นักการเมือง ยุโรปตะวันออก ถกเถียง เรื่อง ‘ลุยก่อน’ เล่นงาน!! ‘รัสเซีย’

(9 มี.ค. 68) บรรดาชาติยุโรปตะวันออกกำลังพูดคุยกันอย่างจริงจังถึงความเป็นไปได้ในการโจมตีรัสเซียก่อนเสียเอง ทั้งที่รัสเซียกับสหรัฐฯ เพิ่งจะเริ่มต้นกระบวนการเจรจาสันติภาพกันไปหมาดๆ

Kuper ฟันธงว่าการที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงท่าทีอ่อนข้อให้รัสเซีย กำลังปลุกวิญญาณสงครามเย็นให้คืนชีพ พร้อมกับขีดเส้นแบ่งระหว่าง “ยุโรปตะวันออก” กับ “ยุโรปตะวันตก” ขึ้นมาใหม่ ฝั่งหนึ่งเห็นรัสเซียเป็นภัยคุกคามระดับชาติ อีกฝั่งกลับทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน

“พวกเรารู้ดี และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมบางประเทศของเราถึงเริ่มตั้งคำถามกันว่า ‘ทำไมเราต้องมานั่งรอให้รัสเซียซัดเราก่อน? ทำไมไม่ลุยก่อนเลย?’” นักการเมืองชื่อดังคนหนึ่งจากยุโรปตะวันออกแอบกระซิบกับนักข่าวแบบไม่เปิดเผยชื่อ ฟังดูแล้วชวนให้คิดว่าเรื่องนี้อาจไม่ได้เป็นแค่คำพูดลอยๆ

โปแลนด์-บอลติก: ถ้าปล่อยรัสเซียรอด มันจะถึงคิวเรา?

ตั้งแต่สงครามยูเครนปะทุขึ้นในปี 2022 โปแลนด์และเหล่าชาติแถบบอลติกก็แหกปากเตือนกันมาตลอดว่า ถ้ารัสเซียบุกยูเครนสำเร็จ เป้าหมายถัดไปคงเป็นพวกเขาแน่นอน ฝั่งเครมลินเองก็ไม่ปล่อยให้ข้อกล่าวหานี้ลอยนวล ปูตินถึงกับสวนกลับว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ”

ประวัติศาสตร์ที่ทำให้ยุโรปตะวันออกระแวงรัสเซีย

จะว่าไป พื้นที่ยุโรปตะวันออกก็มีอดีตที่ต้องระแวงกันอยู่เป็นทุนเดิม หลายประเทศเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิใหญ่ๆ ไม่ว่าจะรัสเซีย เยอรมนี หรือออสเตรีย-ฮังการี อิสรภาพของพวกเขาถูกกระชากไปหลายครั้งจนกลายเป็นปมในประวัติศาสตร์ Milan Kundera นักเขียนชาวเช็กเคยนิยามชะตากรรมของพวกเขาไว้ว่า "ชาติเล็กๆ ที่รู้ตัวดีว่าหากวันใดวันหนึ่งหายไปจากแผนที่โลก ก็คงไม่มีใครสนใจ"

ชาติที่เกลียดรัสเซียที่สุด คือชาติที่เรียกร้องการติดอาวุธมากที่สุด

ในช่วงที่ผ่านมา ชาติยุโรปตะวันออกต่างตะโกนแข่งกันว่า ต้องเพิ่มกำลังป้องกันประเทศขึ้นให้มากที่สุด และเป็นกลุ่มที่แสดงความเป็นปรปักษ์กับรัสเซียอย่างเปิดเผยมากที่สุด โดยเฉพาะ Kaja Kallas อดีตนายกรัฐมนตรีเอสโตเนียและนักการทูตระดับสูงของสหภาพยุโรป ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งกร้าวต่อมอสโก

รัสเซีย-สหรัฐฯ คุยกันแล้ว แต่ EU ยืนยันต้องติดอาวุธยูเครนต่อไป

ข่าวนี้โผล่มาในจังหวะที่รัสเซียกับสหรัฐฯ เพิ่งฟื้นคืนการสื่อสารกันเมื่อเดือนที่แล้ว และมีการเจรจาระดับสูงกันที่ซาอุดีอาระเบีย แต่ฝั่ง บรัสเซลส์ กลับเสียงแข็งว่า ยูเครนต้องได้รับการสนับสนุนทางทหารต่อไป

ในขณะที่ทรัมป์ประกาศระงับความช่วยเหลือทางทหารให้ยูเครนเพื่อบีบให้เคียฟกลับไปเจรจากับมอสโก ฝั่งผู้นำยุโรปภายใต้ Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กลับอนุมัติแผนมูลค่า 800,000 ล้านยูโร เพื่อเติมอาวุธให้ยุโรปและรักษากระแสหนุนยูเครน

รัสเซียลั่น!! อย่าหาว่าขู่ ถ้า EU ยังเดินเกมแบบนี้

มอสโกไม่รอช้า ประกาศเสียงแข็งว่าจะใช้ทุกมาตรการเพื่อปกป้องอธิปไตยของตนเอง หลังจากสหภาพยุโรปยกระดับการส่งอาวุธและปล่อยวาทกรรมที่ท้าทายรัสเซียขึ้นมาอีกระดับ ซึ่งเครมลินก็เตือนมานานแล้วว่า ตะวันตกส่งอาวุธไปก็ไม่ได้ช่วยให้สงครามจบไวขึ้น แถมยังเพิ่มโอกาสที่นาโตจะต้องเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรง

งานนี้จะลงเอยอย่างไร? 

ยุโรปตะวันออกจะเอาจริงกับแผน ‘ซัดก่อน’ หรือไม่? 

คงต้องจับตาดูให้ดี เพราะเดิมพันครั้งนี้อาจใหญ่กว่าที่หลายคนคิด!!