Wednesday, 9 July 2025
NewsFeed

'อิสราเอล' จ่อปูพรมฉีดวัคซีนเข็ม 4 สู้โควิด พบ ประสิทธิภาพ 2 เข็มแรกลด หลังฉีดไป 5 เดือน

อิสราเอล กำลังเตรียมการต่าง ๆ เพื่อรับประกันว่าจะมีเสบียงวัคซีนพอเพียงในกรณีที่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของประเทศเมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.ย.)

"เราไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไม่เกิดขึ้นภายใน 6 เดือนดังเช่นเวลานี้ และหวังว่าเข็มที่ 3 จะอยู่ได้นานกว่าเดิม" นัชมาน อัช อธิบดีกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ 103FM

อิสราเอลเริ่มโครงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และจนถึงตอนนี้ฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เข็ม 3 แก่ประชาชนไปแล้วราว ๆ 2.8 ล้านราย

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุว่าประสิทธิภาพของวัคซีน 2 เข็มแรกอ่อนแอลงหลังจากฉีดไป 5 เดือน ส่งผลให้การฉีดเข็มกระตุ้นมีความจำเป็น

จนถึงตอนนี้มีประชาชนชาวอิสราเอลราว 6 ล้านคนจากทั้งหมด 9.4 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว และราว 5.5 ล้านคนฉีดครบ 2 เข็ม

ครั้งหนึ่งอิสราเอลเคยเป็นหนึ่งในประเทศลำดับต้น ๆ ของโลกที่ใกล้หลุดพ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทว่าพวกเขาต้องกลับกลายมาเป็นหนึ่งในจุดร้อนของโรคระบาดใหญ่ในช่วงต้นเดือนกันยายน ด้วยมีอัตราการติดเชื้อต่อจำนวนประชากรสูงสุดเหนือกว่าชาติไหน ๆ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 กันยายน ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮ็อบกินส์

อัช ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูเหมือนการเพิ่มขึ้นของเคสผู้ติดเชื้อชะลอตัวลง และเรื่องนี้น่าจะเป็นผลจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

ตามหลังการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาในช่วงฤดูร้อน อิสราเอลพบเห็นเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งทะยาน และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 2 กันยายน ขณะที่รัฐบาลเริ่มดำเนินการตรวจเชื้ออย่างกว้างขวางแก่เด็ก ๆ ในช่วงต้นของปีการศึกษาใหม่

จากข้อมูลพบว่าอัตราผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงต่อประชากร 100,000 คน ในกลุ่มคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน สูงกว่ากลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วเป็นอย่างมาก นั่นแสดงว่าแม้ภูมิคุ้มกันลดลงไป แต่วัคซีนยังคงสามารถมอบการป้องกันบางส่วนต่อการติดเชื้ออาการหนัก

เมื่อสอบถามเกี่ยวกับรายงานข่าวที่อ้างว่าอิสราเอลเคยสัญญากับไฟเซอร์ อิงค์ ว่าจะใช้วัคซีนโควิด-19 เฉพาะของไฟเซอร์แต่เพียงเจ้าเดียว ในเรื่องนี้ อัช ชี้แจงว่าไม่มีข้อตกลงดังกล่าว และเผยว่าเวลานี้บุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป กำลังฉีดวัคซีนเข็มแรกของโมเดอร์นา อิงค์


(ที่มา:บลูมเบิร์ก)
https://mgronline.com/around/detail/9640000090547

ขับเคลื่อนความสุข! รฟม. ฉลองครบรอบ 29 ปี ภายใต้แนวคิด “The Unlimited Move" จัดกิจกรรมเพื่อสังคม

วันที่ 13 กันยายน 2564 ในโอกาสพิเศษ รฟม.และ ภาคีเครือข่าย ได้ร่วมกันบริจาคเงินให้แก่ "มูลนิธิออทิสติกไทย" จำนวนทั้งสิ้น 115,000 บาท ซึ่ง "คุณกนกกาญจน์ เกศะรักษ์" ผู้อำนวยการกองกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นผู้แทนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มอบเงินแก่ "มูลนิธิออทิสติกไทย" พร้อมชิมกาแฟ For All Coffee และสนับสนุนให้น้อง ๆ กลุ่มออทิสติกได้มีโอกาสแสดงออกถึงพรสวรรค์ และจินตนาการ ผ่านงานออกแบบชุดของที่ระลึก “MRTA x ARTSTORY by Autistic Thai” ซึ่ง รฟม. จะนำส่งมอบให้แก่หน่วยงานที่มาร่วมแสดงความยินดีผ่านทางระบบออนไลน์ต่อไป

