Monday, 21 April 2025
แคลิฟอร์เนีย

รัฐแคลิฟอร์เนีย ขอให้จนท.กลับมาทำงาน แม้ยังติดเชื้อโควิด หลังจนท.สาธารณสุขขาดแคลน

ไม่ถึง 1 เดือนหลังออกข้อกฎระเบียบเข้มงวดบังคับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีน ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ซึ่งยังติดเชื้อโควิด-19 กลับมาทำงาน หลังประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรอย่างหนัก ท่ามกลางการเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พุ่งสูง ความเคลื่อนไหวที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง

ตามกรอบคำแนะนำใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียเมื่อวันเสาร์ (8 ม.ค.) ระบุว่า บรรดาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีผลตรวจโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องกักโรคอีกต่อไปและสามารถกลับมาทำงานทันทีโดยไม่จำเป็นต้องมีผลตรวจเป็นลบ ตราบใดที่พวกเขาไม่แสดงอาการ

ในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ ทางกระทรวงสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียระบุว่ากรอบคำแนะนำใหม่ดังกล่าว เป็น "เครื่องมือชั่วคราว" สำหรับบรรเทาภาวะขาดแคลนเจ้าหน้าที่ และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ สืบเนื่องจากเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งสูง

นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียระบุด้วยว่า โรงพยาบาลต่างๆ ควรให้เจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อโควิด-19 ดูแลเฉพาะคนไข้ที่มีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ออกมาเป็นบวก เท่าที่จะเป็นไปได้

เทรนด์มะกันนัดกันปล้น เหตุความผิดไม่ระคายผิว สะท้อน!! ถ้าการเมืองดี๊ดี…อะไรก็ดีจริงเหรอ?

คลิปที่ว่อนในโลกโซเชียลไทยคลิปหนึ่งมาจากอเมริกา แดนในฝันของใครหลายคน เป็นคลิปที่ถ่ายในร้านขายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย ในคลิปจะเห็นชายคนหนึ่งเดินไปหยิบมือถือเครื่องนั้นเครื่องนี้ตามชอบใจ แล้วเดินออกจากร้านไปโดยไม่จ่ายเงิน คนที่เห็นถึงกับเงิบ แบบนี้ก็ได้เหรอ?

ทำให้นึกถึงเรื่องจริงไม่อิงนิยายที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนียนี่แหละ!!

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย จนชาวบ้านระอา โดยเฉพาะในแอลเอและซานฟรานซิสโก ลามไปในย่านธุรกิจอย่างยูเนี่ยนสแควร์ 

ใครที่เคยไปเยือนซานฟรานซิสโก ให้นึกถึงต้นสายรถรางที่เริ่มจากยูเนี่ยนสแควร์อันแสนคึกคักมีชีวิตชีวา แต่ช่วงนี้ปล้นกันถี่ๆ ร้านค้าหลายร้านถึงกับปิดร้านหนีไปเลย เพราะนอกจากปล้นเดี่ยวแล้ว ยังมีพัฒนาการไปเป็นการนัดออนไลน์ไปปล้นพร้อมกัน ต่างมาต่างไปแต่ใจริลักเหมือนกัน 

ในลอสแองเจลิส เกิดม็อบโจรปล้นกลางวันแสกๆ แบบเย้ยฟ้าท้าดิน คนกลุ่มหนึ่งนัดมารวมตัวกันหน้าร้าน 7-11 ไม่ได้มารวมเพื่อทำกิจกรรมสร้างสรรค์แต่อย่างใด แต่นัดมาปล้นร้านนี้ 

การปล้นเป็นไปอย่างเปิดเผยและเป็นกันเอง ไม่มีการคาดหน้าคาดตาหรือปกปิดใบหน้าทั้งสิ้น!!

เมื่อกลุ่มคนมาถึงก็บุกเข้าปล้นอย่างหน้าด้านๆ บ้างเข้าไปในร้าน โยนข้าวของทั้งของกินของใช้ให้คนรอรับนอกร้าน แล้วไอ้ที่บุกปล้นก็ไม่ใช่น้อยๆ นับดูคร่าวๆ น่าจะร่วมร้อยได้ ที่ปล้นแบบไม่แคร์ใดๆ ในโลกใบนี้ 

สาเหตุที่พวกนี้กล้ายกพวกปล้นกลางวันแสกๆ เพราะกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียนี่แหละ!!

