Monday, 9 June 2025
ลุงป้อม

‘พปชร.’ คว้าคะแนนติด TOP 3 ในเวทีดีเบตช่อง 7 คาด!! กระแส ‘ลุงป้อมฟีเวอร์’ กำลังหวนกลับมา

เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.66) ผู้ใช้งานติ๊กต็อกชื่อ ‘sparkupdate’ ได้โพสต์วิดีโอพูดถึงผลโพลที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงเลือกตั้งรอบนี้ โดยระบุว่า…

เกิดอะไรขึ้นกับกระแสของพรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ๆ ก็โดดขึ้นไปมีชื่อบนโลกออนไลน์ หลังจากเวทีดีเบตของทางช่อง 7 ที่เรียกว่าเป็นซูเปอร์เรตติ้งอันดับ 1 ของประเทศไทย ได้มีการถ่ายทอดการดีเบต ซึ่งคะแนนของพรรคพลังประชารัฐในขั้นต้น ติดอยู่ใน TOP 3 เอาชนะฝั่งอนุรักษ์นิยมไปได้อย่างขาดรอย 

‘พปชร.’ เผยโฉมหน้า ‘ดรีมทีมเศรษฐกิจ’ ลั่น!! รวมตัวกันได้จากชายชื่อ ‘บิ๊กป้อม’

(19 เม.ย.66) นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเป็นอย่างมาก มุ่งหวังจะแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ โดยออกมาย้ำถึง ‘ดรีมทีมเศรษฐกิจ’ ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีทั้งที่เป็นรัฐมนตรีในปัจจุบัน อดีตรัฐมนตรี และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ประกอบด้วย...

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง

นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลังและอดีต รมว.อุตสาหกรรม

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์

นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตผู้ช่วย รมว.คลัง

ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน

และตนที่เป็นอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง

'ลุงป้อม' สั่งการ 'กรมทะเลชายฝั่ง' เร่งกำหนดมาตรการทางกฎหมาย คุ้มครองวาฬบรูด้าจากกิจกรรมท่องเที่ยว พร้อมสำรวจติดตามแหล่งหญ้าทะเล ยกระดับความสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง

วันพุธที่ 19 เมษายน 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2566 โดยมี  นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) พร้อมด้วยนายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (รรท.อทช.) ดร.พรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตลอดจนคณะกรรมการฯ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ (กทช.) กล่าวภายหลังการประชุมว่า การประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณาเรื่องการกำหนดสถานีสำรวจติดตามสถานภาพทรัพยากรหญ้าทะเลประจำปีของประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยพบแหล่งหญ้าทะเลครอบคลุมพื้นที่ 17 จังหวัดชายฝั่ง โดยมีพื้นที่ประมาณ 160,628 ไร่ แบ่งออกเป็นฝั่งอ่าวไทย 54,148 ไร่ และฝั่งทะเลอันดามัน 106,480 ไร่ ซึ่งหญ้าทะเลถือเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเลเป็นอย่างยิ่ง เป็นทั้งแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ทะเล รวมถึงเป็นระบบนิเวศแรกที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งที่เกิดจากมนุษย์และจากธรรมชาติ 

จึงต้องมีการศึกษาสำรวจเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยการกำหนดสถานีสำรวจติดตามสถานภาพแหล่งหญ้าทะเลประจำปีของประเทศไทย จำนวน 128 สถานี ตนได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) สำรวจติดตามสถานภาพฯ นอกเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลและเขตห้ามล่าสัตว์ป่า 80 สถานี และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) สำรวจติดตามสถานภาพฯ ในเขตอุทยานฯ 48 สถานี พร้อมทั้งได้กำชับให้กรม ทช. รวบรวมข้อมูลที่ได้จากการสำรวจดังกล่าวบรรจุในรายงานสถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และ   การกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยประจำปีอีกด้วย 

