Tuesday, 22 April 2025
ลงโทษ

8 ผู้บริหารสายการบินจีน โดนสั่งยืนตากลมหนาว หลังปล่อย ‘แอร์ฯ สาว’ หนาวสั่น เพราะไม่ปรับยูนิฟอร์มให้ทันฤดู

เฟซบุ๊กเพจ ‘ไทยคำ-จีนคำ’ ได้โพสต์เรื่องราวจากกรณีศึกษาขององค์กรสายการบินในจีนที่มองข้ามความสำคัญของสวัสดิภาพพนักงาน ว่า...

ปล่อยพนักงานผู้ใต้บังคับบัญชาตกทุกข์ได้ยาก ผู้บริหารระดับสูงต้องรับผิดชอบ

เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้โดยสารของสายการบิน ‘ไห่หนาน’ (ไหหลำ) 海航 ได้ลงเครื่องที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งระหว่างนั่งรถกลับบ้าน เหลือบมองไปข้างทาง พบเห็น ‘แอร์โฮสเตส’ ของสายการบินที่ตนเพิ่งโดยสารมา ‘ยืนหนาวตัวสั่นอยู่’ ท่าทางน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง (อุณหภูมิในเวลานั้นอยู่ราวๆ 0 องศาเซลเซียส)

ผู้โดยสารปรารถนาดี ต้องการให้สายการบินระดับชาติยกระดับการดูแลพนักงาน จึงได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังผู้บริหารระดับสูง เรียกร้องให้ช่วยจัดการสวัสดิภาพของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ควรปล่อยให้ใครต้องมายืนตากลม เจอกับความหนาวเหน็บเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอร์โฮสเตสสาว ที่ร่างกายบอบบาง 

เรื่องถูกส่งต่อไปถึง ‘บิ๊กของบริษัท’ อย่างรวดเร็ว และได้รีบสั่งการลงมาให้ดำเนินการเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของสายการบินเข้าสู่ฤดูหนาวในทันที

หน้าหนาวปีนี้มาเร็วกว่าที่คิด สายการบินหลายแห่งเปลี่ยนยูนิฟอร์มเป็นชุดสำหรับป้องกันความหนาวกันหมดแล้ว

แต่สายการบินไห่หนานยังติดระบบระเบียบภายใน ทำให้การดำเนินงานล่าช้า และเกิดภาพแอร์สาวยืนตัวสั่น จนถูกผู้โดยสายนำเรื่องมาฟ้อง ถือว่าขายหน้าอย่างยิ่ง

'ก้าวไกล' เชือดขั้น 3 ส.ก.เขตวัฒนา หลังมีผู้ร้องเรียนคุกคามทางเพศ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 มิถุนายน 2565 ที่พรรคก้าวไกล น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม และรองโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงกรณีที่มีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบพฤติกรรมของสมาชิกพรรค ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตวัฒนา โดยผู้ร้องเรียนระบุว่าสมาชิกพรรคคนดังกล่าวกระทำการคุกคามก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญทางเพศต่อพนักงานในบริษัท ว่า พรรคก้าวไกล โดยคณะกรรมการวินัยจรรยาบรรณสมาชิกพรรคได้แสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้ร้องและผู้ถูกร้องที่นำมาชี้แจง และได้พิจารณาบนพยานหลักฐานที่มี

น.ส.สุทธวรรณ กล่าวว่า ปรากฏข้อเท็จจริงดังนี้ กรณีที่ผู้ร้องระบุว่าผู้ถูกร้องมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมมีการสัมผัสเป้ากางเกงของตนเองต่อหน้าผู้ร้อง จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในวันดังกล่าวมีคนอยู่ในห้องหลายคน ฝ่ายผู้ร้องไม่มีพยานและหลักฐานมาแสดง ส่วนผู้ถูกร้องมีพยานยืนยันว่าอยู่ในห้องที่เกิดเหตุและพยานไม่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว พรรคจึงไม่สามารถวินิจฉัยกรณีนี้ว่าผู้ถูกร้องกระทำความผิดจริงได้

น.ส.สุทธวรรณ กล่าวว่า กรณีที่ผู้ร้องระบุว่าถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรมและไม่ได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย โดยผู้ถูกร้องยืนยันว่าเป็นการเลิกจ้าง เนื่องจากไม่ผ่านการทดลองงาน ซึ่งตามกฎหมายนายจ้างมีสิทธิ์เลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย แต่ต้องจ่ายค่าไม่บอกกล่าวการเลิกจ้างล่วงหน้าในอัตราเท่ากับเงินเดือน 1 เดือน ซึ่งผู้ถูกร้องยินดีจ่ายให้ผู้ร้องและจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด

น.ส.สุทธวรรณ กล่าวว่า กรณีที่ผู้ร้องมีหลักฐานในการพูดคุยในไลน์ 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2564 กรณีนี้มีหลักฐานทางไลน์ชัดเจน ข้อความในไลน์มีการชมว่าผู้ร้องสวยหุ่นดี และขอดูรูปถ่ายของผู้ร้อง เป็นการก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศด้วยวาจาและกระทบต่อความรู้สึกและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ร้องเรียนเข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงเนื่องจากพฤติกรรมไม่สอดคล้องกับอุดมการณ์และคุณค่าของพรรคที่ยึดถือเคารพความหลากหลายเท่าเทียมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