‘อีลอน มัสก์’ เล็งย้าย สนง.ใหญ่ SpaceX และ X ออกจากแคลิฟอร์เนีย หลังฉุน ‘ผู้ว่าฯ’ ผ่านกม. ห้าม รร.แจ้งเปลี่ยนเพศสภาพ นร.ต่อผู้ปกครอง

‘อีลอน มัสก์’ ประกาศจะย้ายสำนักงานใหญ่ของตน ทั้ง SpaceX และ X ออกจากแคลิฟอร์เนียไปปักหลักที่เท็กซัสแทน หลังรู้ข่าวว่า ‘เกวิน นิวซอม’ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เซ็นผ่านร่างกฎหมายใหม่เมื่อวันจันทร์ (15 ก.ค.67) ที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่าห้ามทางโรงเรียนแจ้งผู้ปกครองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเพศสภาพของนักเรียนภายในโรงเรียน หากไม่ได้รับความยินยอมจากตัวนักเรียน

‘อีลอน มัสก์’ โพสต์เดือดผ่านบัญชี X ของเขาว่า "นี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายแล้ว" หลังจากที่ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าว ที่เขามองว่าเป็นการจุด ‘ฉนวนสงครามทางวัฒนธรรม’ ท่ามกลางความวุ่นวายในปีที่มีการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ

เขาเห็นว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ และ ฉบับอื่น ๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้เป็นการบ่อนทำลายสถาบันครอบครัว และ บริษัทต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงตัดสินใจย้ายสำนักงานใหญ่ของ SpaceX จากเมืองฮอว์ธอร์น รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปยังเมืองสตาร์เบส ในรัฐเท็กซัสแทน

นอกจากนี้ มัสก์ ยังบอกอีกว่าเขากำลังจะย้ายสำนักงานใหญ่ของโซเชียลมีเดีย X จากเมืองซานฟรานซิสโก ไป เมืองออสติน ของเท็กซัส ซึ่งเขาเคยขู่มาก่อนแต่ยังทำไม่สำเร็จ 

แต่ก่อนหน้านี้ เขาได้ย้ายสำนักงานใหญ่ของ Tesla จากเมือง ปาโล อัลโต ใน ซิลิคอน วัลลีย์ ไปยังเมืองออสติน รัฐเท็กซัส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงสำนักงานแผนกวิศวกรรมไว้ในแคลิฟอร์เนีย 

อภิมหาเศรษฐีระดับโลกรายนี้ออกมาต่อต้านการใช้สรรพนามแทนตนตามใจฉัน และมักจะล้อเลียนการกระทำดังกล่าวบนโซเชียลมีเดีย เขามองว่าการเรียกร้องเรื่องการเปลี่ยนสรรพนามเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระแส ‘Woke’ ที่เป็นอันตรายต่อสังคม 

ด้านชีวิตส่วนตัว อีลอน มัสก์ มีลูกสาวข้ามเพศคนหนึ่ง ที่ต่างก็เหินห่างกัน ซึ่งเขากล่าวโทษโรงเรียนเอกชนในแคลิฟอร์เนีย ที่ปลูกฝังแนวคิดการเมืองฝ่ายซ้ายให้กับลูกของเขา และมีส่วนทำให้ลูกมีพฤติกรรมต่อต้านเขา

สำหรับประเด็นเรื่องกฎหมายใหม่ของรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างร้อนแรงระหว่างกลุ่มที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้ปกครอง กับนักเคลื่อนไหวกลุ่ม LGBTQ ในเรื่องการคุ้มครองสิทธิเด็กที่มีอัตตาลักษณ์ทางเพศที่หลากหลาย และกำลังเป็นปัญหากับโรงเรียนในเขตอนุรักษ์นิยม ที่เคยให้ครูต้องแจ้งผู้ปกครองหากนักเรียนขอเปลี่ยนสรรพนามนำหน้าชื่อของตน หรือขอใช้สิ่งอำนวยความสะดวก หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ไม่ตรงกับเพศตามธรรมชาติของตน

ด้าน เกวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ผู้รับรองร่างกฎหมายดังกล่าว สังกัดพรรคเดโมแครต ที่ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตาของพรรคในการลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ต่อจากโจ ไบเดน 

