‘เนทันยาฮู’ โผล่จากบังเกอร์ เยือนจุดโดนถล่ม ลั่นพร้อมโค่นระบอบอิหร่าน เตรียมเอาคืนหนักกว่าเดิม

(16 มิ.ย. 68) นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า “จะทำในสิ่งที่จำเป็น” ต่อผู้นำอิหร่าน พร้อมเปรยว่าการเปลี่ยนแปลงระบอบในกรุงเตหะราน อาจเป็นผลลัพธ์จากปฏิบัติการของอิสราเอล โดยกล่าวหาว่าผู้นำอิหร่านอ่อนแอ และประชาชนส่วนใหญ่ต้องการปลดอำนาจ

เนทันยาฮูได้ออกจากบังเกอร์ใต้ดินเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เปิดฉากโจมตีอิหร่านเมื่อ 13 มิ.ย. เพื่อไปตรวจสอบความเสียหายที่เมืองบัต ยัม ชายฝั่งใกล้กรุงเทลอาวีฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกขีปนาวุธของอิหร่านถล่มคืนก่อน ผู้นำอิสราเอลมีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมประกาศว่า “อิหร่านจะต้องจ่ายราคาที่แพงมาก สำหรับการสังหารพลเรือน ผู้หญิง และเด็กโดยเจตนา”

สงครามระหว่างสองประเทศยังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศกว่า 80 จุดทั่วอิหร่าน ครอบคลุมกระทรวงกลาโหม โรงไฟฟ้า โครงการนิวเคลียร์ และย่านชุมชนในกรุงเตหะราน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 224 ราย ขณะเดียวกัน อิหร่านยิงตอบโต้ด้วยขีปนาวุธหลายระลอก ทำให้อิสราเอลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และบาดเจ็บอีกนับร้อย

แม้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เรียกร้องให้เกิดการเจรจา แต่สถานการณ์ยังไร้แนวโน้มยุติลง รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลขู่จะทำลายกรุงเตหะรานเหมือนที่เคยถล่มเบรุต ส่วนผู้นำอิหร่านตอบโต้ด้วยคำขู่ว่า หากอิสราเอลยังเดินหน้าบุก จะได้รับ “การตอบแทนที่เจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม”