Monday, 1 July 2024
อนุทิน_ชาญวีรกูล

'อนุทิน' บอก ทักษิณด่า ถือว่าผู้ใหญ่สั่งสอน ชี้!! โลกนี้คือละคร ผลเลือกตั้งคือคำตอบ

เมื่อวันที่ (31 ส.ค. 65) เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงนายอนุทิน ในคลับเฮาส์ว่าเป็นคนไว้ใจไม่ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านชมต่างหาก รุ่นใหญ่อย่างนี้เอ่ยชื่อตนดีใจตายเลย และตนพูดมาตลอดว่าได้เป็นรัฐมนตรีก็เพราะท่าน ฉะนั้นไม่ต้องมาถาม 

“ผู้ใหญ่ว่า ผู้ใหญ่ติ ผู้ใหญ่พูดถึง ก็ถือเป็นคำสั่งสอน เราต้องมาดูตัวเราเองว่าเป็นไปตามที่เขาพูดหรือไม่ และมาดัดแปลงวิถีชีวิตให้ดีขึ้น ผมคิดถึงวันดี ๆ เสมอ คิดถึงความเมตตา ความเอ็นดูที่ท่านให้ไว้กับผม ผมเชื่อว่าถ้าไม่มีการเมืองอย่างนี้ เขาก็คงเป็นลุงผมเหมือนเดิม ทุกอย่างโลกนี้คือละคร และผลของการเลือกตั้งจะเป็นคำตอบทุกอย่าง ดังนั้นต้องรอผลการเลือกตั้ง” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์กันว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเหลือพรรคการเมืองอยู่ 5 พรรค ที่จะสามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนสนใจอย่างเดียวขอให้พรรคภูมิใจไทยเหลืออยู่ และเป็นหนึ่งในเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ส่วนกรณีหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรื่องนายกฯ 8 ปี และหานายกฯ คนในบัญชีไม่ได้ จนต้องหานายกฯ นอกบัญชีนั้น ตนขอเอาไว้ให้ถึงจุดนั้นก่อน ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เราสามารถทราบได้ว่า ผลคำวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไร เราก็ทำหน้าที่ของเราที่มีอยู่ 

'อนุทิน' พอใจ นโยบายเลือกตั้งเป็นรูปธรรมแล้ว พร้อมเดินหน้าหาเสียง เน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตปชช.

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางการเดินหน้าของพรรคภูมิใจไทย ในช่วงก่อนเข้าโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง ว่า ที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทย ทำนโยบายที่หาเสียงไว้เป็นรูปธรรมแล้ว ทั้งเรื่องกัญชาเพื่อการแพทย์ แกร๊บถูกกฎหมาย ปลดผู้ค้ำประกันหนี้ กยศ. เพิ่มค่าตอบแทน อสม. และอีกหลายนโยบาย 

จากนี้ เรามุ่งมั่นจะต้องทำให้ดีขึ้น เป็นเฟส 2 ของการเดินหน้านโยบายขอเพียงให้ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน เราลุยได้แน่นอน ก่อนอื่นต้องขอเริ่มจากสิ่งที่เห็นกันอยู่ตรงหน้า หรือ อสม. ที่ต้องดูแลให้ดีกว่าเดิม ในอดีตรับเดือนละ 1,000 บาท แล้วมาได้เพิ่มอีก 500 บาท ช่วงที่มีโควิด-19 ระบาด เงินที่จ่ายไปทดแทนมาด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่คุ้มค่า อสม. คือจุดแข็งของประเทศไทย องค์การอนามัยโลก ยังต้องมาศึกษาการขับเคลื่อนงานของ อสม. ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำให้ อสม. มีค่ายิ่งกว่าคำว่ามวลชนด้านสุขภาพ

