Monday, 9 June 2025
สำนักข่าวการศึกษาออนไลน์สำหรับทุกคน

การลงทุนในทองคำ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ที่นักลงทุนเลือกเพื่อเก็งกำไร

การจัดสรรเงินออมในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อนำไปลงทุนเพิ่มค่าของเงินด้วยวิธีการต่าง ๆ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนยอมรับได้นั้น ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการสร้างความมั่นคงทางการเงินส่วนบุคคลที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบให้การลงทุนในหลายรูปแบบมีความผันผวน ดังนั้นนักลงทุนจึงจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงลักษณะ ผลตอบแทน และความเสี่ยงจากการลงทุน ก่อนตัดสินใจนำเงินไปลงทุนในทางเลือกนั้น ๆ

โดยในบทความนี้ผู้เขียนขอกล่าวถึง “การลงทุนในทองคำ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวที่นักลงทุนเลือกเพื่อเก็งกำไร เนื่องจาก ทองคำมักมีมูลค่าเพิ่มในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อีกทั้งทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าและไม่เสื่อมสภาพ สามารถแปลงเป็นเงินสดได้เร็วโดยที่ไม่กระทบต่อมูลค่ามากนัก ตลอดจนนักลงทุนหลายคนนิยมใช้ทองคำเป็นเครื่องมือในการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนรวมอีกด้วย

การลงทุนในทองคำแบบดั้งเดิม คือการลงทุนซื้อ “ทองคำแท่ง หรือ ทองรูปพรรณ” ผ่านหน้าร้านตามราคาที่ทางร้านประกาศไว้ โดยอ้างอิงจากราคากลางของสมาคมค้าทองคำ น้ำหนักทองคำ 1 ออนซ์ ซึ่งเป็นหน่วยวัดในระดับสากล จะเท่ากับทองคำประมาณ 2 บาทตามหน่วยวัดของไทย ทั้งนี้ในการซื้อขายทองคำในตลาดสากลนิยมทองคำบริสุทธิ์ 99.9% ในขณะที่การซื้อขายทองคำในตลาดไทยเป็นไปตามมาตรฐานที่ 96.5% โดยนักลงทุนทองคำเพื่อเก็งกำไรมักเลือกลงทุนในทองคำแท่ง ที่มีค่าบล็อคเล็กน้อย ไม่มีค่ากำเหน็จ และเวลาขายคืนจะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าทองรูปพรรณ

ทั้งนี้นักลงทุนจะสามารถทำกำไรจาการลงทุนในทองคำด้วยการดูราคาทองคำในตลาดปัจจุบันและคาดคะเนความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งโดยปกตินักลงทุนมักจะเทขายเมื่อราคาทองคำสูงขึ้น 2-5% จากราคาต้นทุน อย่างไรก็ดีปัจจุบันการลงทุนในทองคำแท่งและทองรูปพรรณยังสามารถซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ และแพลตฟอร์มออนไลน์

อาทิเช่น
วายแอลจี พรีเชียส บนเว็บไซต์ https://www.ylgprecious.co.th
ฮั่วเซ่งเฮง บนเว็บไซต์ https://www.huasengheng.com/buy-sell-online
แม่ทองสุก บนเว็บไซต์ http://trade.mtsgold.co.th/goldonline
App บนมือถือ “HSHtrade” เป็นต้น

สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่มีเงินทุนน้อย อาจเลือกลงทุนในทองคำผ่านรูปแบบการ “ออมทอง” โดยนักลงทุนจะเปิดบัญชีกับบริษัทที่ให้บริการ จากนั้นจึงทยอยจ่ายเงินลงทุนซื้อทองทุกเดือน โดยมียอดขั้นต่ำเดือนละ 1,000 บาท เสมือนการทยอยซื้อทองน้ำหนัก 5 - 10 สตางค์ ทุกเดือนไปเรื่อย ๆ จนครบน้ำหนักทอง 1 บาท