"องค์กรภาคี" ได้แก่ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ / กรมการขนส่งทางบก / ธนาคารอาคารสงเคราะห์ / ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) / การไฟฟ้านครหลวง / สถาบันการบินพลเรือน / กรมการขนส่งทางราง / สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร / บริษัทผู้ร่วมลงทุน / ผู้รับสัมปทาน / บริษัทที่ปรึกษาโครงการ / บริษัทผู้รับเหมา หน่วยงานภาครัฐ และผู้มีจิตศรัทธา

ในการนี้ "อ.ชูศักดิ์ จันทยานนท์" ประธานมูลนิธิออทิสติกไทย กล่าวขอบคุณ "การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย" และภาคีเครือข่ายทุกหน่วยงานที่สนับสนุนภาคกิจเพื่อสังคมมูลนิธิออทิสติกไทย ในครั้งนี้และในโอกาสต่อไป

จีนมอบวัคซีน 'ซิโนฟาร์ม' แสนโดส ช่วยบรูไน หลังวัคซีนสั่งซื้อ ยังมาไม่ถึง

คนไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศบรูไน อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nina Nutthinee ระบุถึงน้ำใจจากจีนว่า...

จีนเห็นบรูไนขาดแคลนวัคซีนในช่วงนี้ เพราะรอวัคซีนโมเดอร์นา กับ แอสตราเซเนกา ล็อตใหม่อยู่

จีนเลยมอบ วัคซีนซิโนฟาร์ม ให้ฟรีแสนโดส!! 

ปล. ประเทศนี้ เขารวยอยู่แล้ว เขาชอบใช้วัคซีนซื้อค่ะ

แต่พี่จีนก็ยังใจดี อุตส่าห์ส่งมาให้อีก!! 

#พี่จีนไม่นิ่งดูดาย

โหราศาสตร์จีนโบราณ เผยดวงชะตา 'ลิซ่า BlackPink' ทรงเสน่ห์เป็นที่รักใคร่แก่ทุกคนที่พบเห็น

สมศักดิ์ ชาคริตฐากูร แห่ง FengshuiBizDesigner ได้เผยเกณฑ์โด่งดังของ 'ลิซ่า BlackPink' ผ่านโหราศาสตร์จีนโบราณไว้ ว่า... 

นอกเหนือจากปรากฏการณ์ปฏิกิริยา 5 ธาตุในขณะที่ธาตุประจำวัยจรและธาตุประจำปีจร ก่อกำเนิดธาตุประจำเจ้าชะตาให้มีกำลังจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ยังมีดวงดาวที่เรียกว่า “神煞” (สิ่งสั่วะ) เป็นเครื่องมือช่วยในการอ่านรูปดวงและยังช่วยเพิ่มความแม่นยำได้อย่างลึกซึ้ง

เจ้าชะตาเกิดปีฉลู ธาตุดิน เดือนเถาะ ธาตุไม้ วันมะโรง ธาตุดิน เป็นคนธาตุดินที่ต้องการธาตุไฟและธาตุดินช่วยปรับความสมดุล 

ในปี 2564 นี้ เจ้าชะตาเสวยอายุ 25 ปี ถนนชีวิตเดินที่ตำแหน่งวัยจรกิ่งฟ้าราศีบนและก้านดิน ราศีล่าง ธาตุไฟ โดยมีดาวเสน่ห์และดาวดาบสุริยันช่วยส่งเสริมพละกำลังธาตุไฟให้ทวีความ ร้อนแรงยิ่งขึ้น ส่วนปีจรกิ่งฟ้าราศีบนสัมพันธ์กับวัยจร ขณะที่ปีจรก้านดินราศีล่างกับเสาปีเกิด ก้านดินราศีล่างที่มีนัยถึงเรื่องราวเก่า ๆ ที่เป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษเป็นนักษัตรฉลูเช่นกัน ทั้งยังมีดาวมงคลดาวอุปถัมภ์ร่วมด้วยช่วยส่งเสริมความดีต่อธาตุประจำเจ้าชะตา 

