Friday, 16 May 2025
NewsFeed

‘พิธา’ ถก ‘ทูตฟินแลนด์’ คุยความคืบหน้าปัญหาค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ ด้าน ‘ฟินแลนด์’ ชี้ เร่งแก้ไขแล้ว แต่ยังพบการกระทำผิด

‘พิธา’ หารือ ทูตฟินแลนด์ คุยความคืบหน้าปัญหาค้ามนุษย์แรงงานไทยเก็บเบอร์รี่ เผย ทางฟินแลนด์เร่งแก้ไขแล้วแต่ยังพบการกระทำผิด ยืนยันพรรคก้าวไกลพร้อมดูแลแรงงานไทยทั่วโลก

(20 ธ.ค. 65) ที่รัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้พบกับ ยือรี แยร์วีอาโฮ (Jyri Järviaho) เอกอัครราชทูตฟินแลนด์ประจำประเทศไทย เพื่อหารือความคืบหน้าการแก้ปัญหาแรงงานเก็บเบอร์รี่ชาวไทยในฟินแลนด์ที่อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ โดยได้นำตัวแทนจากคณะกรรมาธิการแรงงานของสภาผู้แทนราษฎรและตัวแทนแรงงานผู้เสียหายเข้าร่วมชี้แจงสภาพปัญหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาดังกล่าวถูกเปิดเผยในเดือนมกราคม 2565 เมื่อเกิดคดีข้าราชการระดับสูงของฟินแลนด์ต้องสงสัยรับสินบนบริษัทนายหน้าพาแรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ จึงมีการสืบสวน พบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ด้วย เนื่องจากมีการยึดพาสปอร์ตแรงงานไทย แรงงานได้รับค่าจ้างที่ไม่เป็นธรรม ไม่ตรงตามสัญญาการจ้าง 

โดยการหารือครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าตรวจค้นบริษัทของผู้ต้องหาชาวไทยที่ถูกตำรวจฟินแลนด์จับกุม พบเอกสารจัดตั้งบริษัท ข้อมูลแรงงานไทย เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ต้องหาใช้ในการโกงผลไม้ป่า ทำให้แรงงานไทยจำนวนมากตกเป็นหนี้สินกับทางบริษัท โดยหลังจากนี้ ดีเอสไอจะส่งมอบหลักฐานให้ทางการฟินแลนด์ต่อไป

เสียงโหวตผู้ใช้ ‘ทวิตเตอร์’ เกินครึ่ง สั่ง ‘อีลอน มัสก์’ ลงจากตำแหน่งซีอีโอ

(20 ธ.ค. 65) สำนักข่าวซินหัว เผย ารสำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ใช้งาน ‘ทวิตเตอร์’ โดยใช้ระยะเวลานาน 12 ชั่วโมง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบเสียงส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.5 ของการโหวต 17.5 ล้านเสียง มองว่า ‘อีลอน มัสก์’ ควรลงจากตำแหน่งซีอีโอของทวิตเตอร์ ขณะร้อยละ 42.5 มองว่าเขาควรดำรงตำแหน่งต่อไป

สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ รายงานว่าผลสำรวจดังกล่าวปรากฏขึ้นหลังจากมีการถกเถียงบนทวิตเตอร์ แพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ที่เกิดความวุ่นวายนับตั้งแต่มัสก์เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนตุลาคม และสั่งเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากในเวลาต่อมา

ก่อนหน้านี้เมื่อวันอาทิตย์ (18 ธ.ค.) ทวิตเตอร์ประกาศแผนการห้ามผู้ใช้งานชักชวนผู้ติดตามบนทวิตเตอร์ไปติดตามพวกเขาบนอินสตาแกรม เฟซบุ๊ก หรือมาสโตดอน (Mastodon) พร้อมเตือนว่าผู้ใช้งานทวิตเตอร์ที่ละเมิดกฎใหม่นี้หลายครั้งจะถูกระงับบัญชีการใช้งานถาวร

