Thursday, 15 May 2025
NewsFeed

รมว.สุชาติ ส่ง เลขาฯ สักขีพยานลงนาม MOU เครือข่ายสถานประกอบการ - สถานศึกษา มุ่งพัฒนากำลังคนรองรับความต้องการของประเทศ

รมว.แรงงาน มอบ เลขาฯ สุเทพ เปิดงาน Techno Chon & Prabhassorn "Think Different" ชื่นชมสถานศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี โรงเรียนประภัสสรวิทยา จัดการศึกษาทศวรรษใหม่ ด้วยนวัตกรรมบริหารแนวใหม่ “Think Different” ได้อย่างมีคุณภาพ ก่อให้เกิดการพัฒนากำลังคนด้านวิชาชีพ มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น.นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานพิธีเปิดงาน Techno Chon & Prabhassorn "Think Different" และร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือกับสถานประกอบการ 30 แห่ง พร้อมมอบโล่-เกียรติบัตรให้กับหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน และร่วมพัฒนาการจัดการเรียนการสอนกับทางวิทยาลัยฯ 19 แห่ง โดยมี ดร.อุไรวรรณ ตันประภัสร์ ประธานกรรมการบริหารวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนภาครัฐและเอกชน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานกระทรวงแรงงานจังหวัดชลบุรี ร่วมให้การต้อนรับ ณ หอประชุมลีลาวดี วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี
    

นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอชื่นชมที่ผู้บริหารสถานศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี และโรงเรียนประภัสสรวิทยา ที่ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของการพัฒนาการจัดการศึกษาทั้งระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับอาชีวศึกษา บนเส้นทางการจัดการศึกษาอันยาวนานของโรงเรียนประภัสสรวิทยากว่า 54 ปี และ 38 ปี ของวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ซึ่งได้เห็นการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความมุ่งมั่นในการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับการเตรียมคนสู่ศตวรรษที่ 21 และ “การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดการศึกษาในจังหวัดชลบุรี นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่มีการลงทุนในด้านอุตสาหกรรม ทั้งหน่วยงานภายในประเทศและจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก การเตรียมความพร้อมด้านกำลังคนจึงนับเป็นปัจจัยสำคัญ สถานศึกษาทุกระดับจึงเป็นหน่วยงานที่สำคัญต่อการผลิตและพัฒนากำลังคน ในฐานะที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับ กระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่พัฒนาและส่งเสริมแรงงานให้มีศักยภาพสูง รวมถึงประสานความร่วมมือกับหน่วยงานในการผลิตกำลังคนให้สอดคล้องทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพ เพื่อรองรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ การดำเนินงานของโรงเรียนประภัสสรวิทยา และวิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการศึกษาที่จะผลิตนักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานจนถึง อาชีวศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกัน รวมถึงการที่วิทยาลัยเทคโนโลยีชลบุรี ได้มีการประสานความร่วมมือและพัฒนาเครือข่ายกับสถานประกอบการ สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมกันพัฒนาการจัดการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมด้านกำลังคนสู่ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม โดยการลงนามความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการจัดการศึกษาในระบบทวิภาคี เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ได้เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย สามารถมีรายได้ระหว่างเรียน ซึ่งสอดคล้องกับความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงศึกษาธิการในการส่งเสริมการศึกษาและการมีงานทำของนักเรียนนักศึกษาและแรงงานทุกระดับ นอกจากนี้ สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการให้นักเรียนนักศึกษาฝึกงานในสถานประกอบการในระบบทวิภาคี สามารถนำค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมไปยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ 100 ของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการฝึกอบรม 10 รายการ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วย การยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 437) พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ของสถานประกอบการจากการฝึกอบรมกรณีรับนักเรียนนักศึกษาฝึกเตรียมเข้าทำงานตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