และมักแสดงความเห็นตอบโต้กลุ่มอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศในโรงเรียนรัฐ และเมื่อปีที่แล้ว นิวซอม ได้ลงนามในกฎหมายกำหนดค่าปรับสำหรับโรงเรียนที่ห้ามใช้หนังสือเรียนที่มีบรรยายถึงกลุ่ม LGBTQ หรือกลุ่มคนชายขอบผู้ด้อยโอกาสทางสังคม

ซึ่ง ‘อีลอน มัสก์’ ก็เคยมีเรื่องบาดหมางกับ ‘เกวิน นิวซอม’ มาก่อน เมื่อครั้งที่นิวซอม ยังดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองซานฟรานซิสโก ในประเด็นเรื่องมาตรการการควบคุมการระบาด Covid-19 ในช่วงที่การระบาดกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ 

และเมื่อเห็นท่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้ ‘อีลอน มัสก์’ จึงตัดสินใจย้ายบริษัทหนีเสียเลย นับเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพที่กว้างใหญ่ ถ้ามีเงินเสียอย่างก็สามารถย้ายบ้านไปอยู่ในรัฐที่ออกกฎหมายที่ถูกจริตเราได้เสมอ

'Intel' จ่อเลิกจ้างพนักงานกว่า 15,000 อัตรา หลังขาดทุนยับ หุ้นร่วง 20% สวนทาง Nvidia

(2 ส.ค.67) เอพี รายงานว่า Intel ผู้ผลิตชิปรายใหญ่เบอร์ต้น ๆ ของโลก ที่มีฐานอยู่ในแคลิฟอร์เนีย ออกมาประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน 15% หรือราว 15,000 คน ของพนักงานทั้งหมดทั่วโลก เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD หลังบริษัทขาดทุนหนักต่อเนื่อง

ด้าน นายแพทริก พี. เกลซิงเกอร์ ประธานกรรมการบริหารของบริษัท Intel Corp กล่าวกับพนักงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า บริษัทวางแผนที่จะลดเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2568

“พูดอย่างง่าย ๆ ก็คือ ทางบริษัทต้องปรับโครงสร้างต้นทุนของเราให้สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินงานใหม่ และเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการของเราโดยพื้นฐาน” เขาเขียนบันทึกที่เผยแพร่ลงบนเว็บไซต์ และว่า “รายได้ของเราไม่ได้เติบโตอย่างที่คาดไว้ และเรายังไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทรนด์ที่กำลังอยู่ในกระแสอย่าง AI ซึ่งต้นทุนของเราสูงเกินไป สวนทางกับกำไรที่ได้”

การลดตำแหน่งดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากรายได้ในไตรมาสล่าสุด ขาดทุน 1,600 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับกำไร 1,500 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดย เกลซิงเกอร์ ระบุว่า ในสัปดาห์หน้า อินเทลจะประกาศข้อเสนอเกษียณอายุขั้นสูง สำหรับพนักงานที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และเสนอโปรแกรมการสมัครใจลาออก

“การตัดสินใจนี้ ท้าทายฉันถึงแก่นแท้และนี่คือสิ่งที่ยากที่สุดที่เคยทำในอาชีพการงาน” เขากล่าว

ทั้งนี้ คาดว่าการเลิกจ้างจำนวนมาก จะแล้วเสร็จในปีนี้

หุ้นของ Intel ร่วงลง 20 เปอร์เซ็นต์ในการซื้อขายต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ผลิตชิปรายนี้มีแนวโน้มจะสูญเสียมูลค่ามากกว่า 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อตลาดหุ้นเปิดทำการอีกครั้งในวันศุกร์

แม้ว่า Intel จะเคยเป็นผู้นำตลาดชิปที่ใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่แล็ปท็อปไปจนถึงศูนย์ข้อมูล แต่ปัจจุบัน Intel กลับต้องดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อตามให้ทัน Nvidia บริษัทที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และ AMD ผู้ผลิตและผู้พัฒนาซีพียู และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน Intel ประกาศว่า จะยุติการขยายโครงการ โรงงานขนาดใหญ่ในอิสราเอล โดยระบุว่า การตัดสินใจที่จะทำโครงการขนาดใหญ่จะต้องคำนึงถึง ‘เงื่อนไขทางธุรกิจ พลวัตของตลาด และการจัดการทุนอย่างรับผิดชอบ’

