Tuesday, 22 April 2025
เอย่า

เปิดใจ!! แอดมินเพจมองพม่า (LOOK Myanmar) ในวันที่ถูกมองว่าเป็นไอโอของกองทัพเมียนมา

วันนี้มีบทสัมภาษณ์ที่เอ็กคลูซีฟส่งตรงจากย่างกุ้งมาถึง เอย่า เมื่อทางทีมงานของเราได้บทสัมภาษณ์สุดเอ็กคลูซีฟของทีมแอดมินเพจมองพม่า (LOOK Myanmar) มาให้อ่านกัน...

Q : เพจนี้มีจุดเริ่มต้นยังไง?
A : เพจนี้เริ่มจากพี่คนหนึ่งที่แกมาทำงานในพม่ายุคแรก ๆ สมัยที่เทคโนโลยียังไม่เอื้ออำนวยมากนัก แกบอกว่าในสมัยที่แกมาอยู่ 3G ในพม่าช้ากว่า Edge ในไทยเสียอีก จากนั้นพี่เขาจึงเปิดเพจมาเพื่อบันทึกเรื่องราวสิ่งที่พี่เขาไปพบเจอตลอดการที่ทำงานที่พม่า

Q : แล้วทีมงานที่ทำอยู่ปัจจุบันมาจากไหน?
A : หลังจากพี่เขาปิดเพจไปหลังจากรัฐประหาร ทางทีมงานเราที่เป็นคนทำงานอยู่ที่นี่หลายคนและกระจายอยู่ในหลายเมืองก็ได้คุยกันเรื่องนี้ จากที่เคยเป็นแฟนเพจของพี่เขา เราเลยขอมาทำเพจแทนพี่เขาเสียเลย

Q : ทำไมอยู่ดี ๆ เพจนี้กลายเป็นเพจการเมือง?
A : ความจริงเราไม่ได้ต้องการให้มันเป็นเพจการเมืองนะ เพียงแต่ทีมงานเราอยู่กันมาก่อนเกิดรัฐประหารมาหลายปี พอมาเกิดรัฐประหาร เราก็อยู่ในเหตุการณ์ หลังรัฐประหารมันก็มีข่าวเรื่องการเมืองพม่าส่วนมาก แต่ในความจริง เรายังคงเหมือนเดิมคือ นำเรื่องราวในพม่ามาสู่สายตาคนไทย

Q : แล้วที่ใคร ๆ บอกว่าเพจนี้เป็น 'ไอโอพม่า' ในฝั่งแอดมินมีความเห็นว่าไง?
A : ฮาๆๆๆๆๆ (ขำกันใหญ่) ถามว่าถ้าเป็นไอโอจริงป่านนี้พวกเรากลุ่มแอดมินคงมีชีวิตสบายกว่านี้แล้ว แต่เปล่าเลย เราก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคนพม่านี่แหละ ใช้ชีวิตเหมือนเขา เจอความทุกข์เหมือนเขาเช่นกัน

Q : อ้าวแล้วทำไมทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลทหารละ? 
A : ความจริงเราไม่ได้เป็นกระบอกเสียงให้ฝ่ายไหนนะ อย่างเรื่องธรรมกายในพม่าก็เป็นกลุ่มพระวีระธูที่กองทัพสนับสนุน เราก็ด่า!! เพราะมันกัดกินบ่อนทำลายศาสนาเขา ในขณะเดียวกันความฉิบหายในบ้านเมืองนี้จะโทษฝั่งทหารฝ่ายเดียวก็ไม่ใช่ ต้องโทษทุกฝ่ายนั่นแหละ เพราะนี่คือตัวอย่างของบ้านเมืองที่คนในชาติแตกความสามัคคี ทำให้ต่างชาติที่อ้างว่าหวังดีจะเข้ามาชักใยได้ ดังที่เห็นจากสื่อของพม่าทั้งภาษาอังกฤษและพม่า รวมถึงแปลไปยังสื่อต่างประเทศที่เป็นกลุ่มเดียวกันด้วย 

ในขณะที่ฝ่ายต่อต้าน เวลาทำไม่ดีอะไร แทบไม่มีคนนอกรับรู้เลย มีแค่สื่อภาษาพม่าเท่านั้นที่ออกข่าว พอเราเห็นแบบนั้น เราเลยคิดว่า เราคนไทยหวังอย่างเดียวคือ ให้พม่าอยู่รอดได้ ถ้าพม่ามีชีวิตที่ดีขึ้นไม่รบกัน คนหันมาปรองดองทำมาหากินคนก็จะมีเงิน เราจึงให้คนนอกพม่าได้รู้ว่า คนที่ทำพม่าพังไม่ได้มีแค่ฝ่ายทหารฝ่ายเดียว มันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละเราก็แค่นำเสนอข่าวอีกฝั่งให้เห็นก็เท่านั้น

