Sunday, 11 May 2025
NewsFeed

รองโฆษก ตร. ออกโรงเตือนประชาชนระวังมิจฉาชีพออกอุบาย หลอกแจก 'อั่งเปาออนไลน์' ย้ำระมัดระวังอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน

วันนี้ (18 ม.ค.66) เวลา 08.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณ ปัญญา รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงออนไลน์ในช่วงเทศกาลตรุษจีน

พ.ต.ท.หญิง ณพวรรณฯ กล่าวว่า ในช่วงวันที่ 20-22 มกราคม 2566 จะเป็นช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยเชื้อสายจีนและปัจจุบันกลุ่มโจรออนไลน์มักจะอาศัยจังหวะตามเทศกาลต่างๆ ฉวยโอกาสหลอกลวงประชาชน โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ มิจฉาชีพอาจชักจูงให้เหยื่อหลงเชื่อว่ามีการ 'แจกอั่งเปาฟรี' แล้วส่งลิงก์เพื่อให้เรากรอกข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ หรืออาจจะหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันที่สามารถควบคุมมือถือระยะไกล หรือ แอปรีโมท แล้วทำการดูดเงินในบัญชี หากเราได้รับ SMS ในลักษณะดังกล่าวห้ามกดลิงก์โดยเด็ดขาด รวมถึงไม่กรอกข้อมูลส่วนตัวใดๆ กรณีมีข้อความเลขรหัสเข้าเครื่องโทรศัพท์ไม่ทราบที่มาที่ไป ห้ามเผยแพร่บุคคลอื่นทราบ หากเผลอกดลิงก์ติดตั้งแอปฯ แปลกปลอมดังกล่าว ให้รีบลบหรือรีเซต เครื่องใหม่ทันที หากโทรศัพท์ไม่ค้างหรือดับ วิธีที่ตัดทุกอย่างคือ 'เปิดโหมดเครื่องบิน' หากเครื่องค้างให้ กดปุ่มเปิด-ปิดแช่ไว้ เป็นการตัดสัญญาณโทรศัพท์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตทันที 

แนะทริกขึ้นรถไฟ!! ใช้ประตู 4 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ทางเข้าหลักสู่ชานชาลารถไฟทางไกล สะดวกสุด

จำให้แม่น!!! ประตู 4 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ทางเข้าหลักสู่ชานชาลารถไฟทางไกล หลังวันที่ 19 มกราคม 66!!! ทั้ง 52 ขบวน!!!

เพจ โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure  ได้โพสต์ข้อความว่า วันนี้มาฝากทริกของการเดินทางในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่เตรียมจะย้ายต้นทาง/ปลายทางรถไฟทางไกล สายเหนือ-อีสาน-ใต้ มาเริ่มต้นที่นี่ ทั้งหมด 52 ขบวน 

ซึ่งถ้าใครเดินทางมาทางรถยนต์ หรือรถ Taxi ปักหมุดมาให้ส่งที่ 'ประตู 4' ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของรถไฟทางไกล ได้เลย

เมื่อเดินผ่านเข้าจากประตู 4  
- สามารถเดินตรงมาซื้อตั๋วโดยสาร ได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋ว ซึ่งมีถึง 23 ช่อง แยกตามเส้นทาง และลักษณะของตั๋ว (จองตั๋วล่วงหน้า/จองเพื่อเดินทาง)
- เลี้ยวขวา ไปพื้นที่ศูนย์อาหาร (Food court) 
- เลี้ยวซ้ายพื้นที่นั่งพักคอย หน้าห้องขายตั๋ว

‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องชาว ‘นนทบุรี’ ลั่น!! ไม่สน พปชร. เพิ่มบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท

(18 ม.ค. 66) เวลา 08.17 น. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และชาวคณะ นำทีมเยี่ยมประชาชนตลาดประชานิเวศน์ 3 นนทบุรี