'นักมวยเขมร' ประกาศท้าชก 'บัวขาว' ลั่น!! คันมือคันเท้า รอปะทะที่กัมพูชา

หลังจากก่อนหน้านี้ ไต๋ศรี จันทน รองประธานกิตติมศักดิ์สหพันธ์มวยกัมพูชา ประกาศอัดฉีดนักชกเขมรทุกคน หากใครสามารถคว่ำ บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ ก็พร้อมมอบอัดฉีดเป็นบ้าน, รถ และเงินเดือน 10 ปีเต็ม เนื่องจากบทสัมภาษณ์ของนักชกชาวไทยที่ดูจะไม่ค่อยเข้าหูคนกัมพูชาเสียเท่าไหร่

ล่าสุด 'แก้ว รุมจอง' Keo Rumchong นักมวยกัมพูชา วัย 35 ปี ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอยากดวลกับ 'บัวขาว' เป็นอย่างมาก เพราะตอนนี้ทนไม่ไหว ใบหูร้อน คันมือ คันขา อยากปะทะกับนักชกชาวไทย

"หูร้อนทันที ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็มาแข่งที่กัมพูชา ผมรักบัวขาวมากนะ แต่คันมือ คันขา อยากปะทะ มาเลย บัวขาว บัญชาเมฆ ผมรอไม่ไหวแล้วพี่ชาย โปรดบอกผมเมื่อคุณตอบรับ" นักมวยชาวกัมพูชา กล่าวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว

แก้ว รุมจอง ได้รับฉายาจากสื่อกัมพูชาว่าเป็น 'เสือร้ายแห่งพระตะบอง' พกสถิติอันสวยหรูในการชกคิก บ็อกซิ่ง ชนะคู่แข่งได้ถึง 157 ครั้ง จาก การขึ้นชก 174 ครั้ง น็อก 66 ครั้ง และพ่ายแพ้เพียง 13 ครั้ง เสมอ 4 ครั้ง

‘นพดล’ จี้ รัฐบาล-กทม. เร่งจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 ลั่น! ดันร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดทันที หาก พท.เป็นรัฐบาล

(3 ก.พ. 66) 'นายนพดล ปัทมะ' รองประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย เสนอ 5 ทางออก แก้ฝุ่น PM 2.5 จะต้องหมดไป ย้ำ รัฐบาลต้องจริงจังกับปัญหา สิทธิ์หายใจในอากาศสะอาดเป็นสิทธิมนุษยชน

“ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่เลือกคนรวย คนจน เด็กอนุบาล หรือผู้สูงอายุ เราจะไม่ปล่อยให้แก้ปัญหาแบบนี้อีกต่อไป พรรคเพื่อไทยมา PM2.5 ต้องหมดไป ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและโดยแก้เริ่มจากได้การมีรัฐบาลใหม่ที่เอาจริงเรื่องนี้" 

นพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ปัญหาค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครติดอันดับโลกขณะนี้ และอยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพจากสภาพอากาศปิด ขณะที่ในหลายจังหวัดประสบปัญหาจากการเผาป่า เผาไร่ ที่ผ่านมา การแก้ไขปัญหาเป็นแบบไฟไหม้ฟางและปลายเหตุมาตลอด พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งระยะสั้น กลาง และระยะยาว หากได้เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาโดย 

1.) เข้มงวดห้ามเผาป่า เผาไร่เช่น อ้อย ข้าวโพด และของเหลือจากผลิตผลทางการเกษตรอย่างเคร่งครัด พร้อมกับดำเนินนโยบายปลูกป่าเศรษฐกิจขนานใหญ่ ได้ทั้งการแก้ปัญหาโลกร้อนและซับฝุ่น PM2.5

'พปชร.' ปลื้ม ปชช. ขานรับนโยบาย 'ประชารัฐ 700' แถมดัน 'บิ๊กป้อม' ฟีเวอร์!! จ่อเปิดนโยบายที่เหลือต่อ

