Friday, 23 May 2025
NewsFeed

หยุมหยิมไร้สาระ!! 'โบว์ ณัฏฐา' ซัด กกต. ออกระเบียบหยุมหยิม เปิดช่องฟ้องร้องคดีรกศาล – ชี้กฎบางข้ออาจขัด รธน.

โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวให้ความเห็นในรายการ Ringsideการเมือง ถึงกรณีการร้อง MV เช้าวันใหม่ ของพรรคประชาธิปัตย์อาจเข้าข่ายผิดระเบียบการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งนั้น ยาวมากเป็นร้อย ๆ หน้า และมีกฎจำนวนมากที่หยุมหยิมไร้สาระ อย่างเรื่องห้ามการแสดงต่างๆ ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ไร้สาระ ตั้งต้นจากความคิดแบบดูถูกประชาชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎข้อที่ว่าห้ามไม่ให้ดารา-นักร้อง หาเสียง โดยการแสดงที่มีอุปกรณ์ประกอบ ซึ่งดูแล้วไม่สมเหตุสมผล เป็นกฎที่ดูถูกประชาชนที่เป็นผู้ใช้สิทธิ์ ขณะที่อาชีพหมอ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือในสังคมมากกว่าดารา-นักร้องด้วยซ้ำ กลับไม่ถูกห้าม 

อีกทั้ง มองว่า กฎระเบียบของกกต. ข้อดังกล่าว อาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญอีกด้วย เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดชัดว่า ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งการที่นักแสดง ดารา - นักร้อง ซึ่งเป็นอาชีพที่ติดตัวมาก่อนจะสมัครรับเลือกตั้ง เหตุใดจึงห้ามไม่ให้ใช้วิชาชีพที่ติดตัวมาในการร้องเพลงให้คนฟัง

กฎหลายข้อเปิดช่องให้คนจับผิดกันตลอดเส้นทางการหาเสียงเลือกตั้ง เกิดคดีรกโรงรกศาลในกระบวนการ สิ้นเปลืองทรัพยากรมากมาย สภาพการเมืองไทยดูไม่สร้างสรรค์ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากผู้ออกกฎตั้งต้นมาอย่างไม่สร้างสรรค์ด้วย

กกต.นอกจากจะออกกฎที่ไม่เข้าท่าแล้ว ก็ยังหลีกเลี่ยงการชี้แจงอธิบายความเมื่อสื่อขอสัมภาษณ์ คงหลงผิดคิดว่าตัวเองเป็นศาล ซึ่งไม่ใช่ การจัดการเลือกตั้งที่ดีต้องเริ่มจากที่ทุกคนเข้าใจกติกาตรงกัน ไม่ใช่รอให้เกิดเหตุ เขาจับผิดกัน แล้วค่อยรอดำเนินคดีรกๆ มากมาย เริ่มต้นก็ไม่โปร่งใสแล้ว

 

โอกาสที่ไม่ควรมองข้าม!! ‘พงษ์ภาณุ’ มอง ศก.ไทยจะฟื้นตัวด้วยท่องเที่ยว แนะ รบ.ดันคาสิโนถูก กม. ดึงดูดเม็ดเงินเข้าประเทศ

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ฮิโรชิมะ ประเทศญี่ปุ่น และอดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้มุมมองถึงเศรษฐกิจของประเทศไทย ผ่านรายการ ‘NAVY TIME เรื่องดี ๆ ประเทศไทยยามเช้า’ ออกอากาศช่วงเช้า เวลา 07.00- 08.00 น. ทางสถานีวิทยุเสียงจากทหารเรือวังนันทอุทยาน (ส.ทร.วังนันทอุทยาน) FM93 เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 66 ว่า เศรษฐกิจของไทยและทั่วโลก กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว หลังจากเผชิญวิกฤตหลายด้านในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น ภาวะสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ราคาน้ำมันและก๊าซแพงขึ้น ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก ส่งผลให้ธนาคารกลางของหลายประเทศปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง แต่มาถึงปีนี้ มีข่าวดีเกิดขึ้นพอสมควร อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มลดลง ยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา ที่เคยสูงถึง 10% ปัจจุบันลดลงมาอยู่ประมาณ 6-7% ในขณะที่ดอกเบี้ย แม้จะยังปรับเพิ่ม แต่ก็ชะลอลง ขณะที่ประเทศจีน ประกาศเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้ 

