Sunday, 15 June 2025
TheStatesTimes

3 ธันวาคม ของทุกปี วันคนพิการสากล (International day of persons with disability) สร้างโอกาสในการเข้าถึงสิทธิอย่างเท่าเทียม

วันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันคนพิการสากล’ (International day of persons with disability) เป็นวันสำคัญระหว่างประเทศที่สหประชาชาติส่งเสริมตั้งแต่ปี 2525 เพื่อส่งเสริมความเข้าใจปัญหาความพิการและการระดมการสนับสนุนสำหรับศักดิ์ศรี สิทธิและความเป็นอยู่ดีของผู้พิการ นอกจากนี้ ยังมุ่งเพิ่มความตระหนักถึงประโยชน์ที่จะได้จากการรวมผู้พิการเข้ากับทุกแง่มุมของชีวิตการเมือง สังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรม แต่ละปีจะเน้นปัญหาต่างกัน รวมถึงสร้างโอกาสในการเข้าถึงทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม

นับตั้งแต่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้ปี พุทธศักราช 2526 – 2535 เป็นทศวรรษคนพิการแห่งสหประชาชาติ หรือ UNITED NATION DECADE OF DISABLED PERSONS,1983-1992. ยังผลให้ประเทศต่างๆ รวมไปถึงองค์การต่างๆในทุกภูมิภาคทั่วโลก ได้ตื่นตัวในการส่งเสริมฟื้นฟูสมรรภาพคนพิการอย่างกว้างขวาง มีการติดต่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างประเทศองค์การสมาชิกอย่างเป็นรูปธรรม การเสนอแนะประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ให้ใช้ทรัพยากรเพื่อประโยชน์สูงสุด การป้องกันความพิการ การสนองความต้องการของคนพิการ การให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ในทุกรูปแบบต่อประเทศกำลังพัฒนา ตลอดจนรณรงค์เรื่องสิทธิ และความเท่าเทียมกันในสังคมเพื่อคนพิการ รวมไปถึงมรการจัดกิจกรรมคนพิการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนา ทักษะการช่วยตัวเอง การเพิ่มพูนสมรรถภาพทางกาย จิตใจ อารมณ์และสังคมของคนพิการ และเสริมสร้างความเข้าใจอันดีร่วมกัน ระหว่างคนพิการและคนปกติ

4 ธันวาคม ของทุกปี ‘วันสิ่งแวดล้อมไทย’ รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9 ที่

วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เป็น ‘วันสิ่งแวดล้อมไทย’ กำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระราชดำรัสถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทย

วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เป็น ‘วันสิ่งแวดล้อมไทย’ กำหนดขึ้นเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระราชดำรัสถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลก เมื่อครั้งเสด็จออกให้คณะบุคคลต่าง ๆ เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลา ดุสิดาลัย พระตำหนัก จิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2532 เพื่อตรัสเตือนคนไทยให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และให้ถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกคนที่ต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้มีพระราชดำรัสใจความตอนหนึ่งว่า

“วันก่อนนี้เราพูดถึงปัญหาว่า เมืองไทยนี้อีกหน่อยจะแห้ง ไม่มีน้ำเหลือจะต้องไปซื้อน้ำจากต่างประเทศซึ่งก็อาจเป็นได้ แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าถ้าคำนวณดูน้ำในประเทศไทยที่ไหลเวียนนั้นยังมีอยู่ เพียงแต่ต้องบริหารให้ดี ถ้าบริหารให้ดีแล้ว มีเหลือเฟือ มีตัวเลขแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ไปแยกแยะตัวเลข เหมือนที่ได้แยกแยะตัวเลขของคาร์บอน น้ำนั้นน่ะ ในโลกมีมากแล้วที่ใช้จริงๆ มันเป็นเศษหนึ่งส่วนหมื่นของน้ำที่มีอยู่ อาจไม่ถึง ก็ต้องบริหารให้ดีเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้ก็มีปัญหาเกี่ยวกับน้ำ น้ำนี้จะต้องใช้ให้ดี คือ น้ำนั้นมีคุณอย่างที่เราใช้สำหรับบริโภค น้ำสำหรับการเกษตร น้ำสำหรับอุตสาหกรรมทั้งหมดนี้ต้องใช้น้ำที่ดี หมายความว่าน้ำที่สะอาด”

