัน ปืนใหญ่สนามขนาด 155 มม.จาก นย. และ สอ.รฝ. หน่วยละ 2 กระบอก ปืนใหญ่สนามขนาด 105 มม. 2 กระบอก ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 40/60 มม. 2 กระบอก อาวุธยิงสนับสนุนภายในอัตรากองพันทหารราบ ชุดแทรกซึมทางอากาศจากกองพันลาดตระเวน  กองพลนาวิกโยธิน อากาศยานไร้คนขับแบบ M SOLAR-X 1 ระบบ 

โดยมีอากาศยานของกองทัพเรือที่ร่วมการฝึกประกอบด้วย เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลดอร์เนียร์สำหรับการส่งชุดแทรกซึมทางอากาศ เครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้าแบบ T-337 สำหรับการสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด (Close Air Support : CAS ) และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ EC-645 สำหรับการส่งกลับสายแพทย์  

ทั้งนี้ กองทัพบกได้จัดรถหุ้มเกราะติดอาวุธแบบ M1126 Stryker ICV 4 คัน เข้าร่วมการฝึกสำหรับการดำเนินกลยุทธ์เข้าตีและยึดครองที่หมาย ในขณะที่กองทัพอากาศจัดเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง สำหรับการขัดขวางกำลังเพิ่มเติมของฝ่ายตรงข้าม โดยมีชุดควบคุมอากาศยานโจมตี (Combat Control Team) จากกรมปฏิบัติการพิเศษหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน แนะนำการติดต่ออากาศยานเข้าพื้นที่การปฏิบัติการ
  
ผลลัพธ์ที่จะได้รับจากการฝึกในครั้งนี้ นอกจากกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ กองทัพบก และกองทัพอากาศจะได้ใช้ยุทธวิธีหลักนิยมในการรบร่วม และทดสอบแนวทางการใช้กำลังของกองทัพเรือให้เป็นไปตามแผนป้องกันประเทศ เพื่อให้เกิดความรู้ความชำนาญเพิ่มขึ้นจากการฝึกจริงแล้ว ยังทำให้กองทัพเรือได้รับทราบถึงขีดความสามารถและข้อจำกัดของกำลังพลในปัจจุบัน รวมทั้งการปฏิบัติการร่วมกันกับเหล่าทัพต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนพัฒนาขีดความสามารถสำหรับการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือ โดยเฉพาะในการป้องกันประเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ลำปาง-ตำรวจลำปางรวบแก๊งฉ้อโกงขายรถมือสอง – ขยายผลจับผู้ต้องหาคดียาบ้า 3.6 ล้านเม็ด

(28 เม.ย. 68) เวลา 13.00 น. ที่หน้าห้องปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง นำโดย พ.ต.อ.กฤษดา พันธ์เกษม รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พร้อมด้วย พ.ต.อ.คมสันต์ บำรุงยศ ผกก.สภ.เมืองลำปาง, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ หล้าสมศรี ผกก.สภ.แม่พริก และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงขายรถยนต์มือสอง และการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3.6 ล้านเม็ด

คดีฉ้อโกงขายรถยนต์มือสอง
จากการสืบสวนของชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พบพฤติกรรมหลอกลวงประชาชนในลักษณะแก๊งอั้งยี่ โดยมี น.ส.อิง และ น.ส.ออย (นามสมมุติ) เป็นผู้ร่วมขบวนการหลัก อ้างรับซื้อหรือรับจำนำรถในราคาถูก แล้วนำไปขายต่อโดยไม่คืนรถให้เจ้าของ แม้จะจ่ายเงินครบตามที่ตกลงแล้วก็ตาม

ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีรวม 19 คดี บางส่วนได้ส่งฟ้องศาลแล้ว และอยู่ระหว่างพิจารณา พร้อมกันนี้ได้ดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 5 คดี โดยหนึ่งในนั้นมีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกหลอกให้โอนเงิน 299,999 บาท เพื่อซื้อรถยนต์ ก่อนถูกแย่งรถคืนไป ทั้งยังพบพฤติกรรมใช้คนกลางหารถเป้าหมาย และหลอกให้ถอนแจ้งความเพื่อล่อลวงซ้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองในข้อหา "อั้งยี่" และ "ร่วมกันฉ้อโกง"

คดียาบ้า 3.6 ล้านเม็ด
ในอีกคดีหนึ่ง เจ้าหน้าที่ สภ.แม่พริก และ กก.สส.ภ.จว.ลำปาง ร่วมกับตำรวจจังหวัดตาก ขยายผลจากการจับกุมยาเสพติดจำนวนกว่า 3.6 ล้านเม็ดเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ได้ที่จุดตรวจท่าเล่ ต.แม่ท้อ อ.เมืองตาก เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา

ผู้ต้องหารายนี้ถูกออกหมายจับในข้อหา "ร่วมกันจำหน่ายและมียาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต" ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า และมีลักษณะขององค์กรอาชญากรรม โดยจากการติดตามเส้นทางรถยนต์ ISUZU D-MAX สีขาว ทะเบียน ยบ 1534 เชียงใหม่ ของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับได้และนำตัวส่งดำเนินคดีที่ สภ.แม่พริก

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝากประชาสัมพันธ์ หากประชาชนคนใดตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพในคดีรถยนต์มือสองดังกล่าว สามารถเข้าแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สภ.เมืองลำปาง ตลอด 24 ชั่วโมง

ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

จเรตำรวจแห่งชาติหารือร่วมอธิบดีกรมปราบปรามองค์กรอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น และคณะ แลกเปลี่ยนข้อมูล เดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์

(28 เม.ย. 68) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ นายเอกุจิ อาริชิกะ อธิบดีกรมปราบปรามองค์กรอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นและคณะ ประกอบด้วย นายเรียว ยาสึเอดะ ผู้บัญชาการสืบสวนระหว่างประเทศ กรมปราบปรามอาชญากรรมองค์กร/หัวหน้าตำรวจสากลโตเกียว (NCB TOKYO) , นายเทรุซาโตะ อิโนะอุเอ ผู้กำกับการกองปราบปรามอาชญากรรม , นายอาริกะ คิตาโมโตะ ผู้กำกับการกองปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนระหว่างประเทศ , นายนาโอโตะ วาตานาเบะ เลขานุการเอกและผู้ช่วยทูตตำรวจอาวุโสฯ , นายโยชิโนริ นาราซากิ เลขานุการโทและผู้ช่วยทูตตำรวจฯ , นางสาวแพรวพฤกษ์ จิตสกุลชัยเดช เจ้าหน้าที่ประสานงานและล่ามไทย-ญี่ปุ่น และ นายพิสิฏฐ์ ไม้ประเสริฐ ผู้ช่วยกงสุล ประจำสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น โดยมี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว , พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี , พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.ต.สุระพันธุ์ ไทยประเสริฐ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ร่วมต้อนรับ ณ ห้องพรหมนอก ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากนั้น พล.ต.อ.ธัชชัยฯ พร้อมด้วยอธิบดีกรมปราบปรามองค์กรอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น และคณะ ได้ประชุมหารือความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ณ สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ โดยในการประชุมได้มีการหารือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ในการกวาดล้างจับกุมกลุ่มแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะที่มีชาวญี่ปุ่นเกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ อธิบดีกรมปราบปรามองค์กรอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น กล่าวว่า ขอขอบคุณตำรวจไทยในการร่วมมือสืบสวนปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และช่วยเหลือเหยื่อ จากนี้ไปจะมีการประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การดำเนินการกำจัดกลุ่มแก๊งดังกล่าวมีประสิทธิภาพและประสบผลสำเร็จ

