Tuesday, 22 April 2025
DemocratPartyTH

“ดร.พิสิฐ” ขอให้คลังจัดหมวดหมู่กองทุนหมุนเวียนให้รวมเฉพาะส่วนที่เป็นงานของราชการ เพื่อความโปร่งใสทางการคลัง

ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายในวาระรับทราบรายงานผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียน ประจำปีบัญชี 2562 ว่า กองทุนต่างๆ ที่มีอยู่ 115 กองทุนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของระบบการคลัง และเป็นส่วนเสริมของระบบงบประมาณแผ่นดิน  ซึ่งมีวงเงินประมาณ 3 ล้านล้านบาทต่อปี แต่ยอดรวมกองทุนที่รวบรวมมานำเสนอนี้ มีตัวเลขที่สูงถึงกว่า4 ล้านล้านบาท ดูประหนึ่งว่าเงินในกองทุนเหล่านี้มีมากมายมหาศาล และเป็นที่เพ่งเล็งกันว่าน่าจะนำมาใช้จ่ายเพื่อประโยชน์ทางการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่านี้ 

ดร.พิสิฐ ชี้ว่า ตัวเลขที่ได้รวบรวมมาเสนอต่อสภานี้ แม้ได้ทำไปตามกฎหมายกองทุน ที่จะต้องนำเสนอภาพรวมต่อครมและสภา แต่หากทำในลักษณะนี้จะทำให้เกิดความไขว้เขวว่าเรามีเงินเยอะ ความจริงแล้วในบรรดา 4 ล้านล้านบาทที่ปรากฎในรายงาน กว่าครึ่งหนึ่งเป็นของกองทุนประกันสังคม ซึ่งเงินกองทุนประกันสังคมก็เป็นเงินของลูกจ้างที่ได้จ่ายสะสมและนายจ้าง กับรัฐได้จ่ายสมทบให้ทำให้เงินกว่าครึ่งหนึ่งหรือสองล้านล้านบาทเราจะไปแตะต้องไม่ได้ และไม่ควรนำมารวมอยู่ในรูปของกองทุนณ ที่นี้ นอกจากนี้ยังเงิน กองทุน กบข. ก็เป็นเงินออมของข้าราชการที่สะสมเก็บเพื่อใช้ยามเกษียณ มียอดเกือบ1 ล้านล้านบาท ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า จากยอด 4 ล้านล้านบาทที่ได้รวบรวมมา มีถึง 3 ใน 4 ที่ไม่ใช่เงินของรัฐบาลโดยตรง แต่เป็นเงินที่มีกฎหมายรองรับอยู่ว่าเป็นของผู้อื่น ยังมีเงินกองทุนที่มีจำนวนเงินไม่มาก ตัวอย่างเช่นกองทุนผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาเป็นต้นก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน

แม้กระทั่งเงินที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลต่างๆเช่น เงินกองทุนน้ำมัน ที่มีกว่า 4 หมื่นล้านบาท ที่ฝากไว้ที่กระทรวงการคลัง และกระทรวงการคลังเก็บเป็นส่วนหนึ่งของเงินคงคลัง ก็เป็นอีกก้อนหนึ่งที่แตะต้องไม่ได้ เพราะมีกฎหมายบังคับเฉพาะอยู่แล้วว่าไม่อาจใช้เพื่อการอื่นได้ แต่ใช้เพื่อพยุงราคาน้ำมันเท่านั้น 

ดังนั้น ดร.พิสิฐ จึงได้เน้นถึงเรื่องการแยะแยะเงินเหล่านี้ โดยจัดหมวดหมู่ของกองทุนต่างๆให้ชัดเจน 
แต่ที่คลังได้จัดหมวดหมู่มา 5-6 ประเภทในรายงานนั้น ไม่น่าจะเกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์ หรือประเมินภาพรวมเงินกองทุนตามเจตนารมย์ของกฎหมายกองทุนควรเลือกเฉพาะกองทุนที่มีลักษณะคล้ายกับงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินคือมีแหล่งรายได้หลักมาจากรัฐบาล หรือเป็นรายได้ที่รัฐบาลกำหนดให้ และเป็นงานที่มีลักษณะส่งเสริมสนับสนุนนโยบายส่วนกองทุนอย่าง กองทุนประกันสังคม กองทุน กบข. ที่มีกฎหมายรองรับอยู่แล้ว มีเจ้าของเงินชัดเจนก็จะต้องจัดไว้อีกหมวดหมู่หนึ่ง เพราะถือว่ามีลักษณะเชานเดียวกับรัฐวิสาหกิจที่มีเงินมาก แต่แยกตัวออกไปไม่ใช่กองทุน ซึ่งหากได้จะจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจนตามที่เสนอนี้ เราก็จะได้ประโยชน์ มีความชัดเจนโปร่งใส ได้ข้อมูลเงินนอกงบประมาณที่ช่วยนำมาใช้วิเคราะห์งบประมาณรายจ่ายและหนี้สินทรัพย์สินในะบบการคลังได้

