Monday, 30 June 2025
PoliticsQUIZ

“จรัล ดิษฐาอภิชัย” แกนนำแดงลี้ภัยฝรั่งเศส โพสต์ภาพคู่ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” แกนนำคณะก้าวหน้าที่ประเทศฝรั่งเศส เจ้าตัวโต้หนีม็อบ แจงไปหาภรรยา ไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เดือน ยืนยันกลับไทยแน่ ก.ย.นี้

เฟซบุ๊ก Jaran Ditapichai ของนายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่หลบหนีคดีในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน โพสต์ภาพคู่กับ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า “มิตรภาพสู้รบ วัยอาวุโส-วัยกลางคน”

ภาพดังกล่าวเป็นที่วิจารณ์ในโลกโซเชียลฯ ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า นายปิยบุตรหนีม็อบราษฎรมาปักหลักที่ประเทศฝรั่งเศสหรือไม่

อย่างไรก็ตาม นายปิยบุตร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Piyabutr Saengkanokkul - ปิยบุตร แสงกนกกุล” ระบุใจความได้ว่า นายปิยบุตรเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 4 ก.ค. โดยสายการบินแอร์ฟรานซ์ ถึงสนามบินชาร์ล เดอ โกล เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เพื่อไปหาภรรยา ที่ทำงานอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยปารีส พร้อมกับเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา และรอการเข้ารับวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 3 ส.ค. โดยจะอาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นเวลา 2 เดือน และยืนยันว่าเดือน ก.ย.จะกลับประเทศไทยแน่นอน


ที่มา : https://www.facebook.com/photo?fbid=3895997803842460&set=a.287476558027954

https://www.facebook.com/PiyabutrOfficial


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ศิริกัญญา' อัด จัดการล้มเหลว ปล่อยลัดคิววัคซีน-เบิกจ่ายงบเครื่องมือแพทย์ล่าช้า แนะนายกฯ ทุบโต๊ะให้เบิกจ่ายเร็วขึ้น ด้าน 'วรรณวรี' ตั้งคำถาม ทำไมวัคซีนไทยจึงยังวนเวียนอยู่แค่ 2 ยี่ห้อ

นางสาว ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้ตั้งคำถามต่อกระทรวงสาธารณสุข ถึงเรื่องประสิทธิภาพในการจัดการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยกล่าวว่า การกระจายวัคซีนบิดเบี้ยวไม่เป็นไปตามลำดับความสำคัญตามยุทธศาสตร์ มีบางจังหวัดที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนตามเกณฑ์ใด ๆ เลย แต่กลับได้รับวัคซีนสูงที่สุดเป็นอันดับ 11 ของประเทศ คือจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปัญหาที่วนเป็นงูกินหาง หลายคนยังไม่ได้วัคซีน โดนยกเลิกแล้ว ยกเลิกอีก แต่กลับมีคนบางกลุ่มได้รับวัคซีนก่อน รวมทั้งมีการลัดคิวฉีดวัคซีนจำนวนมาก โดยใช้เส้นสายของผู้บริหารโรงพยาบาลและนักการเมือง ทำให้ผู้ที่ต้องการวัคซีนจริง ๆ ได้รับการฉีดวัคซีนน้อย และมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพราะไม่ได้รับวัคซีน

"จากตัวเลขที่เปิดเผยมาพบว่าผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรคได้รับวัคซีนเพียง 3.5% และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีน เพียงแค่ 0.9% เท่านั้น"

อีกเรื่องที่มีความสำคัญกับการรับมือกับโควิด-19 คือ Rapid Antigen Test ซึ่งในต่างประเทศมีราคาที่แตกต่างหลากหลาย บางประเทศแจกฟรี และหลายประเทศมีราคาถูกกว่าเรา ทั้งที่เมื่อเทียบกับค่าครองชีพแล้ว ค่าครองชีพของประเทศเขาสูงกว่าเรามาก

"โอกาสที่จะได้รับการตรวจของคนไทย ต้องแลกมาด้วยการเอารองเท้าไปต่อคิว เอาขวดน้ำไปต่อคิว ก็ต้องขอให้ท่านช่วยอุดหนุนราคา และควบคุมราคา เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการตรวจได้มากขึ้น ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งกับการรักษาชีวิตพวกเขา"

นอกจากนี้ ศิริกัญญา ยังตั้งคำถามถึงการเบิกจ่ายเงินกู้ก้อนแรกจาก พ.ร.ก. 1 ล้านล้าน ที่อนุมัติไปหมดแล้ว แต่เพิ่งเบิกจ่ายไปได้ 1.1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น สำหรับสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข เมื่อดูการเบิกจ่ายยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์มีการอนุมัติไปตั้งแต่ พ.ย. 63 และ ม.ค. 64 มาถึงเดือน ก.ค. มีเบิกจ่าย และ PO รวมกันเพียง 26% เท่านั้น

