Wednesday, 18 June 2025
Region

ชลบุรี - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานเครื่อง Oxygen High Flow แก่ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพิ่มศักยภาพรักษาผู้ป่วยโควิด-19

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่อง Oxygen High Flow แก่โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ จำนวน 10 เครื่อง เพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์ เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการดูแลรักษาและเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 มากขึ้น

โดยมี พล.ร.ต.ชลธร สุวรรณกิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ทำพิธีรับพระราชทาน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ที่หอประชุมโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นล้นพ้นที่ทรงมีต่อ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ตลอดจนประชาชนทั่วไปและบุคลากรของโรงพยาบาล กราบถวายบังคมแทบเบื้องพระยุคลบาท และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นสรรพสิริมงคล และจักมุ่งมั่นดำเนินภารกิจดูแลผู้ป่วย ประชาชนที่ทุกข์ร้อน โดยใช้ประโยชน์สูงสุดจากเครื่อง Oxygen High Flow พระราชทาน ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วย เพื่อพัฒนางานบริการทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วย ในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป

จากนั้น พล.ร.ต.ชลธร สุวรรณกิตติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้นำข้าราชการผู้ร่วมพิธี รับพระทานจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานอุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจป้องกันเชื้อโรค (PAPR) หรือ Powered Air-Purifying Respirators จำนวน 6 ชุด แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อให้บุคคลากรทางการแพทย์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ได้เกิดความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอย่างสูงสุดต่อไป

ปัจจุบัน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ด้วยเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวและมีนิคมอุตสาหกรรม การใช้แรงงานจำนวนมาก ขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการยืนยันติดเชื้อโควิดที่รักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งเคสเบาและหนักรวมกว่า 20 ราย แต่มีศักยภาพในการรองนับผู้ป่วยโควิด-19 ถึง 70 เตียง โดยอุปกรณ์ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานถือว่า มีความสำคัญอย่างมาก ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้


ภาพ/ข่าว  นิราช ทิพย์ศรี / นันทพล ทิพย์ศรี  อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สมุทรปราการ - ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “รวมใจภักดิ์ อนุรักษ์พันธุ์ปลา รักษาป่าชายเลน” ในมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

วันที่ 9 มิ.ย.64 พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “รวมใจภักดิ์ อนุรักษ์พันธุ์ปลา รักษาป่าชายเลน” ในมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้งที่ 3/2564 ณ หมวดเรือที่ 3 กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยมี พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และ พล.ร.ต.ธาดาวุธ ทัดพิทักษ์กุล ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ นางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือ นำคณะอุปนายก และผู้บริหารสมาคมภริยาทหารเรือ ร่วมในพิธี

มูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระดำริ ที่ทรงมีเจตนารมณ์ในการอนุรักษ์แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย และเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการอนุรักษ์ แนวปะการัง และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริ ให้แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน สามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ได้อย่างมีความสมดุลและยั่งยืน กองทัพเรือ ในฐานะที่เป็นหน่วยงานสนองพระดำริ จึงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์และพระประสงค์ของพระองค์ ที่ผ่านมา ชายฝั่งบริเวณพื้นที่ด้านทิศใต้ของหมวดเรือที่ 3 กองเรือทุ่นระเบิด ประสบปัญหาการกัดเซาะของแม่น้ำเจ้าพระยา และปัญหาน้ำท่วมสูงตามฤดูกาล ทำให้ชายฝั่งเกิดการพังทลายเป็นบริเวณกว้าง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 0.6 ไร่ หรือ 25 % ของพื้นที่บริเวณนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ หากปล่อยให้เกิดการพังทลายต่อไป จะเกิดผลกระทบต่อพื้นที่ที่ตั้งหน่วยแห่งนี้มากยิ่งขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาดังกล่าว กองเรือยุทธการ จึงได้มอบหมายให้กองเรือทุ่นระเบิด จัดกิจกรรม “รวมใจภักดิ์ อนุรักษ์พันธุ์ปลา รักษาป่าชายเลน” ในมูลนิธิอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยฯ ครั้งที่ 3/2564 โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ การรักษาระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย อนุรักษ์ป่าชายเลนให้มีความสมบูรณ์ พร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และแหล่งศึกษาทางนิเวศวิทยา พัฒนาแนวชายฝั่ง และป้องกันการพังทลายของหน้าดินในพื้นที่ที่เป็นที่ตั้งหน่วย โดยมีการดำเนินการ กิจกรรมย่อย 3 กิจกรรม ประกอบด้วย

