(29 ส.ค. 67) ที่พรรคเสรีรวมไทย ย่านบางขุนนนท์ กทม. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส อดีต สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงจุดยืนของพรรคเสรีรวมไทย กรณีถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยว่า...
"ขณะนี้พรรคเสรีรวมไทย ทำหน้าที่พรรคร่วมรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว แม้ยังต้องการทำงานให้ประเทศ แต่เมื่อไม่มีโอกาส ก็ขอไปทำงานด้านอื่นก็ได้ จึงได้ประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีมติ 7 เสียง ต่อ 4 เสียง ให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และได้แจ้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผ่านนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่า ขอถอนตัว และจะเป็นอิสระ ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้พรรคได้สร้างผลงาน และปฏิบัติงานตามอุดมการณ์แนวนโยบายของพรรคอย่างเต็มที่และรักษาประโยชน์ประชาชนประเทศชาติ การอยู่ร่วมรัฐบาลต่อ โดยมารยาทจะไม่สามารถวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลได้ จะอึดอัด ทำอะไรต้องยอมให้เขาเหยียบตลอดเวลา"
เมื่อถามว่า เหตุผลที่ถอนตัวเพราะน้อยใจหรือไม่? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “ผมโกหกใครไม่เป็น ผมน้อยใจ เห็นว่า วันที่ไปประชุมพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อคุณอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ พูดแดกดันว่าพรรคเสรีรวมไทยรับใช้เพื่อไทยมาทั้งชีวิตแล้ว เผื่อมีโอกาสร่วมงานกับรัฐบาลบ้าง เพราะมีปัญหา เช่น เรื่องตำรวจ ที่รองนายกฯ และรักษาการนายกฯ บอกจะขอดูแลงานตำรวจเอง แบบนี้จะมีปัญหา ทั้งที่ผมเคยเป็น ผบ.ตร.มาก่อน เพราะการดูแลตำรวจไม่ใช่แค่การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจให้เป็นคนของตนเองเท่านั้น แต่ตำรวจต้องมีการปฏิรูปการทำงาน การบริหารจัดการ พรรคเพื่อไทยไม่เคยคิดทำงานให้ตำรวจเลย คิดแต่จะคุมการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ทำให้ประชาชนขาดศรัทธาตำรวจ”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ช่วงที่นายทักษิณอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ตนเคยไปเยี่ยม 5 ครั้ง ช่วงหลังการเลือกตั้งปี 62 ที่ตนได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ตอนนั้นพรรคเพื่อไทยมีอะไร ตนจัดการให้หมด แม้จะเป็นการตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยทำผิดให้เป็นถูก แต่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ สส.เพิ่มขึ้น
“ผมช่วย สส.ของพรรคเพื่อไทยมาตลอด และรัฐมนตรีอีกหลายคน เมื่อเลือกตั้งเสร็จ ผมมีเสียงเดียว เอาไปเทียบกับพรรคหนึ่งเสียงได้อย่างไร เพราะรู้จักมา 51 ปี เมื่อเขาไม่รู้จักกันแบบนี้ จะให้ผมรู้จักหรอ ถอนตัวดีกว่า” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่า นายทักษิณรับปากจะให้ตำแหน่งหรือไม่? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "พูดกับตนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ว่าเป็นหนี้บุญคุณตน ขอให้ไปคิดดู คนที่เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจจะมีรุ่นพี่ที่ดูแลนายทักษิณ ตั้งเป็นผู้การ ผู้บัญชาการทั้งหมด แต่ไม่ตั้งตนเลย พูดตลอดเวลาเป็นหนี้ตนเป็นพันครั้งต้องชดใช้ แต่พูดแล้วก็เฉย แม้กระทั่งตอนตนไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็พูดว่าต้องตอบแทน แต่ก็เฉย ไม่เป็นไร เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของ น.ส.แพทองธาร จะเอา สส.หรือไม่เอา สส.ก็ได้ เป็นอำนาจนายกฯ แต่ลืมตนทุกที ไม่รู้ว่าคิดอย่างไร อาจคิดว่า พรรคเสียงเดียว ไปเปรียบเทียบกับพรรคอื่น ๆ ได้อย่างไร เพราะเข้ามาหวังประโยชน์ แต่ตนต้องการเข้ามาทำงาน หลังจากเกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างตนกับนายทักษิณ นายทักษิณก็ไม่โทรมาหา และพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ว่าอะไร โดยยืนยันว่า ตนไปเยี่ยมนายทักษิณ 2 ครั้ง ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจริง"
