Tuesday, 22 April 2025
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์

ประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริการประชาชน การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ

วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมาย พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริการประชาชน การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2567 ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม 

ภายหลังการประชุม เวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ ฯ มอบหมายให้ พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง โฆษก ตร. พร้อมผู้แทนจาก สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ,กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงมหาดไทย,กระทรวงวัฒนธรรม,กรมการศาสนา , กรมเจ้าท่า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แถลงเรื่องการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริการประชาชน ในโอกาสดังกล่าว

เนื่องจากในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 6 รอบ หรือ 72 พรรษา รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ทั้งนี้ รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี พระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ จากสถูปโบราณปิปราห์วา เมืองสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
และส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย
และสาธารณรัฐอินเดีย รวมทั้งให้ประชาชนได้เข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ โดยมีกำหนดการ สรุปได้ดังนี้

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.00 น. อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 มาประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และในช่วงเย็นวันเดียวกัน กระทรวงวัฒนธรรม กำหนดให้มีการซักซ้อมขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17.00 น. อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุฯ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ไปประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 07.00 น. พิธีตักบาตร ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง 

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ -  3 มีนาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น. ในช่วงเวลา 17.00 – 18.00 น. มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์

วันที่ 5 - 8 มีนาคม 2567 ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น.

วันที่ 10 - 13 มีนาคม 2567 ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น. 

วันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567 ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะ เวลา 09.00 – 20.00 น.

สำหรับ พระสงฆ์ ประชาชนชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เป็นพุทธศาสนิกชน ที่จะเข้าไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ขอความร่วมมือให้เดินผ่านจุดคัดกรอง จำนวน 2 จุด ซึ่งอยู่รอบสนามหลวงบริเวณถนนผ่ากลาง ฝั่งตรงข้ามศาลฎีกา และฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหน่วยรับผิดชอบการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร มีการตั้งกองอำนวยการร่วม ณ หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 

สำหรับบริหารจัดการ จัดเตรียมสถานที่จอดรถ ณ ท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ กองสลากเก่า และถนนราชินีด้านหลังศาลฎีกา สำหรับประชาชนที่นำรถยนต์มา เตรียมสถานที่จอดรถสำรอง ณ หอประชุมกองทัพเรือ , กรมเจ้าท่าจัดเรือข้ามฟาก รับ-ส่งประชาชนจากหอประชุมกองทัพเรือไปยังท่าช้าง ส่วนประชาชน นักเรียน นักศึกษาที่เดินทางเป็นหมู่คณะจากในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ให้นำรถบัสไปจอดที่ร้านตำรับไท บริเวณแยกอรุณอมรินทร์ และใต้สะพานพระราม 8 จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ กรุงเทพมหานคร ดูแลรักษาความปลอดภัยทรัพย์สินให้แก่ประชาชน สำหรับสถานบันการศึกษา หรือจังหวัดใกล้เคียงประสงค์ขอให้ส่วนราชการจัดรถบัสให้บริการรับ-ส่งประชาชน นักเรียน นักศึกษา ขอให้ประสานมายังกองอำนวยการร่วม หรือผ่านสำนักงานจังหวัดได้ 

กรณีประชาชนเดินทางรถโดยสารสาธารณะ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อำนวยความสะดวกจัดรถโดยสารให้บริการรับ-ส่งประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ ณ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2567 โดยจัดเดินรถโดยสารให้บริการประชาชน 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางที่ 1 อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - สนามหลวง (ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า) และเส้นทางที่ 2 วงเวียนใหญ่ - สนามหลวง (ตรงข้ามศาลฎีกา) ได้จัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ทั้งจุดต้นทางและปลายทาง 

ส่วนกรมเจ้าท่า ได้ร่วมกับบริษัทเอกชนต่าง ๆ จัดเรือบริการฟรี โดยให้บริการ (1) เรือข้ามฟาก จาก ท่าวัดระฆัง - ท่าวังหลัง - ท่าวัดอรุณ ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2567 เวลา 08.30 – 18.00 น. , เรือจาก บริษัท ไทย สมายส์ โบ้ท จากท่าน้ำนนท์ ถึงท่าช้าง ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2567 ให้บริการวันละ 4 เที่ยว , เรือจากบริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จากท่าน้ำนนท์ ถึงท่าช้าง ระหว่าง วันที่ 23-26 กุมภาพันธ์ 2567 จากท่าน้ำนนท์ เวลา 09.00 น. , 10.00 น. , 15.00 น. และ 16.00 น. 

การบริการทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร จัดชุดบริการทางการแพทย์ประจำเต็นท์บริการ และชุดพยาบาลเดินเท้า พร้อมรถพยาบาลกู้ชีพ สำหรับให้บริการประชาชนที่อาจเจ็บป่วยในขณะเข้าสักการะพระบรมสารีริกธาตุฯ การประปานครหลวง จัดรถน้ำดื่ม จำนวน 3 คัน ให้บริการประชาชน กรุงเทพมหานคร จัดรถสุขาเคลื่อนที่บริเวณรอบท้องสนามหลวง ทั้งฝั่งศาลฎีกา และฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบก จัดเจ้าหน้าที่บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนบริเวณจุดขึ้น-ลงรถรับจ้างสาธารณะรอบท้องสนามหลวง

เปิดตัว “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” และร่วมหารือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อ ยกระดับงานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิต แก้วิกฤติอำนวยความยุติธรรม

วันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ ประธานชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ได้มีการจัดตั้ง “ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ” ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริม พัฒนางานสอบสวน และพนักงานสอบสวนให้มีประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน โดยมี พล.ต.อ.วุฒิชัย ศรีรัตนวุฒิ 
เป็นประธานชมรมฯ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ (ผู้ริเริ่มก่อตั้ง) พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง พล.ต.อ.ศักดา เตชะเกรียงไกร พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ พล.ต.ท.วุฒิ วิทิตานนท์ และ พล.ต.ท.วสันต์ วัสสานนท์ เป็นที่ปรึกษา

ในส่วนของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ดร.มานะ เผาะช่วย พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล พล.ต.ต.เจนกมล คํานวล พล.ต.ต.เศรษฐศักดิ์ ยิ้มเจริญ พล.ต.ต.ดร.ศิริวัฒน์ ดีพอ พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ พ.ต.อ.กีรติ ตรีวัย พ.ต.ท.ภูมิรพี ผลาภูมิ และผู้แทนจากกองบัญชาการที่มีอำนาจสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ซึ่งจากการประชุมคณะกรรมการบริหาร และคณะที่ปรึกษาชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหางานสอบสวน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นกรณีเร่งด่วน มีมติในเสนอมาตรการถึงท่านผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติ ดังนี้

1. เรื่องระบบตำแหน่งควบ สายงานสืบสวนสอบสวน โดยแบ่งเป็น “พนักงานสอบสวนปกติ” ที่มีการแต่งตั้ง โยกย้าย เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น เหมือนกับตำรวจสายงานอื่นทั่วไป และ “พนักงานสอบสวนตำแหน่งควบ” ที่มีตำแหน่งปรับระดับเพิ่มลดได้ในตัวเอง มีแท่งเลื่อนไหลตั้งแต่ระดับ รองสารวัตร ถึงระดับรองผู้บังคับการ โดยใช้การประเมินเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

2. เรื่องการแก้ไขปัญหาพนักงานสอบสวนขาดแคลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวดขัน
ห้ามพนักงานสอบสวนไปช่วยราชการในสายงานอื่น

3. เรื่องการเพิ่มเงินประจำตำแหน่ง และค่าตอบแทนการทำสำนวนการสอบสวน 
โดยคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน และการดำรงตนอยู่ในความยุติธรรมได้อย่างมีเกียรติ โดยเปรียบเทียบกับค่าตอบแทนที่รัฐจ่ายให้แก่ข้าราชการฝ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม

4. เรื่องการแก้ไขคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 และระเบียบคำสั่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวน

5. เรื่องการจัดตั้งศูนย์ให้คำแนะนำช่วยเหลือประชาชนและพนักงานสอบสวน
ในการอำนวยความยุติธรรม เพื่อเปิดช่องทางให้ประชาชนและพนักงานสอบสวนสอบถามปัญหา หรือขอคำแนะนำเกี่ยวกับการอำนวยความยุติธรรมตามอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน

ซึ่งในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2567) เวลา 09.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจได้เข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี ผู้บังคับการกองอัตรากำลัง และผู้บังคับการกองทะเบียนพล เพื่อร่วมหารือ และยื่นหนังสือถึงท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขและพัฒนางานสอบสวนตามมาตรการดังกล่าว

เบื้องต้น ท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความยินดีและเห็นชอบกับมาตรการดังกล่าว โดยหลังจากนี้ชมรมพนักงานสอบสวนตำรวจจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหางานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับ
งานสอบสวน พัฒนาคุณภาพชีวิตของพนักงานสอบสวน และแก้ไขปัญหาในการ
อำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนต่อไป

ผบ.ตร.เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจ 3 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บจากปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.ลำปาง สั่งดูแลเรื่องการรักษาและสิทธิโยชน์อย่างเต็มที่

วันนี้ (28 มิ.ย.67) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สนง.ผบ.ตร. , พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 , พล.ต.ต.ภูมิปัญญ์ญา นวตระกูลพิสุทธิ์ ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.ต.อ.อัครินทร์ กาสา รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง , พ.ต.อ.วชิรศักดิ์ ศรีประสม รอง ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.ภูชิชย์ ตรียัมปราย ผกก.สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง เดินทางไปยังอาคารนวมินทร์ ชั้น 4 หอผู้ป่วยอุบัติเหตุสามัญ โรงพยาบาลลำปาง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง เพื่อเยี่ยมให้กำลังข้าราชการตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขณะปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา จำนวน 3 ราย ได้แก่ พ.ต.ต.วิทย์วศิน นิธิกุลกาญน์ สว.กก.สส.3 บก.สส.ภ.5 , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ ใจยะสุ ผบ.หมู่ (ป) สภ.จอมทอง จว.เชียงใหม่ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ แก้วปวน ผบ.หมู่ (คฝ.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.5

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 เวลาประมาณ 16.40 น. พ.ต.ต.วิทย์วศินฯ , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ฯ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ฯ เดินทางไปปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ ศอ.ปส.ตร. โดยใช้รถกระบะ ยี่ห้ออีชูซุ สีบรอนซ์เงิน ระหว่างเดินทางได้มีนายเดชาฯ ขับรถกระบะแค๊ป ยี่ห้ออีชูซุ สีบรอนซ์เงิน สวนมา บริเวณที่เกิดเหตุ กิโลเมตรที่ 422-423 ถนนสายลำปาง-เด่นชัย อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นทางโค้งฝนตกถนนลื่น รถยนต์เสียหลักทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกัน เป็นเหตุให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 3 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส นำส่งโรงพยาบาลแม่ทะ และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลลำปาง ซึ่งทั้ง 3 รายขณะนี้อยู่ห้องเฝ้าสังเกตอาการ ผู้บังคับบัญชากำลังประสานกับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อส่งตัวไปทำการรักษาต่อไป

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ฯ ได้ให้กำลังใจ พ.ต.ต.วิทย์วศินฯ , ส.ต.ท.ภานุพงษ์ฯ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์พงษ์ฯ ตลอดจนญาติของข้าราชการตำรวจทั้ง 3 ราย พร้อมมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือ และได้กำชับผู้บังคับบัญชาให้ดูแลทำการรักษา ดูแลสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างเต็มที่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นประธานพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่เรียนดี ประพฤติดี และบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือและเป็นขวัญกำลังใจ

วันนี้ (1 กรกฏาคม 2567) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคุณนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาของสมาคมแม่บ้านตำรวจ ประจำปี 2567 ณ ห้องแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการของข้าราชการตำรวจและครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย ที่เป็นกำลังพลส่วนใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

สมาคมแม่บ้านตำรวจได้ดำเนินนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิต สวัสดิการ ขวัญกำลังใจ และความสามัคคีให้แก่ครอบครัวตำรวจและสมาชิกแม่บ้านตำรวจ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางการศึกษา สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว โดยการจัดทำโครงการมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2567 สมาคมแม่บ้านตำรวจได้สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่มีผลการเรียนดีและโดดเด่น หรือเป็นบุตรที่มีความประพฤติดี จนถึงบุตรของข้าราชการตำรวจที่เสียสละชีวิตและร่างกายเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคม สำหรับการมอบทุนการศึกษาในวันนี้ เป็นการมอบทุนใน 2 ประเภท คือ การมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจนต้องออกจากราชการ จากการปฏิบัติหน้าที่ และการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจที่ประพฤติดีขาดแคลนทุนทรัพย์

