Tuesday, 10 June 2025
PoliticsQUIZ

‘วิโรจน์’ จี้ ‘อนุพงษ์’ ปลด ‘ปลัด มท.’ พ้นตำแหน่ง หลังไล่ภูเก็ตถอนตัวเจ้าภาพ Specialized Expo 2028

‘วิโรจน์’ ซัด ปลัด มท. พูดจาไม่สร้างสรรค์ ไล่ภูเก็ตถอนตัวเจ้าภาพ Specialized Expo 2028 คาดเป็นพฤติกรรมเลียนแบบนายกฯ ด้านว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลภูเก็ตออกจดหมายเปิดผนึก เรียกร้อง ‘อนุพงษ์’ ปลด ‘สุทธิพงษ์’ พ้นตำแหน่ง - เร่งปลดล็อกท้องถิ่น ให้อำนาจจัดการภูเก็ตอยู่ในมือประชาชน

วันที่ 3 มกราคม 2566 วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิป สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตำหนิจังหวัดภูเก็ตว่าไม่มีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialized Expo 2028 และขอร้องให้ถอนตัวจากการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้ ด้วยถ้อยคำเชิงเสียดสี ว่า การให้ความคิดเห็นเช่นนี้ของปลัดกระทรวงมหาดไทย มีแต่การบั่นทอน ไม่สร้างสรรค์ ไม่แสดงถึงภาวะผู้นำหรือแม้แต่การเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี สิ่งที่ควรจะเป็นคือไม่ว่ามีอุปสรรคอะไร ก็ต้องแก้ไขให้ลุล่วง ต้องปักธงให้งานสำเร็จ ไม่ใช่เสียดสีให้ถอนตัว ยังไม่นับว่าข้าราชการส่วนกลางไม่เคยรับรู้ความหวังของคนภูเก็ตว่าต้องการให้งานนี้ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดขนาดไหน แต่กลับถืออำนาจบาตรใหญ่จากส่วนกลาง

วิโรจน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังนิ่งเฉยต่อพฤติกรรมของปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า น่าตั้งคำถามถึงเส้นสายของปลัดกระทรวงมหาดไทย ทั้งที่เกิดกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมขนาดนี้ แต่รัฐมนตรีกลับเลือกเอาหูไปนาเอาตาไปไร่

“ปลัดสุทธิพงษ์คงดูคลิปคุณประยุทธ์มาเยอะ เช่น ทุ่มโพเดียม ขว้างกล้วย ดังนั้น พูดให้ถึงที่สุด ปลัดคนนี้คงอยู่รอด เพราะพฤติกรรมที่แสดงออก เป็นไปได้ว่าเลียนแบบเอาอย่างมาจากนายกรัฐมนตรี เมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เห็นว่าเลียนแบบมาจากคนที่ใหญ่กว่าตน ก็เลยไม่กล้าแตะ” วิโรจน์กล่าว

‘เสี่ยหนู’ ปฏิเสธข่าวจับมือกับทุกขั้วการเมือง ยัน!! ไม่เคยคุยกับใคร - รอผลเลือกตั้งอย่างเดียว

(3 ม.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวที่พรรคภูมิใจไทยพร้อมจับมือกับทุกขั้วพรรคการเมือง ว่า เป็นเพียงการวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าว ใครเขาจะออกมาให้สัมภาษณ์ จะพูดเช่นนั้นได้อย่างไร คนที่อยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรบอกว่าไม่ควรมีความขัดแย้ง ไม่ควรมีการแบ่งขั้ว ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้สื่อข่าวจึงเอาตนไปพูดว่าพร้อมจับมือกับทุกขั้ว ตนไม่เคยพูดสักคำ ตนพูดอยู่คำเดียวตลอดเวลา และย้ำมาตลอดหลายครั้งว่า ต้องรอผลเลือกตั้ง แล้วผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะไปทางไหน 