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว่าภายในที่ประชุม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธาน กทช. ได้แสดงความห่วงใยในเรื่อง “สัตว์ทะเลหายาก” เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นต้องเร่งหาแนวทางในการอนุรักษ์ไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วาฬบรูด้า” ซึ่งกำลังได้รับความสนใจและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว การท่องเที่ยวชมวาฬบรูด้าได้สร้างรายได้ให้กับชุมชนและประเทศปีละประมาณ 26.7 ล้านบาท มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากกว่า ปีละ 8,000 คน มีผู้ประกอบการการท่องเที่ยวและเรือนำเที่ยวมากกว่า 38 ลำ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลกระทบกับวาฬบรูด้า เนื่องจากวาฬบรูด้าเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบการถูกรบกวน แต่จากการที่มีเรือนำเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมเป็นประจำทุกวัน ทำให้วาฬเกิดความคุ้นเคย

‘ชูวิทย์’ ลั่น!! นายกฯ คนที่ 30 ส่อแววชื่อ ‘ประวิตร’ คาดโหวตอีก 2 ครั้ง ปัดแฉ ‘เศรษฐา’ เอื้อประโยชน์ ‘ลุงป้อม’

(6 ส.ค. 66) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ ‘ชั่วโมงข่าวเสาร์อาทิตย์’ ทางช่องไทยพีบีเอส ระบุว่า ไม่แปลกใจกับการประกาศเลื่อนกลับประเทศของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่มีหลักประกันที่จะเดินทางกลับ

นายชูวิทย์ คาดการณ์ว่า รัฐสภาจะต้องลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีอีกอย่างน้อยๆ 2 ครั้ง จึงจะได้นายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าน่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จากการเสนอโดยพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคอันดับ 3 เนื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย ไม่น่าจะผ่านความเห็นชอบในการโหวตครั้งต่อไป เนื่องจาก สว.อาจอ้างเหตุผลเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต

“คาดว่าจะได้นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ และถึงแม้จะได้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่ ก็ไม่ได้หมายความว่านายทักษิณ จะได้กลับประเทศทันทีหลังจากนั้น โดยเงื่อนไขสำคัญ คือ ต้องได้รับไฟเขียว” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ ยืนยันว่า การออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนายเศรษฐา ไม่ได้โกรธแค้นเป็นการส่วนตัว หรือทำเพื่อประโยชน์กับบุคคลใด แต่ย้ำว่า ไม่ต้องการได้นายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม โดยในวันที่ 7 ส.ค. จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดินเพิ่มเติม เป็นหนังสือราชการสำคัญ และจะไปยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป

‘พล.อ.ประวิตร’ นำคณะกรรมการมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

(12 ส.ค. 66) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นำคณะกรรมการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางพานพุ่มเฉลิมพระเกียรติ ถวายเครื่องราชสักการะ ถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91 พรรษา เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงว่า ทรงรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อม เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า แหล่งต้นน้ำลำธาร นำมาซึ่งความผาสุขร่มเย็นโดยถ้วนหน้า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ จึงทรงเป็นพระแม่แห่งแผ่นดินที่สถิตย์สถาพรอยู่กลางใจพสกนิกรทั่วทั้งแผ่นดิน

พร้อมกันนี้พล.อ.ประวิตร ยังเปิดให้ข้าราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอดีตผู้ใต้บังคับบัญชามอบกระเช้าดอกไม้ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 78 ปี ย้อนหลัง 11 สิงหาคม 2566 เช่น  คณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ตัวแทนกรมป่าไม้ และหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด

25 สิงหาคม พ.ศ. 2565  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รักษาการนายกฯ แทน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นวันแรก

วันนี้ เมื่อปีก่อน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั่งเก้าอี้รักษาการนายกรัฐมนตรี แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ระหว่างรอวินิจฉัยอยู่ในตำแหน่งนายกฯ 8 ปี