นักลงทุนก็สามารถไปขอรับเป็นทองจริงได้จากบริษัทที่เลือกลงทุน อาทิเช่น ฮั่วเซ่งเฮง, ออสสิริส, โกลเบล็ก, จีแคป, Hello Gold เป็นต้น ทั้งนี้การออมทองจะเป็นการถัวเฉลี่ยซื้อในแต่ละเดือน ทำให้ราคาทองที่ลงทุนจึงเป็นค่าเฉลี่ยของการซื้อในแต่ละครั้งของช่วงเวลาที่มีการออม ดังนั้นนักลงทุนจึงควรพิจารณาความผันผวนของราคาทองที่เป็นไปตามราคาตลาดโลกควบคู่ประกอบการตัดสินใจออมทองไปด้วย

ทางเลือกการลงทุนในทองคำรูปแบบถัดไป เป็นการลงทุนที่ไม่มีการถือทองคำจริง เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ได้แก่ การลงทุนทองคำผ่าน ”กองทุนรวม” ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนนำเงินไปลงทุนในทองคำให้กับนักลงทุน โดยแต่ละกองทุนจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเรื่องการลงทุน วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำ และความผันผวนของราคาของคำที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ จะมีค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการกองทุนรวมเป็นค่าใช้จ่ายของนักลงทุน การลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวมนี้ นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปของเงินปันผล และกำไรจากส่วนต่างในมูลค่าหน่วยลงทุน (Capital Gain)

สำหรับทางเลือกการลงทุนในทองคำที่มีความซับซ้อนขึ้น สามารถเก็งกำไรทองได้ ทั้งในภาวะขาขึ้นและขาลง ทำให้มีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงจากการลงทุนที่สูงเช่นกัน ได้แก่ การลงทุนในทองคำผ่านสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือ “การซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส” ที่อ้างอิงราคาทองคำแท่งที่ผู้ลงทุนคาดการณ์ในอนาคต ทั้งนี้ผู้ลงทุนจะซื้อโกลด์ฟิวเจอร์สไว้ก่อน เมื่อคาดว่าทองจะขึ้นในอนาคต และทำกำไรเท่ากับส่วนต่างของราคาซื้อและขาย เมื่อราคาทองคำในอนาคตนั้นปรับตัวขึ้นจริง ในขณะที่ผู้ลงทุนจะขายโกลด์ฟิวเจอร์สล่วงหน้า เมื่อคาดว่าราคาทองจะปรับตัวลดลง การซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สนี้จะเป็นการซื้อขายโดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX มีบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ประกันการชำระราคา และมีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นผู้กำกับดูแลการซื้อขาย

และทางเลือกลงทุนในทองคำรูปแบบใหม่ล่าสุด ได้แก่ “โทเคนทองคำ” ที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายทองคำดิจิทัลได้เสมือนกับได้ครอบครองกรรมสิทธิ์ในทองคำแท่ง ผ่านเหรียญ xBullion (GOLD), UPXAU, และ GoldGo โดยมีการ Backup ทองคำจริงเอาไว้ และใช้เทคโนโลยี blockchain และรหัสทองคำ เพื่อรักษาความปลอดภัยของการซื้อขายของนักลงทุนแต่ละราย เพิ่มภาพคล่อง และสามารถโอนรายการระหว่างกันได้อย่างรวดเร็ว

จากรูปแบบการลงทุนทั้งหมดที่ผู้เขียนได้กล่าวถึง ปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อผลตอบแทน และความเสี่ยงจากการลงทุนในทองคำที่นักลงทุนควรคำนึงถึงได้แก่ นโยบายการเงินและอัตราดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ราคาน้ำมัน ตลอดจน Demand supply หรือความต้องการซื้อขายทองคำในตลาด เป็นต้น

เขียนโดย อาจารย์ กมลวรรณ รอดหริ่ง อาจารย์ประจำสาขาการเงิน คณะการจัดการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยบูรพา


ข้อมูลอ้างอิง
https://www.tfex.co.th/th/education/files/2011-09-GF-Th.pdf

10 อันดับมหาวิทยาลัยในประเทศจีนที่ได้รับการขนานนามว่าผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพทั้งทักษะด้านวิชาและความรู้ รวมไปถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพและสามารถต่อยอดพัฒนาทางด้านอาชีพได้อย่างดีเยี่ยม (พาร์ท 2)

ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว THE STUDY TIMES ได้แนะนำ 5 อันดับ มหาวิทยาลัยในประเทศจีน เหลืออีก 5 อันดับ จะมีมหาวิทยาลัยอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย !

10 อันดับ มหาวิทยาลัยในประเทศจีน (พาร์ท 1)

Click on Clever >> https://thestatestimes.com/post/2021072204

อันดับที่ 6 University of Science and Technology of China (中国科学技术大学) 

อยู่ในอันดับที่ 53 ของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1958 เดิมตั้งอยู่ที่กรุงปักกิ่ง ก่อนจะย้ายมายังเหอเฝย เมืองหลวงของมณฑลอันฮุยซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบันในปี ค.ศ. 1970 การก่อตั้ง University of Science and Technology of China ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ด้านการศึกษาและวิทยาศาสตร์ของประเทศจีน" ปัจจุบัน USTC มีชื่อเสียงด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เว็บไซต์ : https://en.ustc.edu.cn/ 


เครดิตภาพ : https://applyforchina.com/index/schools/show/id/9.html

อันดับที่ 7 Nanjing University (南京大学) 

อยู่ในอันดับที่ 124 ของโลกตั้งอยู่ที่เมืองหนานจิง เมืองหลวงของมณฑลเจียงซู เมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นเมืองหลวงเก่าของจีน Nanjing University ก่อตั้งปี ค.ศ. 1902 ภายใต้ชื่อ National Central University ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Nanjing University เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของจีน ปัจจุบันมีชื่อเสียงด้านการวิจัยต่าง ๆ สาขาวิชาที่เปิดสอนมีทั้งในด้านเคมี วัสดุศาสตร์ วิศวกรรม ธรณีวิทยาและวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

เว็บไซต์:  https://www.nju.edu.cn/EN/

เครดิตภาพ : https://www.facebook.com/NanjingUniversity/

อันดับที่ 8 Wuhan University (武汉大学) 

อยู่ในอันดับที่ 246 ของโลก ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1893 ในชื่อ Ziqiang Institute และเปลี่ยนชื่ออีกหลายครั้งก่อนจะมาเป็น Wuhan University ชื่อปัจจุบันในปี ค.ศ. 1949 Wuhan University ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจีน มีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานโลกตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ด้วยสถานที่ตั้งที่ติดกับภูเขาและล้อมรอบด้วยทะเลสาบ ทำให้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยอบอวลด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ 

เว็บไซต์ : https://en.whu.edu.cn/

เครดิตภาพ : https://www.applyforchina.com/index/schools/show/id/14.html

อันดับที่ 9 Tongji University (同济大学) 

อยู่ในอันดับที่ 256 ของโลก ตั้งอยู่ในกรุงเซี่ยงไฮ้ ก่อตั้งโดยแพทย์ชาวเยอรมันนาม Erich Paulun ในปี ค.ศ. 1907 โดยเป็นโรงเรียนแพทย์เยอรมันก่อนจะได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยเต็มตัวในปี ค.ศ. 1923 มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรมโยธา และมหาสมุทรศาสตร์ โดยสำหรับด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมโยธานั้นถือได้ว่าเป็นอันดับ 1 ของประเทศจีน

เว็บไซต์ :https://en.tongji.edu.cn/ 


เครดิตภาพ : https://www.facebook.com/同濟大學-Tongji-University

อันดับที่ 10 Harbin Institute of Technology (哈尔滨工业大学) 

