Monday, 21 April 2025
ทหาร

ส่องเมนูสวัสดิการภายใน 'ทบ.' มื้อละ 10 บาท ถูกกว่าทหารเกณฑ์ จัดเต็มด้วย 'ต้ม-ผัด-แกง-ทอด' หมุนเวียน ตบท้ายด้วยของหวาน

(2 ส.ค. 67) ภายหลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในโซเชียลมีเดีย กรณีทหารกองประจำการของหน่วยทหารหน่วยหนึ่งใน กทม. อัดคลิปรีวิวอาหารเช้า ประกอบด้วย 2 เมนู ต้มจืดแตงกวาใส่ไข่ กุนเชียงทอด สภาพเหมือนอาหารบูด มีแต่น้ำ พร้อมฝากถึงผู้บังคับบัญชาเข้ามาดูแล

ต่อมา กองทัพบก โดย พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ออกมายอมรับว่า ผู้บังคับหน่วยดังกล่าวได้ทราบเหตุการณ์แล้ว จึงได้พูดคุยทำความเข้าใจกับกำลังพล รวมถึงยอมรับข้อบกพร่องในการกำกับดูแลการแจกจ่ายอาหารให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ พร้อมทั้งให้ปรับปรุงเมนูอาหาร และวิธีการแจกจ่ายอาหารให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่เวรรักษาการณ์ ได้รับอย่างทั่วถึงพร้อมเพียงกัน 

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหม ได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการหักเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนของทหารกองประจำการในส่วนราชการ สังกัดกระทรวงกลาโหม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยหน่วยที่รับผิดชอบ กำกับดูแล รวมถึงให้การสนับสนุนการฝึกทหารใหม่ สามารถใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน ตรงตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม 

กลุ่มค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องหักจากเงินเดือนพลทหาร คือ การหักค่าประกอบเลี้ยง ประมาณ 2,100 บาทต่อเดือน หรือวันละประมาณ 70 บาท หรือ มื้อละ 23 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนำไปเปรียบเทียบราคาและคุณภาพอาหาร ซึ่งเป็นสวัสดิการภายในกำลังพลในกองบัญชาการกองทัพบก พบว่า ราคาถูกกว่าเท่าตัวของมื้ออาหารทหารกองประจำการ โดยแยกเป็น ทหารชั้นสัญญาบัตร และทหารชั้นประทวน ซึ่ง กินเมนูเดียวกัน ในราคามื้อละ 10 บาท โดยแต่ละมื้อ จะประกอบด้วย ต้ม แกง ผัด ทอด หมุนเวียนกันไป ตบท้ายด้วยของหวาน

สำหรับเมนูในวันนี้ คือ ส้มตำไทย 1 จาน ต้มแซ่บหมู 1 ถ้วย ข้าวสวยพร้อมไก่ทอด 2 ชิ้น ส่วนของหวาน ลอดช่องน้ำกะทิ

ในขณะที่บุคคลทั่วไปที่เข้ามาติดต่อราชการ สามารถเข้ามาใช้บริการ โดยคิดราคาคนละ 40 บาท

โดยสวัสดิการอาหารกลางวันกำลังพล ขายในกองบัญชาการกองทัพบก หัวละ 10 บาท เกิดขึ้นในยุค พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีตผู้บัญชาการทหารบก หวังช่วยเหลือและลดค่าใช้จ่ายของกำลังพล ซึ่งเป็นการนำเงินส่วนตัวของ พล.อ.วิมล มาอุดหนุน ในส่วนต่างราคาอาหาร แต่ต่อมา เนื่องจากวัตถุดิบประกอบอาหารมีราคาเพิ่ม ทำให้กองทัพบกต้องจัดงบประมาณมาอุดหนุนจนถึงปัจจุบันนี้

‘ไทย-จีน’ เตรียมเปิดฉากซ้อมรบร่วมทางอากาศ ‘Falcon Strike 2024’ หวังเพิ่มพูนทักษะต่อสู้ พร้อมกระชับแลกเปลี่ยนความร่วมมือเชิงปฏิบัติ