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 5:4 รับคำร้อง วาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี และ สั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2565 โดยในระหว่างนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีแทนไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยออกมา

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม ‘ลุงป้อม’ กับภาพลักษณ์ผู้ใหญ่ใจดี ยิ้มง่าย มีใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลา

พล.อ.ประวิตร เกิดเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2488 เพิ่งอายุครบ 78 ปีไปหมาด ๆ เป็นชาวกรุงเทพมหานครโดยกำเนิด เข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ก่อนศึกษาต่อยังโรงเรียนเตรียมทหาร ในรุ่นที่ 6 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 17 พร้อมกับจบการศึกษาหลักสูตรประจำ ชุดที่ 56 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อปี 2521

ในด้านการรับราชการทหาร พล.อ.ประวิตร ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ เมื่อปี 2532 ต่อด้วยผู้บัญชาการกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ฯ เมื่อปี 2539 และค่อย ๆ ได้รับการขยับตำแหน่งสูงขึ้น จนได้มาเป็นผู้บัญชาการทหารบกเมื่อปี 2547 ในสมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และถือได้ว่าเป็นนายทหารรุ่นพี่ที่สนิทสนมกับนายทหารอดีตผู้บัญชาการทหารบกสองนาย คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จนได้รับฉายาว่าเป็นพี่ใหญ่แห่งพี่น้อง 3 ป.

สำหรับเส้นทางการเมืองของพล.อ.ประวิตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี พ.ศ. 2552 จากนั้น ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานที่ปรึกษา และเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายหลังจากการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557

‘โอ๋ ชัยวุฒิ’ ไม่ห่าง ‘ลุงป้อม’ แวะเยี่ยมหาสม่ำเสมอ เหตุเพราะ ‘สำนึกบุญคุณ’ ผู้มีพระคุณที่เคยมอบโอกาสให้

(17 พ.ย. 66) จากคอลัมน์ 'เปลวสีเงิน' ได้นำเสนอบทความในหัวข้อ…อยู่กับ ‘ลุงป้อม’ เสมอ…ระบุความว่า...

นี่แหละการเมือง ยามมีอำนาจมีแต่คนรายล้อม วันสิ้นอำนาจหันมองข้าง ๆ ช่างบางตา ชีวิต ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แทบจะเป็นแบบนั้น

ย้อนกลับไปก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา เมื่อครั้งยังเป็นรองนายกรัฐมนตรี บารมีเฉิดฉาย ไปที่ไหนรัฐมนตรี สส. และนักการเมือง แย่งกันเบียดเพื่อไปยืนข้าง ๆ ชนิดแทบจะเหยียบกันตาย

ขนาดงานลงพื้นที่ธรรมดา ๆ ลูกพรรคยังยกพรรคกันไปแห่รอรับ พินอบพิเทาเอาใจ ลุงป้อม ประหนึ่งขอความเมตตา

แต่มาวันนี้ เหลือกันไม่กี่คนที่ยังคอยเคียงข้างลุง แบบว่างานราษฎร์ งานหลวง ไปตลอดแทบไม่เคยขาด อย่างเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ลุงป้อม เดินทางไปเป็นประธานพิธีทอดกฐินสามัคคีที่วัดเกาะแก้ว และวัดโพธิ์เผือก อ.เมืองฯ จ.พระนครศรีอยุธยา เห็นแล้วต้องบอกว่าใจหาย นั่นเพราะข้างกายวันนี้เหลือกันอยู่ไม่กี่คน

วันดังกล่าว ข้าง ๆ ตัว ลุงป้อม มีแค่ ‘บิ๊กน้อย’ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และ ‘บิ๊กณัฐ’ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ 2 น้องรักตั้งแต่อยู่ด้วยกันในกองทัพ

ขณะที่นักการเมืองแท้ๆ มีแค่ ‘เสี่ยโอ๋ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์’ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม คนเดียวเท่านั้น