(3 ก.พ. 66) น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสตอบรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังเดินสายลงพื้นที่เปิดนโยบายเพิ่งเงิน บัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ทำให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่แสดงความชื่นชม บางคนถามว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตว่าต้องทำอย่างไรให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ให้ได้ เพื่อจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ที่ผ่านมาพรรคพปชร.ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีผลงานเป็นรูปธรรม เรื่องสวัสดิการประชารัฐ การบริหารจัดการน้ำ จัดที่ดินทำกิน ปราบปรามการค้ามนุษย์ อุตสาหกรรมประมง และมีนโยบายที่รอเปิดตัว จึงมั่นใจว่าทุกนโยบายจะถูกใจประชาชนอย่างแน่นอน

'พิธา' เสนอแก้ฝุ่น PM 2.5 ต้องยกเครื่องโครงสร้างอำนาจ ออก กม.ใหม่-ให้อำนาจท้องถิ่น-ปั้นขนส่งพลังงานไฟฟ้า

'ก้าวไกล' เปิดเวทีพบชาวน่าน ย้ำนโยบายรัฐสวัสดิการทำได้ทันที พร้อมปรับเบี้ยคนแก่เป็น 3,000 บาท ด้าน 'พิธา' เสนอแก้ฝุ่น PM 2.5 ต้องยกเครื่องโครงสร้างอำนาจ ออกกฎหมายใหม่-กระจายอำนาจให้ท้องถิ่น-ปรับขนส่งสาธารณะใช้พลังงานไฟฟ้า

(3 ก.พ. 66) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยแกนนำ และ ส.ส. พรรคก้าวไกล อาทิ อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน ร่วมจัดเวทีพบปะประชาชนที่จังหวัดน่าน พร้อมนำเสนอนโยบายและตอบคำถามของประชาชนในหลายประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นที่สนใจของประชาชน เช่น เรื่องปากท้องเศรษฐกิจ และปัญหาฝุ่นควัน pm 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นต้น

ณัฐชา ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน พรรคก้าวไกล ได้นำเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการของพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะเรื่องเงินผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่จะปรับจาก 600 บาทต่อเดือน ให้เป็น 3,000 บาทต่อเดือน โดยณัฐชาระบุว่านี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกลได้ศึกษามาระยะหนึ่งแล้ว ศึกษาลงไปถึงรายละเอียดว่าแหล่งรายได้ที่จะนำมาใช้ทำนโยบายดังกล่าวมาจากไหน และสามารถทำได้ทันที หากพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ผลที่จะเกิดขึ้นคือพี่น้องไม่ต้องมารอลุ้นให้ได้รับเบี้ยที่เพิ่มขึ้นตามอายุของตัวเองอีกแล้ว ขอเพียงมีอายุ 60 ปีขึ้นไปและเป็นคนไทย จะได้รับสิทธิทันที ไม่ต้องลงทะเบียนด้วย

จากนั้น มีหนึ่งในคำถามสำคัญจากวงพูดคุย เกี่ยวกับปัญหาฝุ่น pm 2.5 ที่นับวันสถานการณ์มีแต่จะเลวร้ายลง ทางพรรคก้าวไกลมีนโยบายอย่างไร พิธาได้ตอบคำถามนี้โดยระบุว่าปัญหาฝุ่น pm 2.5 เป็นปัญหาที่มีต้นตอจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่ หากเป็นเขตเมือง ก็มักเกิดจากรถยนต์ โรงงาน และการก่อสร้าง ส่วนในพื้นที่ชนบทมักเกิดจากการเผาไหม้จากภาคเกษตร การใช้พลังงานถ่านหิน หรือการเผาป่าที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ สาเหตุเหล่านี้เป็นที่รับรู้กันมายาวนาน แต่การแก้ไขปัญหาไม่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะโครงสร้างอำนาจที่มีปัญหา

กล่าวคือปัญหาของฝุ่น pm 2.5 เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แต่ความรับผิดชอบที่อธิบดีมีอยู่นั้น ไม่ได้มาพร้อมกับอำนาจ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษไม่สามารถไปสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยมลพิษออกมาตรการเพื่อระงับฝุ่น pm 2.5 ได้ ผลก็คือที่ผ่านมามีเพียงการขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากก็มักไม่ได้รับความร่วมมือกลับมา