แน่นอนว่า จากปัจจัยบวกเหล่านี้ ทำให้เกิดความหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งเริ่มมีสัญญาณที่เกิดขึ้นมาบ้างแล้วในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

แต่อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ภาณุ ได้ย้ำเตือนว่า แม้จะมีสัญญาณที่ดี แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นภาคธุรกิจของไทย จะต้องระมัดระวังและเรียนรู้ในการบริหารความเสี่ยง เพราะเศรษฐกิจที่กลับมาดีขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีตลอดไป วันดีคืนดี โรคโควิดอาจจะกลับมาระบาดในจีน และจะทำให้ต้องปิดประเทศอีกก็ได้ การท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาฟื้นตัวก็อาจจะได้รับผลกระทบอีก ดังนั้นไม่ควรที่จะพึ่งพาต่างประเทศมากเกินไป

อย่างไรก็ตาม นายพงษ์ภาณุ ยังเชื่อมั่นว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ภาคท่องเที่ยวจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างก้าวกระโดด แม้กระทั่งนักลงทุนต่างชาติเอง ยังเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจะเติบโตด้วยภาคธุรกิจท่องเที่ยว และบริการที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งสัญญาณการกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยวประเทศไทยเห็นชัดเจนมาก จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งจากตะวันตกและจีน

ไม่ขัดกฎหมาย!! ‘ดร.ณัฎฐ์’ ไขปม ‘ดร.ไตรรงค์’ ปราศรัยโคราช ชี้ เป็นลักษณะเชิงเปรียบเทียบ ไม่เข้าข่ายผิด กม.

‘ดร.ณัฎฐ์’ มือกฎหมายมหาชนคนดัง ชี้ ‘ดร.ไตรรงค์’ ปราศรัยโคราช เป็นลักษณะเชิงเปรียบเทียบ ไม่เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งและไม่เข้าหลักเกณฑ์ ล้มล้าง-ปฏิปักษ์การปกครองยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ

วันที่ 5 มีนาคม 2566 จากกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)กล่าวปราศรัยใหญ่ที่สนามหน้าศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 ตอนหนึ่ง ที่ว่า“พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ว่า ความกตัญญูเวที เพราะเราเป็นคนดีไว้ไหมพี่น้อง เราต้องไม่ลืมบุญคุณบรรพบุรุษใช่ไหมพี่น้อง ต้องรักษาประเทศนี้ไว้ให้อยู่ดีที่สุดใช่ไหมครับพี่น้อง ร.9 ตรัสไว้ว่า จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น ผมเองไม่เล่นแล้วการเมือง แต่ผมมาช่วยบิ๊กตู่(พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)เพราะเห็นเขาเป็นคนดี......ฯลฯ ต่อมานายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยและนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.ไต่สวนและวินิจฉัยว่า คำปราศรัยหาเสียงของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรีในวันดังกล่าวได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้งเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่...” 

ล่าสุด ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม หรือ ดร.ณัฎฐ์ ปรมาจารย์กฎหมายมหาชนและผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญคนดัง ได้ได้อธิบายและให้ความรู้กฎหมายแก่ประชาชนว่า ขณะนี้ช่วงโค้งสุดท้ายและจะครบกำหนดอายุสภาและอยู่ในระหว่างระยะเวลาการหาเสียง180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2565 ก่อนวันครบอายุ จนถึงวันก่อนวันเลือกตั้งตามความในมาตรา 68(1) แห่งพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 ต่อมา กกต.ได้ออกระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2565 โดยเพิ่มเติม ข้อ 3 ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 ข้อ 6(9)กรณีที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง....และเพิ่มเติมข้อ 18(5) รวมถึงข้อ 18/1 โดยระเบียบดังกล่าวใช้บังคับแก่ผู้ประสงค์จะสมัคร ส.ส.ด้วย ต่อมาแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 บทข้อห้ามเพื่อให้ครอบคลุม ตามพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2566 ประกาศราชกิจจานุเบกษาวันที่ 28 มกราคม 2566
 
หากพิจารณาถึง ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.พ.ศ.2561 หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ห้ามผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับหารหาเสียงเลือกตั้ง จากฟังเทปปราศรัยข้อความที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี หยิบเอาพระราชดำรัสของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 ที่ว่า “จงเลือกคนดีปกครองประเทศเท่านั้น” เป็นการกระตุ้นให้คนไทยที่มาฟังการปราศรัยหรือประชาชนชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีจิตสำนึกในระบอบประชาธิปไตยให้เลือกผู้นำที่ดี ลักษณะเชิงเปรียบเทียบ แม้จะอ้างอิงคำพูดบุคคลที่กล่าว เป็นพระราชดำรัสที่ปรากฎข้อความทั่วไป  ถือว่าไม่ได้นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง แม้ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 จะสวรรคตไปแล้วก็ตาม ไม่เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. 
 