เมื่อถามว่า ไม่ปิดประตูสำหรับทุกด้าน ทุกฝ่ายใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่นิยมความขัดแย้ง เราไม่ต้องการทะเลาะเบาะแว้งกับใคร เราไม่ต้องการสร้างความจงเกลียดจงชังระหว่างกัน ฉะนั้น ที่ดีที่สุดคือรอผลการเลือกตั้ง ตนต้องปฏิเสธข่าว 2-3 วันที่ผ่านมา ช่วงปีใหม่ไม่รู้ว่าจะไปแก้ข่าวอย่างไร 

“ที่บอกว่าอนุทินไปเอ่ยชื่อพรรคก้าวไกล ไม่มีคำว่าก้าวไกลออกจากปากผมเลย จนถึงวินาทีนี้ แต่ละพรรคมีนโยบายอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค ส่วนแนวทาง ทิศทางของพรรคการเมือง ผมเชื่อว่าทุกพรรคก็ต้องรอผลการเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว

'ก้าวไกล' ชี้ ราคาป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้านแค่เรื่องรอง แต่มีความจำเป็นอะไรถึงต้องเปลี่ยนป้ายให้สับสน

'สุรเชษฐ์’ แนะใช้ทั้ง 2 ชื่อสถานีกลางบางซื่อ ชื่อใหม่ใช้ในเอกสารราชการ ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนป้ายให้คนงง ฝากประชาชนจับตาคมนาคม ใกล้เลือกตั้งขยันผิดปกติ ดันเมกะโปรเจกต์หลายแสนล้านผ่าน ครม. ทั้งที่งานเก่ายังไม่เสร็จ แต่โฆษณาเอาหน้าไปเรื่อย ๆ

(4 ม.ค. 66) สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์เรื่องความเหมาะสมของการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ วงเงิน 33 ล้านบาท ระบุว่ามอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมตรวจสอบแล้ว และเรื่องนี้มีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบด้วย จึงไม่ต้องกังวลว่า ตนขอโต้แย้งสิ่งที่รัฐมนตรีคมนาคมตอบ ประเด็นแรก ป้าย 33 ล้านบาท จะราคาแพงเกินไปหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่สังคมสงสัยเพียงอย่างเดียว สิ่งที่สังคมสงสัยมากกว่าคือ มีความจำเป็นอะไรถึงต้องเปลี่ยนป้ายจริงๆ เพราะโดยหลักการตั้งชื่อของสถานีขนส่ง ควรเป็นชื่อที่คนจำง่ายและทำให้รู้ว่าตำแหน่งของสถานีอยู่ตรงไหน เช่น สถานีรถไฟชินจูกุ (Shinjuku) ที่ตั้งอยู่ที่แขวงชินจูกุของกรุงโตเกียว สถานีกลางบางซื่อก็ตั้งอยู่ในเขตบางซื่อ กทม. ประชาชนคนต่างจังหวัด คนต่างชาติได้ยินชื่อก็นึกออกว่าต้องไปที่ไหน

‘ชวน’ นัดถกวิป 3 ฝ่าย เคาะวันอภิปราย ด้าน 'ชลน่าน' ขอฝ่ายค้านได้เวลากว่า 22 ชม.

'ชวน' นัดถกวิป 3 ฝ่าย เตรียมเคาะวันอภิปรายมาตรา 152 ชี้ กม.รัฐบาลไม่ควรค้างแม้เรื่องเดียว ด้าน 'ชลน่าน' คาด เวทีซักฟอกอาจเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 ของเดือน หวังได้เวลามากกว่า 22 ชม.