"เมื่อไปเช็คใน ThaiMe แผนที่จะจัดซื้อเครื่องมือแพทย์บอกว่าจะทำไม่เกินเดือนเมษายน และรายการทั้งหมดมีความสำคัญกับการรอดชีวิต แต่ผ่านมาจนถึงเดือนกรกฎาคมแล้วยังกลับเบิกจ่ายได้อย่างล่าช้า ไม่ได้คุยเพื่อมาชี้นิ้วหาคนผิด แต่เรามาคุยกันเพื่อหาทางออกว่ามีวิธีไหนทำให้ดีกว่านี้ไหม"

"ทั้งนี้ ตาม พ.ร.บ. จัดซื้อ 2560 มีข้อยกเว้นมากมายสำหรับกรณีโรคระบาดให้สามารถจัดซื้อด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงได้ ก็ต้องขอ สตง. ว่าสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้การจัดซื้อเหล่านี้ได้หรือไม่ หรือต้องการให้มีรัฐมนตรีมาทุบโต๊ะสั่งการ ถึงจะสามารถดำเนินการได้เร็วกว่านี้"

ศิริกัญญา กล่าวต่อไปว่า เมื่อดูของกรมการแพทย์ ก็ปรากฎว่ามีโครงการที่ประมูลเสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ในปัจจุบันก็ยังเบิกจ่ายไม่ได้ สำหรับกรมสุขภาพจิต โครงการจัดซื้อต่าง ๆ อนุมัติไปตั้งแต่เดือนเมษายน แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีการ PO หรือเบิกจ่าย เข้าใจว่ากรมสุขภาพจิตวางแผนการเบิกจ่ายไว้ในเดือนสิงหาคม แต่ก็มีข้อสังเกตว่า ในสถานการณ์โรคระบาด ควรจะวางแผนการจัดซื้อและอนุมัติให้รวดเร็วกว่านี้หรือไม่

ศิริกัญญา ยังได้ถามถึง มติ ครม. ที่จัดซื้อวัคซีน Sinovac เนื่องจากได้สืบค้นจากเว็บไซต์ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว พบเพียงแค่ 2.5 ล้านโดส ที่มีมติ ครม. รองรับ แต่อีก 6 ล้านโดสไม่มี ปกติถ้าเป็นแบบนี้เป็นเพราะเป็นวาระที่ติดชั้นความลับ เป็นความจริงหรือไม่ ถึงจะลับก็ขอเอกสารแล้วตีลับมาก็ได้

นอกจากนี้ ศิริกัญญา ยังได้ถามว่ากรมควบคุมโรคได้เซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างไฟเซอร์ไปแล้วหรือยัง และองค์การเภสัชได้เซ็นสัญญาจัดซื้อโมเดอร์นาไปแล้วหรือยัง รวมทั้ง ขอทราบสต็อกออกซิเจน ว่ายังมีเพียงพอหรือไม่ และสต็อกยาฟาวิพิราเวีย และมีแนวทางจะใช้ยาตัวอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 บ้างหรือไม่ เช่น monoclonal antibody เป็นต้น

ด้าน วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของวัคซีน โดยกล่าวว่า ตนเองได้รับวัคซีน Sinovac 2 เข็มแล้ว ไปตรวจที่โรงพยาบาลพบว่าภูมิขึ้นเพียง 41 U/ml เท่านั้น โดยแพทย์บอกว่าถ้าฉีดแอสตร้าเซนเนกาภูมิจะขึ้นหลักร้อย ถ้าฉีดไฟเซอร์ภูมิจะขึ้นหลักพัน เมื่อเห็นตัวเลขนี้แล้วทำให้ตนต้องระมัดระะวังในการลงพื้นที่มากขึ้น ไม่สามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่

"ดิฉันตั้งคำถามว่าทำไมประเทศเราถึงมีวัคซีนวนเวียนอยู่แค่ 2 ยี่ห้อ นี้เท่านั้น สำหรับคนมีเงินอาจสามารถฉีดวัคซีนบูสเตอร์เข็ม 3 ได้ แต่ประชาชนที่ไม่มีเงินจะทำอย่างไร"

นอกจากนี้ วรรณวรี ยังเรียกร้องให้นำผลตรวจที่เป็นบวกจาก Rapid Antigen Test ไปรับการตรวจ RT-PCR เพิ่มเติมได้ เพราะจะมีผลกับการแอดมิดและหาเตียง


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แง้ม กลับไทยแน่นอน แต่ยังไม่บอกวัน วิเคราะห์ นายกฯ อาจจะอยู่ไม่ครบเทอม

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือ Tony Woodsome พูดในรายการ CARE Talk x CARE Clubhouse : "ล็อกดาวน์ แล้วยังไงต่อ? โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ถ้าตนเป็นนายกฯ จะไม่ปล่อยให้เป็นขนาดนี้ ไม่ให้คนต้องมานอนรอคิวแน่นอน เรื่องวัคซีนผมดิ้นรนหาแน่ ไม่ใช่กระจุกเป็นบางที่ แต่ต้องกระจายวัคซีนให้ทั่วและไม่ใช่ให้คนต้องมานอนรอคิวแบบที่เห็น

