Monday, 30 June 2025
PoliticsQUIZ

ทบ.แจ้ง อย่าหลงเชื่อ มีการปล่อยเอกสารเท็จ ประกาศใช้กฎอัยการศึกใน กทม. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ วาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยในขณะนี้มีการ จัดทำเอกสารเท็จและถูกปล่อยออกมาในโซเชียลมีเดีย อ้างว่าเป็น การแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า ก่อนการประกาศใช้กฎอัยการศึกใน กทม. เพื่อป้องกัน อันตรายจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในราชอาณาจักร ประกาศโดย ศบค19ทบ. นั้น

“ขอเรียนว่าเป็นข่าวเท็จโดยสิ้นเชิง อย่าได้หลงเชื่อเพราะเป็นเรื่องผิดกฎหมายและไม่มีหน่วยงานใดจัดทำขึ้น หากได้อ่านข้อความก็คงจะประเมินได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ขอย้ำอย่าส่งต่อ เพราะอาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ปล่อยข่าวเท็จ ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังดำเนินการต่อข่าวเท็จดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป”รองโฆษกกองทัพบก กล่าว

กมธ.การสื่อสารมวลชนฯ จี้ประยุทธ์-ผบ.ตร รับผิดชอบกรณี ใช้กระสุนยางต่อ 'ผู้ชุมนุม-สื่อมวลชน' ซัดเเรง!! ทำเพื่อรับใช้นายใช่หรือไม่? ชี้ชัด!! ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล

ณัฐชา บุญอินไชยสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์กรณีกลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. เวลา 14.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยการชุมนุมดังกล่าว ชุมนุม เพื่อยืนยัน 3 เรียกร้อง ได้แก่

1.) พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข

2.) ปรับลดงบสถาบัน-กองทัพ สู้โควิด

3.) เปลี่ยนวัคซีนหลัก เป็นชนิด mRNA

โดยในขณะที่ผู้ชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมกำลังเคลื่อนขบวนเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ระหว่างเส้นทางเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้าควบคุมฝูงชน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) จำนวนมากยืนขวาง โดยมีรถจีโน่ 2 คันตรึงกำลังอยู่ มีการวางแนวรั้วเหล็กและลวดหนามหีบเพลง ซึ่งกลุ่มการ์ดผ้าพันคอสีเขียวพยายามเจรจาเพื่อขอผ่านไปเส้นถนนราชดำเนิน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ประกาศเตือนผู้ชุมนุม และเริ่มมีการฉีดน้ำ เพื่อต้องการให้ผู้ชุมนุมหรือทีมการ์ดถอยห่างออกจากสิ่งกีดขวาง ที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าต้องการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินราชการ โดยแกนนำได้ประกาศให้ประชาชนปรบมือให้กำลังใจการ์ดวีโว่ที่อยู่ด้านหน้า เเละได้มีการเเจ้งว่า มีผู้บาดเจ็บจากการโดนยิง โดยใช้กระสุนยาง ซึ่งทราบภายหลังว่าคือ สื่อมวลชนที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการชุมนุม

จากกรณีที่เกิดขึ้นนั้น ผมเองต้องขอสะท้อนว่า การบริหารราชการของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มันล้มเหลว มันถึงจุดจบเเล้ว เเละที่สำคัญ มันสะท้อนให้เห็นว่า ท่านนำพาประเทศชาติมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เราต้องสูญเสียบุคลากรทางการเเพทย์ ที่เปรียบเสมือนนักรบด่านหน้า ในการเผชิญต่อโรคระบาด ที่พวกเขาทำหน้าที่ด้วยจิตสาธารณะอย่างเต็มที่ เเต่กลับกัน นักรบตัวจริง กลับใช้อาวุธทำร้ายพี่น้องประชาชน เพียงเพราะเขาเห็นต่างกับสิ่งที่ท่านคิด ที่ท่านพยายามยัดเยียดให้ประชาชน เเต่ผลมันออกมาเเล้วว่า รัฐบาลของท่านไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทั้งระบบ ทั้งด้านสาธารณสุข เเละคุณภาพชีวิตของประชาชน