(14 ส.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของจีนประกาศว่า จีนและไทยจะจัดการซ้อมรบร่วมทางอากาศ ‘ฟอลคอน สไตรค์ 2024’ (Falcon Strike-2024) ในเดือนสิงหาคมนี้ โดยการซ้อมรบเป็นไปตามแผนความร่วมมือประจำปีระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ระบุว่า การซ้อมรบจะจัดขึ้นที่ฐานทัพอากาศของไทย และจีนจะจัดส่งเครื่องบินหลายประเภทและกองกำลังพิเศษเข้าร่วมการซ้อมรบ โดยเป้าหมายของการซ้อมรบร่วมครั้งนี้คือเพิ่มพูนทักษะการต่อสู้ของกองกำลังที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระชับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือเชิงปฏิบัติ

รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ ฐท.สส. พร้อมช่วยเหลือ ปชช. และสนับสนุนภัยน้ำท่วม

โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือ สัตหีบ เตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ช่วยเหลือประชาชนและสนับสนุนภัยน้ำท่วม

พลเรือตรี​ สรรชัย​ เลิศวีระศิริกุล​ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์​ ฐานทัพเรือสัตหีบ​ เป็นประธาน กล่าวให้โอวาทและให้แนวทางการปฏิบัติงานแก่ กำลังพลสายแพทย์ ในการจัดชุดแพทย์เตรียมความพร้อม ด้านการช่วยเหลือประชาชนสนับสนุนภัยน้ำท่วม​ และได้ตรวจความพร้อมของหน่วยปฏิบัติ​ ซึ่งประกอบด้วย​ ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์​ (Mini​MERT)​ ชุดปฏิบัติการเวชกรรมป้องกัน (PERT)​  ชุดช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ระดับสูง ในภาวะภัยพิบัติ (MERT)​ ชุดกู้ชีพและช่วยชีวิตผู้ป่วยทางน้ำ (Maritime  and Aquatic Life Support: MALS)​ ​ชุดสำรวจและประเมินความเสียหาย นายทหารสัญญาบัตร กองทัพเรือ(Naval​ Diaster Assessment Team : NDAT)

ผลการปฏิบัติในก่รตรวจสอบ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยพร้อมปฏิบัติ ณ สนามฟุตบอลโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ​ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567

'หมอเหรียญทอง' แชร์!! ทำไมเปลี่ยนจากโหมดสุภาพเรียบร้อยสู่โหมดโหด เพราะทหารต้องมีวินัยเคร่งครัด มีใจเป็น 'นักรบ-นักเลง' ไม่รังแกชาวบ้าน

(6 ก.ย.67) พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'เหรียญทอง แน่นหนา' ระบุว่า… 

เพื่อนรักเก่าแก่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายด้วยกันแสดงความเห็นในโพสต์เมื่อวันก่อนถึงผมความว่า...

"สมัยมัธยมฯ เห็นแต่โหมดสุภาพเรียบร้อย ตลก อารมณ์ดีไป up grade เพิ่มโหมดโหดจาก app ไหนครับ เพื่อน"

ผมขออนุญาตตอบคำถามเพื่อนรักของผมผ่านสาธารณะว่า ผมไป up grade เพิ่มโหมดโหดจาก app ไหน 

ผมขอเรียนว่า โหมดโหดของผมอาจจะมาจาก app การที่ผมเป็นหัวหน้านักเรียนทหาร เป็นผู้บังคับหน่วยทหาร ที่ถูกฝึกอบรมปลูกฝังให้ยึดถือระบบเกียรติศักดิ์ หรือ Honour system 

ทหารต้องมีระเบียบ มีวินัยอย่างเคร่งครัด รู้จักกาลเทศะ เป็นสุภาพบุรุษที่มีใจเป็นนักรบ มีใจเป็นนักเลงนะครับ ไม่ประพฤติตนเป็นกุ๊ย ไม่เป็นอันธพาลเกเรรังแกชาวบ้าน 

เมื่อทำผิดก็ต้องรับผิด ไม่โกหก ไม่เสแสร้ง ไม่สร้างภาพ ตรงไปตรงมา จริงใจซื่อตรงต่อกัน ไม่ทอดทิ้งกัน ที่สำคัญที่สุด คือ "จงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ทอดทิ้งองค์จอมทัพ" ...แต่ก็มีทหารบางตัวที่ไร้ซึ่งเกียรติศักดิ์ อันนี้ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคลนะครับ แต่รับรองว่าไม่ใช่ทหารเก่าแก่อย่างผมแน่