'ฮ่องกง' เตรียมแจกตั๋วบินฟรี 5 แสนใบ!! ดึงดูด นทท. สัมผัสประสบการณ์อันน่าจดจำ

เมื่อวันที่ (2 ก.พ. 66) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) ของจีน ได้ทำการเปิดตัวโครงการดึงดูดนักท่องเที่ยว นักเดินทางเพื่อธุรกิจ และนักลงทุน พร้อมประกาศชุดมาตรการจูงใจอื่น ๆ

'จอห์น ลี' ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ประกาศ ณ พิธีเปิดตัวโครงการ 'สวัสดีฮ่องกง' (Hello Hong Kong) ว่า ฮ่องกงได้จัดเตรียมบัตรโดยสารเครื่องบิน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก จำนวน 500,000 ใบ

ลีกล่าวว่า บรรดาแขกที่เดินทางเยือนฮ่องกงสามารถใช้ประโยชน์จากข้อเสนอพิเศษ บัตรกำนัล และสิ่งจูงใจอื่น ๆ มากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและน่าจดจำมากยิ่งขึ้นในฮ่องกง

‘ลุงหนู’ ยัน ไม่มีการเมืองชี้นำ ปมย้าย ‘หมอสุภัทร’ มีแต่ชี้นำด้านสาธารณสุข เพื่อประโยชน์ประชาชน

(3 ก.พ. 66) ที่ รพ.ระนอง อ.เมือง จ.ระนอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีบางฝ่ายตั้งคำถามว่าการย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ไป รพ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เป็นผลจากการเมืองชี้นำ ว่า กระทรวงสาธารณสุขไทยมีแต่คนดี คนเก่ง ที่ออกไปแล้ว ก็เหลือไว้แต่ความดีงาม ข้อวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลาย เกิดขึ้นเพราะเขาอาจจะไม่ได้รู้รายละเอียดครบถ้วน แต่ก็ขอให้บุคลากรในการทรวงสาธารณสุข มีความเข้มแข็ง ตั้งใจทำงาน สิ่งที่ท่านทำมานั้นถูกต้องแน่นอน การทำงานของพวกท่านยอดเยี่ยมมาก ซึ่ง WHO ยกให้เราเป็นแชมเปี้ยนโลกแล้ว เขาบอกว่า “PLEASE DO YOUR BEST TO MAINTAIN CHAMPIONSHIP IN HEALTHCARE OF THE WORLD” ส่วนการโยกย้าย มีกฎระเบียบอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับใครรับผิดชอบ ตนไม่ไปก้าวก่าย

‘บิ๊กตู่’ อาสา ขอเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศ ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม

'ประยุทธ์' ประกาศขอเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียมเหมือนพ่อดูแลลูกที่รักทุกคนไม่แบ่งแยก ย้ำพบปัญหาสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขทันที เผยได้ขอพรกับ“หลวงพ่อบ้านแหลม”อยากให้ประเทศสงบสุขประชาชนมีความสุขและประเทศเดินหน้าไปได้ ดีใจเห็นได้ว่าชาวต่างประเทศมาเที่ยวตลาดร่มหุบแล้วชอบประเทศไทย

(3 ก.พ. 66) ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาพบปะประชาชนเพื่อหารือถึงแนวทางส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างมูลค่า และการยกระดับรายได้ของประชาชนชาวสมุทรสงคราม ณ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวภายหลังรับฟังรายงานสรุปจากนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามถึงปัญหา และข้อเสนอแนะของตัวแทนเกษตรกรในพื้นที่ ว่า วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้มา จังหวัดสมุทรสงครามอีกครั้งหนึ่ง เห็นว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ ทั้งในเรื่องผลิตภัณฑ์การเกษตร การท่องเที่ยวต่างๆ และประชาชนก็น่ารัก วันนี้มารับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกภาคส่วนในฐานะนายกรัฐมนตรี จากที่ได้รับฟังปัญหาจากทุกฝ่าย อยากจะทำความเข้าใจการทำงานจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนที่เสนอขึ้นมาตามลำดับชั้นทางราชการ เนื่องจากหลายปัญหาเป็นปัญหาที่หมักหมมมานาน ที่ผ่านมาประเทศไทยมีทั้งเดินหน้าและถอยหลัง ดังนั้นทั้งหมดจึงจำเป็นต้องแก้ไขต่อไป ทุกครั้งที่ได้รับฟังปัญหาก็ได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องนำไปแก้ปัญหาในทันที