นราธิวาส-รองแม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ช่วยเหลือกำลังพลและประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง

(20 ธ.ค.65 ) พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 /รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าและคณะ ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ รวมทั้งให้ความช่วยเหลือกำลังพลและครัวครัวภายในค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลมะรือโบออก อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส และชุมชนโดยรอบที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสถานการณ์น้ำท่วม หลังจากในพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบถุงยังชีพและอาหารปรุงสุกนำไปแจกจ่ายให้กำลังพล ครอบครัว และประชาชนบริเวณรอบค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมนำความห่วงใยจากแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เพื่อเป็นขวัญกำลังให้ทุกคนอดทนฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่า “ทหารพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างและดูแลบำบัดทุกข์บำรุงสุข ให้กับประชาชนในทุกโอกาส” 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ นำทีมเข้าตรวจสอบโรงงานเย็บผ้าในพื้นที่แม่สอด หลังพบข้อมูลการใช้แรงงานบังคับ

ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย กรณีพบโรงงานในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก บังคับใช้แรงงานมากถึง 99 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยทราบภายหลังว่า โรงงานที่ปรากฏในสื่อ คือ บริษัท วี เค การ์เม้นท์ จำกัด มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เลขที่ 48, 50, 52, 54, 56, 126, 128 และ 130 ซ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน 13 ถ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ประกอบกิจการรับจ้างเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป โดยมีสาขาอยู่ที่เลขที่ 608 หมู่ 7 ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก มีลูกจ้างรวม 146 คน (แยกเป็นลูกจ้างสัญชาติไทย 6 คนสัญชาติเมียนมา 140 คน)

จากกรณีดังกล่าว วันนี้ (20 ธ.ค.65 ) เวลาประมาณ 12.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท./หน.ชุดปฏิบัติการ TATIP, พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ตาก และ นายเกริกไกร นาสมยนต์ ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตม.จว.ตาก เจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด บูรณาการกำลังเข้าตรวจสอบข้อมูลยังสถานที่ดังกล่าว

จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อปี 2563 บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้คำสั่งสินค้าลดลง จึงประสงค์ลดวันทำงาน จาก 6 วัน เหลือ 5 วัน ต่อสัปดาห์ พร้อมให้ลูกจ้างเขียนใบสมัครใหม่ ลูกจ้างไม่ยินยอม นายจ้างจึงไม่ให้ลูกจ้างเข้าทำงาน ซึ่งทางพนักงานตรวจแรงงานได้แก้ไขข้อขัดแย้งแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ส.ค.63 มีลูกจ้างบางส่วนยินยอมเขียนใบสมัครใหม่ ส่วนที่เหลือ 136 คน ไม่ยินยอมและได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำย้อนหลังตั้งแต่ปี 2560 ค่าล่วงเวลา ค่าจ้างในการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าชดเชย ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ซึ่งมีการฟ้องร้องคดีต่อศาลแรงงานภาค 6 ตามคดีหมายเลขดำที่ ร324/2564 ศาลมีคำพิพากษาแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานในส่วนของค่าชดเชย โดยสั่งจ่ายเพิ่มขึ้นตามอายุงานจริงที่นำสืบได้ภายหลัง ตามคดีหมายเลขแดงที่ ร1030/2565 ปัจจุบันนายจ้าง (โจทก์) และลูกจ้างกับพวกรวม 136 คน (ผู้ร้องสอด) อยู่ในระหว่างอุทธรณ์คำพิพากษาศาลแรงงานภาค 6 เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.65