ส่งผลให้เจ้าชะตามีเสน่ห์เป็นที่รักใคร่และเป็นที่นิยมสนใจจากผู้คนที่ได้พบเห็น หลังจากการเผยแพร่ MV เพียงแค่ไม่มีชั่วโมงก็มีผู้อุปถัมภ์ติดตามรับชมหลักร้อยล้านวิว โดยเฉพาะ การนำมรดกวัฒนธรรมความเป็นไทยให้ได้รับแรงหนุนอย่างถล่มทลายจนกลายเป็นกระแส LISA Fever ที่ใคร ๆ ต่างชื่นชม 

สท.เจี๊ยบ “วสิตา บุญริ้ว” ตัวเล็ก แต่ใจไม่เล็ก!! สู่การเมืองท้องถิ่น กำลังสำคัญของเทศบาลเมืองแพรกษา สมุทรปราการ

สำหรับ เจี๊ยบ “วสิตา บุญริ้ว” หรือ สท.เจี๊ยบ ผู้หญิงตัวเล็ก แต่ใจไม่เล็ก ในวัย 46 ปี ที่ล่าสุดเจ้าตัวมุ่งหน้าสู่สายการเมืองท้องถิ่นเต็มตัว โดยการผลักดันและการสนับสนุนของนาย อำนวย บุญริ้ว นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษาใหม่ ผู้ที่นำความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาสู่ท้องถิ่นแพรกษาใหม่ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนาย อิม แพหมอ นายกเทศมนตรีเมืองแพรกษา เพื่อลงสมัครเลือกตั้ง สท. พร้อมกับโอกาสที่ได้รับจากประชาชนตำบลแพรกษากับตำแหน่ง สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษา กระทั่งก้าวเข้าสู่สายการเมืองท้องถิ่นเต็มตัวในปัจจุบัน

วสิตา บุญริ้ว สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษา หรือ สท.เจี๊ยบ เขต 3 หญิงแกร่งแห่งบ้านบุญริ้ว เป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของทางเทศบาลเมืองแพรกษา ได้เข้ามาทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนชาวตำบลแพรกษา กับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนชาวแพรกษา  โดยการทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขให้กับพี่น้องประชาชนแบบไม่เคยทอดทิ้ง ถือเป็นประสบการณ์และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนรวมถึงการลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ติดเชื้อโควิดตามชุมชนต่าง ๆ การสนับสนุนให้ประชาชนในเขตพื้นที่ได้รับโอกาสในการฉีดวัคซีนโควิด-19 

ถือเป็นการปฎิบัติหน้าที่ของ สท.ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เคยรอเวลา ความทุกข์ของประชาชนต้องมาก่อนเสมอ ต่างจากบุคคลผู้มีอำนาจ แต่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบของตนเอง ย่อมนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ฉันใดฉันนั้น แต่สำหรับ วสิตา บุญริ้ว สมาชิกสภาเทศบาลเมืองแพรกษา หญิงสาวตัวเล็ก แต่ใจไม่เล็ก ได้ไปนั่งอยู่ในใจของประชาชนหลาย ๆ คน อย่างไรก็ตาม  ในนามผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ ขอชื่นชมในการทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบที่มีให้กับประชาชนในยามทุกข์ยาก ขอให้รักษาฐานที่มั่นนี้ พื้นที่นี้และโอกาสที่ประชาชนไว้ใจมอบให้ แม้จะมีคู่แข่งก็มั่นใจว่า การเดินให้มากขึ้นชาวบ้านก็จะเห็นภาพและพร้อมที่จะสนับสนุนต่อไป


ภาพ/ข่าว  คิว-ข่าวสมุทรปราการ  รายงาน

‘หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์’ ทรงกรุณาประทานยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร แด่เรือนจำกลางพิษณุโลก 100,000 เม็ด