'อนุทิน' เมินตอบนั่งนายกฯ สมัยหน้า ย้ำ!! ภูมิใจไทยเตรียมพร้อมสำหรับเลือกตั้ง

'อนุทิน' เผยให้รอคำวินิจฉัยศาลรธน. ปมนายกฯ 8 ปีก่อน ย้ำยึดหลักทำงานในรัฐบาลนี้เต็มที่ ไม่ตอบนั่งนายกฯ สมัยหน้า ขอแค่โอกาสทำงานให้ปชช. ย้ำภูมิใจไทยคิดอย่างเดียวเตรียมพร้อมเลือกตั้ง

(8 ก.ย. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีมีเอกสารหลุดของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่ชี้แจงเรื่องปม 8 ปีนายกฯ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และเอกสารหลุดคำชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มองสถานการณ์นี้อย่างไรว่า ตนให้ความเห็นไม่ได้ และไม่ทราบว่าเอกสารนั้นหลุดหรือไม่ทุกอย่างอยู่ที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จะเหลืออายุกี่ปีพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะเดินเคียงข้างไปด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยเดินหน้าเคียงคู่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยเพราะพรรคภูมิใจไทยรู้เพียงว่าเดี๋ยวเดือนมี.ค. 2566 แล้วบวก 45 หรือ 60 วันหรือจะยุบสภาเมื่อไหร่ก็ต้องเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยคิดเพียงเท่านี้

เมื่อถามว่าแสดงว่าไม่ได้หวังเป็นนายกฯ ในช่วงนี้ แต่รอลุ้นหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนหวังที่จะมีโอกาสทำงานมากกว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำตอนนี้คือเตรียมพร้อมนโยบายแล้วจะค่อยๆ นำเสนอให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ เราทำงานไปเรื่อยๆ ไม่ไปมีปัญหาหรือมีเรื่องกับใคร ทำงานโดยยึดหลักการระบอบประชาธิปไตยเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ต่อไปก็จะยึดหลักการ การทำงานในหน้าที่ในรัฐบาลนี้ให้ดีที่สุดช่วยนายกฯ ทำการประชุมเอเปคและซัมมิทในเดือนพ.ย.นี้ให้ประเทศไทยมีความสง่างามสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างประเทศจากนั้นก็ไปเลือกตั้งกัน

'อนุทิน' เคลียร์ทุกปม ความขัดแย้ง 'ปชป.' ลั่น!! ไม่คิดโต้กลับ แม้ถูกหักในสภาฯ 

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 20 กันยายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หลังมีการโต้เถียงเกี่ยวกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ว่า เรื่องของกฎหมายดังกล่าวเป็นเพียงความเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละพรรค อย่าไปเรียกว่าความขัดแย้งเลย กรณีของ กยศ. พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เห็นว่ามีดอกเบี้ย แต่พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย เห็นว่าไม่มีดอกเบี้ย ทีอย่างนี้ไม่เห็นบอกว่าขัดแย้งเลย เพราะฉะนั้นมีความเห็นต่างกันได้ เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค เราต้องเคารพกติกา ส่วนกฎหมายกัญชาเสียงส่วนใหญ่ให้ไปทบทวน เราก็ต้องฟัง ยืนยันไม่มีความขัดแย้งอะไร 

เมื่อถามว่าขณะนี้เคลียร์ใจกับพรรคประชาธิปัตย์เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ หลังมีรูปคู่กับนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มีอะไรผิดใจกันเลย ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ เมื่อวานยังใส่ชุดเหมือนกันเลย

เมื่อถามว่าได้คุยกับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์บ้างหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย ซึ่งปกติก็ไม่ได้คุยกับหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว เพราะจะมีวิปรัฐบาล มีอะไรก็คุยผ่านวิปรัฐบาลไป

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ นายอนุทิน เคยพูดว่าต่อไปนี้จะได้ไม่ต้องเกรงใจกันมีนัยอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีนัยอะไร  

เมื่อถามต่อว่าต่อไปจะกลายเป็นว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอกฎหมายอะไรมาพรรคภูมิใจไทยจะไม่เห็นด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าไปคิดแบบนั้นว่าจะต้องคนละทีสองที มันไม่ใช่ กฎหมายอะไรก็ตามถ้าไม่เห็นด้วย ก็หมายถึงว่าจะมีผลไม่ดีต่อประชาชนนี่คือหลักของพรรคภูมิใจไทย แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมสนับสนุน

เมื่อถามว่าหากกฎหมายกัญชาไม่ผ่านวาระ 3 พรรคภูมิใจไทยจะถอนตัวจากรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปถอนอะไรล่ะ จะเลือกตั้งแล้วมิใช่หรือ เราไม่ได้คิดถึงตรงนั้น ถ้าวาระ 3 ไม่ผ่านก็เป็นเรื่องของสภาฯ และที่มาบอกว่าอยากจะให้มีกฎหมายมาคุมกัญชาอย่างละเอียดรอบคอบ แสดงว่าที่พูดไปแสดงว่าไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น ซึ่งกฎหมายนี้มี กมธ.ที่มาจากทุกพรรคทุกฝ่าย ซึ่งทั้งหมดก็เห็นชอบในช่วงรับหลักการ ตอนเข้าไปมี 45 มาตรา ตอนออกมามี 95 มาตรา ปุถุชนที่ไหนก็ต้องคิดได้ว่ามันต้องละเอียดขึ้น มีความรอบคอบระมัดระวังในการบังคับใช้มากขึ้น แต่ที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านบอกว่ารับหลักการ 45 มาตรา มิใช่ 95 แล้วมาบอกว่าพรรคภูมิใจไทยเกเรเป็นเด็กๆ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเด็กมากกว่า ซึ่งมันคนละเรื่องกัน

เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่พรรคภูมิใจไทยขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะไปเจาะพื้นที่ภาคใต้ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่สามารถไปห้ามความความคิดคนอื่นได้ แต่เรื่องพวกนี้พรรคภูมิใจไทยไม่คิด คนเข้ามาจังหวัดบุรีรัมย์เยอะแยะไป

“มีคนจะมาดึง ส.ส.อ่างทอง 2 คนพี่น้องจากเราไปด้วยซ้ำ แต่ผมไม่บอกหรอกว่าใคร ซึ่งสองคนพี่น้องก็หัวเราะเป็นโจ๊กเลยบอกว่าโอ้ยไม่ดูตาม้าตาเรือเข้ามาในพื้นที่” นายอนุทิน กล่าว

'อนุทิน' จ่อชงครม. 27 ก.ย.นี้ จ่ายค่าตอบแทนอสม. - อสส. คนละ 2,000 บาท

เมื่อวันที่ (26 ก.ย. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 27 ก.ย. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณรายจ่ายปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 2,100.61 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) จำนวน 10,577 คน รวม 1,050,306 คน ช่วงเดือนมิ.ย. - ก.ย. 65 รวม 4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน  

ทั้งนี้ เงินดังกล่าวเป็นค่าตอบแทน เยียวยา ชดเชย และเสี่ยงภัย และสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของ อสม. และอสส. ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด-19 ในชุมชนในช่วงระยะเวลาที่โควิด-19 ยังคงเป็นโรคติดต่ออันตราย

'อนุทิน' สั่งดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองใน 9 รพ.เอกชน ยัน!! ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง ตั้งแต่ 10 ต.ค.นี้