“ความผิดทางวินัยของสมาชิกพรรคมี 4 สถาน 1.ตักเตือน 2.ภาคทัณฑ์ 3.ตัดสิทธิที่พึ่งมีในฐานะสมาชิก 4.ให้พ้นจากสมาชิกภาพ โดยพรรคมีมาตรการตัดสิทธิ์บางประการในฐานะสมาชิกพรรคซึ่งเป็นความรับผิดทางวินัยขั้นที่ 3 ซึ่งผู้ถูกร้องจะไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพรรคและพรรคจะไม่เสนอรายชื่อให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในสภากรุงเทพมหานครเป็นเวลา 1 ปีและหากผู้ถูกร้องยังมีการกระทำโทษให้พ้นจากสมาชิกภาพทันที” น.ส.สุทธวรรณ กล่าว

‘กรมขนส่ง’ เชือด คนขับรถสาย 8 ฝ่าไฟแดง ปรับ 5 พันบาท - พักใช้ใบขับขี่ 30 วัน

‘กรมขนส่ง’ ฟันโชเฟอร์สาย 8 เหตุฝ่าไฟแดงชนรถบรรทุกเล็กกลางแยกรัชดา-ลาดพร้าว เจ็บ 14 ราย ปรับ 5,000 บาท พักใช้ใบขับขี่ 30 วัน สั่งอบรมโชเฟอร์ 23 คัน พร้อมประสานบริษัทประกันภัยชดใช้ค่าสินไหม

จากกรณีกล้องวงจรปิดของตำรวจจราจรสามารถจับภาพรถเมล์ร่วมสาย 8 แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ วิ่งฝ่าสัญญาณไฟแดง สี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว จนไปชนกับรถบรรทุกเล็ก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 ราย เจ็บสาหัส 4 ราย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ก.พ.66 มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า กองตรวจการขนส่งทางบกได้เรียกตัวผู้ขับรถเมล์ หมายเลขทะเบียน 10-9776 กรุงเทพมหานคร ผู้ที่เกิดเหตุคือ นายสำราญ ข้ามมา พร้อมผู้ประกอบการขนส่ง มาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยนายสำราญให้การว่าขับรถรับผู้โดยสารจากแยกบางกะปิมุ่งหน้าแยกลาดพร้าว เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุซึ่งสัญญาณไฟกำลังจะเปลี่ยนจากไฟเขียวเป็นไฟแดง ได้ตัดสินใจขับฝ่าออกไปและถูกรถยนต์กระบะบรรทุกที่วิ่งมาทางขวามือพุ่งชนบริเวณด้านหน้ารถฝั่งคนขับ จนรถเสียหลักไปชนขอบทาง โดยยอมรับว่าไม่ได้ชะลอรถเพื่อหยุดตามสัญญาณไฟและใช้ความระมัดระวังอย่างเพียงพอเมื่อถึงทางร่วมทางแยก จนทำให้ผู้โดยสารบนรถได้รับบาดเจ็บไปด้วย

'อัครเดช-รวมไทยสร้างชาติ' ย้ำจุดยืนพรรค ปมแก้ 'กฎหมายห้ามตีเด็ก' ใช้ทางสายกลาง-ทำโทษตามสมควร ส่ง 'จุติ' อดีต รมต.พม. ร่วม กมธ.

(24 ก.ค.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.จังหวัดราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงมติการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในวันที่ 24 - 25 กรกฎาคม 2567 จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประเด็นที่สำคัญ คือ การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ซึ่งสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการทำโทษเด็กและเยาวชน

นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า เรื่องการทำโทษเด็กและเยาวชน โดยการตี เป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ฉะนั้นกฎหมายฉบับนี้ถือว่าเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญและควรพิจารณาอย่างละเอียดและถี่ถ้วน

ร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความปลอดภัยในร่างกายและจิตใจ แต่การห้ามอย่างเด็ดขาดนั้น ต้องใช้วิจารณญาณในทางปฏิบัติ เนื่องด้วยสังคมไทยยังมีความเชื่อมาอย่างยาวนานในอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน หากกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร จะมีการสั่งสอนและลงโทษโดยการตีเพื่อย้ำเตือนให้บุตรหลานอยู่ในกรอบความถูกต้อง ซึ่งในหลักการแล้วจะต้องมีการปรับให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน

ดังนั้น การแก้ไข ร่าง พ.ร.บ. ควรยึดหลักทางสายกลาง คือ การลงโทษเพื่อสั่งสอนพอสมควรแก่เหตุ ไม่ลงโทษแบบทารุณกรรม หรือเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง ต้องมีการสร้างวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมในการเลี้ยงดูบุตรหลานให้เข้ากับยุคสมัยและสอดคล้องกับบริบทของโลกในปัจจุบัน

เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นไปด้วยความรอบคอบ รับฟังความเห็นอย่างรอบด้านทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลงมติ ส่งตัวแทน 3 ท่าน เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการในการพิจารณา ได้แก่...

1. นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อของพรรค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านการบริหารกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่หน้าที่ในการดูแลสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน 

2. ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ บุคลากรของพรรคที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเด็ก เยาวชน และสตรี

3. บุคคลภายนอกพรรคที่อยู่ในองค์กรเด็กและเยาวชนซึ่งทำกิจกรรมในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากความรุนแรง อีกทั้งมีประสบการณ์ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน

"พรรครวมไทยสร้างชาติให้ความสำคัญ ใน ร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเรื่องเด็กและเยาวชน ถือเป็นนโยบายหลักของพรรค ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีศักยภาพสอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก และเพิ่มขีดความสามารถของเยาวชนไปสู่ระดับนานาชาติ" นายอัครเดช กล่าวทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top