โหมดโหดของผมยังอาจจะมาจาก app 'หัวลำโพงในอดีต' ถิ่นกำเนิดของผมที่ผมเติบโตมาจากการแวดล้อมด้วยนักเลงย่านหัวลำโพง ลูกน้องของพ่อซึ่งเป็นเจ้าของโรงหมูที่ตรอกโรงหมู สภาพแวดล้อมดงนักเลงตรอกโรงหมู-ตรอกสลักหิน มันอาจจะซึมซับเข้าไปในกมลสันดานของผมอยู่บ้าง ก็เลยมีโหมดโหด ตามสมญาที่ผมตั้งเองอย่างสนุกสนานว่า "ไอ้ตี่หัวลำโพง" ไงล่ะครับ

จริง ๆ แล้วทุกวันนี้ ผมก็ยังสุภาพเรียบร้อย ตลก อารมณ์ดี เหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวตนไปจากภาพจำของเพื่อน ๆ สมัยเด็ก ๆ เลย ผมยังยิ้มแย้ม แจ่มใส คุยสนุก ตลกขบขันเหมือนที่เพื่อน ๆ ทุกคนเคยเห็น เคยจำได้นั่นแหละครับ 

เพียงแต่ชีวิตของผมเริ่มเปลี่ยนไปจากชีวิตเด็กชาย ตั้งแต่เป็นหัวหน้านักเรียนทหาร เป็นผู้บังคับหน่วยทหาร เป็นผู้บริหาร ทำให้ผมต้องเป็น 'ผู้นำ' ที่ต้องรับผิดชอบหน่วย รับผิดชอบองค์กร รับผิดชอบภารกิจที่เกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก ทั้งผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมาก ทั้งคู่ค้าทางธุรกิจในปัจจุบัน ดังนั้นผมจึงต้องเป็น 'ผู้นำที่ดี' 

การเป็น 'ผู้นำที่ดี' มีคุณสมบัติและคุณลักษณะมากมาย แต่ผมรวบรวมแล้วยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติ คือ 'ดี เก่ง กล้า' 

ถ้าผมไม่ต้องเป็นผู้นำ ผมก็จะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ตลก อารมณ์ดี เหมือนภาพจำของเพื่อน ๆ สมัยเด็ก ๆ นั่นแหละครับ...เพียงแต่ผมแก่จนเป็นตาแป๊ะไปแล้ว ไม่แก้มแดงน่ารักเหมือนตอนเด็ก ๆ

งานหนัก!! ‘บิ๊กอ้วน’ แต่งตั้งโยกย้ายทหารระดับนายพล ‘บิ๊กปู-ทัพบก’ ไม่น่าพลิก ส่วน ‘บิ๊กแมว-ทัพเรือ’ รอลุ้น

ในจันทร์ที่ (16 ก.ย. 67) เวลา 10.00 น. คงเป็นทั้งฤกษ์งามยามดีและฤกษ์สะดวกที่ ‘บิ๊กอ้วน’ หรือ ‘สหายใหญ่’ - ภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม เจ้าของรหัสเรียกขาน ‘สนามไชย 1’ จะไปสักการะศาลหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในกระทรวงกลาโหม ก่อนจะไปรับฟังบรรยายสรุป-มอบนโยบายและรับประทานอาหารกับปลัดกลาโหม ผบ.เหล่าทัพ     

แน่นอนภาพการตรวจแถวกองทหารเกียรติยศของ ‘บิ๊กอ้วน’ จะถูกโฟกัสและใครหลายคนที่ยังมีอารมณ์ค้าง ปมประเด็นความเป็น ‘สหายใหญ่’ ก็คงจะนำไปเม้าท์มอยตามประสา...ซึ่งภูมิธรรมก็คงจะทำใจปลงใจเอาไว้แล้ว คงไม่หนักใจเท่ากับการบ้านที่จะต้องทำให้บรรลุนโยบายและวัตถุประสงค์…

