Saturday, 7 June 2025
ลุงป้อม

'วัน' งงข่าว 'สันติ-วราเทพ' ทิ้งลุงป้อม ถาม? สื่อไปเอาข่าวมาจากไหน?

(28 ก.ย.67) นายวัน อยู่บำรุง หัวหน้าทีมกรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กเมื่อวานนี้ (27) ว่า...

"วันนี้ 18.00 น. ผมทานข้าวอยู่กับลุงป้อมพร้อมท่านสันติและท่านวราเทพ สื่อไปเอาข่าวมาจากไหนครับ"

ทั้งนี้จากกรณีมีกระแสข่าวว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายวราเทพ รัตนากร ผอ.พรรคพลังประชารัฐ จะย้ายกลับไปพรรคเพื่อไทย (พท.)

กระบวนท่าใหม่!! ..พรรคบ้านในป่า ออกจากมุม..ประดาบ จันทร์ส่องหล้า

(2 พ.ย. 67) มหากาพย์ดิ ไอคอน  ทำให้พรรคบ้านในป่า..พลังประชารัฐเอียงกะเท่เร่หวิดมอดม้วยมรณา...ถูกกล่าวหาว่าเป็นที่สิงสถิตของเทวดา...

พรรคพปชร.นั้นเหมือนถูกต้อนเข้ามุม ส.สามารถลาออกยังไม่พอ..ยังออกจากมุมไม่ได้ กระทั่งต้องใช้กระบวนท่าของพล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค ออกมาตอบโต้ปล่อยชื่ออักษรย่อนักการเมือง ม.ม้า สองคนและพูดโยงใยไปถึงกลุ่มสามมิตร อักษรย่อส.และอักษรต่างๆ

แม้จะเป็นลีลาแบบเก่าๆ แต่ต้องยอมรับ..ได้ผล  เพราะตั้งแต่โฆษกพรรค รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยต้องพล่านเรียงหน้ากันมาตอบโต้ชี้แจง...และบางคนถึงขั้นขู่จะฟ้อง ‘บิ๊กต๊ะ’

งานนี้ ‘บิ๊กต๊ะ’ อดีตผบช.ภ.5 ที่ดูแลภาคเหนือตอนบน..ผลงานเข้าตากรรมการ  ทำให้พรรคพปชร.ออกจากมุมอับของมหากาพย์ดิ ไอคอนได้...ในจังหวะเดียวกันกับที่ฝ่ายวิชาการ-เศรษฐกิจของพรรคเปิดแนวรบแนวรุกในบริบทของตนได้อย่างน่าชื่นชม...

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีพื้นที่ทับซ้อน-ไทยกัมพูชา ที่อ.ธีรชัย  ภูวนารถนรานุบาล -มล.กรกสิวัฒน์  เกษมศรีและสส.ของพรรคบุกสภาแถลงข่าวเรียกร้องให้ยกเลิก MOU2544 ไทย-กัมพูชา ที่มีขึ้นในสมัยรัฐบาลทักษิณ  ชินวัตร...

ในขณะที่ดร.อุตมะ สาวนายน อดีตขุนคลัง กับคณะออกมากระโดดขวางรัฐบาลเพื่อไทยจะส่งคนการเมืองอย่าง ‘โต้ง’ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ไปเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ..

ทั้งสองกรณีสร้างแรงสั่นสะท้านให้บ้านจันทร์ส่องหล้าทั้งโดยอ้อมและโดยตรง..

บทบาททำนองนี้ของพปชร. บวกกับความคมชัดในการคัดค้านการนิรโทษกรรมความผิดมาตรา 112  ทำให้พรรคพปชร.ในส่วนที่เป็นฝ่ายค้านหรือปีกลุงป้อม..ดูดีมีราคา สวนทางกับเสียงปรามาสที่ว่า..หมดท่าหมดราคา...สมัยหน้าไม่มีคนดีๆหรือมือทำงานอีกแล้ว..

นี่ก็แว่วว่า..ลุงป้อมกำลังมียาบำรุงกำลังสองขวดใหญ่..เมื่อพี่ชายของวราเทพ  รัตนากร คือ ‘สุนทร รัตนากร’ ชิงลาออกจากนายกอบจ.กำแพงเพชร เพื่อลงสมัครใหม่ เช่นเดียวกับ อัครเดช  ทองใจสด   นายกอบจ.6สมัยของเพชรบูรณ์..ที่อยู่ในกลุ่มของสันติ  พร้อมพัฒน์   

เชื่อขนมกินได้ว่า..ทั้งสองบ้านใหญ่จะได้เป็นนายกอบจ.อีกครั้ง.. เป็นหน้าเป็นตาเสริมบารมีให้กับลุงป้อมและพรรคพปชร.เกิด”ใจบันดาลแรง”กันโดยทั่วถ้วน...

มีรายงานข่าวระบุด้วยว่า  นอกเหนือจะสร้างผลงานประเด็นเศรษฐกิจ  สังคมและการเมืองแล้ว  เปิดสภาสมัยหน้าพรรคพปชร.จะร่วมวงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจสร้างชื่อให้กับพรรคครั้งสำคัญ..

รวมความแล้ว...การสรุปว่าพปชร.กำลังป้อแป้เหมือนท่าเดิน”ลุงป้อม”และฟันธงว่าลุงป้อมเป็นยาหมดอายุ เป็นตะเกียงไร้น้ำมันแล้วนั้นจะต้องคิดใหม่...

ประเมินกันว่า อนาคตอาจจะมี ‘บิ๊กเนม’ บางคนบินออกไปซบบ้านใหญ่บุรีรัมย์ และบ้านจันทร์ส่องหล้า..แต่ยังจะมีแก่นแกนของพรรคและลุงป้อมอยู่ที่บ้านในป่า...ตรึงแนวรบพปชร.ในสมรภูมิการเมืองต่อไป!!  