(9 ต.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีการยกเลิกสัญญาการให้บริการปฐมภูมิ ประจำ และรับส่งต่อทั่วไปกับ โรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย ได้แก่ รพ.มเหสักข์, รพ.บางนา1, รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขไม่ถูกต้อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ (1 ต.ค. 65) เป็นต้นมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามการดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า สปสช. ได้หารือกับโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง และกรุงเทพมหานคร และมีมาตรการรองรับเพื่อให้ประชาชนยังได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ระหว่างการรักษา รวมถึงมีช่องทางเลือกหน่วยบริการใหม่โดยสะดวก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ (10 ต.ค. 65) เป็นต้นไป สปสช. จะเปิดให้ประชาชนที่หน่วยบริการปฐมภูมิและประจำถูกยกเลิกซึ่งมีอยู่ประมาณ 2.3 แสนคน จากโรงพยาบาล 7 แห่ง ประกอบด้วย รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท สามารถเลือกหน่วยบริการใหม่ได้ผ่าน 4 ช่องทาง ประกอบด้วย 1. แอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนูลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ 2. ไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso เลือกเมนู เปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง 3. สายด่วน สปสช. โทร.1330 และ4. ลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเองได้ที่ที่ทำการของ สปสช. ชั้น 2 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สปสช. ได้แจ้งว่าประชาชนที่ต้องเลือกหน่วยบริการปฐมภูมิและประจำใหม่ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ให้พิจารณาหน่วยบริการที่ใกล้บ้านหรือสะดวกก่อนตัดสินใจเลือก สามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ สปสช. http://mscup.nhso.go.th/mastercup/ หรือสอบถามสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งระหว่างที่ยังไม่ได้เลือกหน่วยบริการใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีสถานะ 'สิทธิว่าง' นี้ สปสช. ได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดเตรียมหน่วยบริการไว้รองรับแล้ว

'อนุทิน' ยัน!! ควรมี 'กม.กัญชงกัญชา' ชี้!! ไม่คิดถอนตัวจากรบ.หาก กม.ไม่ผ่าน

(19 พ.ย. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพระราชบัญญัติกัญชงกัญชาว่า “ไม่มีความกังวลอะไร หลังประชุมเอเปคทุกอย่างก็ดีขึ้น ครั้งนี้เราพร้อมที่จะรับฟัง ครั้งที่แล้วเขาไม่ให้เข้าไปพิจารณา แต่คราวนี้คงไม่ได้แล้ว เพราะถูกบรรจุอยู่ในวาระแล้ว เมื่อพ.ร.บ.กัญชงกัญชาเข้าไปแล้วก็จะต้องมีการพิจารณาเป็นรายมาตรา”

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า “เชื่อมั่นว่าคณะกรรมาธิการที่ร่างกฎหมายนี้จะต้องรับฟัง อย่างไรก็ตามถ้าจะผ่านหรือไม่ผ่านนั้นเราขอยึดเอาประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งประชาชนไม่ได้รับผลกระทบต่อให้พ.ร.บ.นี้เลย เพียงแต่ว่าทุกวันนี้เราใช้ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขควบคุม แต่ปัญหามันคือความยุ่งยากของเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้นเอง ส่วนประชาชนสามารถใช้ได้ทุกอย่าง ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดควรจะต้องมีกฎหมายกัญชงกัญชา”

'อนุทิน' ย้ำชัด!! ไม่เคยปล่อยกัญชาเป็นสันทนาการ เย้ย!! ถึงถูกขัดขา แต่คะแนนนิยมก็ยังไม่ลด

'อนุทิน' ชี้ ปมกัญชาไม่ให้ราคาเด็กปชป. บอกคนละระดับ สื่อสารแค่กับ หน. - เลขาฯพรรค ย้ำไม่เคยปล่อยสันทนาการ เย้ยถูกขัดขาแต่คะแนนนิยมไม่ลด 

(5 ธ.ค. 65) ที่ จ.นครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ส.ส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยังออกมาตอบโต้ปมกัญชา ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ตนมีความแนบแน่นกับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ซึ่งกับนายจุติ เราต่างก็ดูแลประชาชน เวลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่านนั่งติดกับตน อะไรที่ดูแล้วขัดแย้งกัน ตนก็โทรไปคุยกับท่าน

เมื่อถามว่า แต่ภาพที่ออกมาเหมือนพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์เหมือนไม่ลงรอยกัน เพราะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ มีการใช้คำพูดที่รุนแรงว่าใจไม่ต่ำพอที่จัดฉาก ทำให้นายอนุทิน สวนกลับทันทีว่า "เขาพูดแทนผมเลย ว่าใจไม่ต่ำพอที่จะจัดฉาก คนพาลก็แบบนี้ ภูมิใจไทยอยู่เฉยๆ หนีไปภูเก็ต หนีมานครพนมก็ยังตามมา คงจะหิวแสง ขึ้นแล้วหาทางลงไม่ได้"

ตัวตนของคนชื่อ 'อนุทิน'

อุณหภูมิการเมืองช่วงนี้ร้อนแรง แต่ละพรรคการเมืองออกอาวุธทิ่มแทง เตะตัดขากันสารพัด แต่กลับกันกับ 'เสี่ยหนู' นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และท่าทีของพรรคภูมิใจไทย ที่วันนี้ดูจะไม่ยี่หระกับสงครามการเมืองในรูปแบบใด แถมออกมาพูดถึงจุดยืนและตัวตนของตัวเอง แบบไม่แคร์การเมืองว่าจะตีรวนกันแรงแค่ไหนเสียด้วย!!

โดยไม่นานมานี้ เจ้ากระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวไว้ดังนี้ ว่า...

ตอนเด็ก ๆ ผมเป็นคนที่มีความอดทนอดกลั้นต่อแรงกดดันต่าง ๆ ได้มาก ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ชอบ และเกลียดมากด้วย

แต่พอโตขึ้นมา สิ่งนี้ก็กลายเป็นข้อดีติดตัว แล้วก็จะไม่มีวันเลือนหายไปจากจิตวิญญาณของเรา เพราะทำให้เราสามารถเติบโตมาได้ถึงวันนี้ 

'อนุทิน' ขอบคุณ อสม. ด่านหน้าดูแลสุขภาพคนไทย ยัน!! 'สาธารณสุข' มอบ 'สวัสดิการ-ดูแล' ต่อเนื่อง

(12 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ประเทศไทยประกาศปรับระดับโรคโควิด19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มาตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 โดยภาพรวมขณะนี้ถือว่ายังดีขึ้นต่อเนื่อง และรายงานล่าสุดของกรมควบคุมโรค วันที่ 1-7 ม.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าทั่วประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ 997 คน หรือเฉลี่ยวันละ 142 คน นับว่าเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน หน่วยงานของรัฐ เอกชน ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการบริหารจัดการโควิด19 ของไทย มีส่วนสำคัญจากการทำงานหนักของบุคลากรทุกระดับ รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นกองหน้าในการช่วยดูแลสุขภาพคนไทยไปถึงชุมชนระดับฐานรากทั้งในช่วงเกิดโรคระบาดและสถานการณ์ปกติ และขอบคุณพี่น้องอสม. ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆในการดูแลคนไทยมาโดยตลอด เป็นด่านหน้าคนแรก ๆ ที่เข้าไปดูแลคนชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้อง อสม. จึงได้เน้นย้ำถึงนโยบายการดูแลและมีสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม. ทั่วประเทศให้ต่อเนื่องสอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งช่วงมีการแพร่ระบาดของโควิด19 และสถานการณ์ปกติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข มีสวัสดิการที่เป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม.และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.) 1,050,306 คน อาทิ ค่าตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้เพิ่มเติมอีกเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 30 เดือนหรือ 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่ มี.ค. 63- ก.ย. 65 รวมกว่า 15,000 ล้านบาท และมีสวัสดิการดูแลสุขภาพตามรายการตรวจสุขภาพประจำปี ภายใต้ระเบียบสาธารณสุข ว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล เพื่อให้ อสม. ได้รับการตรวจสุขภาพตามช่วงวัย อาทิ การประเมินคัดกรองความดันโลหิต, ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด(Thai CV risk score), ภาวะซึมเศร้า,ภาวะเครียด  สำหรับผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพิ่มการตรวจความเข้มข้นระดับน้ำตาลในเลือด(FBS)ตรวจอุจจาระ (Stool examination)สำหรับผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงพยาธิใบไม้ตับ และกรณีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการประเมินภาวะถดถอย 9 ด้าน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top