อยู่ในอันดับที่ 260 ของโลก โดยก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1920 ตั้งอยู่ในฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลเฮย์หลงเจียง เป็นสถาบันแรกที่เปิดสอนด้าน astronautics และมีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมจนได้รับการขนานว่าเป็นแหล่งกำเนิดวิศวกรของจีน 

เว็บไซต์ : http://en.hit.edu.cn/


เครดิตภาพ : https://www.goodtime-edu.com/harbin-institute-of-technology.html

และนี้ก็เป็น 10 อันดับมหาวิทยาลัยในประเทศจีนที่ได้รับการยอมรับว่ามีชื่อเสียงและสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพ ออกมาพัฒนาประเทศและมีนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนมากมาย หวังว่าบทความของเราจะเป็นอีกทางเอกหนึ่งในการตัดสินใจในการเรียนต่อต่างประเทศนะคะ 


ที่มา : 
https://www.learningeast.com/
http://www.toeasteducation.com/

THE STUDY TIMES X DekThai Online สัปดาห์ที่สิบสอง พบกับวิดีโอสรุปเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ แต่ละรายวิชา

????THE STUDY TIMES X DekThai Online สัปดาห์นี้

????วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม - วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564

⏰ทุกวัน เวลา 18.00 น.

พบกับวิดีโอสรุปเนื้อหา เทคนิค แนวข้อสอบ 5 รายวิชา 

????วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม
วิชา BMAT: เรื่อง แนวข้อสอบ BMAT Problem Solving

โดย ครูพี่จึ๋ง สมนึก สงวนตระกูล
อันดับ 1 สอบ Pre ม.ปลาย ระดับประเทศ
นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น Monbusho
#BMAT เรียนเตรียมสอบแพทย์ Critical Thinking, Problem Solving, Maths & Science

????วันอังคารที่ 3 สิงหาคม
วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง โจทย์ตรีโกณมิติ

โดย ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล 
อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย  

????วันพุธที่ 4 สิงหาคม
วิชาดาราศาสตร์: เรื่อง สุริยุปราคา

โดย คุณน้ำหวาน ภิรมณ กำเนิดมณี
นักเรียนทุน พสวท. (ฟิสิกส์) ปริญญาตรี-ปริญญาเอก สหรัฐอเมริกา
#สอนวิชาฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ เตรียมเข้าม.4

????วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม
วิชาชีววิทยา: เรื่อง Cerebrum

โดย ครูหมอเมศ กฤษณะ ธรรมศิริ 
ปริญญาตรี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
#สอนชีววิทยาม.ต้น-ม.ปลาย

????วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม
วิชาปัญญาเลิศ 1: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบการเคลื่อนที่

โดย ดร.ถาวร ตันหยงมาศกุล (อ.บู้)
การศึกษาดุษฎีบัณฑิต หลักสูตรและการสอนมหาวิทยาลัยบูรพา ปริญญาเอก
#คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5-ม.3

????ช่องทางรับชม 
Facebook และ YouTube: THE STUDY TIMES
 

วิชา BMAT: เรื่อง แนวข้อสอบ BMAT Problem Solving

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม
วิชา BMAT: เรื่อง แนวข้อสอบ BMAT Problem Solving

โดย ครูพี่จึ๋ง สมนึก สงวนตระกูล
อันดับ 1 สอบ Pre ม.ปลาย ระดับประเทศ
นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น Monbusho
#BMAT เรียนเตรียมสอบแพทย์ Critical Thinking, Problem Solving, Maths & Science

#DakThaiOnline 
https://dekthai-online.com/browse

.

.