“น้ำมีมากในโลก เป็นน้ำทะเลส่วนใหญ่ซึ่งจะใช้อย่างนี้ไม่ได้แล้ว นอกจากนั้นเดี๋ยวนี้ที่กำลังมีมากขึ้นก็คือ น้ำเน่า จะต้องป้องกันไม่ให้มีน้ำเน่า น้ำเน่าจะมีอยู่เสมอ แต่อย่าให้น้ำเน่านั้นเป็นโทษมากเกินไป ฉะนั้น นี่เป็นอีกโครงการหนึ่งที่เราจะต้องปฏิบัติ แล้วก็ถ้าไม่จัดการโดยเร็วเราจะนอนอยู่ในน้ำเน่า น้ำดีจะไม่มีใช้แม้จะไปซื้อน้ำจากต่างประเทศมา ก็กลายเป็นน้ำเน่าหมด เพราะว่าเอามาใช้โดยไม่ได้ระมัดระวัง”

“ถ้าเรามีน้ำแล้วมาใช้อย่างระมัดระวังข้อหนึ่ง และควบคุมน้ำที่เสียอย่างดีอีกข้อหนึ่ง ก็อยู่ได้ เพราะว่าภูมิประเทศของประเทศไทย ‘ยังให้’ ใช้คำว่า ‘ยังให้’ ก็หมายความว่า ยังเหมาะแก่การอยู่กินในประเทศนี้ ไม่ใช่ไม่เหมาะ ประเทศไทยนี้เป็นที่ที่เหมาะมากในการตั้งถิ่นฐาน แต่ว่าต้องรักษาเอาไว้ไม่ทำให้ประเทศไทยซึ่งเป็นสวนเป็นนากลายเป็นทะเลทรายก็ป้องกันได้ ทำได้”

จากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่หันมาร่วมมือกันริเริ่มโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงเป็นการปลูกจิตสำนึกของประชาชนให้มีจิตสำนึกในการเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ

จากนั้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ 2534 ในการประชุมของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบ กำหนดให้วันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย

เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ เยี่ยมกิจกรรม “ญาติเยี่ยมทหารใหม่ ผลัดที่ 3/67” ส่งกำลังใจให้น้องเล็กกองทัพเรือ ญาติ และครูฝึก พร้อมยืนยันการดูแลด้วยความเมตตาเสมือนลูกหลาน

พล.ร.ท.อดิศักดิ์ แจงเล็ก เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ (จก.ยศ.ทร.) เยี่ยมชม และพบปะพูดคุยกับญาติของทหารใหม่ ในกิจกรรม “ญาติเยี่ยมทหารใหม่ ผลัดที่ 3/67” โดยมี น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา ศฝท.ยศ.ทร. ให้การต้อนรับ และเรียนเชิญ จก.ยศ.ทร. เยี่ยมกิจกรรม ณ บริเวณพื้นที่โดยรอบอาคารกองบังคับการ ศฝท.ยศ.ทร. ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อ 1 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา

กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทหารใหม่และญาติ รวมถึงสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ให้แก่ญาติของทหารใหม่ได้เห็นผลของการฝึกอบรม และการดูแลทหารใหม่ตลอดระยะเวลา 1 เดือน ที่เข้ามาเป็น "น้องเล็กของกองทัพเรือ" ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในแนวทางของการฝึกอบรมทหารใหม่ของกองทัพเรือยิ่งขึ้น

ในการนี้ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้พบปะพูดคุยกับทหารใหม่ และญาติ โดยยืนยันถึงการฝึกอบรม และการดูแลทหารใหม่ ว่า “...ขอให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และญาติของน้องทหารใหม่เชื่อมั่นว่าการฝึกอบรมหลักสูตรทหารใหม่ ภาคสาธารณศึกษา ผลัดที่ 3/67 ณ ศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ตลอดระยะเวลา 2 เดือน จะทำให้ทหารใหม่ปรับสภาพจากพลเรือน เป็นสุภาพบุรุษทหารเรือที่เข้มแข็ง องอาจ พร้อมกันนี้ขอให้มั่นใจได้ว่าเราจะดูแลทหารใหม่ด้วยความเมตตาเสมือนลูกหลานหรือญาติมิตรของเรา...”