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "ที่บอกว่าตน จะไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ เป็นฝ่ายค้าน เป็นไปไม่ได้ เพราะตนไม่เอาคณะปฏิวัติ ส่วนจะรอสายตรงจากนายทักษิณติดต่อมาหรือไม่นั้น ไม่มี เขาทำลายพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ อย่างเก่งก็ทำให้เสรีรวมไทยสูญพันธุ์ แต่เราก็มีแค่หนึ่งเสียง การออกมาแถลงข่าววันนี้ ไม่ได้ต้องการสร้างมูลค่าให้ตัวเอง ที่ผ่านมาสมัยตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีการเสนอเงิน 300 ล้านบาท และให้ตำแหน่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง แต่ตนไม่เอา"
เมื่อถามว่า ถ้าตอนนี้มีการต่อรองให้เก้าอี้รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงจะเอาหรือไม่? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ไปก็โง่สิ เดินมาขนาดนี้ มันก็รบกันท่าเดียว แน่นอนว่า ขอตัดสัมพันธ์นายทักษิณ คบมา 51 ปีแล้ว ทำได้แค่นี้ จะคบต่อไปทำไม หลังจากนี้ให้รอดู ป.ป.ช.จะเชิญตนไปให้ข้อมูลหรือไม่ ขอบอกเลยว่า จะต้องติดคุกกันทั้งหมด ตั้งแต่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ"
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า จะต้องมีภาค 2 ให้ติดตามใช่หรือไม่? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ขอให้คอยดู เดี๋ยวนักข่าวไม่มีงานทำ"
ต่อข้อถามว่า มองว่า น.ส.แพทองธาร เป็นร่างทรงนายทักษิณหรือไม่? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "สื่อก็รู้ ไม่เห็นต้องถาม ส่วนการกระทำของนายทักษิณ จะเข้าข่ายครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ สื่อก็รู้เช่นกัน ขณะนี้นายทักษิณไม่ใช่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ เมื่อไม่ใช่สมาชิกพรรค จะไปแสดงตัวเชิญทุกพรรคร่วมรัฐบาลมาที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อคืนวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้สนับสนุน น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ไม่ได้ ถือว่าครอบงำพรรค"
เมื่อถามว่า มองอนาคตของพรรคเพื่อไทย และ น.ส.แพทองธาร อย่างไร? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "อยู่ได้ไม่ถึงปี สั้นกว่านายเศรษฐา จะตายด้วยเรื่องของนายทักษิณเอง รวมถึงเรื่องคดีของ น.ส.แพทองธารด้วย แต่เราคงไม่ถึงขั้นไปยื่นร้อง น.ส.แพทองธาร"
เมื่อถามว่า ประเมินว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเดินเกมแก้แค้นนายทักษิณ อย่างไร? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ต้องแก้แค้นเต็มที่ แต่ พล.อ.ประวิตรคงสู้ไม่ได้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคตระบัดสัตย์ หลังเลือกตั้งปี 2562 ก็ตระบัดสัตย์ไปร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้มี สส.ลดลงจาก 52 คนเหลือ 25 คนในปัจจุบัน
"ส่วน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยบอกถ้าพรรคแพ้การเลือกตั้งปี’66 จะเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต แต่ก็ไม่เลิก ตระบัดสัตย์หรือไม่ ทั้งที่พูดต่อที่สาธารณะ ถามว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ ตนมองว่าผิด แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องเป็นผู้ตัดสิน ดูแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังมีสัจจะดีกว่านักการเมือง สำหรับบทบาทของพรรคเสรีรวมไทยต่อจากนี้ จะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน สิ่งไหนที่รัฐบาลทำดีก็ไม่คัดค้าน ถ้าทำไม่ดีก็ค้าน และจะดำเนินการฟื้นฟูพรรคในการเลือกตั้งต่อไป ถ้าพรรคเพื่อไทยมาเชิญให้ร่วมรัฐบาล ก็ไม่เข้าร่วมแล้ว"
เมื่อถามว่า ราคาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องจ่ายในการเข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้คืออะไร? พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ก็จบแล้ว ใน กทม.ก็จบแล้ว"
ภายหลังจากการเปิดใจของหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยจบลง ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลว่า...