ส่วนเรื่องวัคซีน ถ้าสหรัฐฯ ให้ไฟเซอร์ ก็ควรให้บุคลากรทางการแพทย์ก่อน เพราะเป็นด่านหน้าที่ต่อสู้โรค แล้วตกลงที่สั่งไฟเซอร์มา 20 ล้านโดส แต่วันนี้สัญญายังไม่ไปถึงไหนเลย อย่าคิดให้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบเลย เอาประชาชนก่อนไหม

"เรื่องโควิดทำไมมันแพงทุกอย่าง วันนี้คนลำบาก คนจนก็เยอะ เราเป็นประเทศกำลังพัฒนา แต่อะไรก็แพงหมด Rapid Test ในเยอรมนี วางขายร้านทั่วไป 35 บาท แต่บ้านเราขาย 300-400 บาท มันแพงได้ยังไง วัคซีนก็เหมือนกัน ประชาชนต้องจ่ายแพงกว่าประเทศอื่น ทำไมแพง ส่วน ศบค. ยุบทิ้งไปเถอะ เพราะอำนาจความเป็นนายกฯ สั่งอะไรก็ได้อยู่แล้ว ศบค. เป็นเหมือนหน่วยที่ปรึกษาที่ใช้อำนาจนายกฯ รัฐมนตรีทำอยู่แล้ว คนไหนไม่ได้เรื่องก็ปรับเลยคณะรัฐมนตรี วันนี้ถ้าไม่ปรับออก แสดงว่านายกฯ เองนั้นแหละไม่ได้เรื่อง"

นอกจากนี้นายทักษิณ ยังย้ำเรื่องการกลับประเทศไทยว่า กลับแน่นอน แต่ขออุบไว้ก่อนว่าเมื่อไหร่ ถ้ากลับไปไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ ทั้งนี้ถ้าพล.อ.ประยุทธ์บอกว่า พี่ ๆ ปรึกษาหน่อย ผมก็พร้อมช่วย เวิร์ค ฟอร์ม ดูไบ ให้เลยเต็มที่ เขาเคยเป็นลูกน้องผม ตอนที่ผมเป็นนายก เขาเป็นพันเอก ถ้าเขามาปรึกษาผม ผมพร้อมช่วย คนเคยเป็นนายกฯ ไม่รักบ้านเมืองก็โง่แล้ว

มีคนถามว่า ตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันที่จะไม่ยอมแพ้ ให้วิเคราะห์แบบไม่ต้องเกรงใจกันเลยว่าน่าจะอยู่อีกนานเท่าไหร่ นายทักษิณ กล่าวว่า รัฐบาลน่าจะดึงยาวที่สุด ส่วนจะดึงแบบไหนเนี่ยคิดว่าช้าที่สุดก็คงยุบสภาไม่น่าจะเกินเดือนมกราฯ -กุมภาฯ ปีหน้า หรืออาจจะสิ้นปี อันนี้เดาแบบการเมือง ไม่ได้เดาแบบรู้ใจ ดูแล้วคิดว่าอาจจะมีการเลือกตั้งช่วงเดือนกุมภาฯ บวกลบนิดหน่อย ไม่อยู่ครบเทอมหรอก ตนไม่ได้ประเมินแบบเกรงใจ แต่ประเมินจากความทนทาน

เมื่อถามต่อว่า ถ้ามีการยุบสภา แต่ส.ว.ยังยกมือเลือกพล.อ.ประยุทธ์อีกเหมือนเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า มันอยู่ที่พรรคการเมืองไหนจะได้อันดับหนึ่ง ถ้าพรรคที่ชนะพรรคพลังประชารัฐมาก ๆ ถล่มทลาย ตนเชื่อว่า ส.ว. ก็คงยกมือให้ไม่ไหว ผู้นำจีนชอบพูดว่า ถ้าจะครองเมือง ต้องครองใจประชาชนให้ได้ก่อน เพราะฉะนั้นถ้าพล.อ.ประยุทธ์จะกลับมา ในช่วงจากนี้ไปจนถึงเดือนกุมภาฯ ก็ต้องหาวิธีการครองใจประชาชนให้ได้ก่อนถึงจะได้ครองเมือง แต่ถ้าคิดว่าจะกลับมาโดยไม่ครองใจประชาชนก็คงลำบาก

ถามอีกว่า พี่โทนี่มีอะไรจะบอกคนที่ยังเชียร์พล.อ.ประยุทธ์อยู่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ทุกคนเป็นคนไทยเหมือนกัน เราต้องรักเพื่อนร่วมชาติ ต้องไม่มีอคติต่อกัน วันนี้อาจจะชอบ พรุ่งนี้อาจจะไม่ชอบ เหมือนอย่างตน ก่อนหน้านี้มีคนชอบ ต่อมาก็ไม่ชอบ แล้วก็มาชอบ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีสติ อะไรที่ดีที่สุดสำหรับประเทศให้เลือกสิ่งนั้น คิดกันให้รอบคอบ ต้องรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี แล้วไปตัดสินกันที่การเลือกตั้ง