ทำได้จริง!! ‘กรณ์’ โชว์ ‘กล้าปลดหนี้’ ใช้แค่ 1 ปี สร้างเถ้าแก่ใหม่ ย้ำชัด โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน ช่วยหนุน ศก.ปากท้อง

‘กรณ์ เผยผลสำเร็จ ‘กล้าปลดหนี้’ ใช้เวลาเพียง 1 ปี สร้างเถ้าแก่ใหม่ ชี้ โอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน สำคัญต่อเศรษฐกิจปากท้อง

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เมื่อพูดถึงโอกาสสำคัญที่สุดไม่หนีเรื่องเงินทุน ใครเข้าถึงแหล่งเงินก็ไปได้ ใครเข้าไม่ถึงก็ไม่มีโอกาสทำมาหากิน คนรวยได้เปรียบ เพราะกู้ได้ถูก (หรือไม่ต้องกู้เลย) ส่วนคนจนต้องกู้แพง และยิ่งใครต้องกู้นอกระบบยิ่งไปกันใหญ่

หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า เมื่อปีที่แล้วพรรคเรา นำโดยนายนที ศิริธรรมวัฒน์ ว่าที่ผู้สมัครสส.กทม.พญาไท ทำโครงการ ‘กล้าปลดหนี้’ เพื่อช่วยให้ผู้ที่เป็นหนี้นอกระบบกลับมากู้ในสถาบันการเงินได้ คนเวลาได้ยินคำว่ากู้ มักคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ เพราะจะเป็นการสร้างหนี้ แต่จริง ๆ แล้ว แทบทุกธุรกิจต่างต้องการเงินทุนเพื่อเริ่มต้นด้วยกันทั้งนั้น และในบางครั้งประสบปัญหา เช่น ในสถานการณ์ช่วงโควิด ที่ขาดรายได้ ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก แต่ไม่ได้หมายความว่าในอนาคตธุรกิจจะกลับมาไม่ได้

“โครงการ ‘กล้าปลดหนี้’ ที่เราทำ เป็นการประสานชาวบ้านกับสถาบันการเงิน เพื่อให้สามารถกู้เงินมาหมุนธุรกิจให้ไปต่อ อย่างคุณเปิ้ลเจ้าของร้านหมูกะทะ แต่เชื่อหรือไม่ ไม่เคยกู้จากแบงก์ได้ จึงต้องพึ่งนายทุนนอกระบบ ดอกเบี้ยเดือนละ 20% แต่รอดได้ด้วยเงินกู้ที่เราช่วยประสานให้ เงินกู้ดอกเบี้ยปีละ 33% หรือเดือนละ 2% กว่าเท่านั้น ทำให้วันนี้ธุรกิจอยู่รอด ลูกค้าเริ่มกลับมาเต็มร้าน สามารถฟื้นตัวได้ ล่าสุดซื้อรถกระบะและกำลังจะขยายสาขาสองอีกด้วย” นายกรณ์ กล่าว 

ความคิดสร้างสรรค์!! ‘เนวินธุ์’ ว่าที่ผู้สมัคร รทสช. ไอเดียเก๋ ออกแบบป้ายหาเสียง วัดส่วนสูงได้

เนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์’ ว่าที่ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ ไอเดียเก๋ ออกแบบป้ายแนะนำตัว สามารถวัดส่วนสูง น้ำหนัก ดัชนีมวลกาย ได้ ชี้ป้ายต้องมีประโยชน์ต่อประชาชน มั่นใจ กระแส “ลุงตู่” มาแน่!!