Q : แต่มีหลายคนบอกเพจนี้อวยทหารพม่านะ?
A : เราเอาข่าวส่วนใหญ่มาจากเว็บข่าวต่าง ๆ และข้อมูลตามเพจที่ลงไว้ถามว่าคนที่เขากล่าวหาเรานั่น เพราะเขาเสียประโยชน์ใช่ไหมจะดีกว่า

Q : คำถามสุดท้ายแล้ว อะไรที่ทำให้ทีมงานยังยืนหยัดทำเพจทั้งที่คนส่วนใหญ่มองว่า โปรเผด็จการ เป็นไอโอ ไม่รักชาติไทยบ้างก็มี?
A : ถ้าใครตามเพจจริงจะทราบว่าเพจเรารักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แค่ไหน เราแค่ต้องการให้พม่าดีขึ้น คนพม่ามีความเป็นอยู่ดีขึ้น เพจเราคงทำให้คนพม่ากลับมารักกันไม่ได้ แต่ทำให้คนไทยได้ทราบปัญหาที่แท้จริงของพม่าได้ว่ามันเกิดมาจากทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

"สุดท้ายปัญหาของพม่าก็ต้องให้คนพม่าเป็นคนแก้ เราแค่เป็นคนนอกที่มีหน้าที่บอกคนนอกด้วยกันให้ทราบว่าปัญหาเขา เขาต้องแก้เองและเรียนรู้ถึงปัญหาในบ้านเขาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดียวกันในบ้านของเรา" นี่คือคำกล่าวทิ้งท้ายของแอดมินเพจมองพม่า เพจที่ใคร ๆ เขาก็ว่า คือ ไอโอทหารพม่า

เปิดปมส่ง 40 อุยกูร์ กลับมาตุภูมิ ชี้! เรื่องนี้มีเบื้องลึก เผยคนหนุ่มบางส่วนในกลุ่มนี้ เตรียมถูกฝึกเป็น ‘นักรบพลีชีพ’

ไม่นานมานี้มีข่าวที่ทางการไทยส่งนักโทษอุยกูร์กลับประเทศจีนตามหน้าสื่อที่ว่าทางการไทยส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนที่ถูกคุมขังในไทยตั้งแต่ปี 2557 กลับสู่ประเทศจีน  ท่ามกลางเสียงก่นด่าจากประเทศตะวันตก จนคนไทยหลายคนด่าว่ารัฐบาลไทยเลว เอาใจจีนจนเอาชีวิตคนไปแลก เอาเป็นว่าวันนี้ลองเปิดใจมารับรู้ข้อมูลอีกด้านกันดูดีกว่าไหม  แล้วค่อยมาสรุปว่ารัฐบาลไทยเราเลวดังที่ใครๆ เขาว่าหรือไม่

ก่อนอื่นเราต้องมารู้จักองค์ก่อนหนึ่งก่อน นั่นคือ ขบวนการอิสลามเตอร์กิชสถานตะวันออก หรือ ETIM ขบวนการนี้มีการจัดตั้งกันมาตั้งแต่ปี 2476 เพื่อต่อสู้ให้เมืองซินเจียงที่เป็นเมืองหลักของชาวอุยกูร์เป็นรัฐอิสลามเพราะประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม

แต่ทว่าแท้จริงแล้วในซินเจียงยังมีชนชาติอื่นร่วมด้วยทั้ง ทั้งชาวฮั่น, ชาวคีร์กีช, ชาวมองโกล, ชาวหุย, ชาวคาซัค และชาติพันธุ์อื่นๆอีกกว่า 50 ชาติพันธุ์เพราะเหตุที่ว่าซินเจียงนี้เคยเป็นเส้นทางสายไหมทางบกในอดีตนั่นเอง นั่นทำให้จีนเลือกที่จะยกซินเจียงให้เป็นเขตปกครองตนเองของจีน เช่นเดียวกับทิเบต และนี่เองที่เป็นชนวนเหตุความขัดแย้งในพื้นที่

จนกระทั่งในปี 2511 มีการจัดตั้ง พรรคปฏิวัติประชาชนแห่งเตอร์กีชสถานตะวันออก ขึ้นโดยมีสาขาในเมืองอุรุมูฉี และเมืองคาชการ์ มีกองกำลังติดอาวุธเพื่อก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน โดยอ้างตาม ETIM ในปลุกระดมผู้คนให้ก่อการครั้งนี้ว่า นี่คือ 'ญิฮาด' หรือ สงครามศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจะสร้างแผ่นดินเสรีของเรา แม้ตามรายงานบอกว่าพรรคนี้สลายตัวไปตั้งแต่ปี 2532 แต่ยังมีผู้นำอยู่และแยกเป็นกลุ่มก่อการร้ายย่อย ๆ ภายใต้เงินทุนของชาติตะวันตก