(4 ม.ค. 66) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการวางกรอบการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ว่า วันนี้เวลา 14.00 น. จะหารือกับวิปทั้ง 3 ฝ่าย ประเด็นแรกคือเรื่องญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยจะเป็นการถามฝ่ายผู้เสนอว่าจะใช้ช่วงเวลาใด ซึ่งเท่าที่คุยกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน เบื้องต้นอยากได้ช่วงปลายเดือนม.ค. แต่เนื่องจากจะเชิญตัวแทนของรัฐบาลมาด้วย หากทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกัน ก็จะได้กำหนดเวลาแน่นอนส่วนเรื่องอื่นตั้งใจว่าจะพูดเรื่องกฎหมายที่ค้าง เพราะเนื่องจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)กัญชา กัญชง พ.ศ. … อาจจะต้องใช้เวลา รวมถึงร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต และร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ต้องให้เสร็จก่อนจึงจะสามารถพิจารณากฎหมายฉบับอื่นได้ โดยจะเป็นการหารือว่าหากจะให้มีการประชุมในวันศุกร์ใด วันศุกร์หนึ่งจะพร้อมหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูช่วงปลายสมัยก็จะยากหน่อย

นายชวน กล่าวว่า อีกเรื่องเป็นเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยจะเป็นการหารือว่าเมื่อบรรจุวาระเข้าไปแล้ว แต่ละฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้หรือไม่ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ ซึ่งหากสามารถตกลงกันได้ก็จะทำให้เรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้วผ่านไปได้ เพราะตนคิดว่าเป็นผลงานที่แต่ละฝ่ายทำมา บางคณะอาจใช้เวลา 1 ปี หรือบางคณะอาจใช้เวลา 2 ปี จึงไม่ควรที่จะค้างเพราะจะทำให้เสียของ จึงอาจะให้ผ่าน ส่วนกฎหมายหากไม่ทันก็เป็นเรื่องที่แล้วแต่รัฐบาล เพราะกฎหมายที่สำคัญก็เป็นของรัฐบาล

‘ดร.เทอดศักดิ์’ แนะ ‘บิ๊กตู่’ ถือฤกษ์ 16 ม.ค. ชี้!! เป็นวันดี เหมาะแก่การสมัครพรรค รทสช.

เมื่อวานนี้ (4 ม.ค. 65) เว็บไซต์ ‘vihok news’ ได้โพสต์คำทำนายของ ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา เกี่ยวกับดวงชะตาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่า…

ดวงชะตาสังกัดพรรค

เจ้าชะตาชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

- เกิดวันที่ 24 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2497 ค.ศ. 1954 เกิดเวลาสุทธิที่ 03:54 น. ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์
- ตามสุริยคติ เป็นวันพุธ จันทรคติ เป็นวันอังคาร จ.ศ. 1316
- เกิดที่ประเทศ : เกิดประเทศไทย จังหวัด : นครราชสีมา
- เลือกวิธีตัดเวลาท้องถิ่นเพื่อคำนวณหาดาวและลัคนา : ตัดเวลาท้องถิ่นหาดาวและลัคนา
- เวลาเกิดจริงและเวลาเกิดสุทธิ : เกิด 24/03/2497 เวลา 04:05 น. ตัดเวลาท้องถิ่นเพื่อหาตำแหน่งดาวและลัคนา นครราชสีมา 11 นาที เหลือเวลาเกิดสุทธิ 03:54 น.
- วันเและเวลาที่ใช้คำนวณหาดาวและลัคนา : เกิด 24/03/2497 ดาว ณ 03:54 น. ลัคนา ณ 03:54 น. (ตัดเวลาท้องถิ่นหาดาวและลัคนา)
- ณ วันนี้เจ้าชะตา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อายุได้ : 68 ปี 9 เดือนกับอีก 16 วัน (นับเป็นจำนวนวันได้ 25,128 วัน)

การจะสมัครพรรค รวมไทยสร้างชาติ ถือฤกษ์ วันที่ 9 มกราคม ดาวจร ณ วันที่ 9 เดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ค.ศ. 2023 เวลา 09:00 น. ลัคนาสถิตราศีกุมภ์ ประกอบด้วยเพชฌฆาตฤกษ์