พล.ต.อ.ธัชชัยฯ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์คือการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างใกล้ชิด ซึ่งต้องขอขอบคุณทางการญี่ปุ่นที่แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และจะสานต่อความร่วมมือในการดำเนินการร่วมกันต่อไป สำหรับในเรื่องข้อมูลแหล่งที่ตั้งฐานปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียวมา และประเทศกัมพูชา นั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยจะมีการตรวจสอบเพิ่มเติม และขยายผลการปฏิบัติ โดยหากจะมีการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพบว่ามีชาวญี่ปุ่นร่วมอยู่ในกลุ่มแก๊งใด ทางตำรวจไทยจะประสานทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นให้ทราบ เพื่อเตรียมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทันท่วงที ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่ามีคนไทยเกี่ยวข้องกับการพาคนญี่ปุ่นที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยจะขยายผลเพื่อดำเนินคดีโดยเร็ว ย้ำว่าจะต้องทำลายระบบเครือข่ายของแก๊งเหล่านี้ให้หมดไป

รอง ผบ.ตร. ประชุมคณะกรรมการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และกรณีเครื่องบินตก เพื่อติดตามเร่งรัดเรื่องสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ 

(28 เม.ย. 68) เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตำรวจที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา และกรณีเครื่องบินตก ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามเร่งรัดเรื่องการขอรับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ อันเป็นการติดตามช่วยเหลือดูแลข้าราชการตำรวจและครอบครัว เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ตลอดจนบำรุงและเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจที่ได้อุทิศตนเสียสละในการปฎิบัติหน้าที่ ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ด้านสวัสดิการ ที่ให้มีการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ข้าราชการตำรวจพึงได้รับให้มากที่สุด

ในการประชุมมี พล.ต.ท.สมพร สัจพจน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ รอง ผบช.สกพ., พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช รอง ผบช.สกพ., พล.ต.ต.บริสุทธิ์ นุศรีวอ ผบก.ทพ., พล.ต.ต.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ ผบก.สก., พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผบก.บ.ตร., และ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) โดยมี พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ไพศาล พฤกษจำรูญ รอง ผบช.7, พล.ต.ต.ธเนศ แก้วละเอียด รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด, พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง, พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี, พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.สงขลา, พล.ต.ต.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผบก.อก.ผบช.น. ร่วมประชุม

พล.ต.อ.กรไชยฯ ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือ บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมเร่งรัดดำเนินการเสนอเรื่องขอรับสิทธิประโยชน์อันพึงมีพึงได้ หรือสิทธิบำเหน็จความชอบเป็นกรณีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดโดยเร็ว พร้อมสำรวจข้อมูลข้าราชการตำรวจที่พิการ หรือทุพพลภาพ หรือไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ทั้งกรณีที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปฎิบัติหน้าที่ หรือเหตุใดๆ ก็ตาม ให้ครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

นอกจากนี้ กำชับหน่วยที่เกี่ยวข้องดูแลการดำเนินการจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพแก่ข้าราชการตำรวจ กองบินตำรวจ ทั้ง 6 นาย จากเหตุเครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมเกียรติแก่ผู้วายชนม์และครอบครัว

พล.ต.อ.กรไชยฯ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้มีการจัดทำคู่มือการเสนอขอรับสิทธิแจกจ่ายให้หน่วย เพื่อนำไปเป็นแนวทางการเร่งรัดการดำเนินการปูนบำเหน็จความชอบให้แก่ข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ สร้างกลไกการรายงานเหตุ และหนังสือแจ้งสิทธิประโยชน์เบื้องต้นให้หน่วยต้นสังกัด ตลอดจนการลดขั้นตอนและกำหนดแนวทางเพิ่มเติมในส่วนของกระบวนการพิจารณาและบรรจุทายาท เพื่อให้สามารถดำเนินการอย่างถูกต้อง รวดเร็ว สมบูรณ์