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ภ.จว.ตาก ร่วมกับเจ้าหน้าที่สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ดำเนินการสอบสวนปากคำแรงงานทั้งหมด โดยจะประสานกับทีมสหวิชาชีพ จัดหาสถานที่สอบสวน และประสานหาล่ามแปลภาษา เพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นไปตามข้อเท็จจริง นอกจากนั้นจะให้ทางอุตสาหกรรมจังหวัด เตรียมจัดหาตำแหน่งงานมารองรับ เพื่อความปลอดภัยและสบายใจของแรงงาน เนื่องจากแรงงานดังกล่าวไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด รวมถึงการสู้รบตามแนวชายแดน ในส่วนของลูกจ้างที่เข้าให้ปากคำกับตำรวจ จะได้ประสานตำรวจท้องที่ เพื่อให้ประสานกับเจ้าของโรงงาน เพื่อให้ได้รับการดูแลตามสิทธิ

รมช.กลาโหม ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบเหตุ เรือหลวงสุโขทัย ภรรยาพลทหารชนัญญู ดีใจมีการช่วยเหลือคนล่าสุด

จากกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยประสบอุบัติเหตุเรือเอียง 60 องศาจากคลื่นลมแรง สาเหตุจากเครื่องไฟฟ้าดับ ขณะกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ แล้วเครื่องไฟฟ้าดับ เครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมาก่อนจะมีการเปิดเผยว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำแล้ว เนื่องจากมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจในนามของนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ลงมาเร่งหาสาเหตุ และหาทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก สิ่งสำคัญที่สุดคือ คาดหวังว่าให้ทุกคนยังมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย โดยได้เดินทางไปฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ฯ พร้อมกับเดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานงาน โดยมีญาติของทหารเรือที่ยังหาไม่พบรอข่าวการค้นหาจนล่าสุดได้รับแจ้งว่าได้มีการ ช่วยเหลือ พลทหารชนัญญู แก่นศรียา สังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) ซึ่งลอยคอกลางทะเล และเรือขนสินค้าภูมินาราได้ช่วยเหลือขึ้นมา แล้ววิทยุแจ้งให้เรือหลวงอ่างทอง กำลังเดินทางไปรับ ทำให้ผู้สูญหายเหลือ 29 ราย

กองทัพเรือ โดยโรงเรียนนายเรือ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกวันคล้ายวันประสูติ และครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี เสด็จเตี่ย

กองทัพเรือ โดยโรงเรียนนายเรือ จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระใหม่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 พิธีถวายสักการะ และพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อน้อมรำลึกวันคล้ายวันประสูติ และครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ “องค์บิดาของทหารเรือไทย"

พลเรือโท ประวุฒิ รอดมณี ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ เป็นประธาน ในพิธีทำบุญตักบาตรพระใหม่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 พิธีถวายสักการะ และพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อน้อมรำลึกวันคล้ายวันประสูติ และครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยมีพลตำรวจตรีหญิง ดร.สุรัมภา รอดมณี ภริยา ผู้แทนจากราชสกุลอาภากร ผู้แทนจากสามสมอสมาคม และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดสมุทรปราการ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของโรงเรียนนายเรือ พร้อมด้วยกำลังพลของโรงเรียนนายเรือ และนักเรียนนายเรือ เข้าร่วมพิธีฯ ณ โรงเรียนนายเรือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 

โดยในเวลา 07.30 น.ทำพิธีทำบุญตักบาตรพระใหม่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 จำนวน 60 รูป ประกอบพระใหม่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 จำนวน 56 รูป และพระพี่เลี้ยงจากวัดบวรนิเวศวิหารจำนวน 4 รูป โดยโรงเรียนนายเรือได้จัดกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทก่อนสำเร็จการศึกษาของนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 5 ประจำปีการศึกษา 2565 จัดขึ้นเพื่อน้อมเกล้าอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสวันพ่อแห่งชาติ และถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อน้อมรำลึกในโอกาสครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี

ตลอดจน เพื่อให้นักเรียนนายเรือ ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรม ซึ่งจะเป็นการพัฒนาด้านศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม ก่อนสำเร็จการศึกษาเป็นนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพเรือ 

ต่อมาในเวลา 09.00 น.ทำพิธีถวายสักการะฯ โดยมีกิจกรรมดังนี้...