- ตามสุริยคติ เป็นวันจันทร์ จันทรคติ เป็นวันจันทร์ ตรงกับ แรม 3 ค่ำ เดือน 2 ปีขาล จ.ศ. 1385

- แสดงคำทำนายดาวจรส่งอิทธิพลในเกณฑ์ 21 องศา คือแสดงคำทำนายดาวจรเฉพาะที่องศาดาวกำเนิดกับองศาดาวจรห่างกันในระยะ 21 องศาเท่านั้น

เพชฌฆาตฤกษ์ ทางโหราศาสตร์อินเดีย (ภารตะ) เรียกว่า นิธนะ เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำการตัด การแบ่ง ไม่ใช่เพชฌฆาต ที่ไว้ฆ่าคน สมัยก่อนการลงโทษโดยการประหารชีวิตด้วยการตัดคอ มีผู้ทำการลงโทษก็เรียกว่า เพชฌฆาต ทำให้คนเข้าใจสับสน

ซึ่งศัพท์คำนี้แปลว่า ‘ผู้ตัด’ เฉย ๆ ส่วน เพชฌฆาต ฤกษ์ แปลความว่า ‘ฤกษ์แห่งการตัด’ ไม่เกี่ยวกับการฆ่าแต่อย่างใด มีดาวพฤหัสเป็นดาวเจ้าฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ตัดขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า ‘ตรินิเอก’ คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท

ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลโดยทั่วไป เป็น ฉินทฤกษ์ แต่เป็นฤกษ์ดีหมาะสำหรับ การฟันฝ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่าง ๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง

ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยาก ๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ การบวชเรียน การบำเพ็ญเพียรทางจิต

แต่ในทางกลับกัน ฤกษ์ผานาที ดาวจร ณ วันที่ 16 เดือนมกราคม พ.ศ. 2566 ค.ศ. 2023 เวลา 09:00 น. ลัคนาสถิตราศีมีน ประกอบด้วยราชาฤกษ์

‘อัษฎางค์’ ข้องใจ ‘ชัชชาติ’ ไม่สานต่อผลงานผู้ว่าฯ คนก่อน เพราะนึกถึงผลประโยชน์ปชช. หรือ ผลทางการเมืองกันแน่

(5 ม.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก ‘เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค’ ถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ โดยระบุว่า

“ล้ม เลิก”

เพราะคำนึงถึงผลประโยชน์ประชาชนหรือผลทางการเมืองของตนเองและพวกพ้อง?

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวถึง “การเดินเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle EV) ในคลองผดุงกรุงเกษม เขตพระนคร” ว่า จะมีการพิจารณาว่าจะทำต่อไหม

1. ถ้าทำต่อจะคุ้มค่าไหม
2. หากจะทำต้องดูเรื่องความคุ้มทุนด้วย
3. เนื่องจากเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน

มาดูการขนส่งสาธารณะอื่น ๆ

ข้อมูลเท่าที่ผมมีคือ

ขสมก.เริ่มต้นเดินรถเมื่อ 1 ตุลาคม 2519 โดยตลอดระยะเวลากว่า 43 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง องค์กรนี้ขาดทุนสะสมทุกปี ยกเว้นปี 2535 ปีเดียวเท่านั้นที่มีกำไร 61 ล้านบาท

ในปี 2563 ขสมก. ขาดทุนเฉลี่ยถึงเดือนละ 360 ล้านบาท ที่น่าสนใจคือ 233 ล้านบาท หรือ 65% เป็นการจ่ายภาระดอกเบี้ย

ในปี 2563 ขสมก.มีหนี้สิน 127,786 ล้านบาท มีผลขาดทุนสะสมกว่า 9,000 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 มีการประเมินว่า หนี้สิ้นของ ขสมก.จะเพิ่มเป็น 127,786 ล้านบาท

จึงต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ

รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมี 4 พี่น้อง ที่ต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ คือ การบินไทย ขสมก., การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.)

