Sunday, 8 June 2025
Southern

นราธิวาส - นายก อบจ.”กูเซ็ง” เตรียมนำวัคซีน Moderna 10,000 โดส ช่วยชาวนราฯ ด้านผู้ว่าฯเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนขานรับตามมาตรการของจังหวัด เพื่อให้สอดคล้องกับ ศบค.อย่างเคร่งครัด

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระนราภิบาลชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการแถลงข่าว มาตรการของ จ.นราธิวาส เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการ ศบค.โดยมีนายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขชจังหวัดนราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแถลงข่าว

ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการที่จังหวัดนราธิวาสได้เตรียมความพร้อม ซึ่งได้ประชุมหารือโดยมีข้อยุติที่สำคัญที่ต้องนำเรียนให้ประชาชนชาวนราธิวาสได้รับทราบคือ

1.งดหรือชะลอหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จำนวน 14 วัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ค่อนข้างสูงมาก โดยใน 13 อำเภอมีตัวเลขผู้ติดเชื้อทุกวันวันละไม่ต่ำกว่า 100 ราย ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการในเรื่องของการเดินทาง งดการเดินทางโดยไม่จำเป็นยกเว้นมีข้อจำเป็นที่ให้เดินทางได้ ซึ่งขณะนี้สายการบินของจังหวัดนราธิวาสก็งดทุกสายการบินจนถึงสิ้นเดือน รวมถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และรวมไปถึงการบริการรถไฟด้วย ซึ่งจำเป็นที่จะขอความร่วมมือในการหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงนี้

2.การเปิดกิจการประกอบการต่าง ๆ อย่างเช่นร้านอาหาร ซึ่งก่อนหน้านี้จังหวัดนราธิวาสมีประกาศให้เปิดร้านอาหารได้รับประทานอาหารในร้านได้จนถึง 21:00 น. ในขณะนี้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมเป็นต้นไป ขอความร่วมมือทุกร้านอาหารทุกประเภทสามารถจำหน่ายอาหารที่ร้านได้ แต่มีข้อห้ามในการรับประทานอาหารที่ร้าน แต่สามารถสั่งไปรับประทานที่บ้านเท่านั้นและเปิดได้ถึง 20:00 น. เท่านั้นโดยมีข้อกำหนดในฉบับล่าสุด

และในส่วนของมาตรการอื่น ๆ ทางจังหวัดนราธิวาส ก็ยังมีผลบังคับใช้อยู่เหมือนเดิม ซึ่งภาพรวมของจังหวัดนราธิวาสขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทำตามมาตรการของจังหวัดและสิ่งที่กังวลที่สุดในห้วงวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ซึ่งเป็นวันอีดิลอัฏฮา กรือวันรายอของพี่น้องมุสลิม ดังนั้นขอความร่วมมือจากพี่น้องมุสลิมทุกท่านเรามีมาตรการในข้อกำหนดซึ่งได้แจ้งไปยังอำเภอและผู้นำศาสนาใน 13 อำเภอให้ได้รับทราบแล้วในการชะลอการเดินทางหรือการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงนี้

ขณะที่นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ทางสภากาชาดไทยได้แจ้งให้จังหวัดทุกจังหวัดทราบว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) ได้มีประกาศ เรื่อง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลงวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ซึ่งได้ให้สภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานหนึ่งในการสั่งนำเข้าวัคซีนมาฉีดให้แก่ประชาชน ซึ่งขณะนี้ สภากาชาดไทยได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 Moderna จำนวนหนึ่งจากผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทยผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำมาฉีดบริการให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่าง ๆ โดยไม่คิดมูลค่า ตามพันธกิจของสภากาชาดไทย ทั้งนี้ สภากาชาดไทยจะได้จัดสรรโควตาวัคซีนจำนวนหนึ่งให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และแผนการฉีดวัคซีนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด และเงื่อนไขอื่น ๆ ดังนี้

1. ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด จัดทำแผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามที่สภากาชาดไทยกำหนด และแจ้งให้สภากาชาดไทยทราบภายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ได้แก่

1) คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน

2) ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน

3) บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร

4) ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์

ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด- 19 มาก่อน

5) บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ยังไม่เคยได้รับวัคนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่วสามารถรับการฉีดวัคซีนได้เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย

2. องค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการกับสภากาชาดไทย ต้องสนับสนุน

งบประมาณค่าวัคซีน Moderna ราคา 1,300 บาท ต่อโดส นั้น เมื่อหักต้นทุนวัคซีนและค่าบริหารจัดการตาม

โครงการแล้ว เงินส่วนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะนำเข้าสมทบใน "กองทุนสภากาชาดไทย เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 และยารักษาโรคโควิด-19 สำหรับประชาชน" ต่อไป

3. เมื่อสภากาชาดไทย แจ้งการจัดสรรโควตาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด แล้ว ขอให้ชำระเงินเต็มตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากสภากาชาดไทย ภายในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 ก่อนเวลา 12.00 น.

4. สภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรรวัคซีนได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สำหรับจังหวัดนราธิวาส ได้รับความอนุเคราะห์จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาสในการขอรับวัคซีนเพื่อนำไปฉีดบริการให้กับประชาชนตามเงื่อนไขดังกล่าว จำนวน 10,000 โดส เป็นเงินทั้งสิ้น 13,000,000 บาท

นอกจากนี้นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในภาพรวมของวัคซีนที่ได้รับการสนับสนุนจาก อบจ.นราธิวาสจำนวน 10,000 โดส จะเป็นกลุ่มเป้าหมายซึ่งสามารถฉีดได้จะเป็นการส่งเสริมการฉีดวัคซีนของชาวจังหวัดนราธิวาสให้ครอบคลุมเร็วขึ้น ซึ่งตอนนี้มีประชากรที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย 600,000 กว่าคน ฉีดไปแล้ว 100,000 กว่าคน และยังคงเหลืออีก 500,000 คน ซึ่งถ้าได้รับวัคซีนตรงนี้ก็จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เร็วขึ้น และในเรื่องของการเก็บวัคซีนมีที่จัดเก็บวัคซีน 10,000 โดสใช้พื้นที่ไม่มาก โดยศักยภาพการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาสในหนึ่งวันฉีดได้ 7,500 โดส ซึ่งถ้าได้วัคซีนมา 10,000 โดนฉีดได้ 5,000 คนใช้เวลาฉีดภายใน 1-2 วันโดยสถานการณ์ภาพรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตอนนี้ในจังหวัดนราธิวาสมีจำนวน 4,184 รายอยู่ในระบบการรักษา 1,201 รายอยู่ที่โรงพยาบาล 645 รายและอีกส่วนอยู่ที่โรงพยาบาลสนาม 556 รายและเสียชีวิตทั้งหมด 40 ราย ซึ่งคาดการณ์ว่าผู้ป่วยรายใหม่นับจากวันนี้เป็นต้นไป จะอยู่ที่ 150 -200 รายต่อวัน จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนทำตามมาตรการของจังหวัดนราธิวาสกำหนดด้วย

พังงา – ด่วน !! พบแรงงานต่างด้าวป่วยโควิด 3 ราย ในเมืองพังงา ทำชาวบ้านผวาและหลายโรงเรียนสั่งเด็กพื้นที่ห้ามมาโรงเรียนชั่วคราว

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดพังงา (ศบค.พง) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่อีก 7 ราย อยู่ในพื้นที่อำเภอตะกั่วป่า 1รายเป็นชาวไทย อยู่ในอำเภอตะกั่วทุ่ง 3 ราย เป็นแรงงานชาวเมียนมา ในคลัสเตอร์บ้านพักคนงานสวนยางพาราตำบลหล่อยูง อยู่ในซอยเทศบาลบำรุง 3 เขตเทศบาลเมืองพังงา 3 ราย เป็นแรงงานชาวเมียนมา เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์หล่อยูง ทำให้มีหลายโรงเรียนในตัวเมืองพังงาได้ประกาศห้ามเด็กนักเรียนในพื้นที่พบผู้ป่วยโควิด-19 มาเรียนหนังสือในโรงเรียนชั่วคราว