(05 มีนาคม 2566) นายเนวินธุ์  ช่อชัยทิพฐ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตยานนาวา บางคอแหลม พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ลงพื้นที่ย่านถนนเจริญกรุง เดินพบปะประชาชน พร้อมติดป้ายแนะนำตัวแนวใหม่ มีรูปหน้าและชื่อของนายเนวินธุ์ ส่วนด้านล่างเป็นตารางวัดน้ำหนัก ส่วนสูงและมาตรฐานดัชนีมวลกาย ทั้งแบบผู้ชายและผู้หญิง 
 
โดยนายเนวินธุ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงป้ายนะนำตัวแนวใหม่แบบสร้างสรรค์ว่า ที่ตนเองทำป้ายในลักษณะนี้ เพราะเป็นมากกว่าการสื่อสารบอกชื่อเรา นโยบาย และพรรคอะไร แต่เป็นป้ายที่มีประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ด้วย เนื่องจากลงพื้นที่มาพบผู้ป่วยติดเตียงจำนวนมาก เนื่องจากการกินอาหารที่มีไขมันและไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จึงเป็นสาเหตุให้คนเจ็บป่วยเพิ่มมากขึ้น  

“ผมจึงคิดว่าการรณรงค์เรื่องการดูแลสุขภาพให้ประชาชน เป็นหนึ่งในนโยบายของผม คือการพัฒนาคน พัฒนาเรื่องอาหารการกิน เรื่องที่อยู่อาศัย จึงออกแบบป้ายมาแบบมี ประโยชน์ต่อประชาชนตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ เพื่อให้ตระหนักรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ร่างกายแข็งแรง โดยจะเน้นติดป้ายบริเวณพื้นที่สาธารณะหน้าศูนย์สุขภาพ หน้าโรงเรียน ชุมชน ตามพื้นที่ลานกีฬาจุดต่างๆ ในเขตยานนาวาและบางคอแหลม ให้สามารถมีประโยชน์ต่อประชาชนได้จริง”

ไม่เกี่ยวแก้เคล็ด!! ‘ชัยวุฒิ’ แจง ‘บิ๊กป้อม’ แห่ผ้าขึ้นพระธาตุ เพื่อสิริมงคล พร้อมเผย พปชร. ใช้แผนดาวกระจายแยกหาเสียง

‘ชัยวุฒิ’ เผย พปชร. กางยุทธศาสตร์ดาวกระจาย แยกหาเสียงพร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมแจง ‘บิ๊กป้อม’ ล่องใต้ห่มผ้าพระธาตุ เพื่อสิริมงคล ไม่เกี่ยวแก้เคล็ด

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงของพรรค ว่า ในช่วงนี้พรรคพปชร.จะแบ่งกันทํางานเป็นดาวกระจาย ตามหน้าที่รับผิดชอบของแต่ละคน ที่แบ่งเป็น ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน ในส่วนที่ตนดูแลพื้นที่ภาคกลาง มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค มาช่วยหาเสียง โดยจะลงพื้นที่พบปะประชาชนในทุกพื้นที่ และมีทีมงานที่มีคุณภาพ มาช่วยกันสร้างความเข้าใจในเรื่องนโยบายของพรรคออกไปสู่พี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.มั่นใจจะรักษาฐานที่มั่นภาคใต้ได้หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มีความผูกพันกับภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช  เรามี ส.ส.ถึง 4 คน และพล.อ.ประวิตร เคยลงไปช่วยประชาชนในเรื่องของการสร้างอาคารโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมีกำหนดจะไปวางศิลาฤกษ์แต่ติดภารกิจจึงไม่ได้ไป

บุกถิ่นเซราะกราว!! 'ประเสริฐ' ลั่น ‘เพื่อไทย’ เอาจริงสู้ศึกบุรีรัมย์ มั่นใจ ปชช.ตอบรับ แม้กระแสเป็นรอง ‘ภูมิใจไทย’

‘ประเสริฐ’ เผย ลงพื้นที่บุรีรัมย์เอาจริง รับ ‘ภูมิใจไทย’ เป็นคู่แข่ง พร้อมส่ง ‘พรเทพ’ น้องชาย ‘ตี๋ใหญ่’ รักษาแชมป์สุรินทร์

5 มี.ค. 2566 – นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคเพื่อไทยไม่มี ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ เนื่องจากครั้งก่อนมีการส่งผู้สมัครในนามพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบก่อนการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครหลายคนก็ได้รับคะแนนเสียงมา โดยในตอนนี้พรรคเพื่อไทยได้ทำทีมบุรีรัมย์มาระยะหนึ่งแล้ว จึงเชื่อว่ามีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะถึงนี้

