‘มนพร เจริญศรี’ เผย พิจารณาใช้ประโยชน์ที่ดินท่าเรือคลองเตย ขณะนี้ไม่มีแผนผุด ‘Entertainment Complex’ กลางนคร

(9 ต.ค. 67) นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าหลังจากที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแล้วนั้น ขณะนี้ นายสุริยะอยู่ระหว่าง จัดสรรกำหนดการประชุมครั้งแรกให้ได้ภายในเดือน ต.ค. 2567 นี้

ทั้งนี้ เบื้องต้น คณะกรรมการพิจารณาแนวทางการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าเรือคลองเตยฯ ได้เตรียมจัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านบริหารพื้นที่, ด้านการใช้ประโยชน์พื้นที่, ด้านการดูแลชุมชน  เพื่อทำหน้าที่ดูรายละเอียดในแต่ละเรื่อง นำมาประกอบการพิจารณา

นางมนพรกล่าวว่า ประเด็นสำคัญในตอนนี้คือ ในพื้นที่ของท่าเรือคลองเตย ทางกรมศุลกากรได้นำไม้พะยูงที่ตรวจยึดจากคดีความต่างๆ มาขอใช้พื้นที่ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ประมาณ 20 ไร่ ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมเห็นว่า ทางกรมศุลกากรควรขนย้ายออกไปใช้พื้นที่อื่น เนื่องจาก กทท.และกระทรวงเห็นว่า ควรนำพื้นที่ดังกล่าวมาทำประโยชน์ด้านอื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตย มีเอกชนรายใดสนใจที่จะเข้ามาลงทุนการทำสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) หรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีแผนที่จะทำสถานบันเทิงครบวงจรในขณะนี้ ท่าเรือคลองเตยมีแผนพัฒนาให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) เท่านั้น ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดรวม 2,300 ไร่ แต่ยอมรับว่า ในพื้นที่นี้มีแผนจะจัดสรรบางส่วนพัฒนาเชิงพาณิชย์ เป็นโครงการแบบ Mixed Use  ซึ่งก็มีกลุ่มเอกชนที่สนใจ เช่น  กลุ่มธุรกิจเครือเซ็นทรัล ซึ่งทางเซ็นทรัลเคยทำผลการศึกษาพื้นที่นี้มาก่อน

ส่วนการบริหารจัดการพื้นที่ชุมชนคลองเตย นางมนพรกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงในการจัดสรรที่อยู่อาศัยให้คนกลุ่มนี้   ในเบื้องต้นจะไม่เข้าไปยุ่งโดยตรง แต่ในแผนพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตย ก็มีแผนที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยให้อยู่แล้ว  โดยสั่งการนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดูต้นแบบการพัฒนาแฟลตดินแดงใหม่ของการเคหะแห่งชาติ ว่าแนวคิดมีกระบวนการอย่างไร ซึ่งเป็นประเด็นที่จะหารือในการประชุมครั้งแรกนี้ด้วย

สำหรับพื้นที่คลังเก็บน้ำมันของ บจ.เชลล์แห่งประเทศไทย, บมจ.ปตท. และบมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น นั้น นางมนพรกล่าวว่า การย้ายคลังน้ำมันออกจากพื้นที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องดูก่อนว่าระยะเวลาเช่าพื้นที่เหลืออีกเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ได้ให้กทท.เร่งงานถมทะเล เพื่อก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ด้วย เพราะกรณีที่จำเป็นต้องย้ายคลังน้ำมันออกจากท่าเรือคลองเตย ก็น่าจะไปที่แหลมฉบัง ซึ่งต้องมีการพิจารณาแผน ว่าจะจัดเตรียมพื้นที่รองรับอย่างไร และรัฐบาลต้องสนับสนุนอะไรหรือไม่


ที่มา : MGROnline