            -กิจกรรมปลูกต้นโกงกาง จำนวน 350 ต้น

            -กิจกรรมปล่อยพันธุ์ปูจำนวน 918 ตัว พันธุ์ปลา 9,918 ตัว

            -กิจกรรมเก็บขยะโดยรอบพื้นที่

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสนับสนุนการดำเนินโครงการตามพระดำริแล้วยังเป็นการพัฒนาแนวชายฝั่ง และป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งการป้องกันการกัดเซาะ โดยการปลูกต้นโกงกาง นับได้ว่าเป็นวิธีการตามธรรมชาติและประหยัดงบประมาณ ซึ่งนอกจากจะสามารถป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งได้แล้ว ยังส่งผลประโยชน์ในการเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นที่หลบภัยและที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศ และเป็นการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดี ให้กับข้าราชการและประชาชน ในการร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสามารถเป็นต้นแบบให้กับหน่วยงานต่าง ๆ นำไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการป้องกันปัญหาการกัดเซาะและการพังทลายของหน้าดินได้

การปลูกต้นโกงกางในครั้งนี้ได้ใช้แนวทางตามโครงการปลูกต้นโกงกางในท่อใยหิน ซึ่งเป็นแนวทางที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วย SEAL) คิดค้น และพัฒนาขึ้น โดยเริ่มดำเนินการทดลองปลูกเพื่อแก้ปัญหาการอยู่รอดของต้นโกงกาง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 จนเป็นที่มาของการปลูกต้นโกงกางรูปแบบใหม่คือ “การปลูกต้นโกงกางในท่อใยหิน” ซึ่งหน่วย SEAL เริ่มทดลองปลูกบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งทะเล พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย จนพบว่ามีอัตราการรอดชีวิตของต้นโกงกางถึง 98.5% คิดเป็นจำนวน 2,524 ต้น นับว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ส่งผลให้เกิดระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากขึ้น


ภาพ/ข่าว สมนึก เชื้อสนุก

นครราชสีมา - ตำรวจทางหลวงโคราช นำคาราวานปันสุข รุดช่วยเหลือน้องเก้า เด็กสู้ชีวิตลำพัง เก็บของเก่าขาย มอบทุนการศึกษา สิ่งของ รวมถึงส่งกำลังใจ หมอ-พยาบาล 4 โรงพยาบาล สู้โควิดไปด้วยกัน รวมแล้ว 25 โรงพยาบาลทั่วโคราช

วันนี้ 10 มิถุนายน เวลา 10.00 น. พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา เป็นตัวแทน พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.ร่วมกับ จิตอาสา 904 ร่วมกับ จิตอาสาตำรวจทางหลวงนครราชสีมา กรรมการหอการค้าโคราช ชมรมฮักเขาใหญ่ และชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียว 

ร่วมกันจัดกิจกรรม คาราวานปันสุข เติมพลังใจ หมอ-พยาบาล 4 โรงพยาบาล ครั้งที่ 5 โดยเริ่มมอบสิ่งของให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลประทาย โรงพยาบาลสีดา โรงพยาบาลบัวลาย และโรงพยาบาลแก้งสนามนาง รวม 4 โรงพยาบาล 4 อำเภอ