‘อเมริกา’ อนุญาต ‘จีน’ ทดสอบ ‘แท็กซี่ไร้คนขับ’ รับส่งผู้โดยสารในรัฐแคลิฟอร์เนีย เผย!! ทำงานผ่านระบบ AI ที่เชื่อมต่อ ‘รถ-คอมพิวเตอร์ส่วนกลาง’ ในระบบคลาวด์

(17 ส.ค.67) สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานว่า วีไรด์ (WeRide) สตาร์ตอัปแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) สัญชาติจีน ได้รับอนุญาตจากทางการรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกา ให้ทดสอบให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับโดยมีผู้โดยสารได้แล้ว โดยจะเริ่มทดสอบด้วยรถไร้คนขับจำนวน 12 คัน 

ข้อมูลแท็กซี่ไร้คนขับ WeRide
ตามข้อมูลจาก WeRide แท็กซี่ไร้คนขับจะใช้รถจากค่าย จีเอซี (GAC) หรือนิสสัน (Nissan) แล้วแต่พื้นที่ให้บริการ ซึ่งมาพร้อมกับการติดตั้งระบบไร้คนขับ ประกอบไปด้วยเรดาร์ เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวรอบคันรถ กล้องวัดระยะความลึกหรือไลดาร์ (LiDAR) และกล้องรอบคันแบบ 360 องศา สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยความเร็วสูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยระบบต่าง ๆ จะทำงานร่วมกันผ่านระบบ AI ที่เชื่อมต่อระหว่างรถกับคอมพิวเตอร์ส่วนกลางในระบบคลาวด์ โดยทาง WeRide ระบุว่า ระบบไร้คนขับได้รับการฝึกในสถานการณ์จำลองต่าง ๆ ที่รวมปัจจัยนอกตัวรถ ทั้งทางเดินเท้า คน จักรยาน อาคาร แม้แต่สภาพอากาศกว่า 230,000 ครั้ง สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะมีจักรยานหรือรถยนต์ตัดหน้าด้วยความแม่นยำร้อยละ 97 กับ 98 ตามลำดับ และมีระยะเวลาตอบสนองที่ 10 มิลลิวินาที และความคลาดเคลื่อนในการกะระยะไม่เกิน 5 เซนติเมตร

การเติบโตของบริษัท WeRide
ทั้งนี้ จากรายงานข่าวระบุว่า WeRide ได้ยื่นคำร้องขอกับคณะกรรมการกำกับกิจการสาธารณะของรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือ CPUC (California Public Utilities Commission) เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเป็นคำขอทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับที่มีคนขับสำรองในตำแหน่งคนขับ และแบบไร้คนขับโดยไม่มีคนขับนั่งอยู่ภายในตัวรถ เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากที่อนุญาต โดยให้บริการเฉพาะกลุ่มทดลอง และไม่มีการเก็บค่าโดยสารใด ๆ 

การอนุญาตให้ WeRide ทดสอบแท็กซี่ไร้คนขับ ส่งผลให้มีการประเมินมูลค่าบริษัทสูงถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 175,000 ล้านบาท โดยนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2017 WeRide ได้ให้บริการในบางเมืองของจีน รวมถึงในพื้นที่บางส่วนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และอยู่ระหว่างการยื่นเรื่องขออนุญาตทดสอบในสิงคโปร์อีกด้วย

แผ่นดินไหว 7.0 ใกล้แคลิฟอร์เนีย ไร้เตือนสึนามิ แต่ยังประเมินความเสียหายไม่ได้

เมื่อเวลา 10.44 น.ของวันที่ (5 ธ.ค. 67) ตามเวลาท้องถิ่นของรัฐแคลิฟอร์เนีย ตรงกับเวลา 01.44 น ของวันที่ 6 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นในไทย เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.0 นอกชายฝั่งตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ส่งผลให้มีการประกาศเตือนภัยสึนามิชั่วคราว ก่อนจะยกเลิกในเวลาต่อมา  

รายงานจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเวลา 10.44 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ หรือ 01.44 น. ตามเวลาในไทย จุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองเฟิร์นเดลไปทางตะวันตกราว 63 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้พื้นดินประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ประชากรเบาบาง  

