ชุดปฏิบัติการสุดซอยลุยตรวจโรงงานผลิตเหล็ก ‘ซิน เคอ หยวน’ หวังไขปมเหล็กล็อตไหนถูกใช้สร้างอาคาร สตง. รอเฉลยภายใน 7 วัน

(2 เม.ย. 68) นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยนายนนทิชัย ลิขิตาภรณ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการมาตรฐาน 1 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตเหล็ก บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง

โดยโรงงานผลิตเหล็ก บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ถูกสั่งให้ ปิดกิจการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2567 แต่ก็มีชาวบ้านในพื้นที่แจ้งว่า “ที่โรงงานยังมีคนเข้าออกอยู่เลย” ส่งผลให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ต้องบุกไปดูโรงงานซินเคอหยวน ให้เห็นกับตา 

การตรวจสอบดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้นำตัวอย่างเหล็กจากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาตรวจสอบคุณภาพ และพบว่าเหล็กข้ออ้อยขนาด 20 มิลลิเมตร และ 32 มิลลิเมตร ไม่ได้มาตรฐาน จึงต้องเข้าตรวจสอบของกลางที่ถูกยึดอายัดไว้ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม จำนวน 2,441 ตัน มูลค่าราว 50.1 ล้านบาท

จุดแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ คือ บริเวณโกดังเก็บเหล็กเส้นของกลางที่ถูกอายัด เพื่อตรวจสอบว่ามีการนำเหล็กออกไปจากที่เก็บหรือไม่ จากนั้นจุดที่สองคือโรงงานผลิตเหล็ก เพื่อดูว่ามีการเปิดเตาหลอมเหล็กดำเนินกิจการต่อหรือไม่

ก่อนเข้าตรวจสอบภายในโรงงาน หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้พูดคุยกับตัวแทนบริษัท พร้อมทั้งตรวจสอบบิลค่าไฟของโรงงานในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยพบว่าก่อนถูกอายัด โรงงานแห่งนี้มีค่าไฟสูงถึง 130 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ในเดือนมกราคม ค่าไฟลดลงเหลือ 1.2 ล้านบาท และในเดือนกุมภาพันธ์ ค่าไฟลดลงเหลือ 6.4 แสนบาท

นอกจากนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ขอเอกสารบันทึกการขายเหล็ก เพื่อตรวจสอบว่าเหล็กล็อตใดถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างอาคาร สตง. ซึ่งตัวแทนบริษัทเปิดเผยว่า บริษัทไม่ได้ขายเหล็กให้กับ สตง. โดยตรง แต่ขายผ่านบริษัทตัวกลางก่อนส่งต่อให้กับผู้รับเหมาที่ก่อสร้างอาคารดังกล่าวอีกทอดหนึ่ง

เบื้องต้น ตัวแทนบริษัทรับปากว่าจะจัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้กับกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อตรวจสอบภายใน 7 วัน นับจากวันที่ 2 เมษายน 2568

สำหรับการเข้าตรวจสอบครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมมาตรฐานอุตสาหกรรมของภาครัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เหล็กไม่ได้มาตรฐานถูกนำไปใช้ในงานก่อสร้างที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในอนาคต