Sunday, 8 June 2025
มาดามแป้ง

'ปวิณ' ปัดรับช่อดอกไม้แสดงความยินดีจาก 'มาดามแป้ง' พร้อมเบรกถ่ายภาพคู่ ด้าน 'สารัช' รับแทน แก้เกี้ยว

(17 มิ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังเกิดดราม่าในวงการลูกหนังไทย ย้อนความกลับไป ก่อนหน้านี้ นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งอุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในยุคการบริหารของ ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นนายกสมาคม

พร้อมกับมีรายงานก่อนหน้านี้ว่า นายปวิณ ไม่พอใจการทำงานของสมาคมในหลายเรื่อง แต่ไม่มีรายงานแน่ชัดว่าไม่พอใจเกี่ยวกับเรื่องใดบ้าง

ล่าสุดเมื่อ 16 มิ.ย. หลังเกมที่ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เฉือนชนะเมืองทอง ยูไนเต็ด 1-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลรีโว่ คัพ 2023-24 และเป็นแชมป์รายการนี้สมัยแรกของสโมสร ‘มาดามแป้ง’ ได้หอบช่อดอกไม้ไปร่วมแสดงความยินดีด้วย

แต่ว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นไปอย่างสวยงาม เมื่อนายปวิณ ปฏิเสธที่รับช่อดอกไม้จากมาดามแป้ง มีเพียงการยกมือไหว้ตามทำเนียบเท่านั้น รวมถึงไม่ให้ถ่ายรูปคู่ด้วย โดยได้เรียก สารัช อยู่เย็น กองกลางกัปตันทีมเข้ามารับดอกไม้จากมาดามแป้งแทน

‘มาดามแป้ง-เจ ชนาธิป’ รับมอบเงินอัดฉีดจาก ‘สุริยะ’ 3 ล้านบาท หลังเปิดบ้านชนะสิงคโปร์ 3-1 พร้อมขอบคุณที่สนับสนุนช้างศึก

(17 มิ.ย.67) ‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ตัวแทนนักฟุตบอลทีมชาติไทย เข้ารับเงินอัดฉีด จาก สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 3 ล้านบาท ที่กระทรวงคมนาคม จากเกมที่ ช้างศึก เปิดบ้านชนะ สิงคโปร์ 3-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2  

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลไทย นำโดย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี อัดฉีด ทัพช้างศึก อยู่แล้วในทุกเกม แต้มละ 1 ล้าน แต่ในเกมเปิดบ้านพบกับ สิงคโปร์ มีความสำคัญ คือ ชี้ชะตาเข้ารอบคัดบอลโลก รอบ 3 ทำให้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมตรี อัดฉีดส่วนตัวเพิ่มเติมลูกละ 1 ล้านบาท แบ่งเป็นประตูละ 5 แสนบาท และ แอสซิสต์ละ 5 แสนบาท รวม 3 ลูก เป็นเงิน 3 ล้านบาท

‘มาดามแป้ง’ นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “ปัจจุบัน เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน จนมาถึง รองนายกฯ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ โดย แป้ง ต้องขอบคุณแทนทีมงานสตาฟโค้ช และนักกีฬา ที่ทุกคนเล็งเห็นถึงความสำคัญ ความเสียสละ และ ความมุ่งมั่นเพื่อทีมชาติไทย ซึ่งแม้ว่าเรายังเสียดายที่ไม่ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 3 ด้วยเงื่อนไขขาดอีกแค่ประตูเดียว แต่อย่างน้อยแป้งเชื่อว่า นี่เป็นนิมิตรหมายอันดีของฟุตบอลไทย ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากภาครัฐฯ”

ทั้งนี้โปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทย เตรียมลงเล่นเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด ในช่วง ฟีฟ่า เดย์ ระหว่างวันที่ 2-10 กันยายน 2567

‘มาดามแป้ง’ ลั่นใส่เต็มร้อยเดินหน้าคว้าแชมป์ ‘คิงส์คัพ’ มั่นใจภาคใต้ใจรักฟุตบอล แห่เข้าชมล้นสนาม