โครงการ ‘เข้าท่า’ เรือไฟฟ้าคลองผดุงกรุงเกษม แต่ ‘หมดท่า’ เมื่ออยู่ในมือผู้ว่าฯ กทม.เบอร์ 8

กระผมต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าผมไม่ได้เป็นแฟน (สมัยนี้ต้องเรียกว่า 'FC' หรือ 'ติ่ง') ท่าน กับทั้งมิได้แน่นแฟ้นเป็นแฟนคลับของท่านผู้ว่าฯ คนก่อนแต่อย่างใด ผมมันแค่คนอาศัยกรุงเทพมหานครเป็นแผ่นดินเกิดเท่านั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมีคือความ 'รักษ์โลก' และมีมากระดับว่าราวเคยดำรงตำแหน่งกัปตันเรือ Rainbow Warriors แห่งพลพรรคขุนพลกรีนพีซก็มิปาน เพราะฉะนั้นเรื่องที่อดีตผู้ว่าฯ คนก่อนได้ดำริเรื่องเดินไฟฟ้าเพื่อการสาธารณะในคลองผดุงกรุงเกษม คลองซึ่งขุดมาตั้งแต่ครั้งสมัยพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ ๕ จึงถูกใจคนอย่างกระผมยิ่งนัก

ใครที่เคยโดยสารรถประจำทางสาธารณะ หรือเรือด่วนเจ้าพระยาในพระนคร ย่อมจะรู้และเข้าใจเป็นอันดีว่ากลิ่นไอเสียจากน้ำมันดีเซลนั้นมันชวนคลื่นเหียนเวียนศีรษะเพียงใด ยามเวลาเครื่องยนต์เดินรอบต่ำเพื่อ 'จอดป้าย' หรือ 'เข้าท่า' ควันมลพิษเหล่านั้นก็โชยทวนลมเข้ารูจมูกส่งให้เราตายเร็วลงอย่างมีประสิทธิภาพ

นั่งรถเมล์สาย 8 ห้าป้าย ไม่ช่วยสำเหนียกใด ๆ เรื่องพวกนี้ดอกครับ

เรือไฟฟ้าจึงเป็นคำตอบอันน่าตื่นเต้นและตื่นตัว จนต้องลงแข่งขันประกวดตั้งชื่อเรือไฟฟ้าทั้ง 7 ลำนั้นอย่างเหมาะเจาะคล้องจองลงตัวว่า - สัมพันธวงศ์ชลธิศ, ดุสิตสาคเรศ, เทเวศร์ชลธาร, ปทุมวันชลาศัย, ธารป้อมปราบศัตรูพ่าย, ชเลครรไลพระนคร, ชโลทรบางรัก ตามเขตคามแห่งคลองผดุงกรุงเกษมเคลื่อนไหลผ่าน

‘เพื่อไทย’ จี้ รัฐบาลผุดแผนรองรับ นทท.จีน หวั่นโควิด-19 ระบาดซ้ำ กระทบภาคเศรษฐกิจ

(5 ม.ค. 66) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ภายหลังการระบาดของไวรัสโควิดตั้งแต่ปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนหายไป เราก็มีความคิดถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนมาก และต้องขอบคุณที่นักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวในประเทศไทยส่งผลให้เศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวดีขึ้น ดังนั้นการที่จีนจะเปิดประเทศในต้นปี 2566 ประเทศไทยมีความยินดีที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ทั้งจากประเทศจีนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่จะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย ในส่วนของการต้อนรับนักท่องเที่ยว การบริหารการท่องเที่ยว ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานการยกระดับความปลอดภัย เพราะ 3 ปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ดังนั้นในการเปิดประเทศรอบใหม่ อยากเห็นว่ารัฐบาลมีการถอดบทเรียนที่ผ่านมาหรือไม่อย่างไร เพราะเชื่อว่าไม่มีผู้ประกอบการคนไหนอยากให้เหตุการณ์ที่ผ่านมาย้อนกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง

'นิพนธ์' ยืนยัน พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยทิ้งชาวประมง แก้ปัญหามาโดยตลอด ล่าสุดตั้งงบประมาณ พันกว่าล้าน เพื่อนำเรือออกนอกระบบ

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ได้ถึง 'ยุทธศาสตร์ 3 ส' ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใช้ในการหาเสียง และเป็น นโยบายในการพัฒนา ประเทศในทุกด้าน ถ้าพรรคสามารถเข้าร่วมรัฐบาลอีกครั้งในสมัยหน้าว่าเป็น 'ยุทธศาสตร์' ที่มีการ ครอบคลุม ทั้งหมด จาก 'ยุทธศาสตร์ 3 ส' คือ สร้างเงิน,สร้างคน ,สร้างชาติ

ส่วนในกรณีของการช่วยเหลือชาวประมง นั้น พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญในเรื่องของอาชีพการทำประมงที่มีผู้ประกอบอาชีพประมงในประเทศ 23 จังหวัด ล่าสุด มีการตั้งงบประมาณ จำนวน 1,806 ล้าน เพื่อนำเรือประมงออกนอกระบบจำนวน 1,007 ลำ เพื่อเป็นการช่วยชาวประมง ที่ไม่สามารถนำเรือไปทำการประกอบการประมงได้ ตามกฎหมาย ไอยูยู ซึ่งการนำเรือที่ไม่ถูกต้องออกนอกระบบ เพื่อเป็นการช่วยให้ได้รับเงินชดเชยเพื่อนำไปประกอบอาชีพประมงหรืออื่น ๆ เป็นการสร้างความสมดุล ระหว่างเรือประมงกับสัตว์น้ำที่มีอยู่ เป็นการสร้างความมั่นคงให้กับอาชีพประมง

'อนุสรณ์' หยัน!! 8 ปี 'ชาติ-ประชาชน' เสียโอกาสไปแค่ไหน ยังกระเสือกกระสนอยากเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี

(6 ม.ค. 66) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เตรียมจะเปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ว่า ในขณะที่บรรดาลูกหาบโหมประโคมข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติคนแห่มาสมัคร มีความพร้อมมาก กลับสวนทางกับพล.อ.ประยุทธ์ที่ลงพื้นที่หาเสียงได้ แต่งตั้งคนในพรรคใหม่ของตัวเองมาทำงานในรัฐบาลได้โดยไม่แคร์ใคร แต่ยุบสภาไม่ได้ ความกลัวทำให้เสื่อม พล.อ.ประยุทธ์ได้เปรียบทุกอย่าง แต่กลับปากกล้า ขาสั่น ไม่กล้ายุบสภา ไม่เป็นธรรมกับประชาชนที่ต้องรอเลือกตั้ง เพียงเพราะพล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่พร้อม การมาเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติจึงเป็นเหมือนไฟต์บังคับ ถ้าปล่อยเวลาให้ผ่านไป เชื่อว่าจะมีคนกลับคำให้การ ส.ส.ที่ตกลงว่าจะยอมให้ดูด ถ้าไม่มีความชัดเจนคงไม่มา งานหนักของพล.อ.ประยุทธ์อีกเรื่อง คือจะแย่งเสียง ส.ว.250 คน มาโหวตให้ตัวเองเป็นนายกฯ ได้เท่าไหร่ ถ้าหาเสียงส.ว.มาได้น้อย เชื่อว่าอนาคตที่จะเป็นนายกฯ อีก 2 ปีที่เหลือจะมืดมน เชื่อว่าจะมีส.ว.จำนวนไม่น้อยที่เมื่อเห็นผลการเลือกตั้งของประชาชนออกมา จะไม่กล้าโหวตสวนมติของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top