ทุกวันนี้มีปัญหาว่า จะมีความพยายามใช้เงินในระบบงบประมาณแผ่นดิน แต่เมื่อจ่ายไปแล้ว เงินอาจไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่อาจจะไปจมอยู่ในกองทุนต่างๆ และไม่ออกไปนอกระบบการคลังทำให้กองทุนเหล่านี้กลายเป็นบ่อพักของเงินงบประมาณแผ่นดิน และไม่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการใช้จ่ายของรัฐบาล

ขณะเดียวกัน หากจะวิเคราะห์ลึกลงไป ก็พบว่ายังมีเงินอีกหลายประเภทที่มีลักษณะคล้ายเงินกองทุนดังกล่าว เช่น เงินทุนหมุนเวียนในหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมๆว่าเงินนอกงบประมาณ จะมีวิธีการใดหรือไม่ที่จะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ให้มาแสดงภาพรวมด้วยกัน เพื่อจะได้เห็นว่าเงินแผ่นดินเหล่านั้นมีจำนวนเท่าใด  เช่น เงินที่เกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยต่างๆ โรงเรียนต่างๆ ของรัฐได้จากค่าเล่าเรียนที่เป็นเงินนอกงบประมาณ ซึ่งต้องถือว่าเป็นบัญชีเงินทุนหมุนเวียนเช่นกัน 

ประชาธิปัตย์ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 'จุรินทร์' ชวนสนับสนุนสถาบันการเมืองให้เติบโตก้าวหน้ารับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป

เมื่อวานนี้ (6 เม.ย. 66) เวลา 08.00 น. ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์จัดพิธีทำบุญครบรอบ 77 ปี ของการก่อตั้งพรรคขึ้นที่สำนักงานใหญ่ งานดังกล่าวจัดขึ้นทุกปีโดยเริ่มจากช่วงเช้าจะมีการเริ่มพิธีทางศาสนาอิสลาม ต่อด้วยพิธีพราหมณ์เพื่อบวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของพรรค จากนั้นจะได้ประกอบพิธีทางศาสนาพุทธ 

สำหรับช่วงทำพิธีศาสนาอิสลามมีแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ นายนิพนธ์ บุญญามณี นายสุทัศน์ เงินหมื่น ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ไปจนถึงผู้สมัคร ส.ส. ทั้งจาก กทม. และต่างจังหวัดเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในพิธีของทุกศาสนา

หลังเสร็จพิธีทางศาสนาอิสลาม นายจุรินทร์ได้กล่าวกับพี่น้องมุสลิมที่ร่วมในพิธีว่า พี่น้องชาวประชาธิปัตย์ทุกท่าน วันนี้ถือว่าเป็นวันมงคลยิ่งอีกวันหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเป็นวันคล้ายวันเกิดของพรรคซึ่งเวียนมาบรรจบครบ 77 ปีบริบูรณ์ในวันนี้ และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 78 ซึ่งทุกปี เราก็ทำพิธีศาสนาทั้ง 3 ศาสนา คือทั้งศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์และศาสนาพุทธ เป็นดังนี้นับเนื่องมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับทุกศาสนาเพราะว่าทุกศาสนาล้วนสอนคนให้เป็นคนดีและซื่อสัตย์สุจริต ดังเช่นที่ประชาธิปัตย์ก็ได้ยึดมั่นต่อเนื่องตลอดมา

อย่างไรก็ตาม ขออนุญาตเรียนกับพวกเราว่าก้าวที่เราเดินข้ามปีที่ 77 หลังจากนี้ไปสู่ปีที่ 78 นั้น เราไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ผมยังมั่นใจว่าภายใต้อุดมการณ์ ภายใต้ผลงาน ภายใต้ความซื่อสัตย์ สุจริต ที่พวกเรายึดมั่นเสมอมาตลอดระยะเวลาตั้งแต่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งพรรค มาจนวันนี้และวันหน้า จะทำให้เราก้าวต่อไปไม่มีวันสิ้นสุดสำหรับความเป็นพรรคประชาธิปัตย์ 

และสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ภายใต้ความเป็นเอกภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพวกเรา ผมมั่นใจว่าเราสามารถที่จะจับมือกันขับเคลื่อนพรรคไปสู่ความสำเร็จในการเลือกตั้งได้อย่างแน่นอน พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศทั้งที่เคยเลือกเรา แล้วก็ไม่เคยเลือกเรา ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ผมต้องขอถือโอกาสนี้ขอบคุณด้วยความจริงใจจากพวกเราชาวประชาธิปัตย์ทุกคน และขอถือโอกาสนี้เชิญชวนพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศได้โปรดช่วยกันสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศ พรรคการเมืองที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ความซื่อสัตย์ สุจริต การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวมและประเทศอันเป็นที่รักยิ่งของเรา

'สุกฤษฏิ์ชัย' จี้รัฐบังคับใช้กฎหมายคุมวิกฤตอุตสาหกรรม ยกเหตุ 'กากแคดเมียม-ไฟไหม้โกดังหลายจังหวัด' ไม่ควรเกิดอีก

ไม่นานมานี้ นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์และผู้ช่วยผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ (หน่วยงานดีเด่นแห่งชาติสาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) กล่าวว่า...

ช่วงเดือนที่ผ่านมา ต้องขอแสดงความห่วงใยและรู้สึกกังวลใจต่อหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา ทั้งการได้ลงพื้นที่เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ เพื่อสังเกตการณ์ ตั้งแต่มีข่าวเรื่องพบโกดังเก็บกากแคดเมียม ก็ติดตามการแก้ไขปัญหานี้อย่างใกล้ชิด มาจนถึงการจัดการขนย้ายกลับไปยังจังหวัดตาก ก็พบว่าในหลายขั้นตอนของการขนย้าย อาจไม่ปลอดภัยถูกต้องเพียงพอ แสดงให้เห็นถึงความไม่สนใจต่อปัญหานี้เท่าที่ควร ทั้งที่เป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศ รวมถึงเกิดเหตุไฟไหม้ที่มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับพื้นที่โกดังเก็บกากอุตสาหกรรม กระดาษรีไซเคิลและสารเคมีในหลายพื้นที่ ทั้งชลบุรี, ระยอง, สมุทรสาคร รวมถึงล่าสุดที่พระนครศรีอยุธยา ซึ่งใกล้ชุมชนและโรงพยาบาล

เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน กระทบต่อระบบนิเวศและธรรมชาติของพื้นที่อย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฝุ่นพิษ ฟุ้งกระจายไปในอากาศเป็นจำนวนมาก เป็นการเร่งปฏิกิริยาต่อสภาวะโลกร้อน ทวีความรุนแรงอย่างที่เรากำลังเผชิญสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นวิกฤติทางสิ่งแวดล้อมที่พวกเราจะหลีกหนีไม่ได้อย่างถาวรในที่สุด

ภาครัฐควรบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ออกมาตรการจัดการกับผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ มีแผนเผชิญเหตุที่ทันสมัยและรวดเร็ว ผู้ทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งระดับนโยบาย ระดับบริหาร และระดับปฏิบัติการ ต้องเอาจริงเอาจัง หากปล่อยปละละเลย ควรได้รับบทลงโทษทั้งทางวินัยและทางกฎหมาย อีกทั้งต้องนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งการขอใบอนุญาต ตรวจสอบจำนวน การขนย้าย การนำเข้าหรือส่งออก การนำไปใช้ที่ต้องตรงกับวัตถุประสงค์ ต้องอยู่ในกำกับของภาครัฐทั้งหมด เพื่อป้องกันเหตุไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต ควรส่งเสริมให้ภาคธุรกิจลดการใช้สารเคมีที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมต่อธรรมชาติมากขึ้น 

"ในตอนนี้ เรากำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อม วิกฤตอุตสาหกรรม หรือวิกฤตการบังคับใช้กฎหมาย” นายสุกฤษฏิ์ชัย ทิ้งท้าย

‘สุกฤษฏิ์ชัย-ปชป.’ ชวนทุกคนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม-ดูแลธรรมชาติ ร่วมสร้างโลกที่น่าอยู่-ส่งต่ออากาศบริสุทธิ์ให้รุ่นลูกหลานสืบต่อไป

(2 ก.ย. 67) นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ (หน่วยงานดีเด่นแห่งชาติสาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) และที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... ในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า…

