Monday, 21 April 2025
2475รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

ลับแลกระจก : บานกระจกที่เชื่อมอดีต และปัจจุบัน พร้อมความลับแห่งประวัติศาสตร์ใน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

หากคุณได้ชมภาพยนตร์ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ฉากหนึ่งที่อาจผ่านตาแต่ไม่ทันสังเกต คือฉากในห้องลับหลังหอสมุดวชิรญาณ ที่ตัวละคร 'ลุงดอน' บรรณารักษ์ผู้เงียบขรึม เก็บกระจกบานใหญ่ไว้ในความมืด หากไม่ได้ใส่ใจ คุณอาจมองข้ามสิ่งที่อาจเป็น 'กุญแจ' ของประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง

กระจกบานนั้นใหญ่โต โดดเด่นด้วยกรอบไม้จำหลักลายพรรณพฤกษาและลายรักร้อยผสมผสานลวดลายแบบตะวันตกอย่างกลมกลืน แต่สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจยิ่งขึ้นคือ ไม้กางเขนกับมงกุฎ สัญลักษณ์ที่อาจดูเหมือนไม่ใช่ของไทย แต่กลับปรากฏบนงานฝีมือในยุคต้นรัตนโกสินทร์ ทำให้เกิดคำถาม—กระจกนี้มาจากไหน และมีความหมายอย่างไร?

จากราชมณเฑียร วังหน้า สู่ความลับในห้องสมุด
การสืบค้นประวัติศาสตร์พาเราย้อนกลับไปสู่ราชมณเฑียร วังหน้า ที่ซึ่งกระจกบานนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชมณเฑียรของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กระจกดังกล่าวมีลักษณะเฉพาะตัว เป็นงานออกแบบที่สะท้อนการพบกันระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก—ลายไทยอันประณีตเคียงคู่กับสัญลักษณ์คริสต์ศาสนาอย่างไม้กางเขนและมงกุฎ สื่อถึงการต่อสู้ การทดสอบ และรางวัลจากสวรรค์ กระจกนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องตกแต่งพระราชมณเฑียร แต่ยังสะท้อนพระราชรสนิยมและพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ในการนำพาประเทศไทยเข้าสู่โลกสมัยใหม่

แรงบันดาลใจในวรรณกรรมและภาพยนตร์
ความลึกลับของกระจกบานนี้ยังอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับ ทวิภพ วรรณกรรมเรื่องเยี่ยมที่ตัวเอกใช้กระจกบานใหญ่เป็นช่องทางย้อนเวลา เพื่อสื่อสารและเรียนรู้จากอดีต เช่นเดียวกับบทบาทใน 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ที่กระจกนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน

กระจกในฐานะสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์
ในบริบทของภาพยนตร์ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ ลับแลกระจกไม่ได้เป็นเพียงสิ่งประกอบฉาก แต่แฝงความหมายที่ลึกซึ้ง มันเป็นเครื่องเตือนใจถึงความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย การมองอดีตเพื่อทำความเข้าใจกับปัจจุบัน และความลับที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในมุมมืดของประวัติศาสตร์

การปรากฏของลับแลกระจกในภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดของทีมผู้สร้าง ที่นำสิ่งของทางประวัติศาสตร์มาผสมผสานกับการเล่าเรื่องได้อย่างงดงาม นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องราวของการปฏิวัติ หากแต่เป็นการชวนให้เรา 'มอง' ประวัติศาสตร์ในแง่มุมใหม่—ผ่านบานกระจกที่สะท้อนความจริงหลายชั้น ทั้งที่เราเคยมองข้ามไปและที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

สำหรับใครที่ชมภาพยนตร์ 2475 รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ แล้วเกิดความสนใจใน ลับแลกระจก ที่ปรากฏในฉากของ 'ลุงดอน' และอยากเห็นของจริง คุณสามารถตามรอยประวัติศาสตร์นี้ได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ตำแหน่งของกระจกในปัจจุบัน
ลับแลกระจกบานนี้ถูกจัดแสดงอยู่ในส่วนหนึ่งของพระที่นั่งบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ซึ่งเดิมเคยเป็นราชมณเฑียรในวังหน้า พระราชวังของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว กระจกบานนี้ยังคงความสง่างาม แม้เวลาจะผ่านไปกว่าร้อยปี ด้วยกรอบไม้จำหลักลายพรรณพฤกษาและลายรักร้อยอันวิจิตรที่สะท้อนถึงความสามารถของช่างฝีมือในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น