‘ลุงป้อม’ ไฟเขียวกดปุ่มลุยยกเลิก MOU 44 สั่งลูกพรรคชักธงรบรักษาผลประโยชน์ชาติ

บ่ายวันที่ 5 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา ประมุขบ้านป่ารอยต่อ..พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ที่กำลังถูกพลพรรคเพื่อไทยตีโต้เรื่อง..MOU 2544 สั่งให้ลูกน้องโทรหาแกนนำพรรค และคณะที่ขับเคลื่อนเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก MOU 2544 ประชุมด่วนตอนสายวันที่ 6พ.ย.

เป็นการนัดประชุมด่วน ณ สถานการณ์ที่พล.อ.ประวิตรและพรรคพปชร.กำลังถูกบดขยี้ว่า...สมัยรัฐบาลลุงตู่ ลุงป้อมเคยรับบทเป็นหัวหน้าคณะเจรจาด้านเทคนิคหรือ JTC ตามกรอบของ MOU ดังนั้นถ้าไม่หิวแสงหรือเมาหมัดแล้วไฉนทำไมจึงปล่อยให้ลูกพรรคออกมาก่อการเรื่องนี้

สายข่าวแจ้งว่าหลายคนที่ถูกเรียก โดยเฉพาะธีรชัย ภูวนารถนรานุบาล, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, ดร.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ออกอาการสะดุ้ง..เดาว่าลุงป้อมเรียกไปสั่งให้เพลาๆ ลงหน่อย...แต่ของจริงการณ์กลับเป็นตรงกันข้าม เพราะเมื่อเริ่มประชุม  ลุงป้อมถามว่า..เอาไงต่อวะ...

พูดคุยกันนานสองนาน...บทสรุปของประมุขบ้านในป่าคือ..ลุยต่อ เอาให้จบภารกิจ...

ภารกิจที่ว่าคือ..กระทำทุกวิถีทางโดนสันติ มีเหตุผลและหลักการให้รัฐบาลยกเลิก MOU2544 หรือชื่อเต็ม ‘บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปซับซ้อน ค.ศ.2001’ ซึ่งเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลทักษิณเมื่อปีพ.ศ.2544

ไม่มีการขีดเส้นไทม์ไลน์ว่าจะจบภารกิจวันไหน..แต่ความหมายของ ‘ลุงป้อม’ คือทำต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้เต็มที่...ซึ่งการชักธงรบเรื่องนี้ต่อไปทำให้วงประชุมหัวใจพองโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอ.ธีระชัยกับ ‘หม่อมกร’ ที่กำลังเดินสายออกทีวีช่องต่างๆ ด้วยข้อมูลที่สามารถประดาบกับอีกฝ่ายได้สูสีหรือโชว์เหนือในบางครั้ง...

อีกประมาณสองสัปดาห์ฝ่ายรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการ JTC ขึ้นมา ซึ่งคาดว่า ‘รองอ้วน’ ภูมิธรรม เวชยชัย เจ้าของวลี ‘อย่าคลั่งชาติ’ อันลือลั่นจะเป็นประธาน..และโครงสร้างกรรมการก็คงมีตัวบุคคล/รัฐมนตรีที่ดูน่าเชื่อถือมาผสมโรง..แต่ก็นั่นล่ะJTCที่ว่าก็เน้นการเจรจาเรื่องเขตแดน...ในขณะที่ในMOUข้อ2 กำหนดไว้ชัดเจนว่า การเจรจาจะต้องทำสองเรื่องพร้อมกันคือเรื่องเขตแดนและการพัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อน...

‘พื้นที่ทับซ้อน’อันเกิดจากกัมพูชาลากเส้น(ไหล่ทวีป)นักเลงผ่าเกาะกูด เมื่อปี 2515 โดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่วนไทยลากเส้นเมื่อปี 2516 มีกฎหมายระหว่างประเทศรองรับ..

ดังนั้นต่อให้ตั้งJTCอีก10 ชุดก็ยังจะเดินหน้าเจรจาต่อไปไม่ได้...พรรคพปชร.ก็เคยเสนอให้รัฐบาลบอกกล่าวกัมพูชาว่าไทยจะขอยกเลิก MOU2544แล้วให้กัมพูชาลากเส้นไหล่ทวีปใหม่ให้ถูกต้องแล้วมาทำMOU2568 ร่วมกัน จะได้เอาขุมทรัพย์พลังงานมาใช้...

พปชร.ก็คงจะรู้ว่าข้อเสนอทำนองนี้ออกจะ ‘โลกสวย’ ไปไม่น้อย แต่ไม่มีทางเลือกอื่น..และถ้าไม่ยกเลิกMOU2544 แผนที่แนบท้ายMOU ที่แสดงพื้นที่ทับซ้อน 26,000 ตร.กม.ก็จะบาดตาบาดใจคนไทยไปอีกนานแสนนาน..

รายการนี้จะจบลงอย่างไร ยากจะคาดเดา..หากจะบอกว่า ‘ลุงป้อม’ และพลพรรคบ้านในป่ามาถูกทาง สู้ด้วยข้อมูลเหตุผลและจุดยืนที่สร้างสรรค์ ไม่ได้นั่งท่องคาถา ‘เกาะกูด’ เป็นของไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ อันนั้นรู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่ที่คนไทยเป็นห่วงคือเราจะสูญเสียอธิปไตยทางทะเล ที่อาจจะนำไปสู่การสูญเสียเกาะกูดจริงๆ ในอนาคตหากยังคิดกันในกรอบแคบ ๆ..

ก็น่าจะกล่าวได้..ใช่หรือไม่?


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top