โดยมีการนำอาหารกล่อง น้ำดื่ม ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผลไม้ ทยอยมอบให้บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นกำลังใจปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสโควิด สำหรับกิจกรรมคาราวานครั้งนี้ ได้ให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาลไปแล้ว 21 โรงพยาบาล โดยรวมทั้งวันนี้ 25 โรงพยาบาลแล้ว

ภายหลัง พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวงนครราชสีมา พร้อมคณะคาราวาน เป็นตัวแทน พลตำรวจโท ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก.ร่วมกับ จิตอาสา 904 เดินทางไปเยี่ยม นายตะวัน มุสิกา หรือน้องเก้า อายุ 16 ปี พักอยู่บ้านเลขที่ 9849/1 ถนนหัวหนอง 5 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่สู้ชีวิตเพียงลำพังด้วยการเก็บของเก่าขาย หลังจากพ่อกับแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว น้องเก้า ก็อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ สภาพทรุดโทรม มานานกว่า 1 ปี ปัจจุบันนี้ น้องเก้า ได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยเทคนิคบัวใหญ่ ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างยนต์ อาศัยออกเก็บของเก่าขายเลี้ยงตัวเองตามที่เสนอข่าวในโลกโซเชี่ยล

โดยน้องเก้า รู้สึกดีใจ พร้อมกล่าวขอบคุณ ทุกคนที่ได้ช่วยเหลือตนเอง โดยน้องเก้าได้ยกมือไหว้ขอบคุณ นอกจากนี้ ยังมีผู้บริจาคเงินช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาให้น้องเก้าแล้ว จำนวน 300,000 บาท ซึ่งน้องเก้าสัญญาว่า จะตั้งใจเรียน เป็นคนดี และจะใช้จ่ายเงินที่บริจาคให้อย่างประหยัด เพื่อเป็นทุนในการเรียนต่อจนจบ หากใครที่ต้องการจะสนับสนุนช่วยเหลือน้องเก้า สามารถโทรศัพท์สอบถามเพื่อนบ้านของน้องเก้าได้ที่เบอร์ 062-369-4639

กรุงเทพฯ - กองทัพเรือ เปิดฌาปนสถานกองทัพเรือพื้นที่แห่งใหม่ วัดสารอด เขตราษฏร์บูรณะ

วันนี้ (10 มิถุนายน 2564) พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานฌาปนสถานกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพฯ (วัดสารอด) ณ วัดสารอดเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ปลูกต้นพระเจ้าห้าพระองค์  เป็นที่ระลึก

จากนโยบายของ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปีงบประมาณ 2564 ด้านการสวัสดิการ ให้กองทัพเรือดำเนินการพัฒนาด้านสวัสดิการเพิ่มเติม เพื่อให้กำลังพลกองทัพเรือ และครอบครัวมีสวัสดิการที่ดีมากยิ่งขึ้นอย่างเหมาะสม โดยมีเป้าหมายประการหนึ่งคือ การจัดหาฌาปนสถานกองทัพเรือ เพิ่มอีก 1 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับกำลังพลกองทัพเรือ และครอบครัวในทุกระดับ โดยมีสวัสดิการฌาปนสถานกองทัพเรือ และกรมสวัสดิการทหารเรือ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ

จากการดำเนินการของหน่วยรับผิดชอบตามที่กล่าวข้างต้น กองทัพเรือได้รับความเมตตาจากพระศรีธีรพงศ์ เจ้าคณะเขตราษฎร์บูรณะ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสารอด และคณะสงฆ์วัดสารอด ให้กองทัพเรือได้ใช้พื้นที่สิ่งอำนวยความสะดวก และฌาปนสถานของวัดสารอด เพื่อจัดสวัสดิการด้านการฌาปนสถานของกองทัพเรือ และจัดตั้งสำนักงานฌาปนสถานกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพ ณ วัดสารอด แห่งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นในความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ และวัดสารอดในการร่วมพัฒนาพื้นที่ และการฌาปนสถาน อันเป็นประโยชน์แก่กำลังพลกองทัพเรือ ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ต่อไป โดยฌาปนสถานกองทัพเรือ พื้นที่กรุงเทพ (วัดสารอด) โดยได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 26 เมษายน 2564 เป็นต้นมา และเพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่กำลังพลกองทัพเรือในช่วงแรกของการให้บริการ ได้จัดให้มีโครงการ “กองทัพเรือร่วมไว้อาลัย จ่ายให้ในคืนแรก”  โดยจะสงเคราะห์ค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าใช้จ่ายหลักให้กับเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมคืนแรก ประกอบด้วย ค่าศาลา ค่าเครื่องไทยธรรม และปัจจัยถวายพระสงฆ์ รวมทั้งส่วนลดค่าหีบศพ และดอกไม้ประดับหน้าหีบศพ จากผู้ประกอบการ ที่กำหนดถึงวันที่ 30 กันยายน 2564  