วันที่ 13 กันยายน 2564 ณ เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ " ทรงกรุณาให้ "นางสาวชญาณิศา ฐาณิชณาณัณ" กรรมการผู้จัดการบริษัท "เดอะไบบูรี่ พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด" อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้นำเชิญให้ "ผู้บัญชาการเรือนจำกลางพิษณุโลก" เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัยเบื้องต้น แก่เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังในเรือนจำกลาง และเรือนจำในเครือข่ายพื้นที่รับผิดชอบ โดยมี "นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล" ผู้ช่วยเลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ เป็นผู้อ่าน "หมายหนังสือ" ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ที่ทรงห่วงใยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า

"นายยุทธพงษ์ เอี้ยงอ้าย" เลขานุการในองค์หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า โดยแต่เดิม "หม่อมเจ้าอุทัยกัญญา ภาณุพันธุ์" ทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงหาสิ่งของต่าง ๆ ที่พอจะช่วยเหลือ บรรเทาภัย และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ และผู้ประสบภัยจากโรคระบาด โควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งพระองค์ท่านทรงกรุณาให้คณะทำงานในส่วนพระองค์ แบ่งสายงานให้ความช่วยเหลือในกรุงเทพมหานคร และเขตปริมณฑล รวมทั้งออกต่างจังหวัดมาโดยตลอด

ต่อมาครั้งนี้ ทรงมีดำริถึงเรือนจำว่าน่าจะให้ความช่วยเหลือในเรื่องยาสมุนไพรไทย ฟ้าทะลายโจร ที่สามารถช่วยเหลือ รักษาอาการป่วยได้พอสมควร ทรงตรัสว่า “ควรหายาไปให้พวกเขานะ คนข้างนอกป่วยยังพอไปคลีนิค โรงพยาบาล ร้านขายยา รักษาอาการป่วยได้ แต่พวกเขาข้างในนั้น ไม่สามารถหายามารับประทานได้ หรือหากยาหมดก็ต้องรองบประมาณจากส่วนกลางส่งมา ซึ่งอาจใช้เวลานานไม่มากก็น้อย และใช้แบ่งให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้ เผื่อจะได้ใช้รักษาตนเองด้วย เพื่อความปลอดภัยของทุกคน” นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างยิ่ง ที่พระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า แม้จะทรงมีพระชนม์มาก ก็ยังทรงดำริห่วงใยประชาชนชาวไทยตลอด….ทรงพระเจริญ

“กฤษดา” ทายาทตระกูลดัง ประกาศข่มขู่อาฆาต “ตระกูลโกสิยพงษ์” เพียงเพราะ รักและเชิดชูสถาบันฯ!

เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นที่พูดถึงกันเป็นอย่างมากในโลกโซเชียล หลังจากที่ “นายกฤษดา อัคคะประชา” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ในทำนองข่มขู่ “ตระกูลโกสิยพงษ์” ซึ่งที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเป็นนามสกุลของ “นายชีวิน โกสิยพงษ์” หรือ “บอย โกสิยพงษ์” นักแต่งเพลง นักร้อง และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง เพียงเพราะแค่ ตระกูลโกสิยพงษ์ รักสถาบันฯ

โดยทางด้านของ นายกฤษดา ได้โพสต์ข้อความดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “โกสิยพงษ์ นี่คือ ตระกูลหนึ่งที่ต้องขึ้นบัญชีหนังหมาไว้ ประชาชนมีอำนาจเมื่อไหร่ต้องจับทำนารวมทั้งโคตร…ล่าสุดญาติไอ้บอย โก ที่อยู่แวนคูเวอร์ แชร์ fake news จาก ดร.อานนท์ ลูกบิด แถเรื่องโอนสำนักงานทรัพย์สิน เข้ามาใน FB group ของ condo strata