(7 ต.ค. 67) ฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่เดินทางมารายงานตัว ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 เพื่อเตรียมพร้อมก่อนออกเดินทางไป จังหวัด สงขลา เพื่อทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคม 2567 

การรายงานตัวครั้งนี้นำโดย "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทย และนักเตะทั้ง 23 คนที่เดินทางมารายงานตัวโดยพร้อมเพรียง นำโดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีม

ก่อนการเดินทาง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซํา นายกสมาคม กล่าวว่า "คิงส์ คัพ เมื่อสองครั้งที่ผ่านมาที่แป้งเป็นผู้จัดการทีม เราไปเล่นที่เชียงใหม่ เราพลาดแชมป์มา และเมื่อวันศุกร์ที่แป้งไลฟ์มีคำถามถามว่าเป็นอาถรรพ์หรือเปล่าเพราะคิงส์คัพไปเล่นต่างจังหวัดจะไม่ได้แชมป์ แต่ครั้งนี้แป้งคิดว่าภายใต้การนำทัพของมาซาทาดะ อิชิอิ และ ชนาธิป(สรงกระสินธ์) กัปตันทีม คงจะให้ความมั่นใจได้ว่าเราต้องการเป็นแชมป์ รวมถึงได้ไปเล่นที่ภาคใต้ซึ่งมีสถิติแฟนบอลเยอะด้วยก็คิดว่าจะเข้ามากันเต็มสนาม และปีนี้เป็นปีมหามงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระชนมายุ 72 พรรษา ทำให้คิงส์คัพปีนี้มีความสำคัญยิ่งกว่าเดิม"

"กระแสแฟนบอลที่สงขลาถือว่าเยอะขึ้น มีแฟนบอลรอซื้อบัตรที่มีการเอาออกมาจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ วันที่ 14 เหลือบัตรอีกประมาณ 3,000 ใบ คาดว่าเมื่อนักเตะเดินทางไปถึงสงขลาและการเปิดให้แฟนบอลเข้าชมการฝึกซ้อมในวันที่ 7 และ วันที่ 8 ตุลาคม จะทำให้กระแสยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนมีแฟนบอลเข้ามาเต็มสนาม" 

‘มาดามแป้ง’ ปลื้มแฟนช้างศึกแห่ซื้อตั๋ว 47,000 ใบ หมดเกลี้ยงภายใน 2 ชม. นัดดวลเวียดนามรอบชิงฯ AFF นัดสอง

‘มาดามแป้ง’ นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ขอบคุณแรงสนับสนุนจากแฟนบอลชาวไทย หลังบัตรเข้าชมการแข่งขันถูกจำหน่ายหมดเป็นที่เรียบร้อย ในเกมเปิดบ้านพบกับ เวียดนาม ในศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ยกเป็นพลังใจสำคัญให้ทัพช้างศึก ทั้งก่อนลงเล่นเกมเยือนวันนี้ และ วันที่ 5 มกราคม 2568

บัตรเข้าชมการแข่งขัน เปิดจำหน่ายวันนี้ ในเวลา 10.00 น. ก่อนใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง บัตร Sold Out เป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ความจุเกือบ 47,000 ที่นั่ง ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

'มาดามแป้ง' กล่าวว่า “แป้ง พูดอยู่เสมอว่า ผู้เล่นคนที่ 12 สำคัญกับทีมชาติไทย มากที่สุด และ เป็นอีกหนึ่งวันที่ แป้ง ปลาบปลื้มใจ ดีใจ ที่เห็นแรงสนับสนุนที่มีต่อทีมชาติไทย เพราะขณะนี้ บัตรเข้าชม เกือบ 47,000 ที่นั่ง ถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงกระแส และ ความศรัทธาที่มีต่อ ทีมชาติไทย ในฐานะ นายกสมาคมฯ แป้ง อยากขอบคุณทุกคนจากใจจริง และ เชื่อว่าจะเป็นพลังใจสำคัญให้ทัพช้างศึก ก่อนลงเล่นเกมเยือนที่เวียดนาม ในวันนี้ แน่นอนว่าเป็นสถานการณ์ที่ยาก แต่เชื่อมั่นในสปิริตทีมชุดนี้ และ เชื่อมั่นว่าเราจะได้ผลการแข่งขันที่ดีกลับมา“