“พวกเขาออกมาร้องขอ ให้รัฐบาลนำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ให้กับประชาชนเเละบุคลากรทางการเเพทย์ เเละอาสาสมัครสาธารณสุข ท่านไม่ให้เขา หาให้เขาไม่ได้ไม่เป็นไร เเต่ท่านกลับใช้กระสุนยิงใส่ประชาชน ที่สำคัญเป็นสื่อมวลชน ผู้เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน การกระทำเช่นนี้ ท่านจะให้คำตอบว่าอย่างไร ท่านต้องการปิดปากประชาชน ท่านกำลังเป็นฆาตกรอย่างเลือดเย็น ที่มองการตายของประชาชนเป็นเรื่องปกติใช่หรือไม่"

ทั้งนี้ ณัฐชา กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระสุนยางยิงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม โดยไม่ได้มีการประกาศบอกกล่าวก่อนเหมือนทุกครั้ง กรณีเช่นนี้ ผมขอตั้งคำถามไปยังพลตำรวจเอกสุวัจน์ เเจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจเเห่งชาติ ว่าท่านปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านกระทำการป่าเถื่อนเช่นนี้ได้อย่างไร การกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล กรณีนี้ลูกน้องท่าน ทำเพื่อเอาใจผู้บังคับบัญชาใช่หรือไม่ ท่านต้องให้คำตอบต่อพี่น้องประชาชน ว่าสิ่งที่พวกท่านกำลังทำอยู่ นี่หรือ คือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตามคติของตำรวจไทย กรณีที่เกิดขึ้นหากสถานการณ์การเเพร่ระบาดโควิดดีขึ้น เเละรัฐสภาสามารปฏิบัติงานได้ปกติ ผมขอเชิญท่านเเละผู้เกี่ยวข้อง เข้ามาชี้เเจงต่อคณะกรรมาธิการ เพื่อตอบข้อเท็จจริงต่อประชาชนอย่างเร่งด่วน


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เลขาฯรมต.ประจำสำนักฯ ชี้ ม็อบไม่ได้ชุมนุมอย่างสันติ เสี่ยงโควิด-19 เพิ่มภาระแพทย์ เหน็บ รองหน.พท. ใจอำมหิต

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ว่า อยากขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เพราะการชุมนุมดังกล่าวไม่ได้เป็นการชุมนุมอย่างสันติ แต่มีการใช้ความรุนแรง แกนนำพกอาวุธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ปฏิบัติตามหลักสากล ไม่ได้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมทันที ตนเห็นดารานักแสดงบางคนออกมาตำหนิรัฐบาล รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารัฐบาลทำร้ายประชาชน ตำรวจทำร้ายประชาชน ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง จึงไม่อยากให้มีการบิดเบือนข้อมูล เพราะทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ และมีหลักฐานการกระทำผิดทุกอย่าง ที่สำคัญคือ ไม่มีใครคิดทำร้ายคนไทยด้วยกันเอง จึงอยากให้ดารานักแสดงกลุ่มดังกล่าวได้เข้าใจด้วย อย่าพยายามสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในสังคม อย่าพยายามแบ่งแยกประชาชน การกระทำของม็อบผิดกฏหมายชัดเจน มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ และบางคนยังพยายามจะเผาพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งสร้างความปวดใจให้กับพี่น้องคนไทยเป็นอย่างมาก

นายธนกร กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ตนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก่อให้เกิดความวุ่นวายแก่บ้านเมือง ในขณะที่ทั่วโลกเผชิญกับปัญหาวิกฤติโควิด-19 ประชาชนให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่ แต่ประเทศไทยกลับมีประชาชนกลุ่มหนึ่งออกมาชุมนุมประท้วง ทั้งๆ ที่ควรจะเห็นใจบุคลากรทางการแพทย์บ้างที่จะต้องทำงานอย่างหนักในการรักษาดูแลผู้ที่ติดเชื้อ รัฐบาลไม่อยากเห็นความขัดแย้ง จึงพยายามทำทุกอย่างในการแก้ปัญหาโควิด-19 เวลานี้ควรเป็นเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 ตนอยากเห็นความรักความสามัคคีของคนไทยที่จะเอาชนะโควิด-19 ไปด้วยกัน 