นายประเสริฐ กล่าวยอมรับว่า ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทยก็มีกระแสของเขาเอง แต่ก็เช่นเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยที่มีกระแสในพื้นที่ต่างจังหวัดแบบยกจังหวัด ขณะเดียวกัน ยังย้ำว่าการลงพื้นที่ปราศรัยหาเสียงในจังหวัดบุรีรัมย์ครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเอาจริง จะประกาศนโยบายของพรรค โดยที่ประชาชนก็มีความต้องการให้พรรคเพื่อไทยไปปราศรัยหาเสียงด้วย

นายประเสริฐ กล่าวยอมรับด้วยว่า คู่แข่งของพรรคเพื่อไทยคือพรรคภูมิใจไทย ที่มีความหวังจะกวาดที่นั่ง ส.ส. ยกจังหวัดบุรีรัมย์ แต่พรรคเพื่อไทยก็มีความหวังเช่นเดียวกัน

พญามังกรจัดเต็ม!! จีน อัดงบฯกลาโหม ปีนี้ 1.55 ล้านล้านหยวน เตรียมพร้อมต้านภัยคุกคามจาก "ภายนอก"

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า จีนประกาศจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมอีก 7.2% ในปี 2566 สูงขึ้นเล็กน้อยจาก 7.1% ในปีที่แล้ว โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง เตือนถึงภัยคุกคาม "ภายนอก" ที่เพิ่มมากขึ้นต่อการผงาดขึ้นของปักกิ่ง

รายงานของกระทรวงการคลังจีนที่เผยแพร่นอกรอบการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ในวันนี้เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนจะจัดสรรเงิน 1.55 ล้านล้านหยวน (2.25 แสนล้านดอลลาร์) สำหรับการใช้จ่ายด้านกลาโหมในปีนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มงบประมาณในอัตราที่สูงกว่าเป้าหมายการเติบโตของ GDP ในปีนี้ที่ 5%

เป็นที่น่าสังเกตว่างบประมาณทางทหารของจีนนั้นมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ โดยปีที่แล้วจีนใช้เงินด้านกลาโหมไป 1.45 ล้านล้านหยวน (2.10 แสนล้านดอลลาร์) อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ในต่างประเทศหลายคนเชื่อว่าจริง ๆ แล้วจีนอาจใช้จ่ายเงินมากกว่าตัวเลขที่ประกาศอย่างเป็นทางการ ถึงกระนั้น งบประมาณด้านกลาโหมของจีนก็ยังคงน้อยกว่าของสหรัฐอย่างมาก โดยสหรัฐได้จัดสรรงบประมาณกว่า 8 แสนล้านดอลลาร์สำหรับการทหารในปีนี้
.
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อปรับปรุงการป้องกันประเทศให้ทันสมัย โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนกองทัพขนาดมหึมาให้กลายเป็นกองกำลังระดับโลกทัดเทียมกับสหรัฐและชาติมหาอำนาจตะวันตกอื่น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางทหารระหว่างจีนกับสหรัฐได้เพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของไต้หวัน

นายกฯ หลี่ เค่อเฉียง กล่าวสุนทรพจน์นำเสนอรายงานการทำงานของรัฐบาลในวันนี้ โดยเตือนว่า "ความพยายามจากภายนอกที่จะปราบปรามและควบคุมจีนกำลังบานปลาย" พร้อมเน้นย้ำว่ากองทัพจำเป็นต้องฝึกฝนและเตรียมความพร้อมทางทหารให้เข้มข้นขึ้น ทุ่มเทเรี่ยวแรงมากขึ้นในการฝึกภายใต้เงื่อนไขการสู้รบ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับงานทางทหารในทุกทิศทุกด้าน


 

จับคาด่าน!! ทหารพรานปัตตานี จับยาไอซ์ล็อตใหญ่ ยึดของกลาง 939 กก. มูลค่ากว่า 2 พันล้าน