ล่าสุดทางเทศบาลเมืองพังงาและ อบจ.พังงาได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปฉีดน้ำยาพ่นฆ่าเชื้อ พร้อมกับทางสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองพังงา ส่งเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคลงพื้นที่สอบสวนคัดแยกกลุ่มเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ ทำการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ พร้อมสั่งให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกักตัวที่บ้านและ LQ ทันที จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ได้เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่มผู้ป่วยในคลัสเตอร์ตำบลหล่อยูง ก่อนจะมีอาการป่วย จนตรวจพบเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาลพังงา


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

ตราด – ประมงพื้นบ้าน นำเรือจอดหลบลม หลังเจอมรสุม ทำให้ช่วงนี้อาจจะขาดรายได้ในการออกเรือจับสัตว์น้ำจนไปถึงปลายเดือนตุลาคมนี้

วันที่ 20 กค. 64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางสํารวจ หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนทุกภาคของประเทศไทย ยังคงมีฝนตกหนักและมีลมแรงในบางพื้นที่ เนื่องจากพายุโซนร้อน “เจิมปากา” บริเวณชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรง ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดตราดได้รับกระทบในช่วง 2-3 วันนี้ เนื่องจากในพื้นที่มีฝนและลมกรรโชกแรง บริเวณชายฝั่งทำให้ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวไทย

ขณะรายงานข่าวในพื้นที่ของอำเภอคลองใหญ่ยังคงมีลมค่อนข้างแรง ทำเรือประมง และประมงพื้นบ้านต้องพากันจอดหลบลม และคอยติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่อำเภอคลองใหญ่เป็นพื้นที่ติดทะเล และด้านหลังติดเขา ในช่วงฤดูฝนจะมีลมมรสุมค่อนข้างแรง ทำให้การทำอาชีพประมงต้องคอยติดตามฝนฟ้าอากาศกันทุกวัน โดยเฉพาะเรือประมงพื้นบ้าน ที่เป็นเรือเล็ก ช่วงนี้จะขาดรายได้ในการออกเรือจับสัตว์น้ำจนไปถึงปลายเดือนตุลาคมนี้ต่อไป


ภาพ/ข่าว  วิเชียร ม่วงสี ผู้สื่อข่าว จ.ตราด

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

พังงา - เดือดร้อนหนัก รถส่งสินค้าเข้าภูเก็ตไม่ฉีดวัคซีน และฉีดวัคซีนแต่ไม่มีผลตรวจโควิดห้ามเข้าเด็ดขาด !! นักธุรกิจระหว่าง 2 จังหวัด วอนขอมาตรการผ่อนปรน

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 หลังจากจังหวัดภูเก็ตได้ออกประกาศฉบับที่ 4021/2564 เรื่อง กำหนดมาตรการตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ต ตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับคนไทยจากต่างจังหวัดหรือคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ลงวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม-2สิงหาคม 2564 ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดจำนวน 53 จังหวัดและพื้นที่ควบคุมจำนวน 10 จังหวัดรวมทั้งสิ้น 76 จังหวัด เดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรค Covid 19 ชนิดชิโนแวค, ชิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็มหรือได้รับวัคซีนชนิด Astrazeneca ,ไฟเซอร์,  Moderna , Johnson & Johnson จำนวน 1 เข็มมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน หรือเป็นผู้ที่หายจากอาการป่วยด้วยโรค Covid-19 มาแล้วไม่เกิน 90 วันและต้องได้รับการตรวจหาเชื้อ Covid-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen test  ไม่เกิน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับการตรวจ ยกเว้นเด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีจนถึงผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีที่ไม่อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีนและเดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้มีการตรวจหาเชื้อ Covid-19 ด้วยวิธีการ RT-PCR หรือวิธีการ Antigen test ไม่เกิน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับการตรวจ

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พบว่ามีการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์มาตรการการเดินทางเข้าจังหวัดภูเก็ตเป็นระยะตั้งแต่ฝั่งจังหวัดพังงาก่อนขึ้นสะพานท้าวเทพกษัตรีย์ ขณะที่จุดตรวจมีเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้ตรวจเข้มรถทุกคันที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตตามมาตรการที่บังคับใช้ในวันนี้ ซึ่งพบว่ามีรถจำนวนมากที่ไม่ผ่านการตรวจต้องเลี้ยวกลับทันที โดยเฉพาะมีรถขนส่งสินค้าจำนวนมากที่ต้องเลี้ยวกลับรถมาจอดรอขนถ่ายสินค้าเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตเนื่องจากตัวคนขับบางคนไม่ได้รับการฉีดวัคซีนที มีแต่ผลตรวจ Antigen test มาโชว์ ซึ่งประกาศฉบับล่าสุดไม่อนุญาตให้เข้าได้ บางคนฉีดวัคซีนแล้ว แต่ไม่มีผลตรวจโควิด-19 มาแสดง และบางคนฉีดวัคซีนแล้วแต่ยังไม่ครบระยะเวลาตามกำหนด แม้จะมีใบตรวจโควิด-19 เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตให้เข้าได้ต้องกลับรถมาจอดและให้ติดต่อรถในจังหวัดภูเก็ตมาขนถ่ายสินค้าไปต่อ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก รถขนส่งสินค้าทั้งคันเล็กคันใหญ่ต่างจอดรอขนถ่ายสินค้าอยู่ตามริมข้างทาง

นายวีระ แสงจำนงค์ อายุ 48 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ตนเองรับจ้างขับรถบรรทุกไก่สดมาจากสุราษฎร์ธานีเพื่อส่งให้กับร้านไก่ย่าง5ดาวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งที่ผ่านมาจะตรวจ Antigen test ทุก 7 วัน เพื่อเข้าส่งสินค้าในจังหวัดภูเก็ต แต่มาวันนี้ ไม่สามารถเข้าได้เพราะไม่ได้ฉีดวัคซีนสักที ซึ่งตนเองก็อยากฉีดวัคซีนเหมือนกันแต่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีไม่ได้มีวัคซีนมากเหมือนจังหวัดภูเก็ตตนจึงยังได้คิวฉีด จึงอยากให้มีมาตรการผ่อนปรนให้กับการขนส่งสินค้าเหมือนเดิม ขณะที่คนขับรถขนส่งบะหมี่แฟรนไชส์ชื่อดัง ขับรถขนส่งวัตถุดิบจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีมาส่งให้ลูกค้าในจังหวัดภูเก็ต ก็เกิดปัญหาด้วยเช่นเดียวกัน ตนเองมีเพียงผลตรวจโควิด-19ก็ไม่สามารถเข้าได้ จึงพยายามแก้ปัญหาด้วยการประสานให้ลูกค้ามารับสินค้าที่ด่านท่าฉัตรไชย

ด้านคุณรุ่งนภา ศักดิ์ศรีสุวรรณ ภาคเอกชนที่ประกอบธุรกิจระหว่างจังหวัดพังงาและภูเก็ต เปิดเผยว่า บริษัทมีสาขาอยู่ในจังหวัดพังงาและภูเก็ต มีคลังสินค้าอยู่ในพื้นที่จังหวัดพังงา มีพนักงานที่ต้องเดินทางข้ามไป-มาระหว่าง 2 จังหวัดทุกวัน วันละ12 คน ซึ่งที่ผ่านมาก็ให้ความร่วมมือทุกอย่างตามประกาศของจังหวัดภูเก็ตในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งตอนนี้พนักงานทุกคนก็รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่กลับต้องมาเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจโควิด-19 ทุก 7 วัน ตามประกาศฉบับนี้อีก ทำให้เพิ่มค่าใช้จ่ายในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้ว ซึ่งบริษัทก็ได้ประคับประคองธุรกิจให้เดินต่อไปได้ เลี้ยงพนักงานได้ จึงอยากขอวิงวอนให้ทางจังหวัดภูเก็ตมีมาตรการอะไรที่ช่วยผ่อนปรนให้กับผู้ทำธุรกิจระหว่าง 2 จังหวัด