สำหรับ รอบชิงชนะเลิศ ชิงแชมป์อาเซียน 2024 ระหว่าง ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม จะแข่งขัน 2 นัด เหย้า-เยือน เริ่มจากทัพช้างศึก ไปเยือนก่อน ในวันที่ 2 มกราคม 2568 และ กลับมาเล่นในบ้าน วันที่ 5 มกราคม 2568

‘มาดามแป้ง’ ขอบคุณสโมสรไทยลีก นักกีฬา ทีมงานผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ทีมทุกคน ที่ร่วมลุยศึกอาเซียน คัพ 2024 แม้จะจบแค่รองแชมป์

(5 ม.ค.68) นางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือ มาดามแป้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘Madam Pang - มาดามแป้ง - นวลพรรณ ล่ำซำ’ หลังจากทัพช้างศึก พลาดท่าพ่ายให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ทีมชาติเวียดนาม 2-3 (สกอร์รวมสองนัด 3-5) จบด้วยการเป็นรองแชมป์อาเซียน คัพ 2024 โดยระบุว่า

“Thank You สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ขอขอบคุณสโมสรไทยลีก นักกีฬา ทีมงานผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ทีมทุกคน ที่พยายามและแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทำหน้าที่ในนามทีมชาติไทยได้อย่างสมศักดิ์ศรี ในศึกฟุตบอล Asean Mitsubishi Electric Cup 2024

ขอน้อมรับทุกคำติชมจากแฟนบอลผู้ปรารถนาดีทุกท่านจากหัวใจ และขอบคุณทุกกำลังใจผ่านทุกข้อความ ทุกช่องทาง”

“มาดามแป้ง” ขอบคุณสโมสรสนับสนุนทีมชาติไทย แม้ไม่ใช่ฟีฟ่า เดย์-เสียดายชวดแชมป์ แต่ดีใจเห็นแฟนบอลเกือบ 47,000 คน

(6 ม.ค. 68) "มาดามแป้ง" นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวขอบคุณสโมสรที่เสียสละ และ สนับสนุน ทีมชาติไทย หลังปล่อยผู้เล่น มาลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน 2024 แม้ไม่ใช่ ฟีฟ่า เดย์ รับเสียดายชวดแชมป์ แต่ยังดีใจเห็นพลังแฟนบอลเกือบ 47,000 คน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน

สำหรับ ทีมชาติไทย พ่ายต่อเวียดนาม 2-3 สกอร์รวม 3-5 จบด้วยการเป็นรองแชมป์ในการแข่งขันฟุตบอลอาเซียน คัพ 2024

"ต้องกราบขอโทษแฟนบอลชาวไทย ที่เชียร์ช้างศึกในวันนี้ เราพลาดไม่ได้แชมป์อาเซียน ทั้งที่เราเป็นแชมป์อาเซียนเยอะที่สุดแล้วก็เป็นสองสมัยมาติดต่อกัน และวันนี้เราเล่นในบ้านเราด้วย ก็มองได้หลายมุม สิ่งแรกที่แป้งประทับใจ คือยอดผู้ชมที่เข้าสนาม คือเกือบ 47,000 คน ก็ถือว่าประชาชนคนไทย มีศรัทธาในฟุตบอลไทย" 