ทั้งนี้ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ได้ให้กำลังใจแก่ผู้บังคับบัญชา และครูฝึกของ ศฝท.ฯ และขอให้คำนึงถึงมาตรการในการดูแลทหารใหม่ให้อยู่ในกรอบของความปลอดภัยตามที่ผู้บัญชาการทหารเรือกำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยของกองทัพเรือ "Safety Navy 2025"

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี  ชลบุรี 0909535645

เป็นทหารเรือต้องว่ายน้ำทะเล ศฝท.ยศ.ทร. นำทหารใหม่ทดสอบว่ายน้ำในทะเล เพื่อความคุ้นเคย

(2 ธ.ค. 67) น.อ.ทิวา อ่อนละออ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกทหารใหม่ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (ผบ.ศฝท.ยศ.ทร.) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา ร่วมกิจกรรมว่ายน้ำในทะเลกับทหารใหม่ ผลัดที่ 3/67 ณ อ่าวบางเสร่  ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ศฝท.ยศ.ทร. จัดกิจกรรมทดสอบว่ายน้ำในทะเลให้แก่ทหารใหม่ ผลัดที่ 3/67 เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์และความคุ้นเคยในการว่ายน้ำในทะเล ส่งเสริมการออกกำลังกายให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มทหารใหม่บางนายที่ได้สัมผัสน้ำทะเลเป็นครั้งแรกในชีวิต

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้กำหนดไว้ในหลักสูตรทหารใหม่ภาคสาธารณศึกษา ภายใต้ความปลอดภัย ตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ "Safety Navy 2025"

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

‘ซอ ลิน อู’ นักมวยดังศึก ONE ขับรถตกเขา บาดเจ็บหนัก ชวดขึ้นชกกับ ‘เสกสรร’ แน่นอนแล้ว

(2 ธ.ค. 67) ‘ซอ ลิน อู’ นักมวยคนดัง ONE ชาวเมียนมา ประสบอุบัติเหตุขับรถตกเขา บาดเจ็บหนัก ต้องยกเลิกไฟต์ ONE 170 ที่จะชกปีหน้า

ซอ ลิน อู นักมวยคนดัง ONE Championship Thailand ประสบอุบัติเหตุขับรถตกเขา ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้ไฟต์ระหว่าง ซอ ลิน อู กำปั้นชาวเมียนมา ที่จะเจอกับ เสกสรร อ.ขวัญเมือง ในวันที่ 24 มกราคม 2568 ศึก ONE 170 ที่อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี กติกามวยไทย 142 ปอนด์ เป็นอันต้องยกเลิกไป  เพราะกำปั้นคนดังชาวเมียนมาบาดเจ็บค่อนข้างหนัก หายไม่ทัน

สำหรับ ซอ ลิน อู หรือฉายา "Man of Steel" ถูกยกให้เป็นกำปั้นจอมแกร่ง สุดอึด สวมหัวใจนักสู้อันสุดทรหด ประกอบกับสไตล์การชกอันดุดัน ลุยแหลก ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ซึ่งผลงานการชกในศึก ONE ลุมพินี ก่อนหน้านี้ ชนะรวด ส่งผลให้ฟอร์มไปเข้าตา จนคว้าสัญญานักกีฬา ONE เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567ที่ผ่านมา

ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พ.ย.67 ซอ ลิน อู ได้ประสบอุบัติเหตุ ขับรถตกเข้า พร้อมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Soe Lin Oo – Doe Yoe Yar กับภาพรถยนต์ที่พังเสียหาย สาเหตุจากเบรกไม่ทัน พร้อมกับภาพการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากได้รับบาดเจ็บหนัก

เซเลนสกี ส่งสัญญาณยอมรัสเซีย ยึดดินแดนบางส่วนแลกจบสงคราม

(3 ธ.ค. 67) โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน แสดงความประสงค์ที่จะยุติสงครามกับรัสเซียในเร็ววัน พร้อมระบุว่ายูเครนอาจสามารถฟื้นกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดครองได้ผ่านการเจรจาทางการทูต หากได้รับการยืนยันสถานะสมาชิกในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)

ถ้อยแถลงดังกล่าวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงจุดยืนของเซเลนสกี ซึ่งก่อนหน้านี้ยืนกรานว่าสงครามจะยุติลงได้ก็ต่อเมื่อรัสเซียคืนดินแดนทั้งหมดที่ยึดครองจากยูเครน  

ในการให้สัมภาษณ์กับ **สกายนิวส์** ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เซเลนสกีระบุว่าความขัดแย้งสามารถยุติได้ หากนาโตให้คำมั่นในการค้ำประกันความมั่นคงของยูเครนในดินแดนที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลยูเครนในปัจจุบัน  

เซเลนสกีย้ำว่าข้อตกลงหยุดยิงใดๆ จะต้องมีการรับประกันว่ารัสเซียจะไม่กลับมายึดครองดินแดนยูเครนเพิ่มเติม หลังจากที่รัสเซียได้ครอบครองดินแดนยูเครนไปแล้วราว 20% โดยเฉพาะการผนวก คาบสมุทรไครเมีย ในปี 2014 รวมถึง แคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และ ซาปอริซเซีย ในปี 2022  

ถ้อยแถลงของเซเลนสกีสะท้อนถึงความพยายามในการหาทางออกทางการทูตท่ามกลางความขัดแย้งที่ยืดเยื้อ ขณะที่นาโตยังคงมีบทบาทสำคัญในสมรภูมิทางการเมืองระหว่างยูเครนและรัสเซีย

‘เจ้าของแบรนด์ดัง’ แจงดรามา นินทาลูกสาวคนอื่นโตมาแรดแน่ ๆ รับเป็นพฤติกรรมในอดีต พร้อมขู่ฟ้องคนบิดเบือน - คอมเมนต์เกินเลย

เจ้าของแบรนด์ดัง ได้ออกมาชี้แจงแล้ว หลังเพจดัง เปิดปม เคยทำคลิป ไปสะกิดลูกคนอื่น แล้วนินทาว่า โตมาแรดแน่ ๆ ชัดเจนทุกประเด็น

จากกรณีเพจดัง อีซ้อขยี้แหลก ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เปิดเรื่อง เจ้าของแบรนด์ดัง เคยทำคลิป ไปสะกิดลูกคนอื่น และไปนินทาลูกสาวเขาว่า โตมาแรดแน่ ๆ จนเป็นกระแสดรามาในโลกออนไลน์อยู่ในตอนนี้ ล่าสุดเจ้าตัว ได้ออกมาเคลื่อนไหว ผ่านเฟซบุ๊ก Atthakorn Kan Rattanarom เจ้าของ BEARHOUSE ชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า 

ผมคือผู้ที่อยู่ในคลิป จึงอยากจะออกมาชี้แจงประเด็นครับ

- คลิปดังกล่าวโพสต์วันที่ 30 Nov 2017 (7 ปีที่แล้ว) ไม่ใช่เมื่อปีก่อน

- ในอดีตผมเป็น Youtuber และผมก็เล่นมุกเหี้ย ๆ แบบนั้นจริง ๆ ครับ ในสมัยนั้นไม่ได้มีการ Aware เรื่องการบูลลี่มากนัก แม้แต่ตัวผมเองก็ไม่ได้ Aware เช่นกัน ตอนนี้กลับไปดูคลิปตัวเองก็ไม่ได้ชอบตัวเองสมัยนั้นเหมือนกัน

- ตลอดการเดินทาง ได้มีทั้งผู้ติดตาม และผู้ใหญ่ให้คำแนะนำมากมาย ต้องขอบคุณทุก ๆ คนที่ทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ

- ผมเรียนรู้และเติบโตมาพร้อมกับสังคมที่ Aware เรื่องนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันผมก็ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นแล้วครับ หากใครติดตามกันเรื่อยมาก็จะรู้ว่า ผมในปัจจุบัน อายุ 32 แล้ว เติบโตขึ้นมากแล้วครับ ทั้งคำพูด ทั้งวุฒิภาวะ ไม่เหมือนเมื่อ 7 ปีที่แล้วครับ

- แล้วทำไมไม่ลบคลิป: เพราะมันคืออดีต ในช่วงเวลานั้น คำพูด และมุกที่ผมใช้ มันไม่เหมาะสมจริง ๆ อดีตเป็นสิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เราทำปัจจุบันกับอนาคตให้ดีขึ้นได้ ผมอยากยืนยันแนวคิดเรื่องนั้นครับ

- ขอโทษทุกท่านที่ทำให้ไม่พอใจกับอดีตของผมนะครับ ผมน้อมรับผิดและได้แก้ไขการกระทำนั้นเรื่อย ๆ มานะครับ

สำหรับเพจหรือบุคคลที่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริง หมิ่นประมาท หรือคอมเมนต์เกินเลย ผมจะดำเนินการตามกฎหมายนะครับ

CEO ยูนิโคล่หลุดยอมรับ "ไม่ใช้ฝ้ายซินเจียง" ชาวเน็ตแผ่นดินใหญ่เดือดแห่ไม่ซื้อสินค้า