การเดินทางไปชม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าพระธาตุ ใกล้สนามหลวง กรุงเทพมหานคร การเดินทางสะดวกสบายทั้งด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารสาธารณะ หรือหากคุณอยู่ใกล้ย่านเมืองเก่า สามารถเดินทางโดยรถไฟฟ้าสายสีม่วง (MRT) มาลงที่สถานีสนามไชย และต่อรถหรือเดินเพียงเล็กน้อยก็ถึงสถานที่

สิ่งที่คุณจะได้พบ
เมื่อไปถึง คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงอบอวลอยู่ในทุกมุมของพิพิธภัณฑ์ นอกจากลับแลกระจก คุณยังจะได้ชมโบราณวัตถุอื่น ๆ ที่สะท้อนวิถีชีวิต รสนิยม และศิลปะในยุคของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบทบาทของพระองค์ในประวัติศาสตร์ไทย

ข้อควรทราบ
การเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ควรตรวจสอบเวลาทำการล่วงหน้า โดยทั่วไปเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. และปิดทำการในวันจันทร์-อังคาร การซื้อตั๋วเข้าชมสามารถทำได้ที่จุดขายตั๋วบริเวณพิพิธภัณฑ์

นี่คือโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสประวัติศาสตร์อย่างใกล้ชิด และชื่นชมความงดงามของลับแลกระจกในสถานที่จริง—การพบกันของอดีตและปัจจุบันผ่านบานกระจกที่สะท้อนความลึกซึ้งของประวัติศาสตร์ไทย

ทีมงานแอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ โพสต์!!ขอบคุณ ‘พี่เกลือ เป็นต่อ’ ให้เกียรติพากย์บท ‘พระยาทรงฯ’ ชี้!! ‘ห้าว-ปากแจ๋ว’ สมใจ ยินดีมากที่ได้ร่วมงาน

(23 มี.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘2475 Dawn of Revolution’ ได้โพสต์ข้อความประทับใจ เกี่ยวกับ ‘พี่เกลือ เป็นต่อ’ โดยมีใจความว่า ...

พี่เกลือ กับ แอนิเมชัน ๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ

ตอนเราคิดจะหาคนพากย์ งานแอนิเมชัน๒๔๗๕ เรามีพี่นกสินจัยและฉัตรชัย ที่วางไว้ตั้งแต่ต้น รวมทั้ง พี่ดี้และพี่สุเมธ ที่ยินดีร่วมงานอย่างมาก ซึ่งพี่ๆเหล่านี้ เราได้คุยไว้ตั้งแต่ตอนทำงานเพลงในหลวงครับ 

พี่เกลือล่ะมาไง?

งานหินของแอนิเมชันคือ เราต้องหาคนพากย์เป็น “ลุงดอน” ซึ่งเป็นผู้ดำเนินเรื่อง และมีบทพูดเยอะมาก สุดท้ายเราได้อาวอ มาพากย์และช่วยคุมงานพากย์ทั้งหมดครับ 

ระหว่างพากย์กันอยู่ อาวอแกก็อยากได้ดารามาเพิ่ม จึงลองโทรหาพี่เกลือ ถามว่าว่างมั้ย มาพากย์การ์ตูนกันหน่อย ปกติพี่เกลือจะไม่ค่อยว่าง งานเยอะ แต่วันนั้นพี่เกลือว่างพอดี และบ้านก็อยู่ไม่ไกล พี่เกลือเลยแวะมาแจม 

มาถึงห้องอัดก็นั่งเลือกว่าจะให้พากย์เป็นอะไร (เลือกกันสดๆหน้างาน) เราก็เห็นบทพระยาทรงฯ คู่ปรับปรีดีที่เป็นคนห้าวๆ และปากแจ๋ว ก็เลยให้พี่เกลือพากย์บทพระยาทรงฯ ซึ่งก็ออกมาปากแจ๋วสมใจครับ  (และพี่เกลือยังพากย์เป็นทหารหนวดที่ชอบชักปืนขู่ด้วยครับ) 

พากย์เสร็จผมก็ใส่ซองให้พี่เกลือ แกยังถามว่า ได้เงินด้วยเหรอ ผมก็บอกว่าต้องให้สิครับ (ถึงจะมีไม่มาก แต่ต้องให้) และผมไม่กล้ารบกวนมาก เลยขอถ่ายรูปเก็บไว้รูปเดียว 

หลังจาก แอนิเมชัน ออก ดูพี่เกลือจะประทับใจมาก คอยแชร์คอยติดตามผลงานเราตลอด และถ้ามีการทำภาคต่อหรือเรื่องใหม่ พี่เกลือบอกว่ายินดีมาร่วมงานกันอีก 

ขอขอบคุณพี่เกลือมาอีกครั้งครับ 

ปล.พี่เกลือได้ค่าพากย์เท่าพี่ดี้เลยครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top