- พิธีประดับตราสัญลักษณ์ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี

- พิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายสักการะฯ

- พิธีกล่าวคำสดุดีเทิดพระเกียรติฯ 

และหลังเสร็จสิ้นพิธีถวายสักการะฯ แล้วได้มีการสวดน้อมใจกันสวดมนต์บูชาธรรม ถวายพระพรชัยมงคล แด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้พระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน 

ซึ่งทุกหน่วยงานในกองทัพเรือทั่วประเทศได้ทำกิจกรรมดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน ซึ่งกองทัพเรือได้กำหนดให้โรงเรียนนายเรือเป็นพื้นที่รองในการจัดกิจกรรมฯ

และในเวลา 10.00 น.ทำพิธีบำเพ็ญกุศลฯ โดยก่อนเริ่มพิธีบำเพ็ญกุศลได้เปิดวีดีท้ศน์เทิดพระเกียรติกรมหลวงชุมพรฯ ชื่อ"พลังศรัทธา เสด็จเตี่ย ของนักเรียนนายเรือ" และการเชิญผู้ร่วมพิธียืนถวายสักการะพระสาทิสลักษณ์ภาพวาดสีน้ำมัน ซึ่งพระสาทิสลักษณ์ฯดำเนินการสร้างเมื่อปี 2506 โดยพลเรือเอก สวัสดิ์ ภูติอนันต์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ขอให้ จำรัส เกียรติก้อง ศิลปินนักเขียนภาพเหมือนที่มีชื่อเสียงและฝีมือเป็นเลิศ วาดพระรูปวาดสีน้ำมัน กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เพื่อประดิษฐานบนเวทีภายในหอประชุมภูติอนันต์ โรงเรียนนายเรือ เป็นพระรูปวาดสีน้ำมัน ที่วาดตามภาพต้นฉบับขณะดำรงยศ กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดุมศักดิ์ ซึ่งเป็นภาพขาวดำ ถ่ายร่วมกับนายธง เดิมชื่อ 

เรือตรี เหลียง สุนาวิน ภายหลังเลื่อนยศเป็น พลเรือโทหลวงสุนาวินวิวัฒน์ โดยเจตนาไว้ให้การสักการะพระรูปวาดสีน้ำมัน กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และให้ติดตั้งแบบมีม่าน เปิด - ปิด ได้ โดยให้เปิดใช้เฉพาะในโอกาสสำคัญ และหลังจากเสร็จพิธีฯ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือได้มอบพระสาทิสลักษณ์ภาพวาดสีน้ำมันกรมหลวงฯ ให้แก่ผู้แทนราชสกุลอาภากร ผู้แทนสามสมอสมาคม และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมถ่ายถาพเป็นที่ระลึกร่วมกัน

ได้เวลาต้นทางแห่งใหม่ 'สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์' พร้อม 52 ขบวนเชิงพาณิชย์ 'เหนือ-ใต้-อีสาน'

(21 ธ.ค. 65) เพจ 'โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure' ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า

ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. 65 เปิดให้จองตั๋วรถไฟ ต้นทางสถานีกลางฯ พร้อมรับ 52 ขบวนเชิงพาณิชย์ 19 มค. 66 มาสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

วันนี้ (20) เป็นวันแรก ที่เข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน ของจุดศูนย์กลางระบบรางไทย จากสถานีกรุงเทพ (#หัวลำโพง) สู่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (#สถานีกลางบางซื่อ) 

โดยเป็นวันแรกที่ได้มีการเปิดให้จองต้นทางใหม่ ของรถไฟเชิงพาณิชย์ 52 ขบวน ที่เริ่มต้นจาก สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ซึ่งจะกลายเป็น ต้นทาง-ปลายทาง ของทั้ง 52 ขบวนนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 66 เป็นต้นไป 

ขอให้ผู้โดยสารทุกคน เตรียมตัว ทั้งการจองตั๋วโดยสาร และการวางแผนการเดินทางให้ถูกต้องด้วยนะครับ!!!