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยืนเคียงข้างม็อบนั้น อยากบอกนายอนุสรณ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่รักษากฏหมาย ดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ม็อบทำผิดกฏหมายและใช้ความรุนแรง แล้วจะให้ไปอยู่ข้างได้ม็อบอย่างไร บ้านเมืองมีขื่อมีแปทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกัน ใครทำผิดก็ต้องรับโทษ หรือต้องให้เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายสูญเสียนายอนุสรณ์ถึงจะพอใจ แบบนั้นนายอนุสรณ์จะไม่จิตใจอำมหิตไปหน่อยหรือ  ตนไม่อยากจะคิดว่า นายอนุสรณ์สนับสนุนม็อบเพราะกำลังดำเนินการแผนเดินสองขาในการล้มรัฐบาลตามที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่
 

จับตาครม.จ่อเยียวยาเพิ่มเติมหลังล็อกดาวน์เพิ่ม 13 จังหวัด

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบ Video Conference วันที่ 20 ก.ค. 2564 ที่ประชุมเตรียมพิจารณาเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมเสนอผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ในคราวประชุมครั้งที่ล่าสุดให้กับที่ประชุมพิจารณา ซึ่งมีการประเมินกันว่า ผลการประชุมครั้งนี้อาจจะมีแนวทางของการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติมออกมาด้วย หลังจากที่รัฐบาลยกระดับการควบคุมสถานการณ์ในประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 13 จังหวัด 

ขณะเดียวกันคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ยังเสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 พ.ศ. .... 

เช่นเดียวกับการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สำหรับการปฏิบัติ ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถนการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 1 ต.ค.2563 - 31 ม.ค.2564 รวม 123 วัน

ส่วนวาระอื่น ๆ กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอร่างระเบียบคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการจำหน่ายน้ำตาลทรายเพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ด้าน กระทรวงพลังงาน เสนอการจัดตั้งบริษัทนวัตกรรมของกลุ่มการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขณะที่กระทรวงการคลัง เสนอการปรับปรุงหลักการและแนวทางการพิจารณาการออกสลากการกุศล 

นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2563 เรื่องขออนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง ผู้ประกอบการประมง และกระทรวงสาธารณสุข เสนอแผนระดับที่ 3 ของกระทรวงสาธารณสุข (ร่าง) แผนจัดการเพื่อคุ้มครองสมุนไพรในพื้นที่เขตอนุรักษ์ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 (ฉบับที่ 1) พ.ศ.2564 – 2565

เผย “ชวน” งดประชุมสภาฯต่ออีก 1 สัปดาห์ ขานรับประกาศ ศบค.ฉบับล่าสุด

นายศุภชัย โพธิ์สุข รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง กล่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียม แจ้งส.ส. ถึงการงดประชุมสภาผู้แทนราษฎ ออกไปอีก 1 สัปดาห์ จากเดิมที่มีคำสั่งงดประชุมสภาฯ ถึงวันที่ 25 ก.ค.นี้ โดยเหตุผลที่งดการประชุมเพิ่มเติมอีก 1 สัปดาห์ เพราะเป็นไปตามคำสั่งของ ศบค. ฉบับล่าสุด

เมื่อถามว่าการเพิ่มวันงดประชุมสภาฯ ฝ่ายค้านอาจไม่เห็นด้วย นายศุภชัย กล่าวว่า ต้องพิจารณาเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ปัจจุบันพบการระบาดไปทั่วบ้านทั่วเมือง หากสภาฯ ยังนัดประชุมอาจเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งห้ามการรวมตัวของประชาชนหรือการชุมนุมได้ เพราะสภาฯ ถือเป็นสถานที่ปฏิบัติงานที่รวมประชาชนจากทุกจังหวัด และการสั่งงดประชุมเพิ่มเติมนั้น ถือเป็นดุลยพินิจของนายชวน หากติดตามให้ดี นายชวน ไม่มีความต้องการอยากพักหรืองดประชุม เพราะท่านต้องการให้สภาฯ ได้ทำงาน แต่เมื่อสถานการณ์ระบาดของโควิด เพิ่มมากขึ้นและยอดการติดเชื้อไม่ลดลง ดังนั้นต้องคำนึงถึงการให้ความร่วมมือลดอัตราการเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อ  ซึ่งขณะนี้ มีส.ส. ที่ติดเชื้อโควิดแล้ว