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า วันนี้ที่รับฟังปัญหาก็พบว่ายังมีทั้งปัญหาเดิมๆ รับปากที่จะรับไปแก้ไขให้ ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งแต่จะทำทั้งหมดทุกที่ วันนี้จากที่ฟังมีสิ่งที่ไม่ชอบอย่างหนึ่งคือ ไม่จำเป็นต้องพูดว่าจะให้ตนเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 2 ปี ถ้าแก้ไขปัญหาให้ ตนไม่ชอบคำนี้ เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเป็นให้กับทุกคนทั้งประเทศ และจะต้องแก้ไขปัญหาให้กับทุกคน ทุกปัญหา ทุกเรื่อง สิ่งที่รับปากก็จะไปช่วยดูแลทุกเรื่อง ทั้งในเรื่องโอกาส ถนนหนทาง การท่องเที่ยว ที่เห็นว่าที่ จังหวัดสมุทรสงคราม มีความสุข มีรอยยิ้ม ประเทศไทยเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม เป็นสิ่งที่ดี เพราะไม่ต้องการให้เกิดศัตรู หรือความขัดแย้ง ตนเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ ทุกเขต ไม่ปัดความรับผิดชอบ ตราบใดที่เป็นนายกรัฐมนตรีตรงนี้ต้องยอมรับว่าถ้าเราทำงานให้คนทั้งประเทศก็จะมีปัญหาอยู่บ้างเพราะต้องให้ทุกพื้นเท่ากัน แต่จะดูว่าส่วนใดเร่งด่วนก็จะทำก่อน เพราะงบประมาณมีจำกัด วันนี้ยังได้ไปดูเรื่องน้ำท่วม พนังกั้นน้ำ หรือระบบป้องกันน้ำท่วมจะต้องทำ แต่ก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จะต้องหาแนวทาง อยากให้ทุกคนอยู่ด้วยความเชื่อมั่น

'หัวหิน' ยกระดับสู่เมือง Smart city ติด CCTV รอบเมือง ตั้งเป้าลดอาชญากรรม 50%

(3 ก.พ. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าประชุมหารือเตรียมความพร้อมโครงการ Smart city HuaHin โดยมีนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีหัวหิน ให้การต้อนรับ ณ เทศบาลหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ชัยวุฒิ กล่าวว่า Smart city เป็นนโยบายสำคัญของท่านนายกฯ ใช้ชื่อโครงการทั้งหมดว่าไทยแลนด์ 4.0 ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาประเทศ ตอนนี้ถือว่าประเทศของเรามาได้ไกลแล้ว ประชาชนมีการเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ต เข้าถึงการใช้สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ในการทำงานทำธุรกรรมต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งถือว่าคนไทยคุ้นเคยกับดิจิทัลมาก

Smart city เป็นเรื่องของความสำคัญในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นประกอบทำให้อาชีพดีขึ้น ตนว่าหัวหินก็เด่นในเรื่องของการท่องเที่ยว การค้าขาย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนคิดว่า ถ้าเราได้นำคอนเซปต์ของ Smart city มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ จะทำให้เมืองหัวหินพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองหัวหินมากขึ้น มีคนมาซื้อที่ดินมากขึ้น

Smart city ยังไม่ได้ให้แค่ความเจริญ แต่ลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ต่างจังหวัด ในพื้นที่ห่างไกล การมีโครงการนี้เข้าไปในพื้นที่ จะทำให้เมืองทันสมัยขึ้น ทำให้ประชาชนอยู่สุขสบายมากขึ้น


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top