แล้วในกลุ่มนี้ เขาโพสต์แต่เรื่องปัญหาธุระเกี่ยวกับคอนโดที่อยู่อาศัยแล้วคือ members มีแต่คนที่อยู่ในคอนโด และเป็นคนต่างชาติทั้งหมด ยกเว้นมีพี่คนไทยอีกคน ที่เป็นฝั่งสามกีบ…สะเหล่อมาก เกลียดมากพวกชะเลียระบอบเผด็จการ แต่ไม่ยอมกลับไปอยู่เป็นฝุ่นใต้ตีน ใต้ร่มพระบารมีเนี่ย”

ต่อมาในวันที่ 12 ก.ย. 64 ทางด้านของ “ปราชญ์ สามสี” ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหว เนื่องจาก นายกฤษดา ค่อนข้างมีแนวคิดที่แปลกผิดปกติ เกินจะรับได้ โดยมีรายละเอียดว่า (“กฤษดา” ปัจจุบันอยู่ที่แคนาดา ) ลูกหลานตระกูล อัคคะประชา (ยาขมตราใบห่อ) จะไปไล่ล่า ตระกูลโกสิยพงษ์…เพียงเพราะเขารักในหลวง และแชร์ข้อมูลอธิบายเรื่องสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์น่ะรึครับ

เอาความจริงมาสู้สิครับหากไม่เชื่อเรื่องข้อมูลของ ดร.อานนท์…หรือว่าจริงๆ ไม่มีความรู้สู้ ดร.อานนท์ ครับ

อย่าไปเที่ยวกล่าวหาใคร ด้วยความเกลียดชังแบบนั้นแบบนี้เลยครับ มีปัญหาอะไรส่วนตัวที่แวนคูเวอร์ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวไม่ควรเอาความเกลียดชังส่วนตัวไปลงที่สถาบันหลักของชาติ

มนุษย์มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่ทาส….อย่าไปเที่ยวบังคับใครใช้แรงงานทาสด้วยการทำนารวมเลยครับ
บรรพบุรุษก็ดี…มาเสียรุ่นลูกหลานนี่แหละครับ
ป.สามสี

ถึงอย่างไรก็ตามทางด้านของ ปราชญ์ สามสี ยังได้ทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า “อยากให้ความเป็นธรรมกับตระกูลอัคคะประชา เพราะบางคนก็ดี แต่บางคนก็ร้าย….แต่ เราก็ควรให้ความเป็นธรรมกับตระกูลอื่นๆ ที่ นายกฤษดา อัคคะประชาไปคุกคามเขาแบบเหมารวมนะครับ…เพราะพวกเขาไม่ได้ไปทำร้ายใครเลย….”


ที่มา : https://truthforyou.co/65918/

"แรมโบ้" อัด "เต้น" ก่อนเรียกร้องให้นายกฯประยุทธ์ลาออก ย้อนมองดูนายใหญ่ตัวเองมีคดีทุจริตมากมายประชาชนนับล้านออกมาไล่ เหตุใดถึงไม่ลาออก ย้ำนายกฯประยุทธ์ไม่ได้ทำผิด ไม่มีประวัติด่างพร้อย อยู่ต่อครบเทอม

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กหากนายกฯออกไปทุกอย่างจบ แต่เมื่อไม่ออกก็ไม่ควรใช้กำลังกับเด็กจนเรื่องบานปลายว่า นายณัฐวุฒิควรมองให้รอบด้านกว่านี้ อย่าพูดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว เพราะหากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ทำผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนและความรุนแรงให้เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ต้องทำตามกฎหมายที่มีอยู่

ขณะที่การเรียกร้องให้นายกฯลาออกนั้น นายเสกสกลยืนยันว่านายกฯอยู่ครบเทอมเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมือง และที่ผ่านมานายกฯไม่ได้ทำอะไรผิด โดยเฉพาะการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งนี้การแก้ไขปัญหากำลังดำเนินการไปได้ด้วยดี ซึ่งแม้จะมีตัวเลขผู้ป่วยสูง แต่จำนวนผู้ป่วยหนักลดลง และหายป่วยกลับบ้านเป็นจำนวนมากเช่นกัน  

และสิ่งสำคัญนายกฯประยุทธ์ยังไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น เหมือนกับอดีตนายกฯที่เป็นนายใหญ่ของนายณัฐวุฒิไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณ หรือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ มีคดีทุจริตมากมาย แต่ยังไม่ลาออก โดนประชาชนออกมาขับไล่เป็นแสนเป็นล้าน มีการสลายการชุมนุม เกิดการนองเลือด บาดเจ็บ ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก 

