Tuesday, 22 April 2025
การเงิน

เก็บทรงไม่อยู่!! ชาวอเมริกัน 39% กังวลไม่มีเงินพอจ่ายค่าบิลต่างๆ ชี้!! แย่กว่าตอนวิกฤตการเงินโลก 'ต้องเริ่มทำงานเสริม-เลิกขับรถ'

เมื่อวานนี้ (24 ก.ค. 67) จากช่องยูทูบ ‘TNN’ ได้เผยผลสำรวจของผู้บริโภคชาวอเมริกัน ที่ตอนนี้แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขทางเศรษฐกิจต่าง ๆ จะดูดีขึ้น จนนําไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่หลายฝ่ายคาดว่าจะเห็นในเดือนกันยายนนี้ แต่ผู้บริโภคชาวอเมริกันยังคงกังวลกับการใช้จ่าย รวมถึงเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับที่เกินกว่าที่คาด ทําให้ 39% ไม่มั่นใจกับเศรษฐกิจในวันข้างหน้า

สำหรับเรื่องนี้ทางสํานักข่าวต่างประเทศได้ออกรายงานผลสํารวจระบุว่า ชาวอเมริกัน 4 ใน 10 คน หรือประมาณ 39% กังวลเกือบตลอดเวลา เกี่ยวกับรายได้ของครอบครัวที่อาจจะไม่พอกับรายจ่าย ซึ่งตอนนี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เป็น 28% กระโดดมาเป็น 39% ที่เคยกังวลในระดับเดียวกันนี้ในปี 2564 ซึ่งใกล้เคียงกับตอนเกิด ‘วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์’ ในปี 2551 และดูเหมือนว่าคนอเมริกันค่อนข้างกังวลหากเทียบเคียงกันแล้ว สําหรับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจจะมี…

อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันตอนนี้ ทั้งทํางานเสริม ลดการขับลดลง เพื่อที่จะประหยัดค่าน้ำมัน และยังใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตแทนการซื้อด้วยเงินสด นอกจากนี้ มากกว่าครึ่งหนึ่ง 55% ของผู้ที่มีรายได้ น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ก็เกิดความกังวลว่าเงินจะไม่พอใช้

ทั้งนี้ ผลสํารวจนี้สะท้อนว่า แม้สถิติระดับชาติ ทั้งเรื่องตัวเลขการว่างงานต่ำ เงินเฟ้อชะลอตัวลง แต่หลายล้านคนในอเมริกาก็ยังคงได้รับผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาหลายปี

นอกจากนี้ Moody’s Analytics ระบุว่า ครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาใช้จ่ายเพิ่มขึ้นก็มาจากตัวราคาสินค้าที่เพิ่ม โดยเดือนนึงมากกว่า 920 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน สําหรับการซื้อสินค้าและบริการแบบเดียวกันกับ 3 ปีก่อนเลย แต่ต้นทุนเพิ่มขึ้นจะเป็นหมื่น และแม้อัตราเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลง โดยเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคมอยู่แถว 3% เมื่อเทียบปลายปี จากระดับสูงสุดที่เคยไปถึง 9% ในเดือนมิถุนายนปี 2565 ตอนนั้นราคาน้ำมันก็พุ่ง แต่คนอเมริกันตอนนี้ก็ไม่ได้มองว่าสถานการณ์ดีขึ้นสักเท่าไหร่ เพราะราคาสินค้าไม่ได้ลงไปด้วย เพียงแต่ว่าเพิ่มในอัตราที่ช้าลงเท่านั้น และผู้บริโภคก็ยังคงได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากราคาสินค้าที่เพิ่มในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

🔍ส่อง 15 เมืองศูนย์กลางทางการเงินของโลก

เมื่อไม่นานมานี้ ‘Global Financial Centres Index’ รายงานการจัดลำดับ 15 เมืองศูนย์กลางทางการเงินของโลก โดยใช้เกณฑ์การจัดลำดับที่ประกอบไปด้วย 5 เกณฑ์ ได้แก่ เกณฑ์สิ่งแวดล้อมในการประกอบธุรกิจ, เกณฑ์ทุนมนุษย์, เกณฑ์โครงสร้างพื้นฐานของเมือง, เกณฑ์การพัฒนาของภาคการเงินในเมือง และ เกณฑ์ชื่อเสียงและการตัดสินใจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

สำหรับเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกลำดับ 1 ได้แก่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ลำดับ 2 ลอนดอน อังกฤษ ลำดับ 3 สิงคโปร์ ส่วน กรุงเทพฯ ประเทศไทย ติดลำดับที่ 83 ของโลก

'เผ่าภูมิ' นำ EXIM บุกแดนจิงโจ้ ถก CEO Standard Chartered และ EFA เชื่อมกลไกการเงินผลักลงทุน 2 ประเทศ หนุนกระบะไทยในออสฯ

(20 ธ.ค.67)ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังจากที่ได้นำคณะธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) หารือกับนาย John Hopkins กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์กรการส่งออกแห่งประเทศออสเตรเลีย (Export Finance Australia (EFA)) และนาย Jacob Berman ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคาร Standard Chartered Australia ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ว่า

การหารือกับทั้งสององค์กรได้เน้นถึงการเสริมสร้างความร่วมมือกับ EXIM BANK ในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมมือในรูปแบบ Co-financing และ Blended finance เชื่อมกลไกทางการเงินเพื่อเพิ่มช่องทางการค้าระหว่างประเทศซึ่งกันและกัน โดยการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจหรือโครงการต่างๆ การแสวงหาโอกาสการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะการลงทุนในภาคธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) และโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน (Sustainable Infrastructure)  ธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเฉพาะตลาดรถกระบะซึ่งออสเตรเลียเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย ธุรกิจด้านการศึกษาซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวสูงในรูปแบบ Joint Program นอกจากนั้นยังหารือแนวทางในการให้ไทยเป็นช่องทางเปิดรับการลงทุนของกองทุนบำนาญของออสเตรเลียในอนาคต

นอกจากนั้นยังได้หารือถึงการใช้กลไกทางการเงินของทั้งสองฝ่ายสนับสนุน Digital Asset ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวสูงภายใต้การนำของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ และยังหารือถึงช่องทางการนำผู้ประกอบการไทยเข้าลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในออสเตรเลียซึ่งกำลังประสบปัญหาการขาดอุปทานของที่อยู่อาศัย

พร้อมนี้ยังได้เชิญชวนสถาบันการเงินออสเตรเลียเข้ามาลงทุนใน Financial Hub ของไทยซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการร่าง พ.ร.บ. ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน พ.ศ. .... ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในต้นปีหน้า


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top