อุ๊งอิ๊งกล่าวว่า เสียงตอบรับจากการลงพื้นที่วันนี้ดีมากมาก ได้รับการต้อนรับอบอุ่นอย่างอบอุ่นจากพี่น้องประชาชนตลาดประชานิเวศน์ 3 ก็มีคนบอกว่าอยากจะเลือกตั้งแล้ว ซึ่งก็ถือว่าสําหรับพรรคเพื่อไทยก็เป็นกําลังใจอย่างมาก ที่ทําให้เราอยากจะเดินสายหาเสียงต่อ เราพร้อมแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีกว่าเดิม 

“นโยบายเราได้รับการตอบรับดีมาก ระหว่างเดินพบปะก็มีคนโชว์บัตรลายเซ็นต์ของท่านนายกทักษิณ ตั้งแต่ที่อยู่พรรคไทยรักไทย เห็นก็ชื่นใจมากมากนะคะ ที่พี่น้องประชาชนยังไว้ใจเรามายาวนานยี่สิบปีขนาดนี้ค่ะ แล้วก็ แน่นอนค่ะ เราจะไม่ทําให้พี่น้องประชาชนผิดหวังค่ะ” อุ๊งอิ๊งกล่าว

‘นริศ’ รมช.มหาดไทยคนใหม่ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เชิญชวนมุสลิมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ส.ส. จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำตนเข้าเฝ้า ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เนื่องในโอกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งและให้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนรู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

นายนริศ กล่าวอีกว่า ตนถือเป็นมุสลิมคนที่ 4 ที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี ต่อจากนายเล็ก นานา, นายสิดดิก สารีฟ และนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพี่น้องชาวมุสลิมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งที่ผ่านมาพระองค์ก็ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกที่บำบัดทุกข์ ดูแลสุขของพี่น้องศาสนิกในทุกศาสนาที่ต่างก็เป็นพสกนิกรของพระองค์อย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ทำให้พี่น้องมุสลิมของเราอยู่อย่างมีความสุข และร่มเย็นเสมอมา

'โรม' ฉะ!! รัฐบริหารประเทศแค่อาชีพเสริม อาชีพหลักหาเสียง อาชีพรองดูด ส.ส.

'โรม' ฉะรัฐบาลอาชีพหลักหาเสียง อาชีพรองดูด ส.ส. อาชีพเสริมบริหารประเทศ แนะควรใช้เวลาที่เหลืออยู่บริหารงานให้ดี ยันขอทำหน้าที่ซักฟอกให้ดีที่สุดเหมือนเส้นด้ายที่คม

(18 ม.ค. 66) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคว่ายังคงเน้นการพบปะประชาชน แบบไปเดินตลาด ยังไม่ได้เน้นในเรื่องการเปิดเวทีใหญ่ เนื่องจากเราเห็นว่าการเดินพบปะประชาชนเป็นการเริ่มต้นที่ดีกว่า และได้ความใกล้ชิด แต่อาจจะได้พบคนน้อย ส่วนการขึ้นเวทีจะได้พบปะประชาชนจำนวนมาก ต้องดูว่าสุดท้ายความใกล้ชิดจะเป็นอย่างไร 

อย่างไรก็ตามแคมเปญหาเสียงของพรรค การเดินสายทั่วประเทศแน่นอน เราจะใช้เวลาทั้งหมดในการทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คือ...

ข้อ 1.งานสภาเราต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป เพราะยังมีกฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายของพรรคก้าวไกลที่มีความจำเป็นจะต้องผลักดัน