เฉพาะหน้า…มีโจทย์ร้อนที่ ‘สนามไชย 1’ จะต้องถอดสลักก็คือ โผทหารร้อน ๆ ที่รมว.กลาโหม คนก่อน (สุทิน คลังแสง) ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล หรือ ‘บอร์ดโยกย้าย’ 6 คน ได้เคาะเอาไว้เป็นเบื้องต้นแล้ว ซึ่งน่าสนใจก็คือในส่วนของกองทัพบก และ กองทัพเรือ…

เอาเฉพาะไฮไลต์ขอแปะโผร้อน ๆ ไว้ดังนี้ 

>>กองทัพบก
-พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) เสธ.ทบ. เป็น ผบ.ทบ.
-พล.อ.ณัฐวุฒิ นาคะนคร (ตท.24) ที่ปรึกษาพิเศษทบ.เป็น รอง ผบ.ทบ.
-พล.อ.วสุ เจียมสุ (ตท.25) รองผอ.สนง.รมน.เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ.
-พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ (ตท.26) แม่ทัพภาคที่ 1 ผู้ช่วย ผบ.ทบ.
-พล.ท.ธงชัย รอดย้อย (ตท.25) รองเสธ.ทบ.เป็น เสธ.ทบ. 
-พล.ท.อมฤต บุญสุยา (ตท.27) แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1
-พล.ท.บุญสิน พาดกลาง (ตท.26) แม่ทัพน้อยภาคที่ 2 เป็น มทภ.2
-พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ (ตท.23) แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3
-พล.ต.ไพศาล หนูสังข์  รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็น แม่ทัพภาคที่ 4

>>กองทัพเรือ
-พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ (ตท.23) ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. เป็น ผบ.ทร.

สั้น ๆ ที่อยากจะขีดเส้นใต้เอาไว้ก็คือ ในส่วนของกองทัพบกแม้จะมีเบื้องลึกเบื้องหลังให้เจาะลึก โดยเฉพาะการ (จะ) ผงาดของพล.อ.พนา หรือ ‘บิ๊กปู’ นั้นสาหัสยิ่ง...และคาดว่าท่าน ‘บิ๊กอ้วน’ ไม่น่าจะกล้าปรับเปลี่ยนใด ๆ อีก

ที่อาจจะเปิดช่องให้ ‘บิ๊กอ้วน’ คิดใหม่จัดใหม่ได้ถ้าจะมีก็อาจจะเป็นกรณี ผบ.ทร.ที่ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.(ตท.23) ยืนยันว่าต้องเป็น ‘บิ๊กแมว’ พล.ร.อ.จิรพล ที่เรียนจบนอก (โรงเรียนนายเรือเยอรมันเมอร์วิค) ไม่ได้มาจาก 5 ฉลามเสือ ถือว่าแหวกม่านประเพณีและหลักนิยมเดิม ๆ ทำให้ตัวเต็งอีก 3 คนคือ พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์ ผช.ผบ.ทร. (ตท.23), พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสธ.ทร. (ตท.24) และพล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข (ตท.25) รองผบ.ทร. ได้แต่นั่งมองหน้ากันตาปริบ ๆ และไม่กี่วันก่อนปรากฏว่าหลังโผออกได้มีใบปลิวโจมตีบิ๊กแมวทั้งเรื่องปัญหาการทำงานและเรื่องจริยธรรมส่วนตัว…

เรียกกันว่าเล่นกันแรง...สมควรที่ท่านบิ๊กอ้วนจะได้หยุดศึกทหารน้ำในขณะนี้...ไม่ว่าจะเลือกบิ๊กแมวหรือบิ๊กใดก็ตาม…เพราะปัญหาในกองทัพเรือที่จะต้องแก้นั้นมีเพียบ...!!