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

ชุมพร - จิตอาสาพัฒนา "ปลูกป่า" เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม

นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม นายอำเภอท่าแซะ/ ผอ.ศอ.จอส.พระราชทานอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา "ปลูกป่า" เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 ณ ป่าหนองหอยขม ตำบลสองพี่น้อง หมู่ที่ 7 เนื้อที่ 4.35 ไร่ และหมู่ที่ 4 เนื้อที่ 14.95 ไร่ รวม 19.3 ไร่

ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างเคร่งครัด จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม 50 คน ส่วนราชการระดับอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้นำอุปกรณ์ที่ได้รับสนับสนุน จอบ เสียม ต้นไม้ เข้าร่วมกิจกรรม


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

สงขลา - เมืองต้นแบบที่ 4 จะนะ ก้าวไปอีกขั้น ศอ.บต. ร่วมกัน 2 มหาลัย ศึกษาระบบโลจิสติกส์ ทางบกในพื้นที่ อ.จะนะ เพื่อรองรับความเติบโตในอนาคต

พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการขยายเมืองต้นแบบ "สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" จากเมืองต้นแบบ 3 แห่ง ในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เพื่อยกระดับการพัฒนา 4 อำเภอ ใน จ.สงขลา คือ อ.จะนะ,นาทวี.เทพา และสะบ้าย้อย ซึ่งเป็นพื้นที่มีศักยภาพสูง มีโครงการ การขนส่งในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาเพื่อเชื่อมโยงไปยังพื้นที่อื่นทั้งในและต่างประเทศ เมื่อพิจารณาโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ อ.จะนะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ”เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจเฉพาะพิเศษ พบว่ายังเป็นโครงข่ายทางหลวงขนาดเล็ก ออกแบบเพื่อการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้าทางการเกษตร มีถนนสายหลักเพียง 2 สาย คือ ทางหลวงหมายเลข 43 และ 408 ขนาด 4 ช่องจราจร หากมีการพัฒนาเป็น”เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” ถนนดังกล่าวไม่สามารถรองรับความเจริญที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งยังต้องมีการเชื่อมต่อการขนส่งในระบบราง และการเชื่อมโยงโครงข่ายทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ

ศอ.บต.ได้ร่วมกับสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและการจราจร ( สขน.) เพื่อศึกษา สำรวจ วิเคราะห์ สภาพการจราจร และมาตรฐานการจัดระบบจราจร และ อบจ.สงขลา ที่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีภารกิจ มีอำนาจในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น จึงได้ดำเนินการโครงการศึกษาออกแบบระบบโลจิสติกส์ทางบกในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เนื่องจากในการพัฒนา”เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมแห่งอนาคต”นั้นจำเป็นต้องมีการศึกษา เพื่อพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งให้สอดคล้องกับบริบทของการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

โดย ศอ.บต.ได้มอบหมายให้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการโครงการศึกษาออกแบบโลจิสติกส์ทางบกในพื้นที่ อ.จะนะ  โดยจะจัดให้มีการประชุมสัมมนาแนะนำโครงการผ่านระบบประชุมสัมมนาทางไกล เพื่อนำเสนอแนวคิด และวัตถุประสงของโครงการ ให้ผู้แทนส่วนราชการการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่มีส่วนได้เสียรับทราบ ในวันที่ 9 สิงหาคม เวลา 09.00-12.00 น.ผ่านการประชุมทางไกล ด้วยระบบ ZOOM ซึ่งขณะนี้ทางผู้จัดได้มีการเชิญผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมในครั้งนี้แล้ว เพื่อที่จะได้นำความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมประชุมเพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาและออกแบบต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ยะลา – ประชาชนแน่น รพ.เบตง รอคิวฉีดวัคซีนโควิด บ่นพรึบ !! คิวจองยังไม่ได้ฉีด ดันเปิด walk in แบบนี้ไม่ต้องเว้นระยะห่าง

ประชาชนในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา แน่นโรงพยาบาลเบตง แห่เข้าคิวรอรับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มแรกและเข็มสองกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้มีน้ำหนักตัว 100 กก.ขึ้นไป จำนวน 1,060 โดส โดยมี ประชาชนมารอรับการฉีดจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนบางส่วน บ่นกันว่า คิวจองรอฉีดวัคซีนยังไม่ได้ฉีดดันเปิด walk in ทำให้ ประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมากซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

วันนี้ (22 ก.ค. 2564) ที่โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ต่างเดินทางมาเพื่อเข้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ในช่วงเช้าจำนวนมาก มีการต่อแถวยาวตลอดทางเข้าจนถึงหน้าสหกรณ์โรงพยาบาลฯ ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชน สามารถวอล์คอิน เข้ามาฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลเบตงได้ เพื่อให้บริการฉีดวัคซีน โควิด-19 แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้มีน้ำหนักตัว 100 กก.ขึ้นไป และที่มีนัด เนื่องจากปัจจุบันปัญหาผู้ติดเชื้อโควิค-19 ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หากกลุ่มดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะสามารถลดการติดเชื้อ ลดป่วยรุนแรง และลดการเสียชีวิต จึงเปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 (เข็มที่ 1) ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่ตั้งครรภ์มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยจะต้องแสดงเอกสารการตั้งครรภ์ที่ได้รับการรับรองจากแพทย์ และผู้ที่มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป

ขณะที่ในวันนี้ ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาตามนัดแต่ต้องต่อรอคิวนานเนื่องจากทาง รพ.เบตง ได้เปิดรับบริการฉีดวัคซีนโควิด ทุกกลุ่มที่ walk in ทั้งที่มีนัดและไม่ได้นัด โดยเริ่มตั้งแต่ เวลา 08.30-16.00 น. ขณะที่ประชาชนในพื้นที่อำเภอเบตงส่วนใหญ่ได้เริ่มฉีดไปแล้วเข็มที่ 1 คือ วัคซีนซิโนแวค และเข็มที่ 2 คือ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า และในวันนี้ประชาชนที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน รวม 1,060 โดส

อย่างไรก็ตาม จากการเปิด walk in ทำให้ประชาชนบางส่วนไม่พอใจต่างบอกว่า ”ทำไมไม่แบ่งเป็นวันครับ คนลงทะเบียนยังฉีดไม่ครบเลย เปิด walk in แล้วแบบนี้จะลงทะเบียนเพื่ออะไร ผมว่าทาง รพ.ต้องจัดแบ่งวันเวลาใหม่แล้ว ไม่ใช่เรียกมาพร้อมกันหมด ถ้าในนั้นมีคนติดสักคน จะเป็นยังไง คนเยอะขนาดนี้จะมาบอกให้เค้าเว้นระยะ ก็คงทำยาก”

ขณะที่ประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างเคร่งครัด โดยการรักษาระยะห่างทางสังคม ล้างมือบ่อย ๆ และสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19


ภาพ/ข่าว  ธานินทร์  โพธิทัพพะ / ปื๊ด เบตง

พังงา – ด่วน !! ใช้รถทหารรับผู้ป่วยโควิดจากคลัสเตอร์ใหม่กลุ่มค้าสะตอบ้านบางคลี พบผู้ป่วยแล้วกว่า 40 ราย ยอดรวมจังหวัดทะลุ 500 ราย ผู้ว่าสั่งปิดหมู่บ้านทันที

เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านบางคลี ม.8 ต.นาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอท้ายเหมือง นำรถขนส่งทางทหารเข้ารับผู้ป่วยยืนยัน 20 รายในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ของจังหวัดพังงาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า ซึ่งมีผู้ป่วยบางรายที่เป็นเด็กน้อยที่ต้องขึ้นรถไปกับคุณแม่ และบางครอบครัวต้องขึ้นรถไปรักษาตัวทั้งบ้าน ขณะคนที่ผลตรวจไม่พบเชื้อต้องกักตัวเองที่บ้าน และบางส่วนต้องเข้ากักตัวที่สถานที่กักตัวของอำเภอท้ายเหมือง สำหรับผู้ป่วยในคลัสเตอร์บ้านบางคลีพบผู้ป่วยครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม จำนวน 3 รายและล่าสุดพบผู้ป่วยแล้วรวมกว่ า40 ราย ซึ่งมีผู้ป่วยชุดแรกได้ปกปิดข้อมูลทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ในคลินิกเอกชน ในโรงพยาบาลตะกั่วทุ่ง โรงพยาบาลท้ายเหมืองและโรงพยาบาลพังงา ต้องถูกกักตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาได้ออกประกาศปิดพื้นที่ ห้ามคนเข้า-ออกป้องกันการแพร่ระบาดแล้ว

นายสมคิด ปาทาน ผู้ใหญ่บ้านบางคลี เปิดเผยว่า ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ติดเชื้อหลายรายแต่ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ สหหรับการระบาดเกิดขึ้นจากชุมชนพรุวังช้าง เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ซื้อสะตอมารวบรวมแกะเมล็ดนำไปขายต่างจังหวัด ซึ่งคาดว่าติดเชื้อมาจากต่างจังหวัดแล้วมาแพร่เชื้อในชุมชน ซึ่งบางรายยังไปร่วมกิจกรรมทางศาสนาในมัสยิด และล่าสุดพบว่าผู้ป่วยในวันนี้บางคนเปิดร้านค้าในหมู่บ้าน บางรายขายอาหารในโรงเรียนและออกเร่ขายอาหารในหลายหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีกลุ่มเสี่ยงอีกเป็นจำนวนมาก ล่าสุดตนเองได้ใช้เสียงตามสายประชาสัมพันธ์ไม่ให้ชาวบ้านตกใจ ขณะที่จุดที่เกิดการระบาดนั้นจะสามารถควบคุมได้ ตอนนี้ได้ปิดทางให้เข้า-ออกได้ทางเดียวเท่านั้น พร้อมประกาศคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า

ด้านนายปรารถนา สมบัติปิยะ กำนันตำบลนาเตย กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้ร่วมกับอำเภอท้ายเหมือง ผู้นำท้องที่ รพ.สต. อสม. ลงพื้นที่คัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงไปตรวจซึ่งพบว่าติดเชื้อ 8 ราย จึงจัดตั้งด่านปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน และมีบางคนที่ติดเชื้อไปแล้วยังไปเร่ขายของ ร่วมพิธีกรรมทางศาสนา พบปะเพื่อนบ้าน ซึ่งตอนนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกจากบ้าน เพราะพบผู้ป่วยในพื้นที่แล้วกว่า 40 ราย ขณะที่การปิดหมู่บ้านนั้น ทางตนเองและผู้นำท้องที่และผู้มีจิตกุศลได้นำข้าวสารอาหารที่จำเป็นมาสำรองไว้ที่ด่านตรวจเพื่อเป็นเสบียงให้กับคนในชุมชนประมาณ 50 ครัวเรือน จำนวนกว่า 200 คน

ขณะที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 จังหวัดพังงา (ศบค.พง) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น.ว่าพบผู้ป่วยรายใหม่ 29 ราย อำเภอท้ายเหมืองคลัสเตอร์บ้านบางคลี 20 ราย อำเภอตะกั่วทุ่ง 1 ราย รับผู้ป่วยจากกรุงเทพฯ 7 ราย จากอยุธยา 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสมระลอกใหม่ 501 ราย