 

วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง โจทย์ตรีโกณมิติ

THE STUDY TIMES X DekThai Online
.
????วันอังคารที่ 3 สิงหาคม
วิชาคณิตศาสตร์: เรื่อง โจทย์ตรีโกณมิติ

โดย ครูพี่ปุ๊ องอาจ สุภัคชูกุล 
อดีตตัวแทนคณิตศาสตร์โอลิมปิก นักเรียนทุนรัฐบาลญี่ปุ่น
#สอนวิชาคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ ม.ต้น-ม.ปลาย  

#DekThaiOnline
https://dekthai-online.com/browse

.

.
 

วิชาดาราศาสตร์: เรื่อง สุริยุปราคา

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันพุธที่ 4 สิงหาคม
วิชาดาราศาสตร์: เรื่อง สุริยุปราคา

โดย คุณน้ำหวาน ภิรมณ กำเนิดมณี
นักเรียนทุน พสวท. (ฟิสิกส์) ปริญญาตรี-ปริญญาเอก สหรัฐอเมริกา
#สอนวิชาฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ เตรียมเข้าม.4

#DekThaiOnline
https://dekthai-online.com/instructor/P'NAMWAN
.

.

วิชาชีววิทยา: เรื่อง Cerebrum

THE STUDY TIMES X DekThai Online

????วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม
วิชาชีววิทยา: เรื่อง Cerebrum

โดย ครูหมอเมศ กฤษณะ ธรรมศิริ 
ปริญญาตรี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
#สอนชีววิทยาม.ต้น-ม.ปลาย

#DekThaiOnline
https://dekthai-online.com/browse

.

.
 

วิชาปัญญาเลิศ 1: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบการเคลื่อนที่

THE STUDY TIMES X DekThai Online
.
????วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม
วิชาปัญญาเลิศ 1: เรื่อง ตัวอย่างข้อสอบการเคลื่อนที่

โดย ดร.ถาวร ตันหยงมาศกุล (อ.บู้)
การศึกษาดุษฎีบัณฑิต หลักสูตรและการสอนมหาวิทยาลัยบูรพา ปริญญาเอก
#คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5-ม.3

#DekThaiOnline
https://dekthai-online.com/instructor/Galilao

.

.
 

นักเรียน-นักศึกษาทุกคน จะต้องตระหนักถึงผลพวงทางสังคมที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ต รวมถึงการรู้จักสิทธิและความรับผิดชอบออนไลน์

ในโลกปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราปฎิเสธไม่ได้ว่า เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันและสังคมของนักเรียน-นักศึกษาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เช่น Facebook Line TikTok Instagram Twitter และ Instant messaging อื่นๆ ซึ่งนักเรียน-นักศึกษานั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารหรือท่องโลกโซเชียลต่างๆ อย่างเสรีภาพได้ทุกที่และทุกเวลา จากเครื่องมือสื่อสาร สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ฯลฯ 

ซึ่งการใช้สื่อออนไลน์ดังกล่าวนั้น ทุกคนควรใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งกับตนเองและผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างสรรค์ รับผิดชอบ ปลอดภัย และควรมีจริยธรรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในส่วนของจริยธรรมนี้ ครูพิมพ์จะขอหยิบยกนำมาเขียน นั่นก็คือ จริยธรรมของการใช้เทคโนโลยี โดยที่นักเรียน-นักศึกษาทุกคนจะต้องตระหนักถึงผลพวงทางสังคมที่เกิดจากการใช้อินเทอร์เน็ต รวมถึงการรู้จักสิทธิและความรับผิดชอบออนไลน์ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่า นักเรียน–นักศึกษาทุกคนมีสิทธิเสรีภาพในแสดงออก ในทุกๆ มิติเรื่องราวที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของการพูด (Freedom of Speech) เสรีภาพการแสดงออก (Freedom of Expression) การแสดงความคิดเห็น การตั้งกระทู้ถาม-ตอบเรื่องต่างๆ การโพสต์สเตตัสบนเฟซบุ๊ก โพสต์รูปภาพ คลิปวีดีโอ และคอมเมนต์เพื่อตอบคำถามหรือแสดงความคิดเห็นของตนเองในสเตตัสของผู้อื่น ฯลฯ 