(3 ธ.ค. 67) ผ้าฝ้ายซินเจียง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผ้าที่ดีที่สุดของโลก กลับกลายเป็นประเด็นอ่อนไหวที่สร้างแรงกดดันให้กับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก โดยเฉพาะจากตะวันตก หลังจากมีข้อกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนใช้แรงงานบังคับชาวอุยกูร์ในการผลิตผ้า  

ล่าสุด ยูนิโคล่ (Uniqlo) แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นรายใหญ่ของโลกจากญี่ปุ่น กำลังเผชิญกระแสความไม่พอใจจากลูกค้าชาวจีน หลังจาก ทาดาชิ ยาไน (Tadashi Yanai) ซีอีโอของ Fast Retailing บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ให้สัมภาษณ์กับ BBC โดยระบุว่าบริษัทไม่ได้ใช้ผ้าฝ้ายซินเจียง แต่กลับหลีกเลี่ยงที่จะยืนยันหรือปฏิเสธชัดเจนว่าผ้าฝ้ายซินเจียงถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ของยูนิโคล่หรือไม่ พร้อมทั้งย้ำว่าต้องการรักษาจุดยืนเป็นกลางระหว่างจีนและสหรัฐฯ  

คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลบน Weibo โซเชียลมีเดียยอดนิยมในจีน ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากออกมาประณาม พร้อมประกาศว่าจะไม่สนับสนุนสินค้าของยูนิโคล่  

แม้ยูนิโคล่จะเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดยุโรปและสหรัฐฯ แต่ซีอีโอก็ยอมรับว่า “ยูนิโคล่ไม่ใช่แบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก” โดยเอเชียยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะจีน ซึ่งถือเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของ Fast Retailing รวมกับไต้หวันและฮ่องกง มีสัดส่วนรายได้ถึง 20% ปัจจุบันยูนิโคล่มีสาขาในจีนแผ่นดินใหญ่ประมาณ 900-1,000 แห่ง และซีอีโอเชื่อว่าจีนยังมีศักยภาพในการขยายสาขาได้ถึง 3,000 แห่ง นอกจากนี้ จีนยังเป็นศูนย์กลางการผลิตสำคัญของบริษัทอีกด้วย

ประเด็นนี้กลายเป็นข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2022 หลังจากสหรัฐฯ ออกมาตรการแบนการใช้ผ้าฝ้ายซินเจียงเนื่องจากข้อสงสัยเรื่องการใช้แรงงานบังคับ ส่งผลให้แบรนด์แฟชั่นหลายแบรนด์ เช่น H&M หยุดใช้ผ้าฝ้ายซินเจียง จนถูกผู้บริโภคชาวจีนแบน ร้านค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหญ่ถูกถอด และบางสาขาถูกสั่งปิดไม่มีกำหนด  

ในขณะเดียวกัน ยูนิโคล่ยังต้องเผชิญการแข่งขันสูงในตลาดฟาสต์แฟชั่นจากแบรนด์จีนอย่าง Shein และ Temu ที่เน้นการขายสินค้าราคาถูก ซึ่งส่งผลให้ความท้าทายของยูนิโคล่ในตลาดจีนยิ่งเพิ่มขึ้น

ไบเดนเล็งเพิ่มคว่ำบาตรรัสเซีย มุ่งตัดช่องการเงินทำสงครามยูเครน

(3 ธ.ค.67) ทำเนียบขาวเผยว่าสหรัฐฯ เตรียมประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม โดยเน้นโจมตีภาคการเงินของมอสโก ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ระบุในแถลงการณ์ว่า “สหรัฐฯ ได้เตรียมดำเนินมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่กับภาคการเงินของรัสเซียแล้ว เพื่อทำลายศักยภาพในการสนับสนุนกลไกสงครามของประเทศ และยังมีแผนดำเนินการเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้นี้”

อย่างไรก็ตาม นายซัลลิแวน ไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อมุ่งเป้าตัดช่องทางการเงินของรัฐบาลมอสโกตามแถลง

การประกาศครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการกดดันมอสโกให้ยุติการสนับสนุนสงคราม ในห้วงเวลาอีกราวหนึ่งเดือนสุดท้ายก่อนประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะหมดวาระลง

'มนุษย์ควัน' แนะออกกฎเข้มคุมบุหรี่ไฟฟ้า ถามกลับใครรับผิดชอบทุนจีนแอบตั้งโรงงานผลิตในไทย