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/587453


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ผบ.ทบ.” สั่งแจ้งความ 9 มือโพสต์ ปม ทหารไปบูสต์วัคซีนเข็ม 3 สหรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการภาพกำลังพล กองร้อยส่งทางอากาศ ที่เดินทางไปร่วมการฝึกกระโดดร่มทางยุทธศาสตร์ (Strategic Airborne Operation) กับกองทัพบกสหรัฐ ณ Fort Bragge รัฐนอร์ทแคโรไลนา ระหว่างวันที่ 10-26 ก.ค.64 ที่สนามบินไปเผยแพร่และบิดเบือนโดยกล่าวหาว่าเดินทางไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 และใช้ภาษีประชาชนเป็นค่าตั๋วเครื่องบินในการเดินทางนั้น

ล่าสุด พล.อ.ณรงพันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้มอบหมายให้ พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ทำหน้าที่แทนดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับบุคคลที่นำภาพไปบิดเบือน จนทำให้กองทัพบกเกิดความเสียหาย พร้อมให้ พ.อ.ณครสม เนาวบุตร ผู้อำนวยการกองคดี สำนักพระธรรมนุญทหารบก เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบุคคลล็อตแรก จำนวน 9 ราย ประกอบด้วย ผู้ในเฟซบุ๊ก จำนวน 8 ราย ทวิตเตอร์ จำนวน 1 ราย และจะมีการทยอยแจ้งความกับบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีก ข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท จำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ

‘แรมโบ้’ ซัด ‘โทนี่’ คงไม่มีใครโทรปรึกษานักโทษหนีคดี คงไม่ได้ประโยชน์อะไร ย้ำนายกฯ ไม่คิดลาออก และไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองใคร แนะหากอยากกลับประเทศไทย ทำได้ 2 ข้อคนไทยส่วนใหญ่จะยอมรับได้

14 กรกฎาคม นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม ร่วมเสวนาผ่านคลับเฮาส์ พร้อมให้นายกฯ โทรหา เพื่อขอคำปรึกษาและระบุว่าหากอยากไล่นายกฯ ให้ไปฟ้องพลเอกประวิตร รวมถึงคนเป็นนักการเมืองจะแคร์ประชาชน คนที่มาจากการปฏิวัติไม่แคร์ประชาชน โดยนายเสกสกลระบุว่า คำพูดเหน็บแนมของนายโทนี่ ที่อยากจะเสนอแนะและให้คำปรึกษาไม่ได้ออกมาจากใจเป็นเพียงเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองมากกว่า

ตนเองมองว่าคำปรึกษาของนายโทนี่นั้นคงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะไม่ได้เข้าใจถึงสถานการณ์ ไม่ได้ลงมาสัมผัสกับความเดือดร้อนของประชาชนโดยตรง ขณะเดียวกันในสถานะของคนทำผิดที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเช่นนายโทนี่คงไม่สมควรที่จะโทรไปปรึกษา เพราะปรึกษากับนักโทษที่มีคดีทุจริตติดตัวคงไม่ได้ประโยชน์อะไร

นายเสกสกลยังย้ำว่า ที่ผ่านมานายกฯ รัฐบาล สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ และตนเองก็เห็นแล้วว่าทำได้ดี ทั้งต้องแก้ไขปัญหาที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ทิ้งเอาไว้ เช่น โครงการรับจำนำข้าว และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมายที่สะสมมานาน ได้พัฒนาประเทศต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ตอนนี้ทุกภาคส่วน บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนได้ร่วมมือกันอย่างดี เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้

ดังนั้น จึงไม่จำเป็นที่จะต้องขอคำแนะนำจากนายโทนี่ ถ้านายโทนี่จะช่วยประเทศชาติได้ในภาวะนี้ คือ หยุดพูดสร้างความสับสนและด้อยค่าคนอื่น หยุดพูดเหน็บแนมคนอื่น หยุดพูดสร้างความแตกแยกให้กับคนไทยได้แล้ว นี่คือสิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุดในยามนี้

ส่วนที่นายโทนี่บอกว่านักการเมืองทั้งเก่งและไม่เก่งจะแคร์ประชาชน แต่คนที่มาจากการปฏิวัติไม่แคร์ประชาชนนั้น ตนเองอยากให้นายโทนี่ อย่าเข้าข้างตัวเองมากเกินไป บางทีคนที่อ้างว่ามาจากประชาชน เอาประชาชนมาเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะแสวงหาผลประโยชน์ทุจริตโกงกินมากมายจนต้องติดคุกติดตารางหรือหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ อย่างนี้ใช่ใหม? หรือออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ตัวเองใช้เสียงข้างมากลากไปจนถูกเรียกเป็นเผด็จการรัฐสภาหรือระบอบทักษิณ การกระทำเช่นนี้ของนักการเมืองใช่ไหม ที่เรียกว่าแคร์ประชาชนหรือเห็นเงาหัวประชาชน ตนเห็นว่าคนที่เป็นนักการเมืองโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยนั้นไม่เห็นแคร์ประชาชนอะไรเลย เพราะวัน ๆ มีแต่ปากออกมาพูด เพื่อสร้างความสับสนให้กับประชาชนไม่หยุด เช่นเดียวกับนายโทนี่ไม่คิดช่วยประชาชนในยามวิกฤตโควิด คิดแต่จะล้มรัฐบาลกลับมามีอำนาจไว้ในมืออีก ในขณะที่บ้านเมืองต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ซึ่งตนเองก็อยากให้นายโทนี่ออกมาเตือนคนในพรรคเพื่อไทยด้วยว่าพฤติกรรมเช่นนี้ไม่สมควรทำอย่างยิ่งในขณะนี้