วัดสารอด ตั้งอยู่ในซอยสุขสวัสดิ์ 44 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร มีระยะห่างจากอาคารที่พักส่วนกลาง พื้นที่สุขสวัสดิ์ 26 เพียง 3.4 กิโลเมตร  และมีระยะทางที่ไม่ห่างจากกองบัญชาการกองทัพเรือ และหน่วยงานกองทัพเรือส่วนกลางในพื้นที่กรุงเทพมากนัก การเดินทางสะดวกสามารถเข้า - ออก ได้ 2 เส้นทาง คือ ทางถนนสุขสวัสดิ์ และ ถนนประชาอุทิศ สำหรับรายละเอียดในการขอรับบริการสามารถติดต่อได้ที่ สวัสดิการฌาปนสถานกองทัพเรือพื้นที่กรุงเทพ หมายเลขโทรศัพท์ 0898936912 หรือหมายเลขโทรศัพท์กองทัพเรือ 024753219 และ 024755162 


ภาพ/ข่าว กองประชาสัมพันธ์

สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ

นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

สุโขทัย - มอบรางวัลสลากกาชาดการกุศล งานสักการะพระแม่ย่า ประจำปี 2564

วันนี้ (10 มิ.ย.64) เวลา 09.30 น. ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย นางกนกพร พรรณเทวี ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุโขทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานมอบรางวัลให้แก่ผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลจากสลากกาชาดการกุศล ประจำปี 2564 ซึ่งจังหวัดสุโขทัย ได้จัดงานสักการะพระแม่ย่า ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 12-21 กุมภาพันธ์ 2564 โดยจังหวัดได้จัดพิมพ์สลากพระแม่ย่าการกุศล เพื่อหารายได้ไว้ใช้จ่ายในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ของจังหวัดสุโขทัยที่ผ่านมา โดยมีนายวิรุฬ พรรณเทวี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ร่วมแสดงความยินดีแก่ผู้โชคดีสลากกาชาดการกุศล

สำหรับผู้โชคดีได้รับรางวัลรถยนต์ยี่ห้อ MG1  ผู้ถูกรางวัลคือ นางสาวนัทมน ทาวงศ์ อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.1 ตำบลเขาแก้วศรีสมบูรณ์ อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย สำหรับผู้โชคดีได้รับรางวัลรถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน คือนายพวัง จันทร์สว่าง และนางสาวสุรีย์รัตน์ สุทธานุกูล โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกเหล่ากาชาด และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบรางวัลดังกล่าว


ภาพ/ข่าว  สุริยา ด้วงมา

ชัยภูมิ - นายกอบจ.ชัยภูมิ เปิดโครงการอบรมให้ความรู้ แก่บุคลากรหน่วยงานหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2564

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. นายอร่าม โล่ห์วีระ นานก อบจ.ชัยภูมิ (ประธานกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ) ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการอบรมให้ความรู้ แก่บุคลากรหน่วยงานหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2564 ณ ห้องประชุมพระยาภักดีชุมพล ชั้น 3 สำนักงาน อบจ.ชัยภูมิ

ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีผู้ติดเชื้อยืนยันจำนวนมาก กอร์ปกับประกาศจังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เรื่องขอความร่วมมือประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ชะลอการจัดกิจกรรมทางสังคมและงดการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม ที่มีคนจำนวนมากรวมตัวกันเพื่อให้การปฏิบัติราชการตามโครงการอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุน งบประมาณกองทุน ฟื้นฟูสมรรถภาพ จังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2564 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยบรรลุวัตถุประสงค์เป็นไปตามประกาศจังหวัดชัยภูมิ กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิจึงได้จัดทำการอบรมดังนี้

1.อบรมให้ความรู้แนวทางการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ

2. อบรมให้ความรู้บทบาทหน้าที่ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 

3. อบรมให้ความรู้วิชาการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ

โดยมีหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ ประจำปีงบประมาณ 2564 ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการผู้สูงอายุจำนวน 15 โครงการ จำนวน 15 คน หน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ ด้านการแพทย์และกายอุปกรณ์ เครื่องช่วยความพิการ จำนวน 15 โครงการ จำนวน 15 คน และหน่วยงานที่ขอรับการสนับสนุนงบประมาณปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ที่อยู่ในระยะจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 18 หลัง จำนวน 14 หน่วยงาน จำนวน 14 คน


ภาพ/ข่าว  อรรถดิษฐ์ จันตะเสน จ.ชัยภูมิ

พิจิตร - นายกอบจ.พิจิตร ปล่อยพันธุ์ปลาเยียวยาโควิด เลี้ยงให้โตแล้วค่อยจับกินเป็นอาหาร

วันที่ 10 มิ.ย.2564  พ.ต.อ. กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยผู้บริหารและสมาชิกสภาอบจ.พิจิตร ได้ร่วมกันทำกิจกรรมแจกพันธุ์ปลาและปล่อยปลาลงแหล่งน้ำสาธารณะที่บึงห้วงตะกวน โดยมี นายภาณุวัฒน์  ยุทธนาระวีศักดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลหอไกร อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร และผู้นำซึ่งประกอบด้วย นายก อบต.- กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จาก 9 ตำบล ของ อ.บางมูลนาก มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สำหรับการปล่อยพันธุ์ปลาที่บึงห้วงตะกวนที่เป็นแหล่งน้ำใหญ่มีพื้นที่ 400 ไร่ ครอบคลุมอยู่ในพื้นที่ 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 5,8,9  ต.หอไกร อ.บางมูลนาก

ในส่วนของ พ.ต.อ.กฤษฎา ภัทรประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า อบจ.พิจิตร ได้จัดสรรงบประมาณ 1.7 ล้านบาท เพื่อเพาะพันธุ์ปลาจำนวน 7.72 ล้านตัว ซึ่งประกอบไปด้วยปลาตะเพียนขาว , ปลายี่สกเทศ , ปลานวลจันทร์เทศ , ปลาหมอตาล , ปลาสวาย , ปลาสร้อยขาว , ปลาบึก , ปลาสลิด และกบนา ฯลฯ

โดยให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดพิจิตรเป็นผู้ผลิตพันธุ์ปลา –กบ เพื่อมอบให้กับประชาชน 1,000 ราย ที่สนใจเลี้ยงปลา-กบ จำนวน 1 ล้านตัว ส่วนอีก 6.69 ล้านตัว ก็จะนำไปปล่อยในแหล่งน้ำสาธารณะหรือแหล่งน้ำธรรมชาติรวมถึงบึงสีไฟด้วย ทั้งนี้เพื่อหวังว่าพันธุ์ปลา-กบเหล่านี้จะเจริญเติบโตเป็นอาหารโปรตีนของชุมชนคนในท้องถิ่น รวมถึงก่อให้เกิดรายได้ในช่วงสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจโควิด สำหรับระยะเวลาในการดำเนินการก็จะใช้เวลาในช่วงฤดูฝนนี้ไปจนถึงเดือน ก.ย. 2564  ในการปล่อยพันธุ์ปลาลงแหล่งน้ำต่าง ๆ ดังกล่าวอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