(3 ธ.ค. 67) นายสาริษฏ์ สิทธิเสรีชน เจ้าของเพจ "มนุษย์ควัน" แสดงความคิดเห็นในเพจดังกล่าว แนะรัฐบาลหาแนวทางควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าโดยเผยว่ารัฐเคนทักกี้เตรียมออกกฎเข้ม “ลงดาบ” ร้านที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยจะเสนอร่างกฎหมายในปี 2025 ที่มุ่งควบคุมผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบ โดยกำหนดให้ผู้ขายต้องมีใบอนุญาต พร้อมให้อำนาจเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานประกอบการได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น รวมถึงยึดหลักฐานการกระทำผิด กฎหมายนี้ยังเพิ่มบทลงโทษ เช่น หากร้านใดถูกเพิกถอนใบอนุญาต จะไม่สามารถขอใหม่ได้ในระยะเวลา 2 ปี นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรเงินค่าปรับไปใช้ในโครงการให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับอันตรายจากบุหรี่ไฟฟ้า นโยบายดังกล่าวมีเป้าหมายชัดเจนในการป้องกันการขายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้เยาว์ และแก้ไขช่องโหว่ในกฎหมายเดิม

ในการประชุมสภานิติบัญญัติเมื่อต้นปี 2024 สมาชิกสภาฯ ได้ผ่านร่างกฎหมาย House Bill 11 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าให้กับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยจํากัดการขายเฉพาะ "ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาต" จากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ซึ่งจนถึงปัจจุบัน FDA อนุญาตให้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ารสชาติยาสูบและเมนทอล 34 รายการ สามารถจำหน่ายได้ในสหรัฐอเมริกา ในโพสต์ดังกล่าว นายสาริษฏ์ยังได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบุกทลายโรงงานบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีเจ้าของเป็นกลุ่มทุนจีน โดยระบุว่า “เห็นข่าวการบุกทลายโรงงานบุหรี่ไฟฟ้าที่นั่งทำกันสดๆ ในทาวเฮ้าส์ย่านบางขุนเทียน ทำกันขนาดนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่ารัฐบาลจะจัดการกับปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าด้วยการห้ามแบบเดิมยังไง ตัดภาพไปที่อเมริกา ที่เน้นออกกฎหมายควบคุมและปรับกฎหมายให้เหมาะสม แบบที่รัฐเคนทักกี้เตรียมทำก็คือเพิ่มโทษให้กับผู้ขายที่ขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเยาวชน”
ทั้งนี้ ประเด็นการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายกำลังได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอยู่ในขณะนี้ จากกรณีที่เครือข่ายแพทย์ฯ ออกมาแถลงจุดยืนให้มีการห้ามบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งในขณะนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายในไทย เพื่อออกกฎหมายที่เหมาะสม มีการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย

ซึ่งนายสาริษฏ์ยังได้โพสต์อีกหนึ่งข้อความ ตอบโต้เรื่องดังกล่าวโดยระบุว่า “เฮือกสุดท้ายของการไม่ยอมรับความจริง!! จะหมดปี 2024 แล้วยังไล่แบนบุหรี่ไฟฟ้า!! ยอมรับความจริงกันได้แล้วว่าแบนมันไม่เวิร์ค มีใช้กันทุกหัวมุมถนนเอาอะไรมาแบนต่อ นโยบายตัวเองผิดพลาดแต่โทษคนนั้นคนนี้ โทษกมธ. ไม่โปร่งใส” พร้อมบอกว่า “ห้ามบุหรี่ไฟฟ้าในไทยมาเป็น 10 ปีแล้วได้อะไร นอกจากลดทอนสิทธิผู้บริโภค เปิดช่องให้ตลาดมืด ออกข่าวเยาวชนใช้บุหรี่ไฟฟ้าไปวันๆ ที่ขอ (ให้ควบคุม) ไม่ใช่การเปิดเสรีแบบสินค้าอื่นๆ สิ่งที่อยากได้คือกฎหมายที่มาควบคุมซื้อ ขาย ใช้งาน เอาให้มันเป็นระเบียบ สังคมจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนกับควันดราก้อนบอลจากบุหรี่ไฟฟ้าอีก”

ที่มา GOP lawmaker calls for adding ‘teeth’ to Kentucky's new curbs on underage vaping • Kentucky Lantern https://www.facebook.com/share/p/H5QpatpUCgy9WBCB/


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top