ศูนย์เตือนภัยสึนามิแห่งชาติออกคำเตือนครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ตั้งแต่เมืองดูนส์ ซิตี รัฐออริกอน ไปจนถึงนครซานฟรานซิสโกและซานโฮเซ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ระยะทางรวมกว่า 643 กิโลเมตร คำเตือนดังกล่าวถูกยกเลิกหลังผ่านไป 90 นาที  

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ประชาชนราว 19,000 คนไม่มีไฟฟ้าใช้ชั่วคราว แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนส่งผลกระทบต่ออาคารหลายแห่ง รวมถึงห้องปลูกกัญชาที่ได้รับอนุญาตของบริษัท Humboldt Flower Company ซึ่งมีภาพความเสียหายปรากฏตามรายงานข่าว  

ในเขตซาคราเมนโต มีคลิปวิดีโอจากโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นสระว่ายน้ำในบ้านหลังหนึ่งที่น้ำกระเพื่อมอย่างรุนแรงจนกระเซ็นออกมานอกสระ เบื้องต้นหน่วยงานรัฐบาลในท้องถิ่นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้ยังคงตอกย้ำความเสี่ยงของภัยธรรมชาติในพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ

ไฟป่าแอลเอโหมหนัก!! เผาวอดย่านฮอลลีวูดฮิลส์-ร้านอาหารไทยชื่อดัง คร่าชีวิตแล้ว 5 อเมริกันนับแสนรายอพยพ

ตามรายงานจากเว็บไซต์ USA Today และ CNN (9 ม.ค.68) สถานการณ์ไฟป่าในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ยังคงทวีความรุนแรง เนื่องจากลมแรงทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 5 คน และคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันหลายร้อยหลังคาเรือนถูกไฟเผาทำลาย และมีประชาชนกว่า 100,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่

กรมดับเพลิงแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า ไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส โดยไฟป่าพาลิเซดส์ (Palisades Fire) ได้ทำลายพื้นที่กว่า 15,800 เอเคอร์ (ประมาณ 39,974 ไร่) และยังไม่สามารถควบคุมได้ โดยได้เผาบ้านเรือนมากกว่า 1,000 หลัง

ร้านอาหารไทยชื่อดัง 'ชลดาไทยลองบีช' (Cholada Thai Cuisine Long Beach) ซึ่งมีสาขาหลักในเมืองมาลิบู ก็ถูกไฟป่าเผาทำลายจนไม่เหลือซาก นับเป็นการสิ้นสุดตำนานของร้านอาหารที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 25 ปีตั้งแต่ปี 1999 เจ้าของร้านโพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย พร้อมข้อความว่า "เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ต้องประกาศว่า ร้านอาหารของเราถูกไฟป่าพาลิเซดส์เผาทำลาย ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก"

ขณะที่นครลอสแองเจลิสกำลังเผชิญกับไฟป่าหลายจุด โดยไฟได้ลุกลามไปยังฮอลลีวูดฮิลส์ (Hollywood Hills) เมื่อวันที่ 8 มกราคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน และบ้านเรือนอีกหลายร้อยหลังถูกเผาผลาญ เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังในการดับไฟและใช้น้ำอย่างเต็มที่

ประชาชนกว่า 100,000 คนได้รับคำสั่งให้อพยพ หลังจากที่สภาพอากาศแห้งแล้งและลมแรงทำให้การควบคุมไฟทำได้ยาก ไฟยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นในวันที่ 7 มกราคม

คริสติน ครอว์ลีย์ หัวหน้าสำนักงานดับเพลิงท้องถิ่นระบุว่า มีไฟป่าเพิ่มขึ้นอีกจุดในฮอลลีวูดฮิลส์ในช่วงค่ำวันที่ 8 มกราคม ทำให้ต้องอพยพประชาชนเพิ่ม และขณะนี้มีไฟป่าเกิดขึ้นพร้อมกันถึง 6 จุดในเทศมณฑลลอสแองเจลิส

ไฟป่า 5 จุดยังคงอยู่ในภาวะควบคุมไม่ได้ รวมถึงไฟป่าขนาดใหญ่ในฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมืองที่ยังคงลุกลามต่อไป