"ตนเองยังยืนยันว่านายกฯ จะต้องทำงานแก้ไขปัญหาจนครบเทอม จะไม่ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใครทั้งนั้น ดังนั้น คงไม่ต้องไปบอกพลเอกประวิตรให้ไปบอกนายกฯ ประยุทธ์ให้ลาออก และการที่นายโทนี่ออกมาพูดไม่หยุดนั้นตนเองก็มองว่าไม่ได้อยากจะช่วยเหลือบ้านเมืองอะไร เพราะการออกมาพูดแต่ละครั้งไม่มีเนื้อหาสาระอะไรที่เป็นประโยชน์ แต่พูดเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเองเท่านั้น อยากมีบทบาทช่วยพรรคเพื่อไทยเป็นการตีกินทางการเมือง กลัวคนจะลืม โดยไม่สนใจว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร หวังแต่ว่าการออกมาพูดจะช่วยให้พรรคเพื่อไทยได้เข้ามามีอำนาจเป็นรัฐบาล เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือตัวเองให้พ้นผิดและได้กลับประเทศไทยเล่นนั้นใช่ไหม แต่ตนเองมองว่าหากนายโทนี่อยากกลับประเทศไทย และแน่จริงก็ขอให้กลับมาเลยตอนนี้ กลับมารับโทษที่ตัวเองได้ทำผิดเอาไว้ แค่นี้ก็ได้กลับประเทศไทยแล้วโดยไม่ต้องรอเวลา

แต่ก่อนจะกลับมาประเทศไทย ตนจะต้องถามกลับสองข้อสั้น ๆ ว่า...

1.) ถ้ากลับมาพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายคืนให้ประเทศชาติประชาชนในโครงการที่เกิดการทุจริตในยุครัฐบาลนายทักษิณและยุครัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือไม่

2.) พร้อมที่จะกลับเข้ามารับโทษตามกระบวนการยุติธรรมหรือไม่

ถ้านายโทนี่และนางสาวยิ่งลักษณ์พร้อมรับเงื่อนไขสองข้อนี้ ตนคิดว่า พี่น้องคนไทยส่วนใหญ่คงไม่ขัดข้องที่จะให้กลับได้ถ้าทำตามสองข้อนี้ ไม่ว่านายโทนี่กับน้องสาวจะเดินเข้าทางช่องประตูหน้าหรือประตูหลังหรือประตูไหน ๆ ก็ตาม ตนมั่นใจคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับได้อย่างแน่นอน" นายเสกสกล กล่าว


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“บิ๊กตู่” ย้ำการจัดทำแผนพัฒนาภาคกลุ่มจังหวัดและจังหวัด เน้นสอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเท่าเทียมเป็นธรรม ให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน  

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) และคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ครั้งที่ 2/2564 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดย นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำความสำคัญของการจัดทำแผนพัฒนาภาค แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาจังหวัด โดยการจัดทำแผนงานโครงการต้องคำนึงถึงศักยภาพของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และมาจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง ทั้งนี้ แผนงานโครงการต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และมีการบูรณาการเชื่อมโยงการพัฒนาจากระดับบน (Top Down) สู่ระดับล่าง (Bottom Up) รวมทั้งกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด โดยมุ่งเน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเท่าเทียม และเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน  นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อที่ประชุมถึงนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ในการจัดทำแผนพัฒนาภาค แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด และแผนพัฒนาจังหวัด ต้องปรับให้เข้ากับเกณฑ์ของยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งการจะทำให้ประสบความสำเร็จ ต้องขึ้นอยู่กับแผนปฏิบัติการที่ต้องลงไปยังพื้นที่ ทุกอย่างต้องสอดคล้องกัน และการพัฒนาต้องเป็นการพัฒนาอย่างพุ่งเป้า เป็นไปตามศักยภาพของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ต้องมีการจัดเตรียมแผน จัดลำดับความสำคัญเร่งด่วนให้ดี ในการใช้งบประมาณต้องมีแผนการใช้งบประมาณในแผนเร่งด่วนตามกรอบระยะเวลา ที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า และปรับให้ตรงกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งสถานการณ์โลก สถานการณ์ภายในประเทศ ที่สำคัญคือต้องทำให้สอดคล้องกับห้วงระยะเวลา โดยต้องมุ่งเป้าหมายไปที่การฟื้นฟูของประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 ให้ได้โดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะต้องมีเป้าหมายตัวชี้วัดการพัฒนาระดับความแตกต่างของรายได้ของประชาชน ของจังหวัด จีดีพีรายหัว ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น 

