Monday, 9 June 2025
ทนายความ

‘ทนายวันชัย’ โพสต์เฟซ!! ถึง ‘นักร้อง’ กรณีศาลรัฐธรรมนูญ ชี้!! ถูกตบคว่ำ หมอไม่รับเย็บ จุดอย่างไรก็ไม่ติด ท่านไม่เอาด้วย

(24 พ.ย. 67) ทนายวันชัย สอนศิริ โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ ‘นักร้อง’ โดยมีใจความว่า ...

สมน้ำหน้า นักร้องถูกตบกระบาลหน้าคว่ำ หมอไม่รับเย็บ....

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ยกคำร้องว่าพรรคเพื่อไทยและคุณทักษิณไม่ได้ล้มล้างการปกครอง เป็นการตบกระบาลเปรี้ยงไปยังบรรดานักร้องจนหน้าคว่ำคะมำไปตาม ๆ กัน แท้ที่จริงนักร้องพวกนี้คือพวกที่พยายามจะล้มล้างและเซาะกร่อนบ่อนทำลายรัฐบาลอยู่ตลอดเวลา หาเรื่องจับแพะชนแกะ โยงเรื่องโน้นเรื่องนี้สารพัดให้เป็นประเด็น เป็นนิติสงคราม เรื่องไม่เป็นเรื่องก็ทำให้เป็นเรื่อง คำวินิจฉัยในวันนี้ชี้ให้เห็นได้ว่า อย่าร้องกันมั่ว ๆ ส่งเดช ไม่เข้าท่าเข้าทาง

คนพวกนี้สู้ในสภาก็ไม่ได้ จะจัดม๊อบนอกสภาก็ไม่ไหว ทำอย่างไรก็จุดไม่ติด การร้องศาลรัฐธรรมนูญก็คงเป็นวิธีเดียวที่คนพวกนี้จะทำได้ เคยได้ผลเรื่องคุณเศรษฐามาแล้วก็เลยได้อกได้ใจ หวังว่าจะเอาศาลรัฐธรรมนูญมาเป็นเครื่องมือกำจัดรัฐบาลเหมือนที่เคยทำได้ แต่ศาลท่านไม่เอาด้วย ยิ่งผลคะแนนที่ออกมานั้นมันเกือบจะเอกฉันท์เต็มร้อย ทำให้ไอ้ห้อยไอ้โหนประเภทนักร้องที่จะเล่นเกมแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้ ทำให้หน้าแหกหมอไม่รับเย็บ

สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ เพื่อไทยและคุณทักษิณก็อย่างมัวกระหยิ่มยิ้มย่อง ต้องใช้โอกาสนี้สปีดการทำงานให้เต็มสูบ เรื่องปราบปรามยาเสพติด แก้ปัญหาเศรษฐกิจ การทำมาค้าขาย ต้องเห็นผลให้ได้ภายในเดือนสองเดือนนี้ ศาลท่านก็ยกคำร้องแล้วว่าคุณทักษิณไม่เกี่ยวกับเรื่องครอบงำชี้นำอะไรทั้งนั้น ลุยได้ต้องลุย เดินเครื่องได้ต้องเดิน เพื่อไทยเป็นรัฐบาลนะ ไม่ใช่เป็นฝ่ายค้าน ผลงานต้องมี ไม่ใช่มีแต่น้ำลายพ่นกันไปวันๆ เวลาก็เหลือเพียงสองปีเศษ จะเอาสองร้อยเสียงขึ้นไป ต้องไม่ใช่เป็นอย่างเช่นทุกวันนี้ คนเขารอผลงานและการแก้ปัญหาอยู่ อย่าให้เขารอนานไปกว่านี้ ไม่อย่างนั้นทักษิณก็ทักษิณเถอะ เพื่อไทยก็เพื่อไทยเถอะ ยังขืนอืดอาดยืดยาด...ระวังจะโดนเหมือนที่เคยโดนมาแล้ว

‘ทนายเกิดผล’ โดนอ้างชื่อ!! สร้างช่อง TiKToK ชี้!! ใครเสียหาย ดำเนินคดีได้ ยินดีเป็นพยานให้

เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค. 67) นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง  โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า …

ใน tiktok มีคนนำข้อมูลส่วนตัวผม และ คลิปข่าวของผมไปลง โดยแอบอ้างว่าเป็นทนายเกิดผล ผมไม่ได้เป็นคนสร้าง ติ๊กต๊อก ช่องนี้  หากมีการแอบอ้างว่าเป็นผม และมีคนเสียหาย สามารถดำเนินคดีได้ และ ผมเป็นยินดีเป็นพยานให้ครับ รบกวน เพื่อนๆ ช่วยกดรายงาน ด้วยนะครับ