ไฟป่าที่ฮอลลีวูดฮิลส์ซึ่งได้รับการตั้งชื่อว่า Sunset Fire ได้ลุกลามเป็น 2 เท่าภายในไม่กี่นาที ขยายพื้นที่เป็น 20 เอเคอร์ ข้อมูลจาก Cal Fire ระบุ

สำนักงานดับเพลิงลอสแองเจลิสได้ออกคำสั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ Hollywood Boulevard, Mulholland Drive, Freeway 101, และ Laurel Canyon Boulevard ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในวงการบันเทิง

ผลกระทบจากไฟป่าทำให้การประกาศผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถูกเลื่อนออกไป 2 วัน เนื่องจากการประสบปัญหาจากเหตุการณ์ไฟป่า

ไฟป่าในย่าน Pacific Palisades ได้เผาพื้นที่กว่า 15,832 เอเคอร์ รวมถึงบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ในขณะที่ไฟป่า Eaton ที่บริเวณเชิงเขาซานเกเบรียล ได้ทำลายพื้นที่ไปแล้ว 10,600 เอเคอร์ และมีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 5 คน

คาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากไฟป่านี้อาจสูงถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เกือบ 1 ล้านหลังคาเรือนในลอสแองเจลิสประสบปัญหาขัดข้องไฟฟ้าจากเหตุการณ์นี้ และทางการสั่งปิดโรงเรียนในพื้นที่จนถึงวันที่ 9 มกราคม

สันนิฐานพลุปีใหม่จุดชนวนไฟป่าเผาแอลเอ เจอลมแรงยิ่งโหมไฟลาม คร่าแล้ว 24 ราย

(13 ม.ค. 68) สถานการณ์ไฟป่าในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พบยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 24 รายแล้ว โดย16 ศพถูกพบในไฟป่า อีตัน และอีก 8 คนในพื้นที่พาลิเสดส์ โดยยังมีผู้สูญหายอย่างน้อย 16 คน

สำหรับความเสียหายล่าสุดไฟป่าที่ใหญ่ที่สุดคือพาลิเสดส์ ซึ่งได้เผาผลาญพื้นที่กว่า58,000 ไร่ และควบคุมได้ 11% แล้ว ส่วนไฟป่าอีตัน ซึ่งเป็นไฟป่าที่ใหญ่เป็นอันดับ 2ได้เผาผลาญพื้นที่กว่า 35,400 ไร่ และควบคุมได้ 27% ส่วนไฟป่าเฮิร์ส ขยายตัวเป็นกว่า 2,000 ไร่ และเกือบจะควบคุมได้ทั้งหมด

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยารัฐแคลิฟอร์เนียได้ออกคำเตือนว่า หลังจากสุดสัปดาห์ที่ลมค่อนข้างสงบ จนการดับเพลิงมีความคืบหน้ามากขึ้น ลมซานตาอานา ซึ่งเป็นลมร้อนและแห้งจากพื้นที่ทะเลทรายของแคลิฟอร์เนียจะพัดเข้าพื้นที่อีกครั้งตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงวันพุธ โดยลมอาจมีความเร็วสูงสุดถึง96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะเป็นปัจจัยยิ่งโหมให้เพลิงทวีความรุนแรงมากขึ้นแม้ทีมดับเพลิงจะสามารถควบคุมไฟขนาดใหญ่ได้บางส่วน แต่เจ้าหน้าที่เตือนว่าลมที่กำลังมาอาจสร้างสภาวะลมที่อันตรายถึงขั้นวิกฤตทำให้ทั้งเขตลอสแอนเจลิสอยู่ในสถานะเสี่ยงต่อไฟป่า

ขณะเดียวกันมีรายงานจาก  Washington Post ที่สันนิฐานว่า สาเหตุมหาภัยไฟไหม้ป่าในลอสแองเจลิส คาดว่าเกิดจากการลุกไหม้ของไฟที่เหลือจากไฟไหม้ครั้งก่อน ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากดอกไม้ไฟในวันปีใหม่ 

