Monday, 9 June 2025
มนพร

‘มนพร เจริญศรี’ เผย พิจารณาใช้ประโยชน์ที่ดินท่าเรือคลองเตย ขณะนี้ไม่มีแผนผุด ‘Entertainment Complex’ กลางนคร

(9 ต.ค. 67) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าหลังจากที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแล้วนั้น ขณะนี้ นายสุริยะอยู่ระหว่าง จัดสรรกำหนดการประชุมครั้งแรกให้ได้ภายในเดือน ต.ค. 2567 นี้

ทั้งนี้ เบื้องต้น คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือคลองเตยฯ ได้เตรียมจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านบริหารพื้นที่, ด้านการใช้ประโยชน์พื้นที่, ด้านการดูแลชุมชน  เพื่อทำหน้าที่ดูรายละเอียดในแต่ละเรื่อง นำมาประกอบการพิจารณา

นางมนพรกล่าวว่า ประเด็นสำคัญในตอนนี้คือ ในพื้นที่ของท่าเรือคลองเตย ทางกรมศุลกากรได้นำไม้พะยูงที่ตรวจยึดจากคดีความต่างๆ มาขอใช้พื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมเห็นว่า ทางกรมศุลกากรควรขนย้ายออกไปใช้พื้นที่อื่น เนื่องจาก กทท.และกระทรวงเห็นว่า ควรนำพื้นที่ดังกล่าวมาทำประโยชน์ด้านอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตย มีเอกชนรายใดสนใจที่จะเข้ามาลงทุนการทำสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) หรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีแผนที่จะทำสถานบันเทิงครบวงจรในขณะนี้ ท่าเรือคลองเตยมีแผนพัฒนาให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) เท่านั้น ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดรวม 2,300 ไร่ แต่ยอมรับว่า ในพื้นที่นี้มีแผนจะจัดสรรบางส่วนพัฒนาเชิงพาณิชย์ เป็นโครงการแบบ Mixed Use  ซึ่งก็มีกลุ่มเอกชนที่สนใจ เช่น  กลุ่มธุรกิจเครือเซ็นทรัล ซึ่งทางเซ็นทรัลเคยทำผลการศึกษาพื้นที่นี้มาก่อน

ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่ชุมชนคลองเตย นางมนพรกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการจัดสรรที่อยู่อาศัยให้คนกลุ่มนี้   ในเบื้องต้นจะไม่เข้าไปยุ่งโดยตรง แต่ในแผนพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตย ก็มีแผนที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยให้อยู่แล้ว  โดยสั่งการนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดูต้นแบบการพัฒนาแฟลตดินแดงใหม่ของการเคหะแห่งชาติ ว่าแนวคิดมีกระบวนการอย่างไร ซึ่งเป็นประเด็นที่จะหารือในการประชุมครั้งแรกนี้ด้วย

สำหรับพื้นที่คลังเก็บน้ำมันของ บจ.เชลล์แห่งประเทศไทย, บมจ.ปตท. และบมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น นั้น นางมนพรกล่าวว่า การย้ายคลังน้ำมันออกจากพื้นที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูก่อนว่าระยะเวลาเช่าพื้นที่เหลืออีกเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ได้ให้กทท.เร่งงานถมทะเล เพื่อก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ด้วย เพราะกรณีที่จำเป็นต้องย้ายคลังน้ำมันออกจากท่าเรือคลองเตย ก็น่าจะไปที่แหลมฉบัง ซึ่งต้องมีการพิจารณาแผน ว่าจะจัดเตรียมพื้นที่รองรับอย่างไร และรัฐบาลต้องสนับสนุนอะไรหรือไม่

“มนพร” มอบหมาย บวท. เตรียมความพร้อมรองรับปริมาณเที่ยวบินช่วงปีใหม่ 68 

(19 ธ.ค. 67) “มนพร” มอบหมาย บวท. เตรียมความพร้อมรองรับปริมาณเที่ยวบินช่วงปีใหม่ 68 รวม 7 วัน กว่า 1.8 หมื่นเที่ยวบิน โต 14% ด้าน “วิทยุการบินฯ” ชู I-SMART ใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการ เพิ่มขีดความสามารถทางวิ่ง หวังอำนวยความสะดวก ประชาชน-ไฟลท์บินไม่ล่าช้า-ปลอดภัย คาดปีหน้า อุตสาหกรรมการบินโตต่อเนื่อง แตะ 1 ล้านเที่ยวบิน
 
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยจากการรายงานของบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบินในช่วงระหว่างวันที่ 27ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน ระบุว่า จะมีเที่ยวบินรวม 18,280 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,611 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนในปี 2568อุตสาหกรรมการบินในประเทศจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งคาดว่า จะมีเที่ยวบินทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านเที่ยวบิน จากปี 2567 ที่ให้บริการเที่ยวบินรวม 981,270 เที่ยวบิน และยังเตรียมที่จะพัฒนาท่าอากาศยานและระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตสอดคล้องกับภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  
 
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน ภายใต้แนวคิด I-SMART ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม พร้อมทั้งประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีมาบริหารจัดการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวให้มีรวดเร็ว และปลอดภัยและรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อไม่ให้เที่ยวบินมีความล่าช้า และลดความแออัดของเที่ยวบิน รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านข้อมูลสภาพการจราจรทางอากาศและข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้สายการบินอย่างรวดเร็วและทั่วถึง 
 
ด้านนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า วิทยุการบินฯ ได้เตรียมมาตรการรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม โดยได้ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทางวิ่ง (High Intensity Runway Operation) หรือ HIROs ซึ่งจะจัดระยะห่างของอากาศยานขาเข้าและขาออกให้กระชับตามกฎเกณฑ์มาตรฐานและสัมพันธ์กับค่าการใช้เวลาบนทางวิ่งของอากาศยาน (Runway Occupancy Time) เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณเที่ยวบินได้มากที่สุด สามารถใช้ทางวิ่งร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเพิ่มข้อกำหนดทางขับ (Preferred-Exit Taxiway) ที่เหมาะสมให้อากาศยานใช้ในการออกจากทางวิ่ง เพื่อใช้เวลาบนทางวิ่งน้อยที่สุด เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจราจรทางอากาศ
 
 ทั้งนี้ การดำเนินโครงการ HIROs นั้น จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเดิมรองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ขณะที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง จะเพิ่มเป็น 57-60 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จากเดิม 52 เที่ยวบินต่อชั่วโมง อีกทั้ง ยังขยายขีดความสามารถด้านการปฏิบัติการบินและการกำหนดความเร็วของอากาศยานให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์และคำแนะนำการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างอากาศยานบนแนวร่อนให้คงที่และสามารถทำการลงได้อย่างปลอดภัย
 
นายณพศิษฏ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ บวท. ยังได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่เข้าดูแลทั่วทุกบริเวณอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ การควบคุมการจราจรทางอากาศและวิศวกร รวมถึงเตรียมมาตรการรองรับในกรณีสถานการณ์ฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อต้องการให้ประชาชนผู้ใช้บริการ เดินทางอย่างปลอดภัย ถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ และดำเนินการตามแผนของกระทรวงคมนาคม ภายใต้แนวคิด I-SMART ที่ประกอบด้วย I - Inclusive ระบบขนส่งที่เข้าถึงทุกคน , S - Safe, Security and Sustainable ความปลอดภัย มั่นคง และยั่งยืน, M - Multimodal Transport การคมนาคมขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ, A - Approachable สะดวก, R - Reasonable Price ราคาสมเหตุสมผล, T - Timely and Technology ตรงเวลาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี                                    


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top