พ.อ.ภาคภูมิ  จันทรักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44  ได้มอบหมายให้ กองร้อยหน่วยขึ้นตรงของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ดำเนินการตั้งจุดตรวจ / จุดสกัด ตามแผนเชิงรุกของหน่วย (ห้วงเวลากลางคืน) เพื่อเป็นการแสดงกำลังในการตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัย, การขนย้ายสิ่งของผิดกฎหมาย, การขนย้ายสารเสพติดทุกประเภท และตรวจสอบบุคคลภายนอกที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่  

จากการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว กำลังพลชุดปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจเตราะปลิง ต.ทุ่งคล้า อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้ทำการตรวจพบยานพาหนะต้องสงสัย และพบอาการมีพิรุธของผู้ขับขี่ จำนวน 1 คัน ซึ่งกำลังจะขับผ่านด่านตรวจเตราะปลิงฯ กำลังพลในชุดฯ ซึ่งประกอบไปด้วย อาสาสมัครทหารพราน มูฮัมหมัดอีลฮัม  หามะ และ อาสาสมัครทหารพราน อารีย์ หมะเต๊ะ จึงได้ทำการส่งสัญญาณให้ยานพาหนะคันดังกล่าวหยุด เพื่อดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งในการตรวจสอบ พบเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภท รถกระบะ 4 ประตูสีขาว ยี่ห้อ Ford Ranger เลขทะเบียนรถ 5 กย 7214 กรุงเทพมหานคร ได้ซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 78 กระสอบ น้ำหนัก 939 กิโลกรัม จัดเรียงอยู่ภายในท้ายกระบะรถคันดังกล่าว

โดนใจวัยเกษียณ!! ‘ภูมิใจไทย’ ปิ๊งไอเดีย "กองทุนประกันชีวิต 60 อัพ" ให้สิทธิ์อัตโนมัติรองรับสังคมผู้สูงอายุ

‘ภูมิใจไทย’ ปิ๊งไอเดีย "กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป" ให้สิทธิ์อัตโนมัติรองรับสังคมผู้สูงอายุ มีวงเงินกู้ยืมดูแลตัวเอง-ประกอบอาชีพ 2 หมื่นบาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำ แถมมรดกให้ลูกหลานรายละ 1 แสนลั่นขอดูแลผู้สูงอายุตราบจนสิ้นลมหายใจ

วันที่ 5 มี.ค.2566 นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว ถึงนโยบาย “กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป” ว่า ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้มีโอกาสลงพื้นที่ พบปะกับพี่น้องประชาชนเพื่อที่จะไปรับฟังถึงปัญหาของกลุ่มต่างๆซึ่ง กลุ่มหนึ่งที่เราได้ไปพบปะพูดคุย เป็นจำนวนมากนั่นก็คือกลุ่มของ ผู้สูงอายุ ที่ต่างก็มีความกังวลว่า ในวันที่ไม่สามารถทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ จะเป็นเหมือนภาระของลูกหลาน  ต้องยอมรับว่า วันนี้สังคมไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2565 มีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในประเทศไทยถึง 12.5ล้านล้านคน และจะทยอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นสิ่งที่ท้าทารัฐบาลในสมัยหน้า ที่จะต้องออกแนวทางนโยบายว่า จะดูแลผู้สูงอายุ และต้อนรับสังคมผู้สูงอายุ ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้อย่างไร

นายภราดร กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทยจึงออกเป็นนโยบายคือ กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป ที่จะเป็นสวัสดิการใหม่ สำหรับพี่น้องประชาชนไทยทุกคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่จะได้รับสิทธิทันทีโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องสมัครและไม่เสียค่าใช้จ่าย และที่สำคัญคือ ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต นี่คือนโยบายใหม่ที่พรรคภูมิใจไทย ได้คิดขึ้นมา หลังจากที่ได้ไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน เนื้อหาสาระของกองทุนประกันชีวิตคือ ในวันที่ยังมีชีวิตอยู่ ผู้สูงอายุจะต้องไม่เป็นภาระให้กับลูกหลาน และจะมีสิทธิกู้เงินเพื่อดูแลตัวเองหรือประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ใช้กรมธรรม์ที่รัฐบาลจะมาทำให้เป็นหลักประกันในการค้ำประกันตัวเอง จนถึงวันที่เขาจากไป ผู้สูงอายุนอกจากจะไม่เป็นภาระให้กับลูกหลานแล้วทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลานให้กับทายาทและครอบครัวรายละ 1 แสนบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top