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ในวันนี้ต้องทำงานแนวเชิงรุกให้มากยิ่งขึ้น การจัดทำแผนงาน/โครงการต่าง ๆ จะต้องมีข้อมูลรายละเอียดที่เพียงพอ แผนปฏิบัติการต้องผ่านความเห็นชอบ ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ผ่านคณะกรรมการจังหวัด เสนอขึ้นมาผ่านคณะกรรมการตรวจสอบ คัดกรอง ให้ได้ข้อยุติเป็นแผนที่สมบูรณ์ โดยรัฐบาลจะไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใดก็ตาม ทุกจังหวัดจะต้องได้รับความเท่าเทียมและเป็นธรรม เท่าเทียมในเรื่องของโอกาส เป็นธรรมก็คือจะต้องดูแลผู้มีรายได้น้อยให้มากขึ้น ซึ่งในการจัดทำโครงการขอให้ทำให้ดีที่สุด เมื่อเสนอโครงการมาแล้วหากต้องส่งกลับไปใหม่ จะทำให้ล่าช้าไม่ทันการณ์ ฉะนั้น ท้องถิ่นและจังหวัดต้องตรวจสอบในเรื่องการจัดทำแผนงานโครงการให้สมบูรณ์ ทั้งนี้ การทำงานใดก็ตามที่มีลักษณะการทำงานแบบเดิม ๆ จะต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นการทำงานเชิงรุก ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ รวมทั้งในโครงการจะต้องมีแผนหลัก แผนรอง แผนเผชิญเหตุ ให้พร้อมสำหรับการอนุมัติโครงการ ทุกจังหวัด ทุกกลุ่มจังหวัดต้องเตรียมการให้พร้อม กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนตามห้วงระยะเวลา รัฐบาลเน้นให้ทุกอย่างต้องเป็นไปด้วยความสุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้และมีประสิทธิภาพ  

นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ (1) นโยบาย หลักเกณฑ์ วิธีการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด และแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2566 - 2570 (2) หลักเกณฑ์การจัดทำแผนปฏิบัติราชการจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570 (3) แนวทางการกำหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570 ภายใต้กรอบงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดปีละ 28,000 ล้านบาท (4) หลักเกณฑ์การเปลี่ยนแปลงโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - 2570 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (5) ร่างกรอบแผนพัฒนาภาค พ.ศ. 2566 - 2570 ทั้ง 6 ภาค และหลักเกณฑ์การจัดทำแผนปฏิบัติการภาค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - 2570 เพื่อให้ส่วนราชการใช้เป็นกรอบในการจัดทำและเสนอขอโครงการที่สนับสนุนและขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงพื้นที่ (6) ปฏิทินการดำเนินงานภายใต้กลไก ก.บ.ภ.ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 - 2565 (7) แนวปฏิบัติสำหรับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด กรณีการชำระเงินประกันค่าธรรมเนียมให้สถาบันอนุญาโตตุลาการในการฟ้องคดีโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี โดยใช้เงินเหลือจ่าย และ (8) การขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อชดเชยเงินถูกพับไปของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 โดยจังหวัดเสนอคำขอเปลี่ยนแปลงเพื่อขอความเห็นจากคณะกรรมการบริหารงานจังหวัด/กลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการและจัดส่งคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการภายในวันที่ 10 สิงหาคม 2564

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการปรับปรุงตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ชุดใหม่ ที่ยึดโยงกรอบมิติการพัฒนาตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ประกอบด้วย ตัวชี้วัดการพัฒนาระดับจังหวัด (32 ตัวชี้วัด) ตัวชี้วัดการพัฒนาระดับกลุ่มจังหวัด (15 ตัวชี้วัด) ทั้งนี้ จังหวัด กลุ่มจังหวัด และส่วนราชการ สามารถใช้ตัวชี้วัดดังกล่าวเป็นเครื่องมือในการวัดสถานะการพัฒนาพื้นที่เชิงเปรียบเทียบ จังหวัดและกลุ่มจังหวัดสามารถนำไปเป็นข้อมูลประกอบการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดได้ รวมทั้งชี้พื้นที่เป้าหมายการพัฒนาในระดับจังหวัดและกลุ่มจังหวัดให้กับส่วนราชการเพื่อนำไปกำหนดแผนงานโครงการได้อย่างชัดเจน 

 

โฆษกทอ. ยัน ผู้บังคับบัญชา มีความห่วงใย กำชับให้ดูแลอย่างดีที่สุด พร้อมเปิดภาพที่พักทหารเกณฑ์ป่วยโควิด-19 

พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากกรณีสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าว พลทหารภายในค่ายแห่งหนึ่งใน กทม.ร้องเรียนสื่อมวลชน พร้อมส่งภาพบางส่วน ภายหลังพลทหารในค่ายติดเชื้อโควิด 19 มากกว่า 200 คน แต่กลับถูกแยกตัวให้ไปนอนในโรงอาหาร บางคนนอนพื้น บางคนนอนเตียงแต่ไม่มีที่นอนและหมอน ส่วนอาหารก็ไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วย ทำให้ทางญาติรู้สึกไม่สบายใจ อยากให้หน่วยทหารต้นสังกัดดูแล นั้น 