มุกดาหาร - “อุ๊บ” เชื่อตำรวจออกหมายจับถูกตัว แจงไม่ได้เป็นนกสองหัว ยังเป็นคนเดิมที่ยืนอยู่กับความถูกต้อง

นายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรือ “อุ๊บ วิริยะ” นักปั้นดารามือทอง อดีตกัลยาณมิตรของลุงพล ซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจแม่และพ่อน้องชมพู่ที่จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจพ่อและแม่น้องชมพู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ให้กำลังใจมาโดยตลอด เคยมาที่กกกอกแล้วกว่า 10 ครั้ง ทุกครั้งที่มาก็จะมาเยี่ยมทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายพ่อแม่น้องชมพู่และลุงพล แต่ครั้งนี้เป็นการตัดสินใจเลือกที่จะอยู่ข้างฝ่ายที่ถูกต้อง ฝ่ายที่เรารู้สึกมีความสุขกับการที่จะมาพบปะเยี่ยมเยียน วันนี้ถือว่าเป็นวันดีวันหนึ่งเนื่องจากนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และทีมทนายความที่ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือกับครอบครัวแม่น้องชมพู่ ในส่วนตัวขอชี้แจงว่าไม่ได้เป็นนกสองหัวไปฝ่ายนู้นทีฝ่ายนี้ที ยังเป็นคนเดิมที่ยืนอยู่กับความถูกต้อง

อุ๊บ วิริยะ กล่าวว่า มีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขอออกหมายจับถูกต้องแล้วเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเก็บรวบรวมหลักฐานมาเป็นระยะเวลาถึง 1 ปี ถ้าหลักฐานไม่หนักแน่นจนชี้ชัดมัดตัวคนร้ายได้ก็คงไม่มีหมายจับออกมา เราเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของตำรวจว่ามีความถูกต้อง จากการมาที่กกกอกกว่า 10 ครั้ง และติดตามข่าวจากทุกสื่อ ทุกโซเชียล ทำให้สามารถวิเคราะห์แยกแยะออกได้ว่าใครดีใครชั่ว ใครที่กระทำความผิดมันก็เห็นชัดจากพฤติกรรมของคนบางคนที่แสดงออกมาให้เราเห็น ฉายาคน 2 ซิมเป็นเรื่องจริงล้านเปอร์เซ็นต์ และน่ากลัว ตั้งแต่เกิดมา 62 ปี ในชีวิตนี้ไม่เคยเจอคนแบบนี้ และเมื่อมาเจอก็ทำให้คิดว่าคนเราเป็นไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ น่ากลัว อยู่ห่างไกลไว้เป็นดีที่สุด


ภาพ/ข่าว  ชุด ฉก.พญาอินทรีย์ / เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร

ยโสธร – ผู้ว่าฯ ส่งทีมแพทย์ดูแลรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ อิมแพคเมืองทองธานี มอบช่อดอกไม้ และกล่าวชื่นชมทีมปฏิบัติการทางการแพทย์

นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานในพิธีส่งทีมปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสนับสนุนทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลบุษราคัม อิมแพคเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 11– 28 มิถุนายน 2564 นี้  โดยมี นายธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร นายแพทย์สมศักดิ์ เชาว์ศิริกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยโสธร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และสื่อมวลชน ร่วมในพิธีครั้งนี้ ณ บริเวณลานจอดรถสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยโสธร  

นายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้มอบช่อดอกไม้ และกล่าวชื่นชมทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ทั้ง 8 คน ในความเสียสละและความเป็นจิตอาสาช่วยเหลือสังคมในสถานการณ์ที่มีความจำเป็นที่ต้องอาศัยผู้มีความรู้ความสามารถ  และชวนให้ชาวยโสธรร่วมเป็นกำลังใจในการไปปฏิบัติหน้าที่ของทีมครั้งนี้ และร่วมใจกันฝากส่งพลังกาย พลังใจให้ทีมไปดูแลรักษา และช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้หายเป็นปกติทุกคน สำหรับทีมปฏิบัติการทางการแพทย์จังหวัดยโสธร เป็นเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลยโสธรทั้งหมด ทั้ง 8 คน ประกอบด้วย 