นายกสมามคมแม่บ้านตำรวจ กล่าวว่า สำหรับทุนการศึกษาบุตรของข้าราชการที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยผ่านการพิจารณาจากสำนักงานกำลังพล สมาคมแม่บ้านตำรวจสนับสนุนทุนการศึกษามูลค่า 50,000 บาทต่อครอบครัวจำนวน 11 ครอบครัว ส่วนทุนการศึกษาบุตรของข้าราชการตำรวจที่มีความประพฤติดี ขาดแคลนทุนทรัพย์  สมาคมแม่บ้านตำรวจสนับสนุนทุนการศึกษา มูลค่า 3,000 บาทต่อทุน จำนวนมากกว่า 2,000 ทุน โดยเฉลี่ยสัดส่วนจำนวนทุนตามกำลังพลของแต่และหน่วย ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับทุนการศึกษาด้านความประพฤติดีมากที่สุดในปีนี้ 3 ลำดับแรก คือ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , ตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรภาค 9

นอกจากนี้ สมาคมแม่บ้านตำรวจได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม สนับสนุนทุนการศึกษาต่อเนื่องระดับปริญญาตรี เพื่อมอบให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือพิการทุพพลภาพจนให้ออกจากราชการจากการปฎิบัติหน้าที่ จำนวน 5 ทุน และสมาคมแม่บ้านตำรวจขอขอบคุณมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ ที่สนับสนุนการศึกษาให้แก่บุตรข้าราชการตำรวจด้วยดีตลอดมา ตลอดจนขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการในทุกด้าน

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอขอบคุณสมาคมแม่บ้านตำรวจที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือ และส่งเสริมการศึกษาให้กับบุตรข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิต และบาดเจ็บทุพพลภาพจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงบุตรข้าราชการตำรวจประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการเชิดชูเกียรติยศของตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และเป็นการส่งมอบกำลังใจให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจซึ่งปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับการมอบทุนการศึกษาบุตรข้าราชการตำรวจประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์นั้น ถือเป็นการจัดสวัสดิการ เพื่อช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวข้าราชการตำรวจ เพื่อให้เกิดความมุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน และขอแสดงความยินดีกับบุตรหลานที่ได้รับทุนการศึกษาในวันนี้ทุกคน ขอให้นำไปใช้ประโยชน์เพื่อการศึกษาให้มากที่สุด เพื่อให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบศพชาวต่างชาติเสียชีวิต 6 รายที่โรงแรมในพื้นที่ สน.ลุมพินี

วันนี้ (16 กรกฎาคม 2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตภายในโรงแรมดังกล่าว พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สภ.ลุมพินี นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่โรงแรม จำนวน 6 ศพ จึงได้แจ้งแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจสอบ และทางด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ และหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้เร่งสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต และเร่งติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุโดยเร็ว พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุทันที 

ล่าสุดขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กั้นพื้นที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน  ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งตรวจสอบเรื่องนี้โดยด่วน และล่าสุดขณะนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเองแล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ส่งกำลังใจร่วมเชียร์ "วิว กุลวุฒิ" ชิงชนะเลิศแบดมินตันชายเดี่ยว โอลิมปิก 2024 คืนนี้

วันนี้ (5 สิงหาคม 2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมข้าราชการตำรวจทั่วประเทศ ร่วมส่งกำลังใจให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ป. หรือ วิว นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย ที่ร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะลงแข่งขันแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ลุ้นเหรียญทองให้ประเทศไทยในค่ำวันนึ้

กีฬาโอลิมปิก 2024 วันนี้ มีไฮไลต์ที่การแข่งขันแบดมินตัน ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ในเวลา 20.50 น. ตามเวลาประเทศไทย โดย "วิว" ส.ต.ท.กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่มือ 8 ของโลก จะพบกับ วิกเตอร์ อักเซลเซ่น มือ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก หาก "วิว" ชนะจะเป็นเหรียญทองจากโอลิมปิกเกมส์เหรียญแรกของประเทศไทยในกีฬาแบดมินตัน