ทั้งนี้ จะต้องไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จ หรือโพสต์ต่อว่าพาดพิงถึงบุคคลอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย อับอาย ถูกเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียง การทำให้เข้าใจผิด กลั่นแกล้ง ทำให้หวาดกลัว ข่มขู่ ประจาน รวมทั้ง การแชร์ข้อมูลอันเป็นเท็จส่งต่อผ่านสื่อ Social Media ต่างๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่มีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ฯ รวมทั้งไม่นำเสนอสินค้าหรือผลงานอันมีลิขสิทธิ์ที่ไปละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาอยู่มากมายในยุคปัจจุบัน

ประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียน – นักศึกษา ส่วนใหญ่ที่ครูพิมพ์พบมากที่สุด คือ การหมิ่นประมาท โดยการโพสต์ต่อว่าพาดพิงถึงบุคคลอื่นๆ เช่น การโพสต์ต่อว่าสถานศึกษา ต่อว่าครู-อาจารย์ ต่อว่าเพื่อนทั้งในโรงเรียนและต่างโรงเรียน รวมทั้งต่อว่าคนอื่นๆ ตามช่องทางสื่อโซเซียลต่างๆ โดยส่วนมากมักจะไม่แสดงโปรไฟล์ที่แท้จริงของตน แต่จะใช้โปรไฟล์อวตาร บางคนเรียกว่า แอคหลุม หรือ แอคเคาท์หลุม ซึ่งเป็นคำเรียกของชื่อบัญชีที่ไม่แสดงข้อมูล รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อบัญชีนั้น ไม่แสดงรูปโปรไฟล์ ไม่มีความหมายของชื่อแอคเค้าท์นั้นๆ ซึ่งเมื่อนักเรียน-นักศึกษา ไม่ใช้โปรไฟล์ที่แสดงตัวตนจริง จึงคิดว่าตนเองเป็นผู้วิเศษที่สามารถโพสต์หรือคอมเมนต์ต่อว่าใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ก็ได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลินและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ (กลายเป็นคำพูดที่ฮิตกันเมื่อกระทำความผิดแล้วถูกจับได้) เพราะคิดว่าไม่มีใครทราบว่าโปรไฟล์อวตารนี้เป็นใคร และคงไม่มีใครตามจับเพื่อให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบได้ 

ซึ่งการคิดและการกระทำเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะคะ เพราะถ้านักเรียน-นักศึกษา โพสต์ในลักษณะเชิงประจาน ดูถูก เหยียดหยามผู้อื่น หรือแสดงความคิดเห็นในเชิงคุกคาม ข่มขู่ ทำให้หวาดกลัว หรือการนำเรื่องที่ไม่จริงมาแสร้งทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องจริง โดยทั้งหมดที่กล่าวมานี้เรียกได้ว่าเป็นการหมิ่นประมาททางออนไลน์ หรือคดีหมิ่นประมาททางอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้เสียหายอาจได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง เป็นเครือข่าย ขยายไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น เช่น ผู้ที่โพสต์มีเพื่อนใน Facebook จำนวนห้าพันคนและมีผู้ติดตามอีกมากมายนับไม่ถ้วน โดยที่เพื่อนอาจแชร์ไปสักสองพันคน และเพื่อนของสองพันคนนี้ ก็เห็นโพสต์ข้อความดังกล่าวและก็แชร์ต่อๆ กันโดยไม่สิ้นสุดไปเรื่อยๆ 

ทราบแล้วไช่ไหมคะว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการโพสต์เพียงแค่ 1 ครั้ง คุณก็ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นได้เป็นวงกว้างขนาดไหน ครูพิมพ์คิดว่าการกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่น่ารักและใจร้ายมากๆ นะคะ ที่เราสามารถทำร้ายคนอื่น ให้เค้าได้รับความเสียหาย อับอาย เสียใจ ถูกเกลียดชัง ถูกเข้าใจผิด และเป็นการทำลายผู้อื่นโดยการใช้เพียงแค่ปลายนิ้วโพสต์ข้อความที่เราต้องการลงในโลกโซเชียล ยิ่งถ้าเป็นเรื่องในแง่ลบนั้น ข่าวก็ยิ่งกระจายอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ผู้ที่โพสต์ต้นเรื่องอาจจะลบข้อความที่ตนโพสต์ไปแล้วก็ตาม แต่บางคนที่อ่านอาจจะแคปไว้ได้ทันและอาจจะนำมาส่งต่อๆ หรือนำไปโพสต์ต่ออีกทีแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแล้ว ก็เป็นไปได้ 

ซึ่งผลกระทบที่ตามมานั้น ผู้ที่เสียหายอาจเกิดความอับอาย เสียใจ หนีจากสังคม อาจส่งผลกระทบต่อการงาน ต่อธุรกิจ และอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้า ส่วนผู้ที่โพสต์นั้นถ้ากระทำความผิดจริงก็อาจถูกดำเนินคดีทางอาญาและรับโทษทางอาญาหรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในทางแพ่ง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ โดยผู้เสียหายจะต้องรวบรวมหลักฐานและพยานต่างๆ เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป และที่กำลังฮอตฮิตที่สุด คือ อาจต้องขอโทษผู้เสียหายด้วยเงินสดเป็นจำนวนตามที่ผู้เสียหายต้องการอีกด้วยนะคะ แล้วยิ่งถ้าเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นผู้มีชื่อเสียง เช่น ดารา ไฮโซ นักร้อง นักดนตรี นักธุรกิจ นักการเมือง หรือคนดัง ฯลฯ ความเสียหายยิ่งมาก ค่าเสียหายก็จะมากขึ้นตามไปด้วยนะคะ 

โดยเฉพาะในแวดวงการศึกษา การโพสต์ต่อว่าด่าทอและวิจารณ์ครูบาอาจารย์ในแง่ลบนั้น ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่สมควรและไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง เพราะครูบาอาจารย์ เป็นผู้สั่งสอน อบรม พร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่ศิษย์ทุกคนด้วยความรัก ความปรารถนาดี และมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคนโดยเท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมทั้งปกป้องและให้อภัยทุกครั้งเมื่อศิษย์ของตนได้กระทำความผิด 

ครูพิมพ์จะขอฝากถึงศิษย์ทุกคนให้คิดและตระหนักถึงในเรื่องดังกล่าวนี้ให้มากๆ นะคะ ไม่มีครูบาอาจารย์คนใดที่ไม่รักศิษย์ของตน ไม่มีครูบาอาจารย์คนใดคิดทำร้ายทำลายศิษย์ของตน มีแต่มอบวิชาความรู้ มอบประสบการณ์ มอบความรักและความเมตตา ความปรารถนาดี ความหวังดี และอยากเห็นศิษย์ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิต มีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า เติบโตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ มีคุณธรรม เป็นคนเก่งและคนดีของคุณพ่อคุณแม่ ครอบครัว สังคม และประเทศชาตินะคะ     

“ครูบาอาจารย์เปรียบเสมือนเรือจ้าง แต่เรือจ้างลำน้อยๆ นี่แหละ ที่จะตั้งใจคอยรับคอยส่งศิษย์ทุกคนไปให้ถึงฝั่งฝัน แม้จะเผชิญอุปสรรค์ยากลำบาก เสมือนโดนพายุพัดพาสักเพียงใด ครูพิมพ์ก็จะพยายามพายไปส่งทุกคนให้ถึงฝั่งฝันให้สำเร็จนะคะ”


เขียนโดย ครูพิมพ์ฑักษอร แสงทองไชย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนสตรีสมุทรปราการ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top