1.แพทย์หญิงธันยนันท์ ศรีธัญรัตน์ นายแพทย์ชำนาญการ เป็นหัวหน้าทีม 

2.เภสัชกรหญิงภาวินี วารีขัน เภสัชกรปฏิบัติการ 

3.เภสัชกรหญิงณัฐธิดา ดีเพชร เภสัชกรปฏิบัติการ   

4.นางมะลิวรรณ แสนสุข พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ   

5.นางเนตรชนก สิทธิบุรี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ  

6.นางสาวณัฐพร ประสงค์ศิลป์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ  

7.นางรัตติยา  ยั่งยืน  พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ   

8.นางสาวอารยา  เนติวัชรเวช พยาบาลวิชาชีพ 

โดยได้มีการเตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่แก่ทีม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงการดูแลป้องกันตนเองด้วย 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดตั้งโรงพยาบาลบุษราคัมที่ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานีตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการรักษาในโรงพยาบาล โดยเฉพาะผู้ป่วยสีเหลืองให้ได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว จะช่วยลดอาการรุนแรง ลดการเสียชีวิตได้ และเป็นการช่วยให้โรงพยาบาลในเขต กทม. มีเตียงรองรับผู้ป่วยอาการหนักกลุ่มสีแดงได้อย่างเต็มที่ เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา เบื้องต้นรับผู้ป่วยได้ประมาณ 1,200 คน สามารถเพิ่มเตียงได้ 3,000 – 5,000 เตียง รองรับผู้ป่วยสีเหลืองที่เจ็บป่วยเล็กน้อยถึงปานกลาง ทั้งจากในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และสายด่วนต่าง ๆ จากกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ให้การดูแลผู้ป่วยครบวงจร ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต   โยจังหวัดยโสธรมีความภูมิใจ ที่เราได้มีส่วนร่วมไปปฏิบัติหน้าที่ในช่วง 11 – 28  มิถุนายน 2564  ถือเป็นความเสียสละที่ทีมปฏิบัติการทางการแพทย์จะได้ทั้งกุศลบุญและประสบการณ์ที่ดีในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ครั้งนี้


ภาพ/ข่าว  สมัย คำแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดยโสธร

ชลบุรี - กองเรือยุทธการ ร่วมทดสอบการปฏิบัติการของอากาศยานไร้คนขับ MARCUS ที่พัฒนาโดย สวพ.ทร. เตรียมนำมาใช้ในภารกิจรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล

พล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม รองผู้บัญชาการทหารเรือ ชมการสาธิตการปฏิบัติการของอากาศยานไร้คนขับที่ดำเนินการพัฒนาโดยสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ (สวพ.ทร.) ภายใต้ชื่อโครงการอากาศยานไร้คนขับเพื่อการลาดตระเวนทางทะเล กองทัพเรือ (Maritime Aerial Reconnaissance Craft Unmanned System:MARCUS) โดยมี พล.ร.อ.สุทธินันท์  สมานรักษ์ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ, พล.ร.ท.โกวิท  อินทร์พรหม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1, พล.ร.ต.อะดุง  พันธุ์เอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร กองทัพเรือ, พล.ร.ต.อาภา ชพานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ บน ร.ล.อ่างทอง ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