“ในเดือนกันยายน เป็นเดือนที่มีความสำคัญต่อวงการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไทยและสากลอย่างยิ่ง เนื่องจากในวันที่ 1 กันยายน เป็นวันสืบ นาคะเสถียร ซึ่งวันดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้เราร่วมกันรำลึกถึงคุณงามความดี และความเสียสละของวีรบุรุษของผืนป่าไทย ซึ่งได้เสียสละชีวิตเพื่อเรียกร้องและสะท้อนปัญหาของทรัพยากรธรรมชาติให้สาธารณชนได้รับรู้ และตระหนักถึงอุดมการณ์อย่างแน่วแน่ในการรักษาผืนป่า รวมถึงในวันที่ 7 กันยายน ยังเป็นวันอากาศสะอาดสากล ที่ทั่วโลกโดยเฉพาะภาคประชาสังคมและกลุ่มอนุรักษ์จะได้จัดกิจกรรม รณรงค์เพื่อการเรียกร้องและทวงคืนอากาศสะอาด ปราศจากมลพิษ ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ทุกคนควรจะต้องได้รับ อย่างมิต้องสงสัย

ข้อมูลจากงานวิจัยที่นำโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโมนาชของออสเตรเลียเปิดเผยว่า มีประชากรโลกเพียง 0.001% เท่านั้น ที่มีอากาศสะอาด ความหมายคือ แทบไม่มีที่ไหนในโลกเลยที่ปราศจากหมอกควันหรือฝุ่นพิษ รวมถึงข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติระบุว่า ในปี 2020 จำนวนพื้นที่ป่าไม้บนโลกมีอยู่ที่ร้อยละ 31 ของพื้นที่บก และมีแนวโน้มลดลงทุกวัน ฉะนั้นแม้ว่าจะมีวันสำคัญไว้ให้ตระหนักหรือรำลึกนึกถึง แต่การรณรงค์และการลงมือทำคือสิ่งสำคัญยิ่ง และการลงมือทำด้วยตัวเราเองคือสิ่งสำคัญที่สุด โดยการสนับสนุนที่ถูกต้องและทั่วถึงจากทางภาครัฐ ก็จะเป็นส่วนเติมเต็มสำคัญได้และบรรลุเป้าหมายได้อย่างดี 

ดังนั้นการดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันสร้างโลกที่น่าอยู่ อนาคตที่ยั่งยืน มั่นคงและปลอดภัย สำหรับคนรุ่นหลังต่อไป

‘สุกฤษฏิ์ชัย’ ที่ปรึกษากมธ. ‘อากาศสะอาด’ เดินหน้ารณรงค์ ชี้!! ต้องเร่งผลักดันกม. - เตรียมความพร้อมรับมือ - สร้างการตระหนักรู้

(8 ก.ย. 67) นายสุกฤษฏิ์ชัย ธีระเริงฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการมูลนิธิสถาบันราชพฤกษ์ (หน่วยงานดีเด่นแห่งชาติสาขาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) กล่าวถึงในกิจกรรม ‘Unmask the Future’ ซึ่งจัดโดยภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมและภาคประชาชนตื่นรู้ (Active Citizen) ในประเทศไทย เนื่องในโอกาสวันอากาศสะอาดสากล (International Clean Air Day) ซึ่งเริ่มขึ้นปี ค.ศ.2020 อันเป็นผลจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของอากาศบริสุทธิ์ต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตของพวกเราทุกคน ซึ่งตนมีบทบาทในการเป็น ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... ในสภาผู้แทนราษฎร ด้วยนั้น

ขอสนับสนุนและขอรณรงค์เรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วน พร้อมมีข้อเสนอ 3 ข้อ คือ

1.ภาคการเมือง ควรเร่งรัดและผลักดันให้กฎหมายอากาศสะอาด มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดการกับปัญหานี้ ให้ทันฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง รวมถึงการประสานงานเรื่องฝุ่นควันข้ามแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 

2.ภาคราชการ ดำเนินการสั่งการและประสานงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือวิกฤติมลพิษฝุ่นควันพิษ ทั้งในแง่การป้องกัน การปราบปรามและดูแลด้านสุขภาพ เพื่อลดผลกระทบที่จะมีขึ้นต่อประชาชนให้น้อยที่สุด

3.ภาคประชาสังคมร่วมกันสร้างการตระหนักรู้และให้ความรู้ รวมถึงการป้องกันกับภาคประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยภาคราชการไม่ว่าจะเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขและอื่นใดที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามปัญหาสิ่งแวดล้อมนี้ เป็นปัญหาสำคัญที่ใกล้ตัวพวกเรามาก เรารับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นการแก้ปัญหาร่วมกันจากทุกภาคส่วน จากทุกคน คือหนทางการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top