นอกจากนี้ได้แคปภาพช่อง TikTok ดังกล่าว พร้อมระบุข้อความอีกว่า …

บุคคลนี้แอบอ้างว่าเป็นผม และผมจะดำเนินคดีกับคนที่แอบอ้าง ฝากเพื่อนๆ ช่วยกดรายงานด้วยนะครับ

'เปิ้ล ไอริณ'ไม่ทน!! เอาผิดอินฟลูฯ เล่าข่าว วิจารณ์เดือด เรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท นำเงินไปช่วยทหารผ่านศึก

(2 มี.ค. 68)  ‘เปิ้ล ไอริณ’ เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.คันนายาว พร้อมทนายอัครเดช หวังสุข และ ทนายนพฤทธิ์ จันทร์สุวรรณ เข้าแจ้งความหมิ่นประมาท กรณี ‘อินฟลูเล่าข่าว’ ได้โพสต์คลิปโดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ในแอพพลิเคชั่น TikTok ที่โพสต์ไว้เมื่อปี 2566 

เปิ้ล ไอริณ เผยว่า ปกติไม่เล่นติ๊กต็อก แต่วันนั้นเข้าไปเห็นคลิปที่อินฟลูฯสาวโพสต์ มีการกล่าวพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญในชีวิตของเปิ้ลก็คือคุณแม่ ทุกวันนี้ก็ยังห้อยกระดูกแม่ติดตัว โดยเปิ้ลได้สืบมาแล้วว่า เขาเป็นใคร ทำอะไร

รวมไปถึงคนที่เข้ามาคอมเมนต์ในโพสต์ดังกล่าวด้วยว่า ที่มีการด่าด้วยถ้อยคำรุนแรงถึงแม่ ตา ยาย ใครที่แตะถึงบรรพบุรุษ เปิ้ลเอาเรื่องทุกคน ให้เวลา 3 วันรีบลงทิ้ง หากไม่ลบจะให้ทางทนายจัดการทั้งหมด

เปิ้ล กล่าวว่า ที่ผ่านมาขอให้จัดการให้เรียบร้อย แต่ 1 เดือนผ่านไป ยังไม่มีการตอบกลับ หากจะมาขอโทษ ทุกคำด่ามีค่าใช้จ่าย ตนเองมาที่ สน.ก็ต้องมีการจ้างทนายความ ในทุกเดือนเปิ้ลจะนำเงินไปบริจาคให้กับทหารผ่านศึก เงินที่ได้จากการฟ้องก็จะนำไปมอบให้กับทหารผ่านศึกเช่นกัน โดยฟ้องเรียกร้องค่าเสียหาย 1 ล้านบาท ก็เห็นคู่กรณีนั่ง first class อยู่ตลอดเวลา เงินจำนวนเท่านี้คงไม่ได้มาก แต่มันมากสำหรับการเอาไปช่วยทหารผ่านศึก

เปิ้ล ยังได้โพสต์ภาพคุณแม่และข้อความว่า เนื่องในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น. เปิ้ลจะไปแจ้งความในคดีหมิ่นประมาทออนไลน์ ซึ่งตั้งแต่เปิ้ลอยู่ในวงการมาเกือบ 30 ปี ครั้งนี้ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทที่รุนแรงที่สุด โดยนักข่าวและพิธีกรคนดังได้กล่าวพาดพิงและสร้างความเกลียดชัง ชักชวนผู้อื่นให้เข้ามาด่าทอ ด้อยค่าเปิ้ล ถึงเรื่องที่เปิ้ลเคยแสดงออกในการรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และบุคคลนี้ ได้กล่าวลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเปิ้ล ซึ่ง ณ ที่นี้ ทุกคนจะรู้ดีว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในชีวิตเปิ้ล ที่เปิ้ลระลึกและพูดถึงอยู่เสมอ ก็คือคุณแม่ของเปิ้ล แม้คุณแม่จะจากไป เป็นคนบนฟ้านับ 10 ปีแล้ว แต่ทุกๆปี เปิ้ลก็ยังคงระลึกถึงท่าน ทำบุญทุกวันครบรอบ นำกระดูกแม่มาห้อยคอติดตัวเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดและยังสวดมนต์แผ่เมตตาให้ท่านทุกคืน ไม่เคยขาด!!

