'อัครเดช-รวมไทยสร้างชาติ' ย้ำจุดยืนพรรค ปมแก้ 'กฎหมายห้ามตีเด็ก' ใช้ทางสายกลาง-ทำโทษตามสมควร ส่ง 'จุติ' อดีต รมต.พม. ร่วม กมธ.

(24 ก.ค.67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.จังหวัดราชบุรี และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงมติการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ในวันที่ 24 - 25 กรกฎาคม 2567 จะมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ประเด็นที่สำคัญ คือ การแก้ไขร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  ซึ่งสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับการทำโทษเด็กและเยาวชน

นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า เรื่องการทำโทษเด็กและเยาวชน โดยการตี เป็นเรื่องที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ฉะนั้นกฎหมายฉบับนี้ถือว่าเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญและควรพิจารณาอย่างละเอียดและถี่ถ้วน

ร่าง พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความปลอดภัยในร่างกายและจิตใจ แต่การห้ามอย่างเด็ดขาดนั้น ต้องใช้วิจารณญาณในทางปฏิบัติ เนื่องด้วยสังคมไทยยังมีความเชื่อมาอย่างยาวนานในอบรมเลี้ยงดูบุตรหลาน หากกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร จะมีการสั่งสอนและลงโทษโดยการตีเพื่อย้ำเตือนให้บุตรหลานอยู่ในกรอบความถูกต้อง ซึ่งในหลักการแล้วจะต้องมีการปรับให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบัน

ดังนั้น การแก้ไข ร่าง พ.ร.บ. ควรยึดหลักทางสายกลาง คือ การลงโทษเพื่อสั่งสอนพอสมควรแก่เหตุ ไม่ลงโทษแบบทารุณกรรม หรือเป็นการทำร้ายร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง ต้องมีการสร้างวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมในการเลี้ยงดูบุตรหลานให้เข้ากับยุคสมัยและสอดคล้องกับบริบทของโลกในปัจจุบัน

เพื่อให้การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้เป็นไปด้วยความรอบคอบ รับฟังความเห็นอย่างรอบด้านทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ลงมติ ส่งตัวแทน 3 ท่าน เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการในการพิจารณา ได้แก่...

1. นายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อของพรรค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านการบริหารกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่หน้าที่ในการดูแลสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน 

2. ร.ต.อ.หญิงอัยรดา บำรุงรักษ์ รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ บุคลากรของพรรคที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเด็ก เยาวชน และสตรี

3. บุคคลภายนอกพรรคที่อยู่ในองค์กรเด็กและเยาวชนซึ่งทำกิจกรรมในการปกป้องเด็กและเยาวชนจากความรุนแรง อีกทั้งมีประสบการณ์ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชน

"พรรครวมไทยสร้างชาติให้ความสำคัญ ใน ร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเรื่องเด็กและเยาวชน ถือเป็นนโยบายหลักของพรรค ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีศักยภาพสอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก และเพิ่มขีดความสามารถของเยาวชนไปสู่ระดับนานาชาติ" นายอัครเดช กล่าวทิ้งท้าย