"แป้งต้องกราบขอบพระคุณ และยังได้เกียรติจากท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร และชาวต่างชาติหลายคนก็มาชมเกมนี้ ซึ่งถือเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรี เพราะอย่าลืมว่า สองครั้งหลังสุด เราได้แชมป์ และสู้กับเวียดนามมาทั้งสองครั้ง รวมถึงวันนี้ที่สู้กับเขาอีก เราเสียเปรียบตั้งแต่เกมที่เราไปเยือนที่ พูโถ ที่แพ้มา 1-2 ทำให้เรากลับมาต้องชนะ 2-0 ต้องยอมรับว่าลูกแรกเราเสียเร็วไปหน่อย พอได้คืนกลับมา กำลังจะดี เตอร์ (วีระเทพ ป้อมพันธู์) ที่เป็นน้องรักก็มาโดนสองใบเหลืองเป็นใบแดง น้องก็เสียใจมาก ก็เป็นบทเรียน แป้งต้องกราบขอบพระคุณ เนื่องจากไม่ใช่ฟีฟ่า เดย์ ต้องขอบพระคุณสโมสรที่เมตตา ส่งนักเตะมาให้ ก็มีหลายสโมสรต้องขอบคุณ ไม่ว่าจะเป็นทีม อุทัยธานี เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด , ระยอง เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ลำพูน วอริเออร์ และราชบุรี เอฟซี รวมถึงอีกหลายทีม วันนี้จะเห็นได้ว่ามันต่างจากวันที่แป้งเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย เรามีนักเตะฟูลทีม วันนี้ในมุมของการไม่ได้แชมป์ เราก็ยังได้เห็นเด็กที่จะเกิดใหม่ ไม่งั้นวันนี้เราก็คงไม่เห็น เบนจามิน เดวิส, อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ, พาตริก กุสตาฟส์สัน และน้องอีกหลายคน อย่าง เสกสรรค์ ราตรี หลายคนก็ดีใจที่ได้มาติดทีมชาติชุดใหญ่ชุดนี้" 

"แป้งเชื่อว่า เป็นบทเรียนของสมาคมฯเช่นกัน ในการที่แป้งดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ การแข่งขันในทุกทัวร์นาเมนต์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยและทุกคนคาดหวัง ในผลของการชนะ สมาคมฯ จึงมีหน้าที่ เราได้คุยกันในสภากรรมการเมื่อสักครู่ว่าเราต้องดูตารางการแข่งขัน ให้กระทบกับทีมชาติน้อยลง" 

"วันนี้ต้องขอบคุณนักเตะทุกคนที่สู้กันมาตลอด 1 เดือน สตาฟโค้ช และผู้สื่อข่าว ที่ทำข่าวกับทีมชาติไทยมาโดยตลอด ขอบคุณสุดหัวใจ สำหรับผู้เล่นคนที่ 12 แฟนบอล ชาวไทย ซึ่งให้กระแสตอบรับดีมากๆ จากทุกกลุ่ม แป้งต้องกราบขอโทษแทนผลงานที่ไม่ได้แชมป์ ก็เสียใจ แต่ก็ดีใจที่เห็นคนไทยรักประเทศไทย ทีมชาติไทยชุดใหญ่ก็ยังมีตารางจะเล่นในเอเชียน คัพ ซึ่งเป็นศึกใหญ่ และ ฟีฟ่า เดย์ ขณะเดียวกันก็ต้องให้กำลังใจทีมชาติไทย U17 ซึ่งจะต้องไปฟุตบอลโลก เป็นภารกิจที่เราจะต้องทำให้ได้ และเราจะไปเล่นรอบสุดท้ายที่ซาอุดีอาระเบีย"

"น้องก็มาขอโทษแป้งทุกคน โดยเฉพาะน้องโย่ง (พรรษา เหมวิบูลย์) รวมถึง น้องเช็ค (สุภโชค สารชาติ) ที่ได้ร่วมงานกับแป้งมาอย่างยาวนาน ทุกคนก็เสียดาย เตอร์ (วีระเทพ ป้อมพันธุ์) เองก็ร้องไห้ ซึ่งแป้งเป็นกำลังใจให้เตอร์ เพราะเตอร์ เป็นผู้เล่นตัวหลักสำคัญสำหรับทีมชาติไทย มาโดยตลอด และก็ทำเต็มที่" 