รายละเอียดการเปิดให้บริการ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1572680416503765/?mibextid=cr9u03

การใช้บริการรถไฟทางไกล ในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 

ประตูเข้าพื้นที่รอคอยในสถานี อยู่บริเวณประตู 4 ทางด้านเหนือของสถานีกลางฯ โดยจะใกล้กับศูนย์อาหาร 

ซึ่งตรงนี้ จะมีทั้งพื้นที่โถงรอคอย พื้นที่จำหน่ายตั๋วรถทางไกล ศูนย์อาหาร เพื่อจะบริการผู้โดยสาร ก่อนขึ้นบันไดเลื่อนขึ้น ชั้น 2 เพื่อขึ้นชานชาลา 

รายละเอียดสถานีกลางบางซื่อ

สถานีกลางบางซื่อมีทั้งหมด 4 ชั้นคือ

ชั้นใต้ดิน B/B1 เป็นพื้นที่เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้า MRT บางซื่อ และอีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่จอดรถ สำหรับผู้ใช้บริการ

ชั้น 1 เป็นโถงพักคอย และจำหน่ายตั๋วโดยสาร รวมถึงทางขึ้นชานชาลาแต่ละชานชาลา 

ชั้น M1/M2 เป็นชั้นลอยด้านโถงทางเข้าหลัง ซึ่งต้องขึ้นจากชั้น 1 

ชั้น M1 เป็นพื้นที่พักคอยและศูนย์การค้า/ร้านค้า ภายในสถานี เพื่อให้ผู้โดยสารเข้าใจบริการระหว่างรอรถไฟ

ชั้น M2 เป็นพื้นที่สำนักงานและศูนย์ควบคุมสถานีของโครงการ ได้แก่รถไฟทางไกล, รถไฟฟ้าสายสีแดง, รถไฟฟ้าความเร็วสูง และรถไฟฟ้า 3 สนามบิน

ชั้น 2  เป็นพื้นที่ชานชาลารถไฟขนาดราง 1 เมตรทั้งหมด 12 ชานชาลา แบ่งเป็น...

- รถไฟทางไกล 8 ชานชาลา 
- รถไฟชานเมืองสายสีแดง 4 ชานชาลา 

ซึ่งขึ้นได้จากโถงพักคอยชั้น 1 

ชั้น 3 เป็นพื้นที่ชานชาลารถไฟขนาดราง 1.435 เมตร ทั้งหมด 12 ชานชาลา แบ่งเป็น...

-รถไฟความเร็วสูงสายใต้ 4 ชานชาลา
-รถไฟความเร็วสูงสายเหนือ/อีสาน 6 ชานชาลา
-รถไฟเชื่อม 3 สนามบิน/สายตะวันออก 2 ชานชาลา

รายละเอียดการจัดวางพื้นที่ภายในสถานีกลางฯ
https://www.facebook.com/491766874595130/posts/1090660238039121/?mibextid=cr9u03

'เฉลิมชัย' เดินหน้าพัฒนาประจวบคีรีขันธ์เป็นมหานครสับปะรดของโลก หลังไทยยืนหนึ่งแชมป์โลกส่งออกสับปะรด

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายจาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เป็นประธานเปิดงานและบรรยายในการประชุมใหญ่ครั้งที่38ของสหกรณ์ชาวไร่สับปะรดสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายมนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ นายอำเภอสามร้อยยอด สหกรณ์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนราชการต่างๆ นายชาญชัย ธนะกมลประดิษฐ์ ประธานและคณะกรรมการอำนวยการสหกรณ์และสมาชิกให้การต้อนรับ โดยนายอลงกรณ์กล่าวบรรยายว่าสถานการณ์การเพาะปลูกและผลผลิตสับปะรดในปี 2565 มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 457,255 ไร่ คิดเป็นปริมาณผลผลิต 1.772 ล้านตัน โดยแหล่งผลิตสำคัญ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี เพชรบุรี พิษณุโลกและระยอง 

ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 3 ปีที่ผ่านมาร้อยละ 0.39 ร้อยละ 2.68 และร้อยละ 2.27 ตามลำดับ ทางด้านราคาตั้งแต่ปี 2563 ถึงต้นปี 2564 ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีทำให้เกษตรกรรายใหม่ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นนายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า ศักยภาพของประเทศไทยในฐานะประเทศผู้ส่งออกสับปะรดและผลิตภัณฑ์สับปะรดกระป๋องเป็นอันดับ1ของโลกด้วยมูลค่า2หมื่นล้านบาทครองสัดส่วนตลาดโลก32%ตามมาด้วยฟิลิปปินส์22% ซึ่งพื้นที่ปลูกสับปะรดมากที่สุดและมีโรงงานสับปะรดมากที่สุดคือประจวบคีรีขันธ์จึงเป็นเสมือนมหานครสับปะรดของไทยและของโลก โดยการบริหารจัดการสับปะรดเชิงโครงสร้างและระบบ และการกำหนดแผนและเป้าหมายการเป็นมหานครสับปะรดของโลก ภายใต้ คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติที่มีรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์เป็นประธาน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน ได้ปรับแผนเดิมเป็นแผนใหม่รับมือวิกฤติโควิด19เมรียกว่าแผนพัฒนาสับปะรดปี 2563-2565 พร้อมกับจัดทำแผนพัฒนาสับปะรด5ปี(2566-2570)เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตการแปรรูปและการตลาด

‘บิ๊กตู่’ ยินดี ‘OTOP City 2022’ กระแสตอบรับดี ผ่านครึ่งทาง มีผู้เข้าชม 8.6 หมื่นคน เงินสะพัด 243 ลบ.

‘พล.อ.ประยุทธ์’ ยินดี ครึ่งทางงาน OTOP City 2022 กระแสตอบรับดี คนเข้าชมงาน 8.6 หมื่นคน มียอดจำหน่ายแล้วกว่า 243 ล้านบาท สะท้อนผลสำเร็จนโยบายการพัฒนาสินค้า OTOP สอดคล้อง BCG ช่วยสร้างงาน สร้างรายได้

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบและยินดีที่ได้รับรายงานจากกรมการพัฒนาชุมชน ระบุการจัดงานงาน OTOP City 2022 ภายใต้แนวคิด 'มอบความสุขจากภูมิปัญญา ส่งต่อคุณค่าจากฝีมือคนไทย' ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 17-25 ธันวาคม 2565 ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีกระแสตอบรับที่ดี ประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงาน และหลังจากจัดงานมาได้ครึ่งทางคือระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคม 2565 มีจำนวนผู้เข้าชมงานสูงถึง 86,185 คน มียอดจำหน่ายสะสมแล้ว 243,332,107 บาท จากผลิตภัณฑ์ประเภทต่างๆ เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ผ้าและเครื่องแต่งกาย ของใช้ ของตกแต่งฯ  สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร OTOPชวนชิม ศิลปินOTOP ผ้าไทยใส่ให้สนุก OTOPขึ้นเครื่อง  OTOP Premium OTOP Brandname ของขวัญของฝาก เป็นต้น 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ในงานนี้ด้วยยอดขายสะสมประมาณ 243 ล้านบาท คิดเฉลี่ยรายได้สะสม 95,574 บาทต่อผู้ประกอบการ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีการสร้างรายได้จากงานนี้ให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 2,538 ราย และ 8 องค์กร และ 500 รายทางแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Shopee ซึ่งประเภทผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ผ้าและเครื่องแต่งกาย 95,937,722 บาท, ศิลปินOTOP 28,283,260 บาท, อาหาร 23,380,762 บาท, ของใช้ของตกแต่ง 22,412,832 บาท และ OTOPชวนชิม 13,733,452 บาท โดยข้อมูลวันที่ 20 ธันวาคมผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 5 อันดับ คือ เครื่องประดับทอง จากจ.สุโขทัย ทองรูปพรรณลายโบราณจากจ.สุโขทัย ผ้าไหมยกดอกจากจ.ลำพูน เครื่องประดับจากจ.สระแก้ว และเครื่องประดับอัญมณีจากกรุงเทพฯ