"ด้วยความเคารพ โดยส่วนตัวแล้วตนเคารพ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นอย่างยิ่ง เคารพประวัติการต่อสู้ของท่าน คนไทยยกให้เป็นวีรบุรุษนาแก ยังมีผลงานที่ตรึงตาตรึงใจ แต่กรณีที่จะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ทราบว่าเป็นเหตุผลกลใด เพราะ 1-2 วันที่ผ่านมาก็เจอกันอยู่ในวันรับสนองพระบรมราชโองการฯ ไปเจอที่ไหน ท่านก็บอกว่า จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย การตัดสินใจทางการเมืองเป็นเรื่องของแต่ละพรรค แต่ก็อยากจะกล่าวว่ากับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ว่า ลองทบทวนคำพูดของท่านในครั้งที่ผ่านมา แล้วไปศึกษาว่า ควรเป็นไปหรือไม่ เราให้เกียรติอย่างสูง โดยเฉพาะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เป็นรุ่นพี่นักเรียนนายร้อยของหลาย ๆ คน เป็นผู้บัญชาการตำรวจที่มีบทบาท"
“มีคนบอกว่า ท่านออกมาแถลงข่าว เอ๊ะ น้อยใจเพราะเหตุใด เพราะการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีก็ยังไม่สำเร็จ มีคนมาบอกว่า ท่านไม่ได้เป็นรองนายกฯดูแลยาเสพติดหรือไม่ อันนี้ผมก็ยังไม่เชื่อ เพราะโผ ครม.ยังไม่ปรากฏชัด ธรรมดาคนที่จะมาร่วมรัฐบาล แม้มีกี่เสียงก็สำคัญ ในฐานะที่ท่านมี 1 เสียง ได้แก่ นายมังกร ยนต์ตระกูล อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยเก่า คุณมังกรกับคุณเสรีพิศุทธ์ก็ไม่ค่อยลงรอยกัน ไปทบทวนนะครับ อาจจะพูดแรงไป พูดถึงคำว่า นักโทษด้วยนะ ทำไมมาโกรธกันในวันสองวัน อายุมากแล้วอย่าใจน้อย” นายอดิศรกล่าว
นายอดิศร กล่าวว่า "ตนไม่ได้ขออนุญาตใครก่อนลงมาแถลง แต่ดูแล้วมันไม่เหมาะสมกับฐานานุรูป และวัยวุฒิ จึงอยากให้ตัดสินใจใหม่ มาร่วมไม้ร่วมมือกันเพื่อชาติบ้านเมือง เราไม่ได้คำนึงว่าท่านมี 1 เสียง แต่คำนึงถึงศักยภาพของท่าน ท่านไปอยู่ฝ่ายค้านก็ไม่ได้เป็น สส. มีนายมังกรคนเดียวจะไปอยู่กับเขาได้หรือ"
“กลับมาเถอะครับพี่เสรี กลับมานะ กลับมา เดี๋ยวผมจะได้รับถึงพรรคเอง อย่าน้อยใจ เป็นตำรวจพิทักษ์สันติราษฎร์ต้องเข้มแข็ง ยินดีต้อนรับพี่นะครับ พวกเราคงไม่ถือสาอะไร ถือว่าเป็นคำอวยพร” นายอดิศรกล่าว
เมื่อถามว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ถอนตัว? นายอดิศรกล่าวว่า "ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน อยากเป็นรองนายกฯ หรือเปล่า แต่จะเป็นได้อย่างไร มีเสียงเดียว"
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวถึงขนาดว่า นักโทษตั้งนายกฯ? นายอดิศร กล่าวว่า "วันตั้งนายกฯท่านก็ไปร่วมอยู่ ตนยังยกมือไหว้ท่าน เดินไปส่งถึงรถตู้ ใส่ชุดขาวด้วย ห่าวมาไม่กี่วันกลายเป็นแบบนี้แล้ว มันจะเสียสัตย์ เสียเกียรติภูมิ"
ส่วนจะกังวลหรือไม่ที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะเอาความลับมาเปิดเผย? นายอดิศร กล่าวว่า "ไม่มีความลับ เป็นเรื่องของราชทัณฑ์ ตนกังวลว่าอายุมากแล้ว เราก็ 70 ปีด้วยกันแล้ว อย่าใจน้อย อยู่อีกไม่กี่ปีก็ไปแล้ว"
กรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาแสดงความห่วงใย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องความสุจริตและจริยธรรมในการตั้ง ครม.? นายอดิศร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า "ขอบคุณนายไพบูลย์ สงสัยจะฝึกงานเป็นฝ่ายค้าน ลองไปเจรจากับพรรคประชาชนดูว่าเขาให้เป็นฝ่ายค้านด้วยหรือไม่"
เมื่อถามว่า เสียงของพรรคพลังประชารัฐแตกออกเป็นสองส่วน ในการร่วมรัฐบาล เวลาโหวตในสภาจะเป็นปัญหาหรือไม่? นายอดิศร กล่าวว่า "รัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกในการตัดสินใจเดินต่อไป โผ ครม.ก็ไม่ได้มีคนมาจากพรรคพลังประชารัฐเลย ซึ่งหากจะมาโหวตสนับสนุนพรรคเพื่อไทยก็ไม่ติดใจ พร้อมย้ำว่าการจะไปร้องเรียน เป็นการร้องแบบลูกทุ่งลูกกรุง นึกอะไรได้ก็ไปร้อง ระวังร้องเท็จก็แล้วกัน อยากให้ยุติ เพราะรัฐบาลพักไป 2-3 เดือนก็เสียเวลา เหลืออีกเพียง 3 ปีเอง ขอให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านให้เข้มแข็ง"
"มาประชุมสภาหน่อย ท่านหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ" นายอดิศรกล่าวปิดท้าย