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายสำนักงานกำลังพล ตรวจสอบการดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับ ส.ต.ท.กุลวุฒิฯ และนักกีฬาตำรวจทุกคนที่เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และสร้างความสุขให้กับคนไทยทุกคน

สตม.รวบแล้ว!! ขบวนการขนคนต่างด้าวขึ้นเหนือล่องใต้อ้างโปรไฟล์รับขนส่งทั่วไทย

ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

วันนี้ (5 ส.ค. 67) เวลา 11.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ ผบก.ตม.5, พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา, พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิเษก ปิศโน ผกก.ตม.จว.น่าน, พ.ต.ท.พิระวัตร์ วงศ์ศิริเมธีกุล สวญ.ตม.จว.ชุมพร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

สตม.รวบแล้ว!! ขบวนการขนคนต่างด้าวขึ้นเหนือล่องใต้อ้างโปรไฟล์รับขนส่งทั่วไทย
ตม.จว.น่าน ร่วมกับ ตม.จว.สุรินทร์ จับกุม นายหนูเรียง (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี สัญชาติไทย ตามหมายจับของศาลจังหวัดน่าน ที่ จ.34/2567 ลงวันที่ 15 มี.ค.2567 ในความผิดฐาน ร่วมกันกระทำความผิดฐาน (ผู้ใช้) รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา จว.น่าน ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมบริเวณถนนสาธารณะคุ้มวัดกลาง หมู่ 9 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จว.สุรินทร์

จากกรณี เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567 เวลาประมาณ 20.00 น. ตม.จว.น่าน ร่วมกับ นปพ.กก.สส.ภ.จว.น่าน ประจำจุดตรวจห้วยน้ำอุ่น จับกุมนายจิระวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี พร้อมคนต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา จำนวน 6 คน ในความผิดฐาน รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา จว.น่าน ดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น จากการสอบถาม นายจิระวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่าได้รับงาน รับ-ส่ง คนต่างด้าวจากนายหนูเรียง ตกลงค่าจ้างไว้เป็นจำนวน 18,000 บาท ให้ไปส่งคนต่างด้าวจำนวน 6 คน จากต้นทาง อ.เชียงม่วน จว.พะเยา ปลายทางบริเวณชายแดนบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จว.จันทบุรี และจะได้รับค่าจ้างหลังจากส่งตัวคนต่างด้าวที่ปลายทางแล้ว โดยใช้แอพพลิเคชั่น Zello และ Line พูดคุยติดต่อกับนายหนูเรียง เพื่อนัดแนะถึงรายละเอียดในการ รับ-ส่ง คนต่างด้าวรวมถึงค่าตอบแทนจากนายหนูเรียง จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลพบว่านายหนูเรียง มีพฤติกรรมในการลักลอบรับ-ส่ง คนต่างด้าวไปทั่วราชอาณาจักร และได้ลักลอบขนส่งคนต่างด้าวไปยังพื้นที่ภาคใต้ นอกจากนี้ยังพบว่านายหนูเรียงเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ในข้อหา “ให้ที่พัก ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองมา โดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุม” จำนวน 1 หมาย ตม.จว.น่าน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา จว.น่าน

เพื่อขออนุมัติศาลจังหวัดน่าน ออกหมายจับ นายหนูเรียงฯ ในข้อหา “ร่วมกันกระทำความผิด (ผู้ใช้) รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ช่อนเร้น หรือช่วย ด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม" ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่านายหนูเรียง ได้หลบหนีคดีไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ หมู่ 9 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จว.สุรินทร์ จึงได้ไปประสานงานกับ ตม.จว.สุรินทร์ เข้าตรวจสอบและจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา จว.น่าน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการตำรวจทุกหน่วยตั้งศูนย์ปฏิบัติการ บูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เข้มงวดการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้คนร้ายฉวยโอกาสซ้ำเติมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมเปิดสายด่วนตลอด 24 ชั่วโมง

เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม 2567) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการด่วนที่สุด ให้ตำรวจทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทุกภัย ทำให้มีฝนตกต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2558 มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับผิดชอบในการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน และจัดระบบจราจรในพื้นที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสนับสนุนกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีมาตรการให้ทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดน่าน แพร่ เชียงราย และพะเยา รวมทั้งพื้นที่ที่ยังคงมีระดับน้ำเพิ่มขึ้น และให้ทุกหน่วยในพื้นที่นำกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ (รถยนต์/เรือ) อุปกรณ์อื่นๆ ออกช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่โดยด่วน และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลเอาใจใส่บำรุงขวัญ และช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพิ่มกำลังสายตรวจทั้งทางบกและทางน้ำ วางมาตรการในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อป้องกันมิให้ถูกคนร้ายฉวยโอกาสซ้ำเติมผู้ประสบภัย พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) เพื่อบูรณาการกับทุกภาคส่วน รวมทั้งจิตอาสาในพื้นที่รับผิดชอบ ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด และจัดชุดช่วยเหลือประชาชนพร้อมออกปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัยอย่างทันที

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งหมายเลขสายด่วน 191 , 1599 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 , สายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

“พล.ต.ท.ประจวบฯ” ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญตำรวจในพื้นที่ประสบอุทกภัย จ.น่าน กำชับดูแลพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

เมื่อวานนี้ (24 สิงหาคม 2567) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.รรท.รอง ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจเยี่ยม พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญและเงินช่วยเหลือให้กับข้าราชการตำรวจในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ณ ลานอเนกประสงค์ ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน (ภ.จว.น่าน) โดยมี พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จว.น่าน , พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี รอง ผบก.ภ.จว.น่าน ให้การต้อนรับ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.น่าน , สภ.เมืองน่าน และ ร้อย ตชด.324 จำนวน 60 นาย รับการตรวจเยี่ยมและรับมอบสิ่งของบำรุงขวัญ

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า ตามนโยบาย ผบ.ตร.ที่ได้สั่งการด่วนที่สุดให้ตำรวจทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทุกภัย ทำให้มีฝนตกต่อเนื่อง เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นดูแลเอาใจใส่บำรุงขวัญ และช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว วันนี้จึงได้มาตรวจเยี่ยมพร้อมมอบเงินและสิ่งของบำรุงขวัญให้กับข้าราชการตำรวจหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ พร้อมให้ทุกหน่วยเร่งสำรวจความเสียหายของสถานที่เพื่อของบประมาณดำเนินการซ่อมแซมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยของประชาชน การจัดระบบการจราจรในพื้นที่ที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย โดยขอให้ดูแลพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งหมายเลขสายด่วน 191 , 1599 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

ผบ.ตร.ห่วงใยประชาชน กำชับตำรวจภูเก็ต จัดกำลังตรวจตรา ดูแลความปลอดภัย และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน กรณีภัยพิบัติดินโคลนถล่ม จ.ภูเก็ต

วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เข้าประชุมที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อรับทราบสถานการณ์ กรณีภัยพิบัติดินโคลนถล่ม จ.ภูเก็ต

ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการ กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีสถานการณ์ภัยพิบัติดินโคลนถล่ม ดังนี้

1. ให้จัดกำลังพนักงานสอบสวน พนักงานวิทยุ สายตรวจ และชุดเคลื่อนที่เร็ว ประจำที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อให้การช่วยเหลือและรับแจ้งเหตุจากผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

2. จัดกำลังออกลาดตระเวนตรวจตราบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่ประสบภัย โดยจะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเติมประชาชนขึ้นอย่างเด็ดขาด

3. จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทราบล่วงหน้าว่าในช่วงนี้จะยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียจากเหตุดังกล่าวซ้ำซ้อนอีก จึงให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักและดินโคลนถล่มในพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสียงภัยให้ทราบล่วงหน้า

จากนั้น พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ได้มอบสิ่งของตรวจเยี่ยมจำนวน 150 ชุด ให้กับประชาชนที่ประสบภัย และมอบเงินบำรุงขวัญให้กับ ผกก.สภ.กะรน โดย ผบ.ตร. ได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย และจิตอาสา ที่ได้ช่วยกันให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งหมายเลขสายด่วน 191 , 1599 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top