"นายณัฐวุฒิอย่ามากล่าวหาและอย่ามาขับไล่นายกฯประยุทธ์ ขอให้ย้อนกลับไปดูตัวเองในอดีตย้อนกลับไปดูเจ้านายตัวเองในอดีตจะดีกว่า และการที่นายณัฐวุฒิและแกนนำออกมาปลุกระดมม็อบ 3 นิ้วจนไปถึงคาร์ม็อบ ก็เกิดปัญหาความวุ่นวาย สร้างความเดือดร้อน โดยนายณัฐวุฒิและแกนนำไม่เคยออกมารับผิดชอบเลย 

นอกจากนี้ม็อบทะลุแก๊ส ที่ได้รับคำสั่งจากแกนนำบางคนยังได้ออกมา สร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองตลอดจนทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บสาหัสจากการใช้ระเบิดปิงปอง ระเบิดประทัดยักษ์และไปป์บอมบ์ เผาพระบรมฉายาลักษณ์ต่างๆมากมายซึ่งถือว่าเป็นการดูหมิ่นจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน สิ่งต่างๆเหล่านี้นายณัฐวุฒินายสมบัติและแกนนำต้องออกมารับผิดชอบ อย่าดีแต่แอบไปอยู่หลังกระโปรงเด็ก ไม่เคยรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นเหมือนการสั่งเผาบ้านเผาเมืองในปี53  ชอบป้ายสีกล่าวหาคนอื่นไม่ดี แต่ไม่เคยหันมามองความชั่วช้าสารเลวของตนเอง  พูดอะไรโดยไม่เคยใช้สมองคิด พูดเอาแต่ได้ อย่างนี้เรียกว่าหัวทุบดิน มีหัวก็ไร้ประโยชน์ สมองคงกลวง คนประเภทนี้วันๆคิดแต่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ไร้ความสงบสุข ควรรีบเข้าไปอยู่ในคุกได้แล้ว อย่าได้ทำให้ชาวบ้านชาวช่องเดือดร้อนเลย "

เปิดวาระครม. เตรียมเคาะแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ-การลงทุน

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย หลังจากทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานเพื่อผลักดันเรื่องนี้ โดยมีทั้งเป้าหมายในการชักจูงการลงทุน รวมถึงการแก้ไขปัญหาและอุปสรรค เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางลดภาษี การอำนวยความสะดวก และการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ

ทั้งนี้ ยังมีวาระอื่น ๆ กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอการพิจารณาเรื่องการลดหย่อนภาษีผู้ประกอบการที่ซื้อชุดตรวจเอทีเค (ATK) และนำมาให้บุคลากรในองค์กรได้ตรวจ สามารถนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรม  เสนอ เสนอขอทบทวนการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2530 เรื่องมติคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ บริเวณชายฝั่งทะเลฝั่งตะวันออก ครั้งที่ กพอ. 2/2530 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2531 ด้านกระทรวงคมนาคมเสนอพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการให้ได้ที่ดินเพิ่มเติมและการจ่ายเงินค่าทดแทนเพื่อ ชดเชยให้แก่ผู้ถูกเวนคืน พ.ศ...

ด้านสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดข้อความโฆษณาสินค้าหรือบริการที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือที่อาจก่อให้เกิด ผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนร่วม พ.ศ... และร่างกฎกระทรวงยกเลิกกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสม ของแอลกฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในโรงภาพยนตร์และทางป้ายโฆษณา พ.ศ. 2547 พ.ศ... รวม 2 ฉบับ และ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการอำนวยการ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ แห่งชาติ (ฉบับที่ ..)

นอกจากนี้กอ.รมน.ขอขยายเวลาประกาศพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กระทรวงแรงงานเสนอ การเข้าเป็นสมาชิกขององค์การการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย (WorldSkills Asia) และการจัดส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานเอเชีย (WorldSkills Asia Competition) กรมชลประทาน ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการชลประทานใหญ่ จำนวน 3 โครงการ และกระทรวงสาธารณสุข เสนอร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพ ติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา พ.ศ...