ทั้งนี้ ก่อนการประชุม พล.ต.อ.กรไชยฯ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์อากาศยาน กองบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม ในพื้นที่ทะเล อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ โดยทราบจากรายงานว่านักบินพยายามบังคับเครื่องไม่ให้ตกในชุมชน นับว่าเป็นความเสียสละ กล้าหาญและมีจิตวิญญาณของความเป็นตำรวจ ที่จะต้องนึกถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก จึงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของข้าราชการตำรวจ พร้อมนำผู้ร่วมประชุมยืนไว้อาลัยในเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเวลา 1 นาที

ภายใต้การกำกับดูแลของ ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ เจ้ากระทรวงพลังงาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘ค่าไฟฟ้า’ ไม่เคยเพิ่ม มีแต่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ เจ้ากระทรวงพลังงาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘ค่าไฟฟ้า’  ไม่เคยเพิ่ม มีแต่ลดลงอย่างต่อเนื่อง...

สถานทูตจีนย้ำ!! จีน-ไทย มิตรภาพยั่งยืน พร้อมหนุนสินค้าไทยบุกตลาดใหญ่จีน

(29 เม.ย. 68) เมื่อเร็ว ๆ นี้ โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการเยือนเวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชาอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งถือเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกในปีนี้ โดยเน้นแนวคิดการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน ส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างจีนกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การเยือนครั้งนี้สร้างผลลัพธ์ที่โดดเด่น จีนและเวียดนามตกลงเร่งสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมเริ่มต้นความร่วมมือทางรถไฟจีน-เวียดนาม ด้านมาเลเซียและกัมพูชายกระดับความสัมพันธ์สู่ประชาคมเชิงยุทธศาสตร์ โดยลงนามข้อตกลงสำคัญหลายฉบับ ส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง

ในบริบทของความตึงเครียดทางการค้าจากนโยบายกีดกันของสหรัฐฯ การเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเน้นย้ำความร่วมมือพหุภาคี การเปิดกว้าง และการไม่แบ่งแยก พร้อมเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน โดยจีนพร้อมเปิดตลาดขนาดใหญ่เพื่อต้อนรับสินค้าคุณภาพจากภูมิภาคนี้

ผู้นำทั้งสามประเทศ ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ต่างแสดงการสนับสนุนข้อเสนอของจีนในการปกป้องระบบการค้าเสรีและร่วมกันต่อต้านลัทธิฝ่ายเดียว พร้อมยืนยันการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับจีนเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

ด้านความร่วมมือเศรษฐกิจ จีนมุ่งกระชับการค้าทวิภาคีและการลงทุนกับทั้งสามประเทศ ส่งเสริมการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ อาทิ โครงการรถไฟจีน-เวียดนามและระเบียงพัฒนาอุตสาหกรรมในกัมพูชา

โฆษกฯ ระบุว่า ความสำเร็จในการเยือนครั้งนี้มีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์จีน-ไทย ซึ่งมีพื้นฐานที่แน่นแฟ้นและลึกซึ้ง จีนพร้อมร่วมมือกับไทยในการปกป้องผลประโยชน์ร่วมกัน ร่วมรับมือกับความท้าทายระหว่างประเทศ และส่งเสริมการค้าเสรีที่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน

จีนยืนยันความมุ่งมั่นที่จะเปิดประเทศกว้างยิ่งขึ้น แบ่งปันโอกาสการพัฒนากับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะไทย ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนการนำเข้าสินค้าไทยคุณภาพดี และสานต่อความสัมพันธ์ “จีน-ไทยพี่น้องกัน” เพื่อก้าวสู่อนาคตร่วมกันที่สดใสยิ่งขึ้น

‘ดร.อาชนัน’ จี้ รบ. เร่งจัดการสินค้าจีนสวมสิทธิ์ ‘บริษัทไทย’ หลังมีผู้ผลิตโซลาร์โดนสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสุดโหด

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เสนอรัฐบาลเร่งคลอดมาตรการป้องกัน ‘จีน’ สวมสิทธิ์บริษัทไทย เร่งฟื้นเชื่อมั่นสหรัฐฯ ผ่านการแก้ปัญหาจริงจัง ระบุควรตั้งกรรมการเฉพาะขึ้นมา และเปิดช่องให้ผู้แทนมะกันเข้ามาร่วมตรวจสอบสถานประกอบการเพื่อความไว้วางใจ

รศ. ดร.อาชนัน เกาะไพบูลย์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และนักวิจัยศูนย์ความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนา เปิดเผยว่า การที่สหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) จากประเทศในอาเซียนจำนวน  4 ประเทศ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ตั้งข้อสังเกตถึงพฤติกรรมการสวมสิทธิ์ของประเทศจีน ที่ได้เข้ามาสวมสิทธิ์ตั้งฐานการผลิตโซลาร์เซลล์ในบริษัทอาเซียน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประเทศไทย โดยผลการตรวจสอบของสหรัฐฯ ในปี 2023 สรุปว่ามีการสวมสิทธิ์ และทำให้เริ่มไต่สวนเพื่อคำนวณอัตราการเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุนและการทุ่มตลาดในปี 2024 และสรุปออกมาเป็นตัวเลขที่แน่ชัดได้ในช่วงเดือน เม.ย. 2025 ที่ผ่านมา

รศ. ดร.อาชนัน กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจในเบื้องต้นก่อนว่า มาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์โซลาร์เซลล์ของสหรัฐฯ แตกต่างกันในแต่ละประเทศ และภายในประเทศนั้นๆ บริษัทแต่ละบริษัทก็เผชิญภาษีในอัตราที่แตกต่างกัน โดยบริษัทจากมาเลเซียโดนภาษีตอบโต้การอุดหนุนและการทุ่มตลาดในอัตราที่ต่ำที่สุด ในขณะที่อีก 3 ประเทศเผชิญภาษีดังกล่าวมากกว่าร้อยละ 100  ดังนั้นมาเลเซียและผู้ผลิตโซลาร์ในสหรัฐฯ น่าจะได้ประโยชน์จากการเก็บภาษีนำเข้า ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ด้วยอัตราภาษีในระดับนี้คงยากที่ทำให้เกิดการค้าระหว่างประเทศได้ 

อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตโซลาร์ของมาเลเซียโดยลำพังอาจไม่เพียงพอที่รองรับความต้องการของสหรัฐฯ ได้ ดังนั้นราคาโซลาร์ในสหรัฐฯ คาดว่าจะสูงขึ้น และทำให้ความต้องการโซลาร์ลดลง ผลที่ตามมาคือการเปลี่ยนผ่านไปพึ่งพาพลังงานหมุนเวียนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์คาดว่าจะชะลอตัวลง และทำให้ปัญหาสภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้น 

“ในเวลานี้คงเป็นเรื่องยากและอาจจะเลยจุดที่รัฐบาลไทยจะทำอะไรได้มากแล้ว เพราะเป็นกระบวนการที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2024 สหรัฐฯ ตัดสินไปแล้ว ซึ่งเราก็อาจจะอุทธรณ์ได้ในบางกรณีแต่ก็คงไม่ง่าย ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องทำก็คือการหามาตรการป้องกันเรื่องการสวมสิทธิ์สินค้า ซึ่งแน่นอนว่าจะมีมาอีกเรื่อยๆ ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพราะการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมของโลกมีการแบ่งงานกันระหว่างประเทศ และจีนมีบทบาทในเกือบทุกสินค้า รัฐบาลจึงต้องเตรียมการเชิงรุกให้มากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำรอยเดิมอีก” รศ. ดร.อาชนัน กล่าว

รศ. ดร.อาชนัน กล่าวว่า คำแนะนำในเบื้องต้นคือหลังจากนี้ไปรัฐบาลและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ควรจะต้องมีกระบวนการที่เข้มข้นมากขึ้น ในการพูดคุยและเจรจากับผู้ประกอบการจากต่างชาติว่าจะมีแผนหรือกระบวนการต่างๆ อย่างไร เพื่อให้ลดการพึ่งพาชิ้นส่วนต่าง ๆ จากจีน และหันมาสร้างซัพพลายเชนในไทยมากขึ้น เรื่องดังกล่าวคาดว่าจะเป็นประโยชน์ทั้งผู้ประกอบการทุกชาติในประเทศไทย  ภาครัฐสามารถใช้กรณีบริษัทผลิตโซลาร์เซลล์ครั้งนี้เป็นกรณีศึกษาว่าหลักเกณฑ์ใดที่เข้าข่ายการสวมสิทธิ์ และแบบใดไม่เข้าข่าย ซึ่ง ช่องว่างของความแตกต่างเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องกลับมาทบทวน และถอดรหัสเพื่อหามาตรการรับมือ

“มากไปกว่านั้นคือควรใช้โอกาสจากการที่ไทยกำลังจะเดินหน้าเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งในการหารือถึงการทำงานร่วมกันกับสหรัฐฯ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์สินค้า โดยแสดงความจริงใจและความมุ่งมั่นผ่านการนำเสนอกระบวนการทำงานที่เป็นรูปธรรมหลังจากนี้ไป และอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อรับหน้าที่ดังกล่าวขึ้นมาโดยเฉพาะ และเชิญชวนตัวแทนเจ้าที่ทางการจากสหรัฐฯ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งสำหรับร่วมตรวจสอบสถานประกอบการ หรือบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาดำเนินการผลิตในไทย หากสามารถทำให้สหรัฐฯ มองเห็นถึงความเอาจริงเอาจังเพื่อจัดการปัญหาเรื่องการสวมสิทธิ์สินค้า ก็อาจจะส่งผลให้อเมริกาพิจารณาผ่อนคลายมาตรการการขึ้นภาษีได้ในท้ายที่สุด” นักวิชาการธรรมศาสตร์ กล่าว

‘ทรัมป์’ เผย ‘เซเลนสกี’ พร้อมยกไครเมียให้รัสเซีย แลกข้อตกลงสันติภาพ ขณะที่ ‘ปูติน’ เสนอหยุดยิงเชิงสัญลักษณ์ แต่ฝ่ายยูเครนยังไม่วางใจ

(29 เม.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุว่า ตนเชื่อว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน พร้อมที่จะยกดินแดนไครเมียให้รัสเซีย เพื่อแลกกับข้อตกลงสันติภาพ แม้เซเลนสกีจะเคยปฏิเสธเรื่องนี้อย่างหนักแน่นมาก่อนหน้านี้ก็ตาม พร้อมกันนี้ ทรัมป์ยังส่งสารถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรียกร้องให้ยุติการโจมตีและเร่งลงนามข้อตกลงสันติภาพภายใน 2 สัปดาห์

ล่าสุด วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเตรียมหยุดยิงยูเครนเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่เช้าวันที่ 8 พฤษภาคมถึงวันที่ 11 พฤษภาคม เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันชัยชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่าการหยุดยิงครั้งนี้มีเหตุผลด้านมนุษยธรรม และแสดงความหวังว่าฝั่งยูเครนจะตอบสนองด้วยการหยุดยิงเช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเต็มรูปแบบอย่างน้อย 30 วัน เพื่อปูทางสู่การเจรจาทางการทูต

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายยูเครนออกมาโต้ตอบทันที โดยระบุว่าไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องรอจนถึงวันที่ 8 พฤษภาคมในการหยุดยิง โดยชี้ว่าควรหยุดการสู้รบทันทีเพื่อเห็นแก่ชีวิตของประชาชน ไม่ใช่เพื่อขบวนพาเหรดเฉลิมฉลอง พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัสเซียแสดงความจริงใจมากกว่าการหยุดยิงชั่วคราว

ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่เขาเดินทางกลับจากพิธีพระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่นครรัฐวาติกัน ซึ่งเขาได้พบกับเซเลนสกีในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ ทรัมป์เคยย้ำว่าข้อตกลงสันติภาพกำลังคืบหน้า และตำหนิรัสเซียที่โจมตีเขตพลเรือนโดยไร้เหตุผล

ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ในสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส อันดอร์รา พังเป็นโดมิโน ผู้คนติดลิฟต์-รถไฟหยุด-สนามบินวุ่น ยังไม่ฟันธงสาเหตุแต่ไม่ใช่ไซเบอร์โจมตี

เมื่อวานนี้ (28 เม.ย. 68) สเปนและโปรตุเกสประสบเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เมืองใหญ่ทั้งมาดริด บาร์เซโลนา และลิสบอนต้องเผชิญปัญหาไฟฟ้าดับแบบไม่ทันตั้งตัว ขณะที่บางพื้นที่ในฝรั่งเศสและประเทศอันดอร์ราก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน เหตุการณ์สร้างความโกลาหลในระบบขนส่ง สนามบิน และบริการสาธารณะต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค

ส่งผลให้รัฐบาลทั้งสองประเทศเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้า โดยนายกรัฐมนตรีสเปนระบุว่าไฟฟ้า 50% ได้รับการฟื้นฟูแล้ว ขณะที่โปรตุเกสสามารถจ่ายไฟกลับคืนให้ลูกค้า 750,000 ราย ข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่าไฟดับครั้งนี้เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบเชื่อมโยงไฟฟ้าระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน

ด้านบริษัทพลังงาน REN ของโปรตุเกสระบุว่า ปรากฏการณ์อากาศที่หายากทำให้เกิด “แรงสั่นสะเทือนที่ชักนำโดยสภาพอากาศ” ส่งผลให้สายไฟแรงสูง เกิดความล้มเหลวพร้อมกัน เป็นเหตุให้ระบบไฟฟ้าล่มทั่วเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ระหว่างสอบสวน และยังไม่มีสัญญาณว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์

สำหรับสเปนเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนในยุโรป โดยผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาดถึง 56% ของทั้งประเทศในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ระบบไฟฟ้าแบบใหม่นี้ต้องเผชิญความท้าทายในการรักษาสมดุลของการผลิตและจ่ายไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากแหล่งพลังงานที่ไม่แน่นอนอย่างแสงอาทิตย์และลม

ทั้งนี้ การไฟฟ้าดับวงกว้างไม่ใช่เหตุการณ์ใหม่สำหรับยุโรป โดยเคยเกิดขึ้นในอิตาลีปี 2003 และในเยอรมนีปี 2006 แต่เหตุการณ์ล่าสุดตอกย้ำถึงความสำคัญของการอัปเกรดโครงข่ายไฟฟ้าให้สามารถรองรับพลังงานหมุนเวียน และพร้อมรับมือกับความเสี่ยงใหม่ที่มากับสภาพอากาศสุดขั้วและเทคโนโลยีพลังงานยุคใหม่

‘อ.เจษฎ์’ ยังข้องใจปม ‘สี จิ้นผิง’ เมินเยือนไทย หลัง ‘สถานทูตจีน’ แจงแค่ประเทศอื่นสำคัญกับจีน

จากกรณีที่ ประธานาธิบดีจีน ‘สี จิ้นผิง’ เดินทางเยือน 3 ประเทศในอาเซียน ประกอบด้วย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา โดยไม่แวะประเทศไทย เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ยังข้องใจเหตุใดผู้นำจีน จึงไม่มาเยือนไทย หลังได้อ่านคำอธิบายจาก ‘สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย’ โดยระบุว่า อ่านจนจบ ก็ไม่เห็นมีคำอธิบายเลยว่า ทำไมถึงไม่มาเยือนไทย (มีแต่อธิบายว่าทำไมไปประเทศอื่น ๆ สำคัญกับจีนมากอย่างไร)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top