สืบนครบาลรวบ 'หมูฟ้า' หลอกทุกกระบวนท่าเจ้าตัวอ้างแค่บัญชีม้าตำรวจไม่เชื่อ

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก  โดยต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาล ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวหมูฟ้า หรือ น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล มีพฤติการณ์หลอกหลวง 'หลายรูปแบบ' เช่น หลอกลวงแฮ็คเฟสบุ๊คผู้เสียหายสูงอายุเอาข้อมูลรหัส ID Password เพื่อยืมเงินคนอื่น , ใช้หน้าไลน์ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกเอาเงิน ,หลอกลงทุนผ่านเพจ DM WALL , หลอกขายของออนไลน์ผ่าน Facebook Mami Mami เป็นต้น  และจากการตรวจสอบพบบัญชีที่เกี่ยวข้องกว่า 10 บัญชีที่เป็นชื่อ น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล มีเงินหมุนเวียนในบัญชีร่วมล้านบาท สืบสวนนครบาลจึงได้เร่งรัดออกสืบสวนติดตาม

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 09.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.4 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.รัฐนันท์ สมวงศ์ รอง ผกก.ฯ เจ้าหน้าที่ กก.สส.4 บก.สส.บช.น. และ สภ.แม่ปิง ร่วมสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล หรือ หมูฟ้า อายุ 20 ปี ที่อยู่ 51 หมู่ที่ 7 ตำบลศรีชมภู  อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ผู้ต้องหา พบหมายจับจำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย
1. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1028/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
2. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1029/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
3. หมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 1030/2565 ลงวันที่ 19 พ.ย.65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน 'ฉ้อโกงฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์' ท้องที่ สภ.แม่ปิง
โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบื่อน หรือปลอมไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด”

โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณซอยเทศบาลบางปู 69/3 ถนนสุขุมวิท ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก น.ส.ดวงอรทัย ไพทูล หรือหมูฟ้า ได้ตระเวนก่อเหตุฉ้อโกงในโลกออนไลน์ หลายรูปแบบ เช่น ใช้หน้าไลน์ปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อหลอกเอาเงิน , หลอกลงทุนผ่านเพจ DM WALL , หลอกขายของออนไลน์ผ่าน Facebook Mami Mami โดยก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 คดี โดยล่าสุดได้หลอกลวงแฮ็คเฟสบุ๊ค และไลน์ของผู้เสียหายหญิงสาววัย 59 ปี โดยหลอกเอาข้อมูลรหัส ID Password จากเฟสบุ๊คโดยการแสร้งสนทนาเพื่อขอหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นเมื่อได้หมายเลขโทรศัพท์แล้วก็นำหมายเลขโทรศัพท์ของเหยื่อ ใส่เข้าไปใน ID ช่อง Login แล้วแจ้งลืม Password เพื่อให้ระบบส่งข้อความ OTP เข้าไปยังโทรศัพท์ของเหยื่อ จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อแค็ปภาพหน้าขอข้อความดังกล่าวส่งกลับมาให้ ทำให้เฟสบุ๊คของเหยื่อตกไปอยู่ในมือผู้ต้องหาทันที และจากนั้นก็เข้าไปตระเวนยืมเงินจากเพื่อนในแอ็พพลิเคชั่น ซึ่งต่อมาผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่กระทั่งได้มีการออกหมายจับ น.ส.ดวงอรทัยฯ เป็นจำนวน 3 หมายจับ ซึ่งต่อมา ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งเรื่องความเดือนร้อนของประชาชนทางเพจ 'สืบสวนนครบาล IDMB' ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว น.ส.ดวงอรทัยฯ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนากร อ่อนทองคำ ผกก.4 บก.สส.บช.น. นำทีม กก.สส.4 บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามจับกุมตัว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top