โดยกำหนดสถานการณ์สมมติเป็นการปฏิบัติของ ศรชล.ภาค 1 สั่งการให้ ร.ล.อ่างทอง ที่กำลังลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ ค้นหา พิสูจน์ทราบ และจับกุมเรือต้องสงสัยว่าจะลักลอบนำเข้าสารอันตรายเพื่อใช้สร้างสถานการณ์ในพื้นที่สำคัญทางภาคตะวันออก ต่อมา ร.ล.อ่างทอง ได้ตรวจพบเรือ 1 ลำ มีพฤติกรรมต้องสงสัย จึงใช้ MARCUS เข้าพิสูจน์ทราบ ก่อนที่จะส่งชุดตรวจค้นเข้าปฏิบัติการต่อไป

จากวัตถุประสงค์ในการวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ MARCUS ตามที่ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ในวงเงิน 10 ล้านบาท ที่ได้ทำการพัฒนาให้มีขีดความสามารถ

             -ขึ้น-ลงในพื้นที่จำกัด (ทางดิ่ง) ที่อากาศยานแบบปีกนิ่งทั่วไปไม่สามารถทำได้

             -พัฒนาระบบควบคุมและสั่งการทางยุทธวิธีทางอากาศ (Tactical-Based Aerial Command Control System:TBACCS) ให้สามารถสั่งการพ้นระยะสายตา หรือในบริเวณจุดอับสัญญาณของการสื่อสารได้

การสาธิตในครั้งนี้ได้นำกล้องตรวจการณ์ของ UAV นารายณ์ ติดตั้งเข้ากับระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับเป้าในทะเลอีกด้วย ซึ่งการปฏิบัติการในครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

คุณลักษณะของอากาศยานไร้คนขับ MARCUS ประกอบด้วย

             -ความกว้างปีก 3.4 เมตร

             -น้ำหนักขึ้นบิน 24 กิโลกรัม

             -ความเร็ว ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

             -ระยะเวลาปฏิบัติการบนอากาศ ประมาณ 1 ชั่วโมง

             -ระยะบินไกลสุด 15 กิโลเมตร และกำลังพัฒนาในรุ่นต่อไปให้สามารถบินได้ไกลสุด 40 กิโลเมตร

อากาศยานไร้คนขับ MARCUS ได้ผ่านการทดสอบทดลองจากหน่วยปฏิบัติงานทั้งทัพเรือภาค , ศรชล.เขต และหน่วยบิน ว่าสามารถสนับสนุนการปฏิบัติการตรวจสอบและถ่ายภาพเป้าหมายในทะเล ได้ตามวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามเพื่อให้ MARCUS มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จำเป็นต้องพัฒนาระยะเวลาในการปฏิบัติงานในอากาศให้ได้มากกว่า 1 ชั่วโมง  ซึ่งคณะวิจัยฯ กำลังดำเนินการปรับโครงสร้างลำตัว , เพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และอื่น ๆ เพื่อให้ MARCUS สามารถตอบสนองความต้องการทางยุทธวิธีได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นต้นแบบงานวิจัยที่จะสามารถนำเข้าสู่สายการผลิตให้แก่กองทัพเรือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากจะเปรียบเทียบ MARCUS ที่กองทัพเรือวิจัยจนเป็นผลสำเร็จในครั้งนี้สามารถเทียบคุณสมบัติได้ใกล้เคียงกับอากาศยานไร้คนขับแบบ ORBITER-3B ที่กองทัพเรือจัดหาจากประเทศอิสราเอล โดยปล่อยยิงแบบ Launcher ในวงเงิน 50 ล้านบาท ต่อ 1 ชุด (อากาศยาน 1 เครื่อง และชุดควบคุม 1 ชุด) แต่ MARCUS จะใช้งบประมาณในการผลิตเพียงไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อชุด อีกทั้งยังสามารถขึ้นลงทางดิ่งที่จะสามารถตอบสนองการปฏิบัติการร่วมในทะเล ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

อากาศยานไร้คนขับ MARUS จะถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของงานวิจัยที่เข้าสู่สายการผลิต ได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจำปี งบประมาณ 64 ที่มอบให้ว่า “ขับเคลื่อนงานวิจัยของกองทัพเรือให้สามารถนำไปสู่ภาคการผลิต และเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม”


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top