มีคนเล่าว่า ทุกวันนี้เป็นแบบนี้จริง ๆ คนที่เข้า ๆ ออก ๆ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เหลือกันไม่กี่คน ต่างจากอดีตที่แทบจะแย่งบัตรคิวเข้าพบลุงป้อม

ส่วนในราย ‘เสี่ยโอ๋’ หลายคนยืนยันตรงกัน ยังเข้าไปหา ‘ลุงป้อม’ สม่ำเสมอ แม้วันนี้จะไม่มีตำแหน่งแห่งหนอะไร หากมีงานที่ไหน คิวว่าง อดีตเสนาบดีรายนี้ยืนไม่เคยห่าง

เรื่องของเรื่อง เพราะ ‘เสี่ยโอ๋’ ซาบซึ้งใจ ‘ลุงป้อม’ ในฐานะที่เป็นผู้ให้โอกาส ให้นักการเมืองสิงห์บุรีรายนี้ได้พาสชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกับเขาสักครั้ง บุญคุณนี้ยากจะทดแทน

แล้วในยามที่ ‘ลุงป้อม’ เป็นแบบนี้ การปลีกห่างไม่ใช่แนวทางคนอย่าง ‘เสี่ยโอ๋’ แน่

‘บิ๊กป้อม’ เปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567 ด้าน ‘ผบ.ทบ.-ปธ.วุฒิฯ-อนุพงษ์-เพื่อนร่วมรุ่น’ ตบเท้าอวยพร

(28 ธ.ค. 66) ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด รับอวยพรเนื่องในวันปีใหม่ 2567 โดยมี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา, พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, พลเอกสนิทชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และ พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก ตบเท้าเข้าอวยพร

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 6 หรือ ‘รุ่นฝนแรก’ รวมทั้งคณะกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ มาอวยพรด้วย

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ได้ส่งแจกันดอกไม้ มาอวยพรสวัสดีปีใหม่พลเอกประวิตร เนื่องจากติดภารกิจไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเองได้

‘ลุงป้อม’ เตรียมบินไปฝรั่งเศส 1 สิงหานี้ เพื่อให้กำลังใจทีมไทย มั่นใจ!! นักกีฬาแบดมินตันไทย มีหวังได้ ‘เหรียญทอง’ กลับบ้าน

(28 ก.ค. 67) ที่สำนักงาน คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้สัมภาษณ์ ถึงการให้กำลังใจนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศสว่า ว่า ส่วนตัวเตรียมที่เดินทางไปเยี่ยมนักกีฬาไทยที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศฝรั่งเศสอยู่แล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) นักกีฬาแบดมินตันไทย แบดมินตันหนุ่มสาวไทย หวดผ่านฉลุยรอบแรกในการแข่งขัน จะเพิ่มเงินอัดฉีดหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ชนะซิ และมีหวังจะได้เหรียญทองด้วย”

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปให้กำลังใจกับนักกีฬาที่ฝรั่งเศสในวันที่ 1 สิงหาคมนี้

'พปชร.' ใกล้อวสาน 'ลุงป้อม' หมดลุ้นนั่งนายกฯ ลุ้น 'เดอะจ๊อบ' ฮึด!! รวม 'สส.ก้าวไกล' หนุน

"26 สส.ชวนตั้งพรรค รองรับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หลัง 14 ส.ค. รู้กัน ใช้ชื่อพรรคอะไรดี คอมเมนต์อันไหนมีหัวใจมากสุด รับรางวัลเงินสด 20,000 บาท ประกาศวันที่ 25 นี้"

นั่นคือโพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ของนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช หรือ 'เดอะจ๊อบ' นักการเมืองเล็กดีรสโตที่ออกมาเย่อกับ 'คนโตตัวตึง' อย่างร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพปชร./รมว.เกษตรและสหกรณ์...