สำหรับรายการต่อไปของ ทีมชาติไทย คือการเตรียมทีมลุยศึก เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดแรก พบกับ ศรีลังกา ในวันที่ 25 มีนาคม 2568

#FAThailand #ฟุตบอลทีมชาติไทย #ช้างศึก #บอลไทย #AFFChampionship #ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน2024 #ASEANMitsubishiElectricCup2024 #mitsubishielectriccup2024

“มาดามแป้ง” เคลื่อนไหวเดือดถึง “สมยศ” หลัง ส.บอลแพ้คดีต้องจ่าย 360 ล้าน พร้อมปูดอดีตนายกสมาคมฯ คนเก่า กู้เงินฟีฟ่า 155 ล้าน

(11 มี.ค. 68) จากกรณีคดีพิพาทระหว่าง สยามสปอร์ต กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้บทสรุปว่า สมาคมฯ จะต้องจ่ายเงินพร้อมดอกเบี้ยให้ สยามสปอร์ต 360 ล้านบาท หลังมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นตั้งแต่ยุค "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เป็นนายกสมาคมฯ แต่มามีคำพิพากษาในยุคของ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ที่เพิ่งทำงานในฐานะนายกสมาคมฯ ครบ 1 ปีไปไม่นานนี้

ล่าสุด "มาดามแป้ง" ตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า 

"วันที่เลื่อนแถลงข่าวที่ผ่านมา เพราะป่วย และที่ผ่านมาติดภารกิจไปพบฟีฟ่าที่ต่างประเทศ"

"ในขณะที่แป้งเข้ามารับตำแหน่ง สภากรรมการได้มีมติให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ทรัพย์สิน หนี้สิน สมาคมฟุตบอล จากการตรวจสอบพบว่า สมาคมมีเงินสด และรายการเทียบเท่าเงินสด อยู่ 27 ล้านบาท มีหนี้สิน 132 ล้านบาท เรื่องทั้งหมดนี้ถูกตรวจสอบทั้งหมด แต่แป้งไม่เคยออกมาพูด"

"เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ท่านอดีตนายกสมาคมฯได้สารภาพ ว่าได้กู้ยืมเงินระยะยาวจากฟีฟ่า โดยเป็นเงินกู้และเบิกรับครั้งเดียว 5 ล้านเหรียญ คือ 155 ล้านบาท โดยแบ่งจ่าย 10 งวด 10 ปี"

"แป้งคงไว้ไม่ยกเลิกสัญญากับแพลนบี เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเดียวกับสยามสปอร์ต โดยที่แพลนบีการันตีรายได้ให้มากขึ้น แพลนบีคืนสิทธิ์ในการจำหน่ายตั๋ว และวางหลักประกัน การถ่ายทอดสดกับไทยรัฐหรือพีพีทีวี"

"สมาคมในยุคที่แล้วได้มีการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีกให้ต่างประเทศ แป้งได้ไปซื้อกลับมา และยังขายสิทธิ์ที่นำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดแก่คนนอก นั่นคือ Data analysis ถูกขายไปจนถึงปี 2571 ให้กับ perform มาเลเซีย"

"ตั้งแต่แป้งเข้ามารับตำแหน่งไม่เคยรับเงินเดือน แต่ในยุคก่อนท่านรับเงินเดือนจากทั้งสมาคมฟุตบอลและไทยลีก รวม 2 ที่ 1 ล้านบาท ไม่รวมโบนัส และส่งผลให้มีการร้องเรียนถึงความเหมาะสม ล่าสุดมีการพิจารณาว่านายกสมาคมไม่สามารถรับเงินเดือนได้ เพราะไม่ใช่ลูกจ้างสมาคม เป็นการอาสาเข้ามา และยังไม่พบว่ามีการคืนเงินให้สมาคมแล้ว"

"ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เกิดในสมัยสภากรรมการชุดเดิม แป้งเข้ามาและทราบข้อความจากฝ่ายกฎหมายแล้วว่าศาลชั้นต้นแพ้ให้สยามสปอร์ต ต้องจ่าย 50 ล้าน"

"ต่อมาศาลอุทธรณ์ให้สมาคมจ่าย 450 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย จากนั้นคำพิพากษาศาลฎีกา ให้สมาคมฯ จ่าย 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย"

"จำเลยที่ 2-19 ท่านอดีตนายกสมาคม ไม่ต้องรับผิดชอบการเงินเป็นการส่วนตัว เพราะเป็นการกระทำในกรอบอำนาจหน้าที่"

"ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการยกเลิกสัญญาที่ไม่ถูกต้อง จากคำพิพากษาจากแฟนบอลทั่วไป หรือหลายท่าน ที่อดีตนายกสมาคม ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น คือจริงๆ ไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทย์คือสยามสปอร์ต แต่อย่างไรก็ตามแป้งและฝ่ายกฎหมายศึกษาอย่างเด่ดชัดแล้วว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 76 จึงเป็นที่มาว่า แป้งตัดสินใจแล้ว จะนำเรื่องนี้เข้าสู่สภากรรมการเฉพาะกิจเร่งด่วนเพื่อฟ้องไล่เบี้ยแก่จำเลยที่ 2 และสภากรรมการยุคนั้น"

ทั้งนี้ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว มาดามแป้ง ได้โพสต์เพซบุ๊กว่า 
“ปกติทุกท่านคงจะทราบ แป้ง เป็นมือประสานสิบทิศ ไม่อยากเป็นศัตรูของใครเลย แต่การทำงานของ แป้งในวันนี้ แป้ง ทำด้วยผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก”

“กีฬาฟุตบอลไทย เป็นกีฬาที่คนไทยดูมากที่สุด 70% และคนเล่นสูงสุดรองจากมวย ดังนั้น แป้ง คิดว่า ฟุตบอลเป็นกีฬาของคนทั้งชาติ สิ่งที่แป้งและคณะกรรมการ จะทำต่อไป ไม่ได้มีความขัดแย้ง ส่วนตัวกับท่านใด แต่ทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาคมฯ และของชาติไทย”

‘กรณ์’ หนุน ‘มาดามแป้ง’ พิสูจน์ให้ถึงที่สุด ปมดรามาสมาคมฟุตบอลฯ ส่อไปในทางทุจริต

จากกรณีที่ “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงยืนยันแนวทางของสมาคมฯในการยืนฟ้อง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บริหารสมาคมชุดเก่า หลังศาลฎีกาสั่งมีคำพิพากษาให้ชดใช้เงิน 360 ล้านบาท ในคดีละเมิดลิขสิทธิ์ ให้ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท

ล่าสุด ( 12 มี.ค. 68) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีดังกล่าวว่า ดราม่าสมาคมฟุตบอล ดราม่าที่น่าติดตาม

ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นเรื่องฟุตบอล หรือเพราะเป็นเรื่องของคุณแป้ง  แต่ที่สำคัญที่สุดเพราะครั้งนี้ดูเหมือนจะมีคนเอาจริงกับพฤติกรรมโคตรแย่ (หากจริง - ตอนนี้ทั้งประเทศกำลังรอคำชี้แจ้งจากผู้ถูกกล่าวหา) และเป็นพฤติกรรมโคตรแย่ที่สะท้อนหลายอย่างใน ‘สังคมระดับผู้มีอำนาจของไทย‘

ผมขอติดตามเรื่องนี้ โดยหวังว่าจะมีการพิสูจน์ความจริงกันถึงที่สุด หวังว่าเรื่องจะไม่เงียบไปเฉยๆ เพราะปกติดราม่าความขัดแย้งในสังคมระดับผู้มีอำนาจ จะจบด้วยการสมยอม (ฮั้ว) โดยที่ผลประโยชน์ที่ลงตัวมักได้รับความสำคัญเหนือกว่า ‘ความจริง‘ หรือการ ’รับผิดชอบ’ ต่อการกระทำผิด

แต่เรื่องนี้ผม ‘เชื่อแป้ง’ ว่าจะเอาจริง ซึ่งควรเป็นเช่นนั้นเพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องขององค์กรที่มีประชาชนมีส่วนร่วมด้วยมากที่สุดองค์กรหนึ่งในประเทศ

เรื่องนี้จบอย่างไร มีการทุจริตจริงหรือไม่ และถ้ามีจริงจะทำให้เห็นว่าสังคมไทยยังมีความหวังเรื่องการกำจัดทุจริตคอร์รัปชันอย่างไร…นี่คือสาเหตุที่ดราม่านี้น่าติดตาม

‘มาดามแป้ง’ นั่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล 1 ปี ผลสำรวจชี้!! ดีขึ้นมาก - โดดเด่นเรื่องความโปร่งใส

(26 มี.ค. 68) ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจล่าสุดความพึงพอใจของแฟนบอลไทยจำนวน 1,672 คนทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10-17 มีนาคม 2568 โดยแบ่งเป็นเพศชาย 59.4% เพศหญิง 33.7% และไม่ต้องการระบุเพศสภาพ 6.9% พบว่า 92% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจในระดับ "มากที่สุด" (4.41 คะแนนจาก 5 คะแนน) ต่อการบริหารงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในปัจจุบัน โดยเฉพาะด้านความโปร่งใสและการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ซึ่งสะท้อนจากสถิติที่ชี้ว่า 97.2% เห็นว่าการทำงานของสมาคมฯ "ดีขึ้น" หรือ "ดีขึ้นมาก" เมื่อเทียบกับยุคก่อนหน้า

โดยผลงานที่โดดเด่นที่เข้าตาแฟนบอลไทย 7ลำดับแรก คือ การสร้างธรรมาภิบาลและความโปร่งใส (ทำงานโปร่งใส ตรวจสอบได้) ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุด (8.02 คะแนน จาก 10 คะแนน) ในฐานะผลงานเด่นของสมาคมฯ ในรอบปี รองลงมาการที่ฟุตซอลทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์ ไปฟุตซอลโลก 7 สมัยติดต่อกัน (7.79 คะแนน)แชมป์คิงส์คัพ ต่างจังหวัดครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ ที่จังหวัดสงขลา (7.74 คะแนน)นโยบายผลักดันฟุตบอลหญิงไทยกลับสู่เวทีโลก(7.71 คะแนน) การจัดประชุมฟีฟ่าคองเกรส ครั้งที่ 74 (7.70 คะแนน) การเพิ่มเงินสนับสนุนทุกลีก การจ่ายเงินสนับสนุนให้กับสโมสร เคลียร์เงินค้างจ่ายสโมสรและเงินตกค้าง (7.69คะแนน)และการ MOU กับต่างประเทศเพื่อพัฒนาฟุตบอลไทย (7.67คะแนน)

สำหรับความคาดหวังในอนาคต แฟนบอลส่วนใหญ่ (39.2%) ต้องการเห็นทีมชาติไทยก้าวไกลในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก ขณะที่ 29.7% เน้นย้ำความสำคัญของการรักษาความโปร่งใสในการบริหารงาน นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะสำคัญ เช่นการพัฒนาทีมชาติชุดใหญ่ (35.7%) การพัฒนาเยาวชน (26.4%) ยกระดับมาตรฐานการแข่งขันในประเทศ (15.0%)