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี / พังงา

ตราด - สลด! โลมาอิรวดีขนาดใหญ่ ตายลอยเกยหาดบ้านตาหนึก

ชาวประมงพื้นบ้านออกมาลากปลาที่ชายหาดพบโลมาขนาดใหญ่ ตายเกยหาดสภาพเน่าเปื่อยเกยบริเวณชายหาดบ้านตาหนึกหมู่ 5 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอําเภอคลองใหญ่ได้รับแจ้งจากนายประพันธ์ จรุงศิลป์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านตาหนึก ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เข้าตรวจสอบที่ชายหาดบ้านตาหนึก หลังรับแจ้งพบซากโลมาตายถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาด เข้าตรวจสอบพบซากโลมาสายพันธุ์อิรวดี หรือโลมาหัวบาตร ตายอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นเน่า มีร่องลอยที่ศรีษะมีบาดแผลอยู่ 1 แผล ส่วนลําตัวไม่มีรองลอยบาดแผล คาดว่าตายมาแล้วไม่ตํ่ากว่า 7 วัน เป็นเพศเมีย มีความยาวประมาณ 2.50 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณกว่า 100 กิโลกรัม ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโลมาอิรวดีตัวนี้ที่ตายเพราะสาเหตุอะไรเนื่องจากอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย และไม่มีเครื่องมือการผ่าพิสูจน์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอําเภอคลองใหญ่ได้ร่วมกับชาวบ้านแถวชายหาดช่วยกันลากขึ้นมาจากชายหาดด้วยความยากลําบาก เนื่องจากโลมามีขนาดลำตัวใหญ่มาก จึงต้องใช้เชือกมัดลำตัวของโลมา และใช้ไม้กลม ๆ ยาวประมาณ 1 เมตร วางกับพื้น จากนั้นช่วยกันดึงเชือกให้ตัวของโลมาอยู่บนไม้ เพื่อเป็นการลดแรงดึง ก่อนจะทําการฝังกบที่บริเวณชายหาดต่อไป

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวเล่าให้ฟังว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา พบว่ามีโลมาตายลอยมาเกยชายหาดบ้านตาหนึกจำนวนหลายตัวแล้ว จึงอยากฝากถึงชาวประมงถ้ามีโลมาว่ายเข้าไปติดอวนหาปลาแล้วอย่าไปทำร้าย เพราะปัจจุบันโลมาในอ่าวไทยยังคงมีให้เห็นกันอยู่ประจําในช่วงคลื่นลมดี ๆ จะมีปลาโลมา มาว่ายนํ้าให้เห็นเป็นประจําที่บริเวณสถานที่ต่าง ๆ ในอ่าวไทยปัจจุบันโลมามีจำนวนลดปริมาณลงไปมาก โลมาถือว่าเป็นจุดขายของแหล่งท่องเที่ยวในท้องทะเลตราด จึงอยากให้ช่วยกันดูแลและอนุรักษ์โลมากันต่อไป


ภาพ/ข่าว  วิเชียร ม่วงสี จ.ตราด

พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

ตราด - กองทัพเรือ จัดกิจกรรม “กปช.จต. หมอเดินเท้า..เข้าหาชุมชน” และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

กองทัพเรือ โดยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) จัดกิจกรรม “กปช.จต. หมอเดินเท้า..เข้าหาชุมชน” โดยจัดกำลังพล จำนวน 6 นาย (ประกอบด้วย จนท. กพร.กปช.จต. จำนวน 3 นาย จนท. ร้อย.รยบ.ฯ จำนวน 2 นาย และ จนท. มว.ปจว.กจต. จำนวน 1 นาย) เข้าเยี่ยมเยียนประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ ชุมชนที่ 8 อ.เมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี รวมจำนวน 5 ครอบครัว

กิจกรรมในครั้งนี้ คุณสายพิน ทองลา ประธานชุมชนที่ 8 และ จนท.อสม. รวม 2 คน ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย  การมอบหน้ากากอนามัย ข้าวสาร ปลากระป๋อง มาม่า น้ำดื่ม และผลไม้ และให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) เพื่อเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้การบริการพี่น้องประชาชน ณ สถานพยาบาลต่าง ๆ ที่มีผู้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก จนอาจทำให้ไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง


ภาพ/ข่าว สนง.โฆษกกองทัพเรือ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top