“บางทีผมรู้สึกว่า ถ้าคุณอยากสัญญากับประชาชนว่าหลังจากนี้จะผลักดันเรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่วันนี้เรายังอยู่ในสภายังมีอำนาจอยู่ ฝ่ายค้านอาจไม่เยอะ แต่ก็ทำงานได้ ก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดให้ประชาชนเขาเห็นว่า คุณเข้าไป คุณรักษาสัญญา ไม่ตระบัดสัตย์ ซึ่งพรรคก้าวไกลเราทำหน้าที่นั้นและนโยบายที่เป็นนโยบายเรือธงของพรรค เราพยายามทำให้มันสำเร็จ แน่นอนว่าเราไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด เพราะเรามีเสียงไม่มากอยู่ในสภา แต่เราพยายามทำให้เต็มที่" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ข้อ 2.เรื่องการเลือกตั้งที่เราเคยชนะเลือกตั้ง เราต้องปกป้องให้ได้ ซึ่งเป็นวาระที่เราต้องทำให้บรรลุผล รวมไปถึงเขตอื่น ๆ ที่เราต้องไปบุกเบิก ไปเจอประชาชนให้ได้มากที่สุดแล้วนำเสนอนโยบาย 

และ 3. สิ่งที่ต้องทำต่อคือ นโยบาย สิ่งหนึ่งที่เสียใจมากที่สุดคือวันนี้ การเมืองกลายเป็นเรื่องของการคุยกัน

"ผมขอวิจารณ์รัฐบาลนิดหนึ่งว่า รัฐบาลมี 3 อาชีพ อาชีพหลักตอนนี้คือ หาเสียง อาชีพรองคือดูด ส.ส. และอาชีพเสริมคือ บริหารประเทศ เราไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น เพราะสิ่งที่เราควรทำให้เกิดขึ้นตอนนี้คือการคุยกันในเรื่องของนโยบาย และจะแก้ปัญหาของประเทศอย่างไร ถ้าคุณยังเป็นรัฐบาลอยู่ ก็ควรใช้เวลาสุดท้ายบริหารให้มันดี ซึ่งคือสิ่งที่ควรจะเป็นแต่สิ่งที่มันเกิดขึ้น ตรงกันข้ามหมดเลย จึงเป็นความน่าเสียดาย อยากเชิญชวนทุกคนมาพูดคุยกันทำให้ประชาชนเห็นว่าใน 4 ปี ข้างหน้า โจทย์ของประเทศคืออะไร แล้วเราจะแก้ปัญหาได้อย่างไร" นายรังสิมันต์กล่าว

RS เตรียมปั้น 5 ธุรกิจเครือฯ เข้าตลาดหุ้น ดันมาร์เก็ตแคปแตะแสนล้านในปี 68

อาร์เอส (RS) ปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ตั้งเป้าเป็น Life Enriching ยกระดับในทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้า ผลักดันรายได้ปี 66 สู่เป้าหมาย 5,500 ล้านบาท เล็งปั้นบริษัทในเครือเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ดันมาร์เก็ตแคป แตะ 1 แสนล้านในอีก 3 ปี

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายมาร์เก็ตแคปเติบโตแตะ 1 แสนล้านบาทภายในปี 68 จาก ณ วันที่ 16 ม.ค.66 มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 16,337.95 ล้านบาท โดยจะเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่แบ่งเป็น 6 กลุ่มหลัก ดังนี้

1. RS Multimedia ซึ่งประกอบด้วย ช่อง 8 และ COOLfahrenheit
2. RS Music ประกอบด้วยค่ายเพลง RSIAM, kamikaze, RoseSound และบริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล
3. RS LiveWell ประกอบด้วย RS Mall และแบรนด์ผลิตภัณฑ์ well u, Vitanature+, Lifemate และ Camu C
4. RS Connect ประกอบด้วย ULife และ De Beste
5. RS Pet All ธุรกิจใหม่ที่ประกอบธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยง
6. R Alliance ดูแลด้านการลงทุน ตามกลยุทธ์ M&A และ JV

การปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่มีแผนนำธุรกิจทั้ง 5 กลุ่ม ไม่รวม R Alliance ที่เป็นธุรกิจด้านการลงทุน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ได้ภายใน 3 ปี เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต อันดับแรกคือ บมจ.เชฎฐ์ เอเชีย (CHASE) จะเข้าจดทะเบียนในไตรมาส 1/66 เลื่อนจากแผนเดิมในไตรมาส 4/65 จากนั้นจะนำบริษัท อาร์เอส- ยูไลฟ์ จำกัด ธุรกิจขายตรงในกลุ่มธุรกิจ RS Connect เข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นรายต่อไป โดยแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ในลำดับถัดไปจะผลักดัน RS LiveWell และ RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยจะแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินภายในปีนี้

“ปีนี้จะเป็นปีที่มีความท้าทายที่สุด นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา จากการตั้งเป้าเป็น Life Enriching มุ่งมั่นในการยกระดับทุกมิติการใช้ชีวิตของลูกค้าผ่านทุกธุรกิจในเครือ พร้อมจัดโครงสร้างองค์กรใหม่โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่มธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กร ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตที่แข็งแกร่งในแนวตั้ง และจะขยายธุรกิจใหม่ ๆ ในแนวราบ นับเป็นการสร้างอีโคซิสเต็มของอาร์เอส กรุ๊ป ให้เติบโตยั่งยืนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และเตรียมความพร้อมของอาร์เอส กรุ๊ป เพื่อ Spin-Off บริษัทในเครือเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อทำให้มาร์เก็ตแคปสูงขึ้นเป็น 100,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้า”นายสุรชัย กล่าว

สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแตะ 5,500 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจ Commerce 3,100 ล้านบาท ประกอบด้วย RS LiveWell 1,800 ล้านบาท RS Connect 900 ล้านบาท และ RS Pet All 400 ล้านบาท ส่วน Media&Entertainment จะมีรายได้ที่ 2,400 ล้านบาท ประกอบด้วย Rs Multimedia 1,450 ล้านบาท RS Music 400 ล้านบาท และ Concert,Event&Othets 550 ล้านบาท

ขณะที่ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 48-50% และอัตรากำไรสุทธิที่ 11-13%

บริษัทยังคงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยโมเดล Entertainmerce พร้อมมุ่งสู่การเป็น Life Enriching โดยโฟกัสที่การเจาะตลาด Mass และเพิ่ม Accessibility การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น ด้วยช่องทางการจำหน่าย และพาร์ตเนอร์ที่หลากหลาย

ธุรกิจคอมเมิร์ซ ปี 66 บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด แบรนด์ well u และ Vitanature+ เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 19 SKUs ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว แบรนด์ Lifemate ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 22 SKUs ในหมวดอาหารกลุ่ม Specialty Food, สแน็คสำหรับสุนัขและแมว และผลิตภัณฑ์ดูแลทำความสะอาด นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายช่องทางการจำหน่ายไปยัง Modern Trade และตลาดต่างประเทศด้วย

สินค้าบางส่วนในเครือ อาร์เอส ลิฟเวลล์ ยังได้จับมือพันธมิตร เพื่อขยายช่องทางไปสู่ Specialty Store และ Duty Free เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอีกด้วย

RS Mall แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าสุขภาพและความงามก็จับมือกับพันธมิตรหลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ สถาบันการเงิน โรงพยาบาล คลินิก และบริษัทประกันชั้นนำ เพื่อสร้างฐานลูกค้าใหม่ รวมไปถึงการสร้างระบบ CRM ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

‘พิธา’ ร่อนจดหมายรับ ‘วันกองทัพไทย’ ลั่น ‘ก้าวไกล’ เป็น รบ. เลิกเกณฑ์ทหารแน่นอน

‘พิธา’ ร่อนจดหมายรับวันกองทัพไทย ให้คำมั่นเลิกเกณฑ์ทหาร-วัฒนธรรมอำนาจนิยม เปลี่ยนให้เป็นกองทัพเพื่อปกป้องประชาชน

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่อนจดหมายเปิดผนึกเนื่องในวันกองทัพไทย ความว่า