มาถึงจุดนี้อ่านแล้วคุ้นๆ...ชาติพันธุ์ฝั่ง 45 น. ของไทยไหม

ณ เวลานั้นมีรายงานว่ามีการปลุกระดมเอาคนหนุ่มไปฝึกเป็น “นักรบพลีชีพ” เพื่อมาต่อสู้กับกองทัพจีน ซึ่งจะเห็นว่ามีเหตุการณ์ก่อการร้ายหลายครั้งที่เกิดขึ้น โดยแหล่งข่าวได้เล่าให้เอย่าฟังว่า นักรบเหล่านี้จะต้องเดินทางไปฝึกการรบดังกล่าวที่ประเทศหนึ่งที่อยู่ระหว่าง 2 ทวีป โดยใช้งบของประเทศที่ให้การสนับสนุนโจรใต้บ้านเรานั่นแหละ

แต่เหตุการณ์ดันโป๊ะตรงที่รัฐบาลจีนรู้ถึงการเดินทางของคนกลุ่มนี้และชี้เป้าให้ทางการไทยจับตัวไว้เมื่อปี 2557 โดยขณะนั้นทางการไทยเพียงตั้งข้อหาชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ว่า เข้าเมืองผิดกฎหมาย

แม้จะไม่มีรายงานว่าชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ถูกจับเดือนไหนแต่ช่วงเวลาดังกล่าวนั้นอยู่ในสายตาของนายกที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา และท่านก็น่าจะทราบดีว่าคนเหล่านี้คือใครเพราะเวลานั้นไทยสนิทกับจีนมาก ในปี 2557 นั่นเอง จีนมีการตัดสินประหารชีวิตชาวอุยกูร์ที่ก่อเหตุระเบิดพลีชีพที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างชาวจีนฮั่นและชาติพันธุ์ในซินเจียงโดยเฉพาะชาวอุยกูร์เป็นอย่างมาก

ถามว่าถ้าลุงตู่ส่งชาวอุยกูร์กลับจีนตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น....

ใช่แล้ว..ไทยเลือกจะไม่ส่งกลับแต่ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายจีนเข้ามาปรับทัศนคติและแก้ปัญหาในบ้านของเขาให้เรียบร้อย

วันนี้เป็นเวลาเกือบ 11 ปี อุยกูร์เป็นมณฑลที่ติดอันดับที่ 23 จาก 31 มณฑลของจีน และถ้าคิดเฉลี่ยเป็น GDP ต่อประชากร ซินเจียงเปลี่ยนไปอย่างผิดหูผิดตารวมถึงความอยู่ดีกินดีของประชากร  จีนสนับสนุนการศึกษาให้กลุ่มชาติพันธุ์ได้เรียนรู้ทั้งภาษาจีนกลางและภาษาถิ่นรวมถึงทำนุบำรุงศาสนสถานทุกศาสนาในเมือง ส่วนหนึ่งเพื่อให้เหล่าชาติพันธุ์ อีกส่วนหนึ่งคือความเป็นมรดกทางวัฒนธรรมประจำถิ่น ซินเจียงเป็นอีกหมุดหมายหนึ่งของนักท่องเที่ยวที่ต้องการความแปลกใหม่ในการท่องเที่ยวในประเทศจีน

สุดท้ายกลับมาที่นักโทษทั้ง 40 คนในคุกไทย ที่ตลอดเวลาร่วม 10 ปีได้รับการปรับทัศนคติจนเชื่อได้ว่าทั้งหมดอยากกลับไปหาญาติหาคนที่รักของเขาแล้ว และเชื่อได้ว่าตลอด 11 ปีมานี้ทางการจีนได้พัฒนาให้ชาวเมืองซินเจียงกลายเป็นคนที่มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมมาก จนต้องมาตั้งคำถามว่า ทำไมต้องไปสร้างแผ่นดินในอุดมคติอีก ในเมื่อกลับไปพบกับครอบครัวที่อยู่ดีกินดีแล้ว...

คำถามก็คือ คำที่ชาติตะวันตกกล่าวหาไทยต่างๆ นานา นั้น ทำไปเพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่ต้องการสร้างภาพให้จีนเป็นตัวร้าย แต่อย่างที่หลายคนกล่าว บางทีผู้นำประเทศเหล่านั้นก็ติดภาพฮอลลีวูดมาไปจนลืมว่าคนมีสติปัญญาเขาคิดได้ว่าถ้าทางการไทยอยากให้ชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ตายจริงคงไม่ปล่อยให้เปลืองข้าวไทยมาเป็น 10 ปีหรอก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top