....การอยู่ในวงการนี้ จะด่าทำร้าย....การใช้พื้นที่ในโลกโซเชียล ถือเป็นสิ่งพึงระวัง หากพาดพิงถึงบุคคลอื่นที่เราไม่รู้จัก ด้วยความเกลียดชัง เพื่อสร้างยอดไลค์ สามารถสร้างความเสียหาย มีโทษอาญาถึงขั้นจำคุก และถ้าบุคคลนั้น ยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะ ที่มีอิทธิพลกับคนหมู่มาก ยิ่งพึงต้องระวัง โดยเฉพาะการใช้คำพูด ที่มีเจตนาในการสร้างความเกลียดชัง ในที่สาธารณะและสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่นทั้งทางด้านจิตใจและชื่อเสียง

'ทนายเดชา' เผย 'ฎีกา' ชี้ เปลี่ยนเลนกระชั้นชิด ผู้ชนท้ายไม่ผิด

เมื่อวานนี้ (18 เม.ย. 68) ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้โพสต์ไว้ในเพจ ‘ทนายคลายทุกข์’ โดยมีใจความว่า

ขับรถเปลี่ยนช่องทางกระชั้นชิด รถคันหลังขับมาชน ผู้ขับชนไม่มีความผิด 
อ้างอิงจาก ฎีกาที่ 3088/2527 พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 52 วรรคแรก และมาตรา 36

‘นายกสภาทนายความ’ ประณาม!! คนส่งกระสุนปืนขู่ทนาย ทำคดีสำคัญที่ขอนแก่น แอบอ้างเป็นคนในเครื่องแบบ โทรข่มขู่ จี้!! ตำรวจเร่งจับตัวมาลงโทษตามกฎหมาย

(11 พ.ค. 68) นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ได้รับแจ้งจากนายพิเชฐ คูหาทอง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค 4 และว่าที่พันตรี ณรงค์ ดาหาร ประธานสภาทนายความจังหวัดมุกดาหาร ว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ได้มีบุคคลทำการส่งกระสุนปืน ทางไปรษณีย์ จำนวน 1 นัด ไปให้นายธนบูรณ์ กุมภิโร ทนายความที่มีสำนักงานอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร

จากการสอบถามเบื้องต้นได้ความว่าน่าจะเป็นการคุกคาม มีสาเหตุมาจากการที่นายธนบูรณ์ กุมภิโร ได้เข้าไปเป็นทนายความในคดีสำคัญที่ศาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใน จ.ขอนแก่น ซึ่งเคยมีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นคนในเครื่องแบบ ได้โทรศัพท์มาถึงทนายคนดังกล่าวในลักษณะเป็นการบอกให้ระวังตัว

จึงถือได้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการข่มขู่ทนายความในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งไม่สมควรเกิดขึ้นกับวิชาชีพของทนายความในการที่เข้าไปอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน

นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ได้กล่าวประณามการข่มขู่ คุกคาม ผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดจนเจ้าหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องเร่งรัดในการสืบสวนสอบสวนเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

อดีต สว.วันชัย ยกอุทธาหรณ์!! ข่าวฉาวเจ้าคุณแย้ม ‘สตรีกับสตังค์’ ทำเจ้าคณะพระผู้ใหญ่ พังพินาศ

(18 พ.ค. 68) อดีต สว.วันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความเรื่อง “สตรีกับสตังค์” ในเพจเฟซบุ๊ก "ทนายวันชัย สอนศิริ" แสดงความเห็นกรณีข่าวฉาวโฉ่อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐมถูกจับสึก โดยระบุว่า...

สตรีกับสตังค์

ในวงการพระสงฆ์เขารู้กันว่าพระผู้หลักผู้ใหญ่ พระที่มีชื่อเสียงมียศมีตตำแหน่งที่พังๆนั้นมาจากสตรีกับสตังค์ แต่ส่วนใหญ่มันจะเริ่มจากสตรีก่อนแล้วสตรีก็เรียกสตังค์ หรือไม่ก็หาสตังค์ไปให้สตรี ต้องยอมรับว่าสตรีนั้นเป็นอันตรายต่อพรหมจรรย์ พระวินัยสงฆ์จึงบัญญัติข้อห้ามระหว่างสตรีกับพระภิกษุไว้มากมายเพราะมันเป็นอันตรายต่อความเป็นพระและความวินาศต่อความเป็นพรหมจรรย์ของพระอย่างยิ่ง 