ตร. แจง ไร้สัญญาณบ่งชี้การก่อการร้าย แม้ญี่ปุ่นเตือนเหตุ ‘ก่อการร้ายในอาเซียนและไทย'

รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเอกสารให้กับพลเมืองของตนเอง เฝ้าระวังการก่อการร้ายในอาเซียน รวมถึงไทย ด้านตำรวจ - สันติบาล ชี้แจง ไม่มีอะไรน่ากังวล แจ้งเตือนตามวงรอบ ขณะที่กต.ระบุ เป็นคำสั่งจากกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ยังไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ และในเอกสารไม่เจาะจงเฉพาะไทย 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวถึงกรณีที่สถานทูตญี่ปุ่นแจ้งเตือนเหตุก่อการร้ายนั้น ว่า จากข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) พบว่ามีการแจ้งเตือนจากสถานทูตญี่ปุ่น ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนตามวงรอบ ไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีการก่อการร้าย ขณะนี้ยังไม่มีการเฝ้าระวังสิ่งใดเป็นพิเศษ และทางเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามสถานการณ์พร้อมการประสานงานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนอย่าได้วิตกกังวลและใช้ชีวิตตามปกติ

รองโฆษก ตร.ย้ำว่าทางไทยมีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว โดยเฉพาะการประสานงานด้านการข่าวฝ่ายความมั่นคงทั้งในและต่างประเทศอยู่แล้ว ทั้งด้านข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรอง ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยสถานที่ตั้งของสถานทูตรวมถึงสถานที่พำนักของเอกอัครราชทูตหรือเจ้าหน้าที่ทางการทูตในประเทศไทยมีการประสานงานกับตำรวจท้องที่ โดยเฉพาะตำรวจ 191 อยู่แล้วก็ดำเนินการควบคู่กันไป 

รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนด้านข่าวกรองตลอดเวลา และขณะนี้ไม่ได้ห่วงที่ใดเป็นพิเศษ เนื่องจากการรักษาสถานที่สำคัญและบุคคลสำคัญในประเทศก็เป็นหน้าที่ของตำรวจสันติบาลร่วมกับตำรวจนครบาลหรือหากมีสถานกงสุล หรือสถานทูตตั้งอยู่ต่างจังหวัดก็มีการประสานกับตำรวจท้องที่อยู่แล้วเช่นกันตรงนี้ไม่เป็นห่วง และพร้อมให้การสนับสนุนทันทีหากมีการร้องขอขึ้นมา

ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ส่งหนังสือเตือนถึงพลเมืองชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในอาเซียนรวมถึงไทย ให้ระมัดระวังการก่อการร้าย โดยระบุว่า

จากการตรวจสอบและสอบถามไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ระบุว่า อีเมลนี้กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ส่งให้ชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นประเทศไทย และไม่ได้ระบุที่มาของข้อมูลดังกล่าว ทำให้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้

อย่างไรก็ตาม เนื้อหาใจความสำคัญของอีเมลฉบับดังกล่าวระบุว่า ขอให้ชาวญี่ปุ่นระมัดระวังการโจมตีหรือการก่อการร้าย โดยเฉพาะการระเบิดพลีชีพตนเองในสถานที่ที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก จึงขอให้ดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้ 

1.) ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด

2.) ปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรการของทางการท้องถิ่น หากเกิดเหตุขึ้น

3.) เมื่อต้องไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก ให้สังเกตสถานการณ์รอบ ๆ ตัว หรือใช้เวลาอยู่สถานที่เหล่านั้นให้สั้นที่สุด หากพบว่ามีความน่าสงสัยให้รีบออกจากสถานที่ดังกล่าวโดยสถานที่ที่ควรระมัดระวัง เช่น วัด โบสถ์ มัสยิด เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม สามารถติดต่อหรือแจ้งข้อมูลได้ที่ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โทรศัพท์: (66-2) 207-8500, 696-3000 โทรสาร: (66-2) 207-8511


https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/156231


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top