โดยจากการวิเคราะห์ของภาพถ่ายดาวเทียม วิทยุสื่อสาร วิดีโอ และการสัมภาษณ์ชาวบ้านในท้องถิ่นเชื่อว่า ไฟป่าพาลิเสดส์ เริ่มต้นในพื้นที่เดียวกับที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเคยดับไฟครั้งก่อน โดยในการรับมือกับไฟครั้งที่สองเจ้าหน้าที่ดับเพลิงตอบสนองช้า ประกอบกับกระแสลมที่โหมพัดกระหน่ำทำให้ไฟลุกลามจนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง 

ไมเคิล วาเลนไทน์  ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่กล่าวว่าเขาอยู่บ้านในช่วงที่เกิดเหตุไฟไหม้ทั้งสองครั้ง และกล่าวว่าการตอบสนองของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงระหว่างทั้งสองครั้งนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง วานเลนไทน์กล่าว่า การตอบสนองจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเมื่อเกิดไฟป่าพาลิเสดส์ในวันอังคารนั้นช้ากว่าครั้งแรกที่เกิดไฟในวันปีใหม่

เมื่อเขากับภรรยาของเขาติดต่อกับแผนกดับเพลิงลอสแองเจลิส (LAFD) ห่างกัน 30 นาทีในวันอังคารเพื่อรายงานการเกิดไฟป่าพาลิเสดส์ วาเลนไทน์กล่าวว่าเขาต้องรอเพราะสายโทรศัพท์ขัดข้อง

ในขณะนั้น เจ้าหน้าที่ LAFD กำลังรับมือกับเหตุการณ์สองเหตุการณ์ในส่วนอื่นของเมืองและวางแผนที่จะเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ไปยังไฟป่าพาลิเสดส์เมื่อมีโอกาส ตามรายงานจาก Washington Post ขณะเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์ที่บรรทุกน้ำซึ่งพยายามตอบสนองในช่วงแรกไม่สามารถทำการบินได้เนื่องจากกระแสลมแรง

"ผมไม่เห็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเลย ไม่ว่าจะบนพื้นดินหรือในอากาศ ผมผิดหวังเพราะไฟครั้งที่สองลุกลามเร็วมากและไม่มีใครอยู่ที่นั่น" วาเลนไทน์กล่าว เขาเล่าว่าต้องใช้เวลาถึง 45 นาทีจนกว่าเขาจะเห็นเฮลิคอปเตอร์บินเหนือไฟแต่ก็ไม่สามารถดับไฟได้เพราะไม่มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆ

พื้นที่ลอสแองเจลิสได้รับคำเตือนเกี่ยวกับลมแรงและภัยแล้งในช่วงก่อนเกิดไฟป่า ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยหนุนในการทำให้จุดความร้อนใหม่ๆ ปะทุขึ้น

เรารู้ว่าไฟสามารถกลับมาประทุได้และเปลี่ยนจากการคุกรุ่นเป็นการลุกลาม มันเป็นไปได้มากที่บางอย่างจากไฟครั้งก่อนจะกลับมาลุกใหม่และก่อให้เกิดไฟ" ไมเคิล กอลเนอร์ ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกลและนักวิทยาศาสตร์ไฟจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียที่เบิร์กลีย์ กล่าว

วอชิงตันโพสต์ยังเผยภาพถ่ายดาวเทียมที่ถูกถ่ายขึ้นประมาณ 20 นาทีหลังจากไฟป่าพาลิเสดส์ปะทุขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นภาพของควันที่ทับซ้อนกันกับรอยไฟไหม้เดิมในช่วงวันปีใหม่ที่เทมส์คาล ริดจ์ในเทือกเขาซานตาโมนิกา ซึ่งเป็นพื้นที่มีการแสดงพลุในคืนวันส่งท้ายปีเก่า

ไฟที่เกิดขึ้นในช่วงวันปีใหม่ได้ลุกลามเผาผลาญพื้นที่ราว 4 เอเคอร์อย่างช้าๆ แม้แทบจะไร้ลมพัด แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการควบคุม

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดว่าเหตุไฟไหม้ป่าพาลิเสดส์ที่เกิดขึ้นในครั้งที่สองนั้น เกิดจากไฟไหม้ป่าที่มาจากพลุในคืนส่งท้ายปีเก่าหรือไม่ ทั้งเจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐและของรัฐบาลกลางได้ค้นหาต้นตอของไฟไหม้ป่าครั้งที่ 2 เพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับสาเหตุถึงต้นเพลิงต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top