ทรภ.1 โดย ศบภ.ทรภ.1 ร่วมหอการค้าจังหวัดระยอง และเครือข่ายเอกชน จัดรถบรรทุกลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย หนองคาย

พลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1/ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1/ผอ.ศบภ.ทร.1) และคณะผู้บังคับบัญชาในศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมส่งขบวนรถบรรทุกสำหรับบรรทุกสิ่งของ เพื่อไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดหนองคาย รวมทั้งจัดกำลังพลในศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ร่วมลำเลียงถุงยังชีพจำนวน 2,000 ถุง สิ่งของบริจาค และนำ้ดื่ม ขึ้นรถบรรทุก ณ มูลนิธิสว่างพรกุศลจังหวัดระยอง 

เพื่อแสดงออกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพเรือ กับหน่วยงานภายนอก รวมทั้งเป็นการสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากอุทกภัยในภาวะปัจจุบันตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ 

ตลอดจน เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพเรือต่อประชาชน โดยขบวนรถบรรทุกฯ จะออกเดินทางไปยังหอการค้าจังหวัดหนองคาย ในวันที่ 18 กันยายน 2567 

'ใบตองแห้ง' ยก!! ทหารเป็นกำลังสำคัญในการกอบกู้ภัยพิบัติ ยัน!! ไม่ปฏิเสธการมีทหาร แต่แค่มีนายพลมากมายไว้ทำไม

(25 ก.ย. 67) อธึกกิต แสวงสุข หรือ ใบตองแห้ง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'Atukkit Sawangsuk' ในหัวข้อ 'ทหารมีไว้ทำไม' ระบุว่า...

คุยกับ บก.ลายจุด ทำงานร่วมกับทหารดีมาก

“เขาก็รู้ว่าผมเป็นใคร” แต่ทำงานร่วมกันอย่างมืออาชีพ ทหารยังให้รถมาใช้

ไม่ใช่แค่ บก.หรอก อาสาสมัครมูลนิธิกระจกเงามีหลากหลาย

แดง ส้ม คนรุ่นใหม่ ก็ไปทำงานร่วมกัน เสธ.ทั้งหลาย (ในขณะที่พวก IO นั่งหน้าคีย์บอร์ด)

ไม่ได้มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยผู้ประสบภัยพิบัติ

ทหารนั้นเป็นกำลังสำคัญในการกอบกู้ภัยพิบัติ

เป็นอย่างนี้ทุกประเทศ เพราะมีกำลังพลพร้อมลุย

อันที่จริง ควรมีการฝึกซ้อมด้านนี้ด้วยซ้ำ

แต่อันดับแรก คือต้องเพิ่มประสิทธิภาพ ปภ. เป็นเจ้าภาพ แล้วให้ทหารเป็นกำลังหลัก อาสาสมัครเป็นกำลังเสริม 

เวลาพูดเรื่องทหารมีไว้ทำไม

เราไม่ได้ปฏิเสธว่าทหารมีไว้รบ มีไว้กู้ภัย

แต่มันมีนายพลมากมายไว้ทำไม 

มีสนามกอล์ฟมากมายไว้ทำไม

มีทหารกระดาษ ทหารเดินเอกสาร ไว้มากมายทำไม

‘มท.1 - ผบ.ทบ.’ ลงนาม MOU ถอนทหารจากพื้นที่ชายแดนใต้ ปี 70 เสริมทักษะกองกำลังอาสาฯ ดูแลความปลอดภัย ปชช. ลดภารกิจทหาร

(27 ก.ย. 67) ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ รอง ผอ.รมน. ร่วม เป็นประธานร่วมพิธีลงนาม MOU เรื่องเสริมสร้างประสิทธิภาพอาสาสมัครจังหวัดชายแดนภาคใต้ (อส.จชต.) ระหว่างกระทรวงมหาดไทย กับ กอ.รมน.

นายอนุทิน กล่าวว่า การลงนามเอ็มโอยูวันนี้เป็นการแสวงหาความร่วมมือระหว่าง กระทรวงมหาดไทยและ กอ.รมน. ฝึกฝน ทักษะที่กองทัพบกมีให้แก่กองกำลังอาสาของกระทรวงมหาดไทยซึ่งมีแผนให้เข้ามาทำหน้าที่ลดภารกิจของทหาร ดูแลความปลอดภัยประชาชนตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป โดยกองกำลังอาสามาจากคนในพื้นที่เพราะมีความคุ้นเคยกับประชาชนอยู่แล้ว

นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า กองกำลังอาสาเดิมมีทักษะตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเสริมความสามารถในการป้องกันตัวเองดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งต้องอาศัยการฝึกฝนและได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองทัพบกจัดส่งครูฝึก ผู้เชี่ยวชาญมาฝึกให้ ตนและ ผบ.ทบ.ลงพื้นที่สังเกตการณ์หลายครั้งมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อย ๆ มีความมั่นใจในการปฏิบัติงาน เมื่อถึงเวลากระจายงานให้ปฏิบัติ โดยมีบทบาทหน้าที่ครอบคลุมทุกด้าน

ด้าน พล.อ.เจริญชัย กล่าวเสริมว่า การปฏิบัติงานพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ดำเนินการร่วมกันระหว่าง พลเรือน ตำรวจ ทหาร ในรูปแบบ กอ.รมน. และเมื่อถึงเวลาเหมาะสมและสถานการณ์เรียบร้อยตามแผนปี 2570 จะมอบพื้นที่ให้กรมการปกครอง อาสาสมัคร ตำรวจ ดูแล ในระหว่างนี้เป็นการเตรียมการไปถึงจุดเราคาดหวังแล้วหรือไม่ หากสถานการณ์ดีขึ้น เหมาะสมเป็นไปตามแผน แต่ให้ไม่ดีขึ้นก็อยู่ที่รัฐบาลจะพิจารณา พร้อมยืนยันว่าอาสาสมัครมีพื้นฐานที่ดี แต่การทำงานร่วมกันต้องฝึกร่วมเพื่อให้คุ้นเคยในการทำงานที่ดี อาสาสมัครเป็นเครื่องมือรัฐบาลในการดูแลความปลอดภัยประชาชนและเป็นที่พึ่งในทุกโอกาสรวมถึงบรรเทาสาธารณภัย

ผบช.ตชด.บินด่วน เยี่ยม ตชด.บาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดรถบัสของ ตชด. บนถนนสาย 42 นราธิวาส-ปัตตานี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี 

(28 ก.ย.67) พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) เดินทางมายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเยี่ยมและติดตามอาการของ ตชด. 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุลอบวางระเบิดรถบัสของ ตชด. บนถนนสาย 42 นราธิวาส-ปัตตานี อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ระหว่างเดินทางกลับที่ตั้ง จ.ชุมพร หลังจากเสร็จภารกิจในพื้นที่ จ.นราธิวาส ปัจจุบัน ตชด. ทั้ง 4 นาย มีอาการปลอดภัย แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

1.จ.ส.ต.ขจรพล เพชรกูลง รู้สึกตัวดี ได้รับบาดเจ็บ บริเวณหัวเข่าซ้าย มีแผลฉีกขาดจากสะเก็ดระเบิด แพทย์ให้การพยาบาล และรอผลX-rays
2.ส.ต.ท.ศุภวิชญ์ ป้องแก้ว รู้สึกตัวดี ศีรษะบริเวณด้านขวาแตก เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการเย็บแผลแล้ว และสังเกตอาการต่อ
3.จ.ส.ต.ดำเนินยุทธ สง่าปู รู้สึกตัวดี เเขนขวาได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด มีแผลฉีกขาดบริเวณแขนขวา แพทย์ให้การรักษาพยาบาลและรอผล X-rays 
4. ส.ต.ท.นพคุณ นำศิลป์ (พลขับ) ซึ่งส่งต่อจากโรงพยาบาลปัตตานี มารักษาต่อที่ รพ.มอ.เมื่อช่วงเช้า มีอาการสาหัสและแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหลายแห่ง ปัจจุบันรอเข้ารับรักษาในห้อง ICU และการผ่าตัด

ผบช.ตชด.กล่าวว่า การปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีสถานการณ์ต้องมีความพร้อมและมีสติอยู่เสมอ ตั้งอยู่บนความไม่ประมาทอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ก็ได้นำความห่วงใยจาก ผบ.ตร. มาถ่ายทอดให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่เสียขวัญ ทั้งนี้ได้นำเงินสวัสดิการ และสิทธิประโยชน์ต่างๆของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตลอดจนเงินบำรุงขวัญของตนเองมามอบให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา และญาติ เป็นจำนวนกว่า 200,000 บาท

