Monday, 9 June 2025
เพื่อไทย

'เต้น' แจง 'เพื่อไทย' เลื่อนจัดกิจกรรม 18 ธ.ค. ขอประสานความพร้อม พบกันหลังขึ้นปีใหม่

(16 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความว่า ครอบครัวเพื่อไทย เวทีสมุทรสาคร ขอเลื่อนการจัดกิจกรรม เพื่อประสานความพร้อมในพื้นที่ 18 ธ.ค. นี้ไม่มีการจัดงาน พบกันหลังขึ้นปีใหม่ ครอบครัวเพื่อไทย บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม

สำหรับกำหนดการเดิมนั้น จะมีการปราศรัยในหัวข้อ 'การยกระดับเศรษฐกิจเดินหน้าค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินตอบแทนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน' พร้อมแนะนำตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในกลุ่มภาคกลางบางส่วนและภาคตะวันตก ได้แก่ สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, กาญจนบุรี และนครปฐม ที่หอประชุมเอนกประสงค์ เทศบาลนครอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร

พรรคเพื่อไทย ถวายแจกันดอกไม้ และลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ให้หายจากพระอาการประชวร

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตรประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และ นางสุภาภรณ์ คงวุฒิปัญญา ส.ส.กทม. ถวายแจกันดอกไม้ หน้าพระรูปสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

‘เพื่อไทย’ เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 159 พร้อมยกเลิกมาตรา 272 ตัดสิทธิ์ ส.ว. เลือกนายกฯ

(16 ธ.ค. 65) เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมคณะ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 159 และการยกเลิกมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทย มีเจตจำนง และมุ่งมั่นมาตลอดคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 โดยเฉพาะมาตราที่เห็นว่าเป็นปัญหาที่สุดในการบังคับใช้ และกระทบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คือมาตรา 272 ที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้บัญญัติไว้ชั่วคราวว่า ให้ส.ว.250 คน สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ โดยเราพยายามยื่นแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมาตลอดแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกติกาการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ มีส่วนทำให้ไม่สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ คือ การต้องอาศัยเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา และต้องมี ส.ว. เห็นชอบด้วยในวาระรับหลักการไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกที่มีอยู่ ด้วยกลไกเหล่านี้ทำให้เรายื่นร่างแก้ไขแล้วไม่สำเร็จ ซึ่งในสมัยประชุมที่ผ่านมาเราก็ยื่นแต่ก็ถูกตีตกไปในขั้นรับหลักการ แต่เราก็ไม่ย่อท้อ เพราะตามข้อบังคับแล้วในสมัยประชุมที่เปิดมาเราสามารถยื่นแก้ไขเพิ่มเติมในมาตราที่สภาไม่รับหลักการได้

‘สมคิด’ ตอก ‘ประยุทธ์’ เลิกปัดสวะให้พ้นตัว แซะ!! คุมสภายังทำไม่ได้ เลิกหวังสร้างสุขให้ปชช.

วันนี้ (16 ธ.ค. 65) นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาล่มบ่อยเป็นเรื่องของสภานั้น การพูดเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นรัฐบาลแล้วทำให้สภาล่มบ่อยจะเป็นรัฐบาลไปทำไม การพูดเช่นนี้เป็นการปัดสวะให้พ้นตัว ในฐานะที่พล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นเสียงข้างมาก จะมาปัดสวะแบบนี้ไม่ได้ ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้บริหาร เป็นนายกฯ จะมาหนีแบบนี้ไม่ได้ อยากให้ไปถามนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่เคยพูดไว้ว่าเรื่ององค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล ดังนั้นการที่สภาล่มก็มาจากฝ่ายรัฐบาล แต่วันนี้พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าไม่เกี่ยว พล.อ.ประยุทธ์กินยาผิดซองหรือเปล่า

‘ผู้กองมาร์ค’ ทิ้ง ‘เพื่อไทย’ ซบ ‘พลังประชารัฐ’ มั่นใจ!! คว้าชัยจัดตั้งรัฐบาล - ทำงานเพื่อ ปชช.

(19 ธ.ค. 65) ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 7 บางซื่อ-ดุสิต พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากได้รับคำเชิญจากผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ และได้ศึกษานโยบายและแนวทางในการทำงานของพรรคแล้ว ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะมีแนวทางในการทำงานที่เหมือนกันและพร้อมพิสูจน์ว่าเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ทางพรรคมีการพัฒนาการและปรับตัวเองให้เข้าได้กับคนทุกรุ่น เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวว่า ไม่เคยคิดจะเผาบ้านเก่า เพราะทุกการตัดสินใจทางการเมืองขึ้นอยู่กับอุดมการณ์ทางความคิดของสมาชิกและพรรคที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกันว่าอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ ในส่วนของการย้ายพรรคก่อนเลือกตั้งใหม่นั้น เป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่ต้องหาบ้านที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ประชาชนก็มีโอกาสได้พิจารณาใหม่ มีสิทธิเลือกผู้แทนที่สามารถทำงานให้กับพวกเค้าได้ตรงตามระบอบของประชาธิปไตย หลายคนมีคำถามว่ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้วจะทำอะไร ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของผมคือจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม บางซื่อ-ดุสิต เพราะผลการเลือกตั้งในปี 2562 แพ้คะแนนไปเพียงหลักร้อย และยังลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ มีเสียงตอบรับที่ดีมาก และผลจากการสำรวจในการทำโพลทุกครั้ง ก็ชนะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตมาโดยตลอด

‘เพื่อไทย’ ลงพื้นที่สงขลา เก็บข้อมูลน้ำท่วม ชงเข้าแผนนโยบายพรรค - ป้องกันปัญหาซ้ำซาก

‘เพื่อไทย’ ลุยสงขลา ลงพื้นน้ำท่วม รวบรวมปัญหา ชงเข้าแผนนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจใหม่ของพรรค - ป้องกันน้ำท่วมซ้ำซาก - สร้างเมือง

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2656 ร.ต.ท.ชนาธิป สันติภราภพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) ลงพื้นที่ชุมชนบางแฟบ เพื่อพบปะพูดคุยพี่น้องประชาชนในละแวกชุมชนหาดใหญ่ใน พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำในคลอง ร.1 ซึ่งเป็นคลองที่บายพาสน้ำออกจากตัวเมืองหาดใหญ่ ปรากฎว่า สถานการณ์น้ำอยู่ในระดับการเฝ้าระวัง 

ต่อมาได้ลงพื้นที่ชุมชนภาสว่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม สิ่งของได้รับความเสียหาย จึงได้ให้คำแนะนำ ให้ประชาชนที่ได้รับความผลกระทบในครั้งนี้ ทำการบันทึกภาพเก็บไว้เพื่อนำเรื่องไปแจ้งต่อเทศบาลนครหาดใหญ่ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อประชาชน 

จากนั้นได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณคลองต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่เป็นคลองสำคัญประกอบไปด้วยคลองอู่ตะเภา, คลอง ร.1,3,4,5,6 เป็นต้น 

ทั้งนี้ คลองเหล่านี้ส่งผลต่อปริมาณน้ำในตัวเมืองหาดใหญ่อย่างมาก หากน้ำในคลองเหล่านี้มีปริมาณน้ำมาก และอยู่ในสถานการณ์เฝ้าระวังในตัวเมืองก็ต้องเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง แต่ขณะนี้มีการเร่งระบายออกไปสู่ทะเลสาบสงขลาทำให้ปริมาณน้ำอยู่ในสถานการณ์ปกติ แต่หากฝนตกหนักลงมาซ้ำอีกจะต้องรีบมาติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

‘หมอชลน่าน’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ ปมตั้งเลขานายกฯ ใหม่ ชี้!! ไม่สมควรแก่เวลา - ส่อเอื้อประโยชน์ให้ตนเอง

วันนี้ (21 ธ.ค. 65) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงการแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 20 ธันวาคม 2565 ว่า เรื่องนี้เป็นไปตามที่พวกเราทุกฝ่ายคิดไว้  เพราะว่ามีการลาออกของอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และตั้งเป็นที่ปรึกษาแทนคือ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เดิมมีตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว สัปดาห์นี้ก็ปรากฏแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถามว่านายกรัฐมนตรีทำได้ไหม ก็ทำได้ไม่มีกฎหมายใดห้ามว่าไม่ควรตั้งหรือห้ามแต่งตั้ง กรณีเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง แต่ถามว่าเหมาะสม สมควรหรือไม่ ตั้งไปเพื่อการใดสิ่งนี้เป็นคำถาม อายุของผู้แทนราษฎรจะเหลือจนถึง 23 มีนาคม 2566 นับต่อนี้ไปไม่กี่เดือน การเปลี่ยนแปลงบุคลากรของรัฐ เฉพาะฝ่ายการเมืองสำคัญอย่างนี้ ในห้วงเวลาอย่างนี้ โดยสามัญสำนึกแล้วทุกคนก็ดูว่าไม่เหมาะสม

‘เพื่อไทย’ จี้ถาม 4 ข้อ ปมเรือหลวงอับปาง ซัด!! เบิกงบบำรุงตลอด แต่ความปลอดภัยยังต่ำ

วันนี้ (21 ธ.ค. 65) ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางตั้งแต่คืนวันที่ 18 ธันวาคม 2565 จนทำให้มีลูกเรือเสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก โดยขอให้กำลังใจแก่ครอบครัวของลูกเรือและทีมค้นหาเพื่อให้ทุกคนนั้นปลอดภัย และขอตั้งคำถามถึงกรณีดังกล่าว ดังนี้

1. การบริหารจัดการภายในกองทัพภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการใช้งบประมาณในการบำรุงรักษาเรือหลวงสุโขทัยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างไร เพราะทราบมาว่า กองทัพเรือได้รับงบประมาณเพื่อบำรุงรักษาเรือมาโดยตลอด แต่เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

2. การบริหารจัดการภายในเรือ โดยปกติแล้วเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ช่วยชีวิต จะต้องจัดเตรียมให้เพียงพอก่อนออกเรือทุกครั้ง แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าเสื้อชูชีพมีไม่เพียงพอ และยังไม่มีการเตรียมการที่ดีพอในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย

‘หมอชลน่าน’ ชู 2 เสาหลักสร้าง ศก.ดิจิทัล ตั้งเป้าปี 2570 สร้างคนดิจิทัล 2 ล้านคน

(22 ธ.ค. 65) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แสดงวิสัยทัศน์ในงานสัมมนา ‘NEXT STEP THAILAND 2023 ทิศทางแห่งอนาคต’ จัดโดยสปริงนิวส์ เนชั่นทีวี และโพสต์ทูเดย์ โดยในโอกาสนี้นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงานสัมมนาด้วย

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวว่า ภายในปี 2570 พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยต้องเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาค คนไทยต้องรู้เท่าทัน รู้การเปลี่ยนแปลง และก้าวไปได้ทันกับเศรษฐกิจดิจิทัล เพราะเศรษฐกิจดิจิทัล มีทั้งโอกาสและอันตรายซ่อนอยู่ คือ เค้กชิ้นใหญ่ที่ทุกฝ่ายอยากไขว่คว้ามาแบ่งกัน ปัญหาคือประเทศไทยไม่มีคนผลิตเค้ก พรรคเพื่อไทยจึงต้องตอก 2 เสาหลัก เพื่อวางอนาคตด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่

1. โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่งคือเครื่องผลิตเค้ก พรรคเพื่อไทยไม่ได้หยุดอยู่ที่อินเทอร์เน็ตฟรีทุกหมู่บ้าน หรือแท็ปเล็ตฟรีทุกครอบครัว แต่พรรคเพื่อไทยต้องการวางโครงสร้างระบบการเงินของประเทศด้วย Central Bank Digital Currency (CBDC) ให้คนไทยทุกคนมีกระเป๋าสตางค์ดิจิทัล มี digital ID ของตนเอง ทลายกำแพงการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย Blockchain สัญชาติไทย รวมทั้งการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

พรรคเพื่อไทยประกาศเปิดเขตธุรกิจใหม่ 4 แห่ง เชียงใหม่ กรุงเทพ ขอนแก่น หาดใหญ่ เพื่อสร้างกฎหมายธุรกิจใหม่ ดึงดูดการลงทุนต่างชาติด้านดิจิทัล และธุรกิจในโลกยุคใหม่ เขตธุรกิจใหม่นี้จะสร้างและเชื่อมเอสเอ็มอีที่มีตลาดในมือ กับ สตาร์ตอัปที่มีไอเดียและเทคโนโลยี และยังดึงดูดแรงงานทักษะสูงจากต่างชาติเข้าทำงานระยะยาวในไทย

‘เพื่อไทย’ ชี้!! รัฐควร ‘ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้’ ไม่ใช่ส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายช่วงปีใหม่

(23 ธ.ค. 65) นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย เขต 1 พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีครม. เคาะของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนว่า ถือเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลพยายามคิดมอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แต่ของขวัญดังกล่าวเป็นมาตรการที่แก้ปัญหาประชาชนไม่ตรงจุด เสมือนการเกาไม่ถูกที่คัน สิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือลดรายจ่าย สร้างรายได้ ขยายโอกาส ที่สำคัญที่สุดคือรัฐบาลมีหน้าที่ส่งเสริมโอกาสในการสร้างรายได้ในกระเป๋าประชาชน ไม่ใช่ออกมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนใช้จ่ายเอาเงินออกจากกระเป๋า ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเงินเพิ่ม 

หากเราพิจารณาดูมาตรการของรัฐบาลอย่างคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมไปถึงการขึ้นค่าไฟภาคเอกชน จะเห็นได้ว่าเป็นมาตรการที่สร้างรายจ่ายให้กับประชาชน ขณะเดียวกันก็ไปสร้างรายได้ให้กับกลุ่มทุนเพียงบางกลุ่ม ซึ่งย้อนแย้งกับยุทธศาสตร์ชาติกับการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ 

นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะเรื่องค่าไฟที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ) มีมติขึ้นค่าไฟภาคธุรกิจเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย สุดท้ายคนที่ต้องรับภาระต้องเป็นพี่น้องประชาชน เพราะภาคเอกชนเองก็ต้องขึ้นราคาสินค้าเนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันคำถามที่หลายคนให้ความสงสัยก็คือ วันนี้เรามีกลุ่มทุนผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนที่ กฟผ.จะต้องจ่ายค่าความพร้อมจ่ายให้ผู้ผลิตไฟฟ้ากลุ่มนี้ในไตรมาสสุดท้ายของปี เดือน ก.ย. - ธ.ค. ยอด 30,665 ล้านบาท และในไตรมาสแรกของปีหน้า ม.ค. - เม.ย.66 ยอด 32,420 ล้านบาท หากการผลิตไฟฟ้าเราขาดแคลน จำเป็นต้องพึ่งหลาย ๆ ภาคส่วนในการผลิตก็เป็นที่เข้าใจได้ แต่วันนี้เราผลิตเกินความต้องการมากถึงประมาณ 50% สุดท้าย คนที่ต้องรับภาระก็คือภาคประชาชนและเอกชน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top