นายสามารถเคยได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ให้เป็นกรรมการผู้ช่วย รมต.ประจำ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เมื่อครั้งเป็น รมว.ยุติธรรม เคยมีเรื่องอื้อฉาวกรณีถูกกล่าวหาว่าส่งสแตนด์อินไปเรียน ดร.ที่รามคำแหงแทนตน จนหายเงียบไปพักหนึ่ง และกลับมาอีกครั้งในฐานะคนใกล้ชิดลุงป้อม...กล้าได้กล้าเสีย...และดูเหมือนจะถูกที่ถูกเวลา...

ทั้งนี้ในขณะที่ สส.เกินครึ่งพรรคโน้มเอียงเลือกข้างร.อ.ธรรมนัส แต่ 'เดอะจ๊อบ' กับกุนซือลุงป้อมบางคนพยายามเปิดเกม หาช่องทางให้บิ๊กป้อมได้ลุ้นตำแหน่งนายกฯ หากกรณี เศรษฐา ทวีสิน หลุดตำแหน่ง...ทำให้คนสูงวัยอย่างลุงป้อมกระชุ่มกระชวย...รู้สึกมีราคาค่างวด...

ไม่แปลกที่ 'เดอะจ๊อบ' เป็นหนึ่งในไม่กี่นักการเมืองที่ไปกินข้าวที่บ้านมีนบุรีของ พล.อ.ประวิตร ได้ ในขณะที่ส่วนใหญ่พบ พล.อ.ประวิตร ได้แค่บ้านป่ารอยต่อหรือ 'บ้านในป่า' เท่านั้น...

ตามเกม-แผนการของ 'เดอะจ๊อบ' ที่กำลังดำเนินการก็คือ รวมกลุ่มทำงานทางความคิด และดูแล สส.ก้าวไกลจำนวนหนึ่งร่วม ๆ 20 คน ตกลงกันหลวม ๆ ว่า วันไหนที่พรรคก้าวไกลถูกยุบจะย้ายไปอยู่ พปชร. ซึ่งตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยน เพราะความไม่สงบในพรรค จึงเปลี่ยนแผนเป็นสร้างพรรคใหม่ ทำรังใหม่...

ค่ำวันที่ 31 ก.ค.ที่บ้านมีนบุรี เป็นอีกหนึ่งมื้อนัดหมายระหว่าง สส.ก้าวไกลบางกลุ่ม กับ ลุงป้อม ภายใต้การจัดการของเดอะจ๊อบ...ทุกย่างก้าวต้องให้ลุงป้อมรับทราบ

อย่างไรก็ตาม หากจะกล่าวกันถึงที่สุด แม้กระบวนท่าของ 'เดอะจ๊อบ' จะไม่อาจมองข้ามได้ แต่การเมืองกระดานใหญ่ในขณะนี้โฟกัสไปที่ชะตากรรมของนายเศรษฐา...ซึ่งสัปดาห์ก่อน 'เล็ก เลียบด่วน' ให้น้ำหนักไปว่า...โอกาสรอดมีมากกว่าไม่รอด...ถึงวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น ยิ่งดูภาษากายของนายกฯ วันสองวันนี้ ก็บ่งบอกอาการความมั่นใจว่าจะรอด (แน่ ๆ)

ถ้า 'เศรษฐา' รอด...พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ต้องลุ้นอะไรอีก รอลุ้นอย่างเดียวว่า ปรับ ครม.ปลายเดือน ส.ค.หรือ ต้น ก.ย. 'นายใหญ่' บ้านจันทร์ส่องหล้า จะปรับใหญ่ ครม. เอาพปชร.ออก แต่เอากลุ่มร.อ.ธรรมนัสไว้...หรือไม่...!?  

ส่วนเพลง 'ลุงตู่เริ่ม...ลุงป้อมขอทำต่อ...' ของ 'เดอะจ๊อบ' นั้น จบไปนานแล้ว เดอะจ๊อบ ต้องทำเพลงใหม่...ตั้งพรรคใหม่สถานเดียว!! 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top