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ภาพดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เป็นเหตุการณ์ช่วงแรกของการคัดแยกผู้ป่วย และจัดเตรียมที่พัก ปัจจุบันได้ย้ายทหารกองประจำการที่ติดเชื้อไปยังอาคารแห่งใหม่แล้ว และได้รับการดูแลอย่างดี โดยมีข้อมูลสำคัญดังนี้

1.  ระหว่าง 1- 6 ก.ค.64 ดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกทหารกองประจำการ (ผลัดเก่า) หน่วยที่ตั้งดอนเมือง พบว่า มีทหารกองประจำการติดเชื้อโควิด จำนวน 37 คน หน่วยจึงรีบดำเนินการส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศทันที

2. วันที่ 7 ก.ค.64 เวลา 13.00 น. ดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกทหารกองประจำการเพิ่มเติม จำนวน 250 คน 

3. วันที่ 8 ก.ค.64 เวลา 21.00 น. ทราบผลว่า มีทหารกองประจำการติดเชื้อโควิด 19 เพิ่มอีกกว่า 100 คน หน่วยจึงแยกทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด 19 เข้าพักคอยบริเวณโรงประกอบเลี้ยงของหน่วยชั่วคราว และได้จัดเตรียมอาคารกองพันของหน่วยสำหรับเป็นสถานที่รักษาพยาบาลตามมาตรฐานการกักกันโรค

4. วันที่ 9 ก.ค.64 กรมแพทย์ทหารอากาศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมวางแผนให้ดัดแปลงอาคารกองพันของหน่วย เป็น Community Isolation (สถานที่แยกตัวชุมชน) ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพอากาศดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

5. วันที่ 10 ก.ค.64 เวลา 12.00 น. ปูพรมตรวจคัดกรองเชิงรุกทหารกองประจำการส่วนที่เหลือ จนทราบผลช่วงกลางดึกว่า มีทหารกองประจำการติดเชื้อเพิ่มกว่า 100 คน หน่วยจึงรีบดำเนินการคัดแยกทหารกองประจำการส่วนที่เหลือ โดยจัดให้ทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด 19 พักบนอาคารกองพันเป็นการชั่วคราว แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อมีจำนวนมาก จึงทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยในช่วงแรกของการดำเนินการจัดเตรียมสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งการให้บริการอาหารของผู้ป่วย

6. วันที่ 11 ก.ค.64 แยกทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด 19 ทั้งหมด เข้ารับการรักษาภายใต้การกำกับดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วย อาคารกองพันของหน่วย (Community Isolation) จำนวน 199 คน โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) จำนวน 52 คน และโรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (โรงเรียนการบิน) จำนวน 39 คน

7. วันที่ 12 ก.ค.64 ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายทหารกองประจำการที่ติดเชื้อไปยังอาคารแห่งใหม่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการดูแลรักษาอย่างเพียงพอ และให้เร่งดำเนินการย้ายทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด 19 บางส่วนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศแล้ว

8. วันที่ 14 ก.ค.64 ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางไปติดตามการดูแลทหารกองประจำการอีกครั้ง และได้แสดงความห่วงใย พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดูแลทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด 19 อย่างดีที่สุด โดยขณะนี้หน่วยได้ดำเนินการย้ายผู้ป่วยทั้งหมดเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

จึงขอนำเรียนข้อเท็จจริงตามภาพดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงแรกของการจัดเตรียมสถานที่ให้มีขีดความสามารถในการดูแลทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด-19 อย่างมีมาตรฐานทางการแพทย์ และเพื่อแสดงความห่วงใย ได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบ ทำความเข้าใจกับผู้ปกครองของทหารกองประจำการเพื่อสร้างความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

“กองทัพอากาศขอยืนยันว่า เราจะดูแลทหารกองประจำการซึ่งเป็นบุตรหลานของท่านภายใต้มาตรฐานการรักษาพยาบาลและขีดความสามารถของกองทัพอากาศที่มีอยู่อย่างเต็มกำลังความสามารถ”โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว 

รองโฆษกอัยการเผย ยื่นฟ้อง 11 ผตห.เยาวชนปลดเเอก ผิด 116 ศาลอาญา ส่วนอีก 3 รายที่ไม่มาศาลเเยกฟ้องเตรียมประสาน ตร.ตามภานุมาศ-ทัดเทพ หลังเบี้ยวนัด

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า วันนี้พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง14 ราย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ,ฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินฯเเบะความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เเต่วันนี้มีผู้ต้องหาไม่ได้เดินทางมาตามนัดอัยการ 5 รายประกอบด้วย นายพริษฐ์ ,นายณัฐวุฒิ  ซึ่งอยู่ระหว่างกักตัวโควิด