นอกจากนี้แล้วมูลค่าทางเศรษฐกิจของการจัดการแข่งขันไทยลีก (T1 T2 T3) ปี 2567 นั้นก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 7,365.405 ล้านบาท (ไทยลีก 1: 4,654.758 ล้านบาท ไทยลีก 2: 1,507.405 ล้านบาท และไทยลีก 3: 1,203.242 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและบทบาทของฟุตบอลไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ประกอบกับข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ชี้ให้เห็นว่า กีฬาฟุตบอลสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศสูงถึง 59,513.28 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าทางตรง 44,347.16 ล้านบาท และมูลค่าทางอ้อม 15,166.12 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดการจ้างงานรวม 110,846 คน โดยเป็นการจ้างงานเต็มเวลาทางตรง 83,499 คน และทางอ้อม 27,347 คน สะท้อนให้เห็นว่า ฟุตบอลมีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า การทำงานของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในยุคปัจจุบัน ได้รับความชื่นชมในด้านธรรมาภิบาลและความโปร่งใส ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการ

สร้างความเชื่อมั่นให้กับแฟนบอล ทั้งนี้แฟนบอลไทยยังให้การสนับสนุนการทำงานของสมาคมฟุตบอลฯ ในยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน แต่ยังคงจับตาการดำเนินงานตามเป้าหมายระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาทีมชาติและระบบเยาวชน เพื่อยกระดับฟุตบอลไทยสู่มาตรฐานสากลนอกจากนี้แล้วฟุตบอลไทยไม่เพียงเป็นกีฬายอดนิยม แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล

‘มาดามแป้ง’ ควัก 25 ล้านช่วย ส.บอล เคลียร์หนี้คดี ‘สยามสปอร์ต’ พร้อมมอบเพิ่มอีก 5 ล้าน ตั้งกองทุนลดภาระองค์กร

(23 เม.ย. 68) ที่อาคาร FA Thailand 'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงความคืบหน้าหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้สมาคมฯ แพ้คดี บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ต้องชำระค่าเสียหายรวมกว่า 360 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย โดยมาดามแป้งได้บริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 25 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้ก้อนแรก ตามคำพิพากษาศาล เป็นการแสดงเจตจำนงของสมาคมฯ ที่ต้องการปฏิบัติตามคำสั่งศาลอย่างครบถ้วน และเพื่อให้การบังคับคดีเป็นไปด้วยความราบรื่น

นอกจากนี้ มาดามแป้งยังมอบเงินส่วนตัวเพิ่มเติมอีก 5 ล้านบาท จัดตั้งเป็น 'กองทุนเพื่อความโปร่งใส' สำหรับใช้จ่ายที่จำเป็นของสภากรรมการ โดยมีคณะกรรมการ 4 คนดูแลกองทุน ได้แก่ นายยุทธนา หยิมการุณ, นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล, ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา และคุณระวิดา ซอโสตถิกุล โดยมีเป้าหมายให้กองทุนนี้ช่วยลดภาระรายจ่ายสมาคมฯ ที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูทางการเงิน และสะท้อนความโปร่งใสในการบริหารงานของทีมบริหารชุดปัจจุบัน

เพื่อระดมทุนเพิ่มเติมสำหรับหนี้ก้อนที่เหลือ สมาคมฯ เตรียมจัดกิจกรรมหลายโครงการ เช่น การเปิดรอบพิเศษละครเวที 'อันธพาล 2499 The Musical' ซึ่งมาดามแป้งควักเงินส่วนตัวปิดรอบการแสดงวันที่ 29 พฤษภาคม ที่เมืองไทย รัชดาลัย เธียเตอร์ ตั้งเป้ารายได้ 30 ล้านบาท, การจำหน่ายเสื้อรุ่นพิเศษ 'คนไทยรักบอลไทย' ร่วมกับ Warrix ในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมิถุนายน, การจัดแมตช์พิเศษ 4 ภาคทั่วประเทศ และเปิดรับบริจาคจากภาคเอกชนและประชาชนที่รักฟุตบอลไทยทั่วประเทศ

ในส่วนของแนวทางเจรจา สมาคมฯ และบริษัท สยามสปอร์ต เตรียมหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เพื่อหาข้อตกลงที่เป็นธรรมและนำไปสู่การชำระหนี้ที่เหลือโดยไม่กระทบต่อภารกิจหลักของสมาคมฯ ในการสนับสนุนและพัฒนาฟุตบอลไทยทุกระดับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top