“แรมโบ้”สวน"เสรีพิศุทธ์" เคยอกตัญญูผู้ใหญ่ที่สนับสนุนให้ได้ดีหรือไม่ ย้อนถามจะให้เป็นสมุนโจรตลอดชีวิตหรือ 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่พูดอดีตของตนว่าไม่กตัญญูรู้คุณคน  ว่า "คนอย่างแรมโบ้ มีมันสมองมีสติ มีจิตวิญญาณเป็นมนุษย์ ที่อยากคิดดีทำดี เห็นหัวหน้าเรากำลังเป็นโจรปล้นบ้านปล้นเมือง ปล้นชาวไร่ชาวนา กำลังไล่ล่าปล้นชาวบ้านไม่รู้หยุด ไม่รู้พอ จนเห็นไม่ไหว ต้องยอมเป็นเครื่องมือทำตามทุกอย่างตามที่หัวหน้าโจรสั่งการใช่ไหม ต้องยอมเป็นสมุนร่วมปล้นกับหัวหน้าโจรคนนั้นด้วยใช่หรือไม่ ยอมให้เขาปล้นเอาทรัพย์แล้วสังหารชาวบ้านต่อหน้าต่อตาอย่างนั้นใช่ไหม แต่ตนคงยอมทนต่อไปไม่ได้เพราะโจรคนที่ปล้นจบแล้วคิดว่าจะพอ กลับให้โจรผู้น้องมาปล้นชาวบ้านต่อ เป็นโจรกันทั้งบ้าน จะให้ยอมปล่อยให้โจรทั้งครอบครัวมาปล้นชาวบ้านต่อไปได้อย่างไร และอยากถามพล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ ที่กล่าวหาว่าตนเป็นคนไม่กตัญญูรู้คุณว่า ตกลงจะให้เป็นสมุนโจร ให้ตนยอมร่วมมือกับโจรปล้นชาวบ้านตลอดชีวิตเลยใช่หรือไม่

นายเสกสกล กล่าวว่า พล.ต.อ.ต้องย้อนดูตัวเองด้วยว่ามีคนคุยกันว่า เคยมีผู้ใหญ่สนับสนุนให้ได้ดิบได้ดี จนมีตำแหน่งใหญ่โตในวงการตำรวจ ได้มีความกตัญญูต่อผู้ใหญ่คนนั้นหรือไม่ หรือพอได้ดีก็กลายเป็นคนอกตัญญูไป  ไม่เคยเห็นบุญคุณของผู้ใหญ่ท่านนั้นเลยใช่ไหม จริงหรือไม่จริง ตนไม่ทราบ ท่านรู้แก่ใจ ให้กลับไปพิจารณาย้อนหลังทบทวนเอาเอง" นายเสกสกล กล่าว

“บิ๊กตู่”เริ่มมาตร​การWFH 100% วันแรก ถกครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์​จากบ้านพัก เตรียมพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาลูกจ้างจังหวัดล็อกดาวน์​เพิ่ม พร้อมติดตามการจัดหาวัคซีน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพัก ภายในกรมทราบราบ มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) ซึ่งเป็นวันแรกของการยกระดับมาตรการ​ควบคุม​การแพร่ระบาด​ของเชื้อไวรัส​โค​วิด​-19 ที่เข้มข้นขึ้น โดยเป็นการ Work from home 100% เช่นเดียวกับ​รัฐมนตรี​คนอื่นๆ รวมไปถึงข้าราชการ และ​เจ้าหน้าที่ ของทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าเวรมาปฏิบัติหน้าที่ในภาคบริการบางส่วนด้วย  ทั้งนี้ ในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นจะ เข้าปฎิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น อาทิ ภารกิจเกี่ยสกับการพบบุคคลสำคัญ เช่น เอกอัครราชทูต นายกรัฐมนตรีก็จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อปฏิบัติภารกิจตามปกติ แต่หากเป็นการประชุมก็จะเป็นในรูปแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพัก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวาระการประชุม  ครม.ที่น่าสนใจ ในวันนี้ ยังคงเป็นการติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาโควิด 19 ภายหลังรัฐบาลยกระดับมาตรการให้เข้มมากยิ่งขึ้น ข้อกำหนดที่ 28 ใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผลบังคับใช้วันนี้ ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ขณะเดียวกันได้เตรียมพิจารณาผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ รวมถึงการเร่งรัดจัดหาวัคซีน ทั้งนี้กระทรวงแรงงาน จะมีการนำรายละเอียดการเยียวยานายจ้างและลูกจ้าง ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ในพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด รวมทั้ง จ.พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ที่เพิ่งถูกประกาศให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่สูงสุดและเข้มงวดเพิ่มเติมเข้าที่ประชุม ครม. 