เเละนายภาณุพงศ์ ติดรายงานตัวรับทราบคำสั่งอัยการที่ จ.ระยอง ส่วน นายภานุมาศ  เเละ นายทัตเทพ ไม่สามารถติดต่อได้จากนี้ก็จะประสานพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามมายื่นฟ้องต่อศาลต่อไป โดยวันนี้ทางพนักงานจะยื่นฟ้อง ผู้ต้องหาจำนวน 11 คนก่อนประกอบด้วยผู้ต้องหาที่มารายงานตัวกับ นายพริษฐ์เเละนายภาณุพงศ์ เนื่องจากตัวอยู่ในอำนาจศาลในคดีอื่น ส่วนอีก3 คนจะเเยกฟ้องในวันอื่นต่อไป

กสม.แนะ รัฐบาลคุ้มครองสิทธิปชช.ในสถานการณ์โควิด-19 เน้นจัดสรรวัคซีนอย่างโปร่งใสให้ผู้ป่วยหนัก-บุคลากรทางการแพทย์

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า ตามที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้มีความรุนแรงและขยายตัวเป็นวงกว้าง ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อระบบบริการสาธารณสุข การดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไป นั้น กสม. รับทราบถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลผ่านมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคและมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดยังมีแนวโน้มขยายวงกว้างและดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง กสม. มีความห่วงใยในสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอเสนอแนะต่อรัฐบาลในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิของประชาชน ดังนี้

1.ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสุขภาพของประชาชนด้วยการเร่งกระจายการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนให้มากและเร็วที่สุด

2. การจัดสรรและจัดลำดับความสำคัญของวัคซีนควรทำโดยกระบวนการที่โปร่งใสตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก โดยเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยหนักและเสียชีวิต บุคลากรด่านหน้าด้านสาธารณสุข รวมถึงกลุ่มเปราะบางทั้งหลาย เช่น ผู้สูงอายุ คนพิการ คนไร้บ้าน คนไร้รัฐ และแรงงานนอกระบบ 3. ให้ปรับแผนการจัดหาวัคซีนให้ทันต่อสายพันธุ์ของโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเตรียมความพร้อมแผนการจัดสรรวัคซีนสำหรับการฉีดกระตุ้น (booster dose) ด้วย

4. จัดบริการตรวจเชิงรุกให้ครอบคลุมและทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มประชากรในพื้นที่เสี่ยง อาทิ ชุมชนแออัดใน กทม. และเขตปริมณฑล  และ 5.ให้ติดตามว่าประชาชนที่เดือดร้อนจากมาตรการควบคุมโรคได้รับการเยียวยาจากรัฐอย่างทั่วถึงหรือไม่ โดยอาจพิจารณากำหนดช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่สะดวกและเข้าถึงได้ง่าย และเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชนโดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ กสม. ตระหนักดีถึงความท้าทายในการบริหารจัดการเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 และขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทำงานหนักมาอย่างต่อเนื่องเพื่อดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งขอให้กำลังใจประชาชนที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์อันเลวร้ายและยากลำบากในครั้งนี้

“ปิยะรัฐย์” ชี้หาก “บิ๊กตู่” ยังอยู่เชื่อประเทศไทยล่มสลายแน่ เผยโรงพยาบาลเชียงรายไม่รับตรวจหาเชื้อเหตุไม่เหลือเตียงรักษาแล้ว

นางสาวปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดในพื้นที่เชียงรายรุนแรงมาก ทั้งนี้หากมีการตรวจเชิงรุกเชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะหลังมาตรการปิดแคมป์ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล พบว่าแรงานจำนวนมาก ไหลกลับพื้นที่ทั้งแรงงานคนไทยและแรงงานต่างด้าว เพราะเชียงรายเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นจากมาตการดังกล่าวจึงเป็นการปล่อยให้ผู้ติดเชื้อนำเชื้อไปแพร่ในพื้นที่ ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว

นางสาวปิยะรัฐชย์ กล่าวด้วยว่า ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถตรวจหาเชื้อได้เพราะโรงพยาบาลไม่รับตรวจหาเชื้อ เนื่องจากไม่มีเตียงรักษา ในขณะเดียวกันโรงพยาบาลสนามก็เต็มไปด้วยผู้ป่วย ดังนั้นหากตรวจเชื้อพบจำเป็นต้องรักษาเป็นไปตามประกาศของรัฐบาล จึงเลือกไม่ตรวจดีกว่า

“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศแบบไร้ประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประชาชนไดรับผลประทบในทุกพื้นที่ ทำให้ทุกพื้นที่ของประเทศแปรสภาพจากวิกฤตสู่หายนะ ทำลายความเชื่อมั่นของประเทศ เศรษฐกิจพังทั้งการค้าขายและการท่องเที่ยวเป็นทรุดจนยากจะกู้คืนได้ นอกจากนี้ยังทำลายระบบธารณสุขไทย จากอันดับ 6 ของโลกจนอับดับลดลงไปเรื่อยๆ และหากขืนอยู่ในตำแหน่งต่อไปคงทำลายประเทศอย่างย่าอยยับที่สุด” นางสาวปิยะรัฐชย์ กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top