ถึงพี่น้องทหารไทยทุกคน อย่างที่หลายท่านทราบ พรรคก้าวไกลเรายืนยันมาตลอดตั้งแต่ครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ ถึงความจำเป็นของการ 'ปฏิรูปกองทัพ'

แน่นอนว่าในมุมหนึ่ง การปฏิรูปกองทัพ เป็นวาระระดับประเทศ ที่หมายถึงตั้งแต่การแยกทหารออกจากการเมือง การยุติวงจรรัฐประหาร การทำให้กองทัพมีความโปร่งใส-ตรวจสอบได้ รวมถึงการทำให้กองทัพมีขนาดและภารกิจที่เท่าทันต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งล้วนจำเป็นต่อการรักษาประชาธิปไตย ส่งเสริมเศรษฐกิจ และปกป้องผลประโยชน์ประชาชนในภาพรวม

แต่อีกเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับการปฏิรูปกองทัพ เพราะเราเชื่อว่าการปฏิรูปกองทัพเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพื่อคุ้มครองคุณภาพชีวิตของพลทหารทุกคน ทั้งที่ถูกบังคับเกณฑ์เข้ามา และที่สมัครเข้ามาเพราะรักในอาชีพทหาร แต่กลับถูกกดทับและเอารัดเอาปรียบด้วยค่าตอบแทนที่ไม่เพียงพอ อนาคตที่ไม่มั่นคง ภารกิจงานที่ไม่ตรงปก ชีวิตที่ไม่ปลอดภัยจากการถูกละเมิดสิทธิ และการถูกปฏิบัติโดยผู้บังคับบัญชาบางคนที่ไม่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

นักการเมืองในคราบทหารในรัฐบาลปัจจุบันและเครือข่ายผลประโยชน์ในกองทัพบางฝ่าย จะพยายามตีตราและตีขลุมว่าเรา - พรรคก้าวไกล - เป็นปฏิปักษ์ต่อกองทัพ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น

จริงอยู่ เรายืนอยู่ตรงข้ามกับ ทหารที่ล้มล้างประชาธิปไตย ผ่านการยึดอำนาจจากประชาชนและสืบทอดอำนาจตัวเอง
จริงอยู่ เรายืนอยู่ตรงข้ามกับ ทหารที่ถืออภิสิทธิ์เหนือประชาชน และใช้อำนาจโดยมิชอบกับคนที่เขาควรปกป้อง และจริงอยู่ เรายืนอยู่ตรงข้ามกับ ทหารที่กอบโกยผลประโยชน์จากภาษีประชาชน และปฏิเสธการตรวจสอบ แต่เรายืนยันว่าทั้งหมดที่ทำ เพราะต้องการยืนอยู่เคียงข้างประชาชนและทหารทุกคนที่ให้เกียรติประชาชน

‘บิ๊กป้อม’ ยัน พร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) ที่งานเปิดตัวนโยบายแรก ‘เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 บาทต่อเดือน’ 
ของพรรคพลังประชารัฐ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม พล.อ.ประวิตรว่า พร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ 

‘ธปท.’ แจง!! ปมสายชาร์จปลอมดูดเงิน แท้จริง ถูกหลอกติดตั้งแอปฯ ควบคุมมือถือ

(18 ม.ค. 66) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. และสมาคมธนาคารไทย ได้ตรวจสอบกรณีผู้เสียหายร้องเรียนจากเหตุการใช้งานสายชาร์จปลอมแล้วถูกดูดข้อมูลและโอนเงินออกจากบัญชี ตามที่ปรากฎข่าวพบว่า ไม่ได้เกิดจากการใช้งานสายชาร์จปลอม แต่เกิดจากผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมที่แฝงมัลแวร์ ทำให้มิจฉาชีพล่วงรู้ข้อมูลการทำธุรกรรมของลูกค้า และควบคุมเครื่องโทรศัพท์เพื่อสวมรอยทำธุรกรรมแทนจากระยะไกล เพื่อโอนเงินออกจากบัญชี โดยอาจเลือกทำธุรกรรมในช่วงเวลาที่ผู้เสียหายไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์

ปัจจุบัน มิจฉาชีพมีวิธีหลอกลวงหลายรูปแบบ อาทิ SMS หลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแอปพลิเคชันให้สินเชื่อปลอม เป็นต้น และมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดใช้การหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมที่แฝงมัลแวร์ ซึ่ง ธปท. ได้ดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยการออกมาตรการต่าง ๆ ให้สถาบันการเงินต้องปฏิบัติ และร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. สำนักงาน ปปง. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการต่าง ๆ ดังนี้...

1. การปรับปรุงพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยบน Mobile Banking อย่างต่อเนื่อง

2. ปิดกั้นเว็บไซต์หลอกลวง และตัดการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มิจฉาชีพใช้ควบคุมเครื่องผู้เสียหายจากระยะไกล

'ดร.อเนก' ยัน ไม่เกี่ยวอดีตอาจารย์ ม.ดัง ซื้อขายผลงานวิจัย พร้อมสั่ง!! ปลัดกระทรวง อว.เอาผิดพวกทุจริตทางวิชาการ

'เอนก' ยันไม่เกี่ยวข้องอดีต อจ. มหาลัยเอกชนดังเอี่ยวปมซื้อขายผลงานวิจัย ย้ำชัดไม่เคยเป็นทีมงาน สั่งปลัดกระทรวง อว.เอาผิดพวกทุจริตทางวิชาการ ขณะที่ กกอ. จี้ทุกมหาลัยเร่งตรวจสอบอาจารย์ในสังกัด ขีดเส้นรายงานผล 15 ก.พ.นี้ 

(18 ม.ค. 66) ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ามี 'อดีตทีมงาน รมต.เอนก' เข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายงานวิจัยและบทความวิชาการ ตนขอชี้แจงว่าบุคคลที่ถูกกล่าวอ้างนั้นไม่เคยเป็นทีมงานของตนแต่อย่างใด เป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ในสมัยที่ตนเป็นอธิการบดีวิทยาลัยรัฐกิจ ซึ่งเวลานั้นตนและผู้บริหารก็สงสัยในพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ส่อถึงความไม่ตรงไปตรงมาทางวิชาการ และได้เฝ้าระวังมาตลอด และ ม.รังสิต ขณะนั้นก็ได้ดำเนินการสอบสวนบุคคลดังกล่าวด้วย

“ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาตนให้ความสำคัญกับการจัดการการผิดจริยธรรมและเอาเรื่องพวกทุจริตทางวิชาการนี้มาตั้งแต่เป็นผู้บริหารที่ ม.รังสิต และเมื่อเป็น รมว.อว. ก็จัดการกับเรื่องนี้อย่างชัดเจน ต่อเนื่อง และในครั้งนี้ก็เช่นกันที่ได้มอบหมายให้ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. และคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ดำเนินการจัดการตรวจสอบ ติดตามและลงโทษผู้กระทำผิดอย่างรวดเร็ว รวมถึงหาแนวทางป้องกันในอนาคต” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. กกอ. ได้มีการจัดประชุมที่สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (สป.อว.) เพื่อพิจารณามาตรการต่าง ๆ ในประเด็นที่เป็นข่าวเรื่องซื้อผลงานวิจัย โดยหลังการประชุม ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. ในฐานะเลขานุการ กกอ. เปิดเผยว่า กกอ. มีมติสำคัญ 4 เรื่องด้วยกัน คือ...

1. ให้ สปอว. แจ้งให้ มหาวิทยาลัยทุกแห่ง ทำการตรวจสอบบุคลากรในสังกัด หากพบว่ามีข้อสังเกตที่จะนำไปสู่ความผิดจริยธรรมดังกล่าว ให้ทำการตรวจสอบอย่างยุติธรรมและรวดเร็ว และขอให้รายงานการดำเนินการแก่ สป.อว. ในครั้งแรก ภายในวันที่ 15 ก.พ. นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top