ขณะที่กระทรวง​ศึกษา​ธิการ  มีการรายงานมาตรการลดภาระผู้ปกครองและนักเรียนในส่วนของค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเทอมในเบื้องต้น​ให้นายกรัฐมนตรี​รับทราบ ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งได้วางแผนจัดโครงการแพคเกจที่เหมาะสมไว้แล้ว

ศรีสุวรรณ ร้อง กลต. สอบหมอบุญ ส่อมีพฤติกรรม ดีลวัคซีนทิพย์

ที่สำนักงาน กลต. ถนนวิภาวดี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) เพื่อให้ตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายกรณีการออกมาให้ข่าวของ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เกี่ยวกับดีลการเจรจาจัดหาวัคซีนทางเลือก 20 ล้านโดส ซึ่งอาจเป็น “วัคซีนทิพย์” เพื่อหวังผลสร้างกระแสความนิยมในหุ้นของบริษัทหรือไม่

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นพ.บุญออกมาให้ข่าวอย่างต่อเนื่อง กำลังดำเนินการลงนามจัดซื้อวัคซีน BioNTech ของเยอรมัน ชนิด mRNA เป็นตัวเดียวกับไฟเซอร์ และ Novavax ของอเมริกา ซึ่งสร้างความดีใจและความหวังให้กับคนไทยเป็นจำนวนมากที่หวังจะได้ใช้วัคซีนชนิด mRNA เพื่อนำมาป้องกันเชื้อโควิด-19 โดย นพ.บุญ ยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะลงนามจัดซื้อได้ภายในเย็นวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ไม่มีคำตอบใดๆให้กับสังคม

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ในทางกลับกัน สื่อมวลชนหลายแขนงได้รายงานข่าวว่าบริษัทเตรียมเซ็นสัญญาซื้อวัคซีน BioNTech ของเยอรมนี จำนวน 20 ล้านโดส ทำให้ช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ค.64 ราคาหุ้นของธนบุรีเฮลท์แคร์กรุ๊ป จากราคา 29.75 บาทพุ่งขึ้นถึง 33.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น 12.61 % เลยทีเดียว และสื่อต่างประเทศได้รายงานว่าการออกมาให้ข่าวดีลการซื้อวัคซีนดังกล่าวช่วยให้ราคาหุ้นของเครือธนบุรีเฮลท์แคร์กรุ๊ปดีดตัวขึ้น และมีมูลค่าด้านการตลาดเพิ่มขึ้นราว 1,500 ล้านบาทเลยทีเดียว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขณะเดียวกันมีการเผยแพร่อีเมลอย่างเป็นทางการจากบริษัท Pfizer Deutschland GmbH เรื่องสิทธิ์การจัดจำหน่ายวัคซีน โดยระบุว่า “เรายังคงร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการจัดหาวัคซีน Pfizer-BioNTech COVID-19 ให้ใช้ได้ทั่วประเทศไทย และเรากำลังอยู่ในช่วงปรึกษาหารือกับกรมควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น” ส่วนผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐฯ ก็ยืนยันเช่นกันว่า ทางบริษัทมีการเจรจาเรื่องการส่งออกวัคซีนชนิด mRNA กับรัฐบาลไทยเท่านั้น

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า บทสรุปของการดีลเจรจาซื้อวัคซีนทางเลือกของ นพ.บุญ ยังไม่มีใครทราบว่าจะออกมาทางใด แต่ที่แน่ๆ การออกมาให้ข่าวอย่างต่อเนื่องดังกล่าว เป็นพฤติการณ์ที่น่าสงสัยว่าเป็นการสร้างกระแสความนิยมในหุ้นของบริษัทในเครือของตนหรือไม่ ทั้งที่กฎหมายห้ามมิให้บุคคลใดบอกกล่าวเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งมีโทษหนักทั้งทางอาญาและหรือทางแพ่ง คือ จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 1 ล้านถึง 5 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ม.240 ม.242 ม.243 ประกอบ ม.296 วรรคสอง แห่งพรบ.ตลาดหลักทรัพย์ 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความมาร้องเรียนต่อ กลต.เพื่อขอให้ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังหากพบว่ามีการละเมิดกฎหมายของ กลต.เพื่อหวังผลการเพิ่มมูลค่าหุ้นของตนในตลาดหลักทรัพย์ บนความคาดหวังลมๆแล้งๆของคนไทยหรือไม่