สตรีมี ”อวัยวะเพศ” และมีสิ่งกำเนิดแห่งกามราคะให้บุรุษเพศลุกโชนได้ตลอดเวลา พระสงฆ์องค์เณรผู้ยังไม่บรรลุก็จะติดกับดักแห่งอวัยวะกามราคะ ยากที่จะหลุดพ้น ขนาดเจ้าโลกก็ถูกอวัยวะเพศแห่งสตรีกลืนกินไปจนหมดสิ้น ยศฐาบรรดาศักดิ์ตำแหน่งแห่งหนเงินทองทรัพย์สินชื่อเสียงเกียรติยศ อวัยวะเพศแห่งสตรีก็ทำให้กระเด็นมาแล้วหลายต่อหลายคนไม่ว่าพระสงฆ์องค์เจ้าก็อยู่ในวังวนนี้

ต้องยอมรับว่าอวัยวะเพศแห่งสตรีมีอิทธิพลสูง จึงไม่แปลกเลยที่เจ้าคณะใหญ่ๆดังๆหลายต่อหลายองค์ ต้องยอมสยบอย่างราบคาบ จะร้อยล้านพันล้านเธอก็กลืนกินได้ เรื่องวัดไร่ขิงจึงไม่ใช่เรื่องใหม่เรื่องแรก และก็ไม่ใช่เรื่องสุดท้าย ยังจะมีเรื่องในทำนองนี้อยู่อีกต่อไป ตราบใดที่ยังมีสตรีและยังมีโมฆะบุรุษอาศัยอยู่ในวัดวาอารามต่างๆ สตรีและสตังค์ก็ยังจะพังพระสงฆ์องค์เจ้าได้อีกหลายต่อหลายองค์.... 

อวัยวะเพศหญิง มันยิ่งใหญ่ เหนือโลกเหนือมนุษย์ 

‘ทนายเชาว์’ แฉ!! ‘แม่ สส.เมืองคอน’ วิ่งบิ๊ก ตร.ช่วยเคลียร์ คดีรุมกระทืบนักธุรกิจ ลั่น!! ยอมไม่ได้ จี้!! โอนไปกองปราบ

(1 มิ.ย. 68) นายเชาว์ มีขวด ทนายความชื่อดัง อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Chao Meekhuad” เรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้ามาดูแลกรณีเหตุทำร้ายร่างกายกลางงานบวชที่ จ.นครศรีธรรมราช โดยระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง และผู้ที่ตกเป็นข่าวว่าเป็นผู้ก่อเหตุ คือ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมระบุว่ามีการยกพวกเข้ารุมทำร้ายนักธุรกิจท้องถิ่นกลางงานบวชลูกชายนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน

“ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นคดีอุกฉกรรจ์กลางงานบุญที่เกิดขึ้นต่อหน้าสาธารณชน มีพยานเห็นเหตุการณ์ชัดเจน มีใบรับรองแพทย์ และมีคำให้การจากผู้เสียหายว่า ถูกนายชัยชนะเข้ามาพูดจากดดันไม่ให้ลงสมัครนายก อบต. และเมื่อการพูดคุยไม่เป็นผล จึงถูกตบหน้า ก่อนจะถูกน้องชายและพวกพ้องของ ส.ส.รายนี้รุมทำร้ายจนหัวแตก และยังมีการชักปืนขู่ด้วย” นายเชาว์ ระบุ

นายเชาว์ยังเปิดเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ไปแจ้งความแล้ว แต่ภายหลังกลับถูกกดดันให้ถอนคำร้อง โดยมี “แม่ของ ส.ส.” เข้ามาเจรจาและมี “นายตำรวจใหญ่ในจังหวัด” คอยประสานเพื่อให้ยุติคดี

“นี่คือคดีอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ และไม่ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำคดีต่อไป เพราะไม่มีใครกล้าขยับท่ามกลางอิทธิพลของผู้ต้องหา ซึ่งมีตำแหน่งสูงเป็นถึงประธานกรรมาธิการตำรวจ”

นายเชาว์จึงเรียกร้องให้ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงมาดูเรื่องนี้ด้วยตนเอง และสั่งโอนคดีไปยังกองปราบทันที เพื่อคุ้มครองพยาน–ผู้เสียหาย และให้กระบวนการสอบสวนเป็นธรรม

“คดีนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวระหว่างคนสองฝ่าย แต่เป็นบททดสอบว่า กระบวนการยุติธรรมไทย จะยอมจำนนต่ออิทธิพลทางการเมืองหรือไม่” นายเชาว์ระบุทิ้งท้าย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top