สุดซึ้ง! ทหารใหม่ทำความเคารพอดีตทหารผ่านศึก คอมเมนต์เอกฉันท์แห่ขอบคุณและชื่นชมวีรบุรุษลายพราง

(8 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘ข่าวดัง ออนไลน์’ ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของทหารผ่านศึกสุดประทับใจว่า 

เรื่องเล่าจากคุณลุงผู้เป็นทหารผ่านศึก ที่ได้รับการแสดงความเคารพจากทหารรุ่นน้องที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มีคนถามคุณลุงว่าแล้วทหารท่านนั้นทราบได้อย่างไรว่าคุณลุงคือทหารผ่านศึก คุณลุงตอบว่าเพราะเสื้อกั๊กที่ใส่อยู่นั้น มีสัญลักษณ์ของทหารผ่านศึกติดอยู่ 

“..มันเป็นความรู้สึกที่ดีมากคราวหนึ่งในชีวิตครับ วันนั้นผมปั่นจักรยานไปกระทรวงมหาดไทยเพื่อไปรับเหรียญพิทักษ์เสรีชน และ เหรียญราชการชายแดน ขากลับปั่นจักรยานผ่านสวนจิตรลดา จะมีป้อมทหารยามเป็นจุด ๆ รอบสวนจิตรลดา มีอยู่จุดหนึ่งน้องทหารเขาได้ตกปืนทำความเคารพ เสียงค่อนข้างดัง ผมหันไปมอง น้องทหารเขาก็มองตอบมา ผมจึงหันไปรอบตัว พบว่ามีผมอยู่คนเดียว จึงทราบว่าน้องเขาแสดงความเคารพให้ผม ผมก็ยกมือวันทยหัตถ์ตอบ น้องเขาลดปืนและมาอยู่ในท่าระเบียบพัก ผมปั่นจักรยานจากมาพร้อมกับน้ำตาไหลซึม ขอบใจน้องทหารที่ให้เกียรติกันอดีตทหารผ่านศึก เล่นเอาผม อดีตทหารผ่านศึกแก่ ๆ คนหนึ่ง น้ำตาร่วงได้..”

ในโพสต์ดังกล่าวได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย เช่น 

“อ่านแล้วภูมิใจมาก ขอบคุณ ท่านทหารผ่านศึก ที่ท่านเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกเราให้ได้มีแผ่นดินไทยอยู่ ขอให้สุขภาพท่านแข็งแรง และมีความสุขค่ะ ^___^
... จากครอบครัวผู้สูญเสียวีรบุรุษหินร่องกล้า”

“สวัสดีครับ ท่านสมาชิก อผศ.ในภาพที่สวมเสื้อวินมอไซค์ ท่านยังดูแข็งแรงอยู่มาก..ทำมาหากินไปครับ พวกเราต่อสู้ขับไล่ศัตรูแผ่นดินเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชนกันมา บางท่านก็พลีชีพ บางท่านบาดเจ็บพิการทุพพลภาพ ขอให้ท่านผู้ผ่านศึกทุกนายที่ยังมีชีวิตอยู่จงมีแต่ความสุขกายสุขใจตลอดไปนะครับ จากผมสมาชิก อผศ.บัตรชั้นที่ 3 ครับ..”

"ชื่นชมค่ะ.. จากครอบครัวทหาร.ค่ะ.. (... หลายปีที่ผ่านมา.เคยมีโอกาสเดินทางไปจ๋าหน่ายดอกปี้ในวันทหารผ่านศึก... ตามหน่วยงาน, องค์กรต่าง ๆ เพื่อนำรายได้จากการจ๋าหน่ายไปช่วยเหลือ น้อง ๆ ทหารหาญที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนค่ะ.. ฯ.."ภาคภูมิใจค่ะ...”

“ขอร่วมภาคภูมิใจด้วยพี่ทหารทั้งสองท่านด้วยค่ะ และน้ำตาร่วงกับพี่ด้วยความชื่นชมอิ่มใจ ใน ทหารค่ะขอบคุณ ๆ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top