“สิระ” อัด "ศุภชัย” กลัวนายไม่รัก หวั่น หลุดส.ส.สมัยหน้า โดดป้อง “อนุทิน” ไร้เหตุผล ชี้ ย้อนดูสัญญาซื้อวัคซีนล็อตแรกปี 63 ทำไมแทงม้าตัวเดียว

นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นแพะรับบาปของศบค. ว่า สถานการณ์ตอนนี้มีความเหมาะสมในการโยนความผิดกันไปมาใช่หรือไม่ การหาแพะรับบาปไม่ใช่ว่าเพราะกลัวลูกพี่ไม่รัก จึงต้องออกมาปกป้องโดยไม่มีสาเหตุ โต้ตอบ ไม่ได้ดูเลยว่าแตะเรื่องอะไร ออกมาโวยวาย กลัวไม่ได้ลงเลือกตั้งครั้งหน้า หรือไม่มีเขตจะลง ฝ่ายการเมืองมีหน้าที่แก้ไขไม่ใช่โยนขี้ใส่กัน เราต้องหาวิธีแก้ไขปัญหา

“ไปดูการแทงม้าตัวเดียวในการจัดซื้อวัคซีนล็อตแรก ใช่ปี 63 หรือไม่ ที่จนตอนนี้ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยสัญญาซื้อขายได้ ผมยังพูดกับอธิบดีกรมควบคุมโรคในการประชุมคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ และไอซีทีเลยว่า เงินภาษีประชาชนใช้อะไรไปต้องเปิดเผยได้ เรื่องนี้มีผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ตอนนั้นประชาชนดีใจทั้งประเทศ อุ่นใจ แต่วันนี้หลอนทั้งประเทศ ตื่นเช้ามาก็หลอน การตายยังไงก็ต้องตาย แต่การตายครั้งนี้มันไม่ปกติ แพะมันก็คือแพะ ไม่ใช่หรือ หรือจะเอามากินเป็นข้าวหมกแพะ” นายสิระ กล่าว 

"แท็กซี่ไทยไม่ทน" จัดกิจกรรม บีบแตรไล่ผู้นำที่ไร้ความสามารถ-แรลลี่ไปอ่านแถลงการณ์หน้าพรรคร่วมรบ. ก่อนกลับมาปักหลักหน้าทำเนียบ ปราศรัยถึง 5 โมงเย็น

ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล แท็กซี่ไทยไม่ทน นำโดย นายวรพล แกมขุนทด พร้อมสมาชิกกลุ่มประมาณ 10 คน ได้ขับรถแท็กซี่เขียวเหลือง ประมาณ 9 คัน มารวมตัวเพื่อยื่นหนังสือถึงรัฐบาล และ พรรคร่วมรัฐบาล โดยกลุ่มเรียกร้องให้คนขับแท็กซี่ทั้งหลายออกมาขับไล่ผู้นำเผด็จการ โดยกลุ่มได้มีการจัดกิจกรรม และปราศรัยเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป ร่วมบริจาคคนละ 9 บาท ทั้งนี้กลุ่มแท็กซี่ไทยไม่ทน ได้จัดในรูปแบบแรลลี่ บีบแตรไล่ผู้นำที่ไร้ความสามารถ ไม่มีวิสัยทัศน์ ผู้นำเผด็จการ ไม่ฟังเสียงประชาชน ใช้แต่อำนาจข่มเหงประชาชน โดยทางสมาชิกกลุ่มแท็กซี่ไทยไม่ทน ได้จุดธูปปักที่กระถางต้นไม้ริมถนนราชดำเนิน ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมระบุว่าเป็นการกราบไหว้บรรพชนคนประชาธิปัตย์ที่ได้สูญเสียไปกับระบอบเผด็จการที่ผ่านมา จากนั้นกลุ่มแท็กซี่ไทยไม่ทนได้เคลื่อนขบวนแรลลี่ แท็กซี่ทั้งหมดไปอ่านแถลงการณ์ ที่บริเวณหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคพลังประชารัฐ ก่อนที่จะมารวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล และประกาศด้วยว่า จะปักหลักทำกิจกรรมและปราศัยที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลไปจนถึงเวลา 17.00 น. 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top