สหรัฐร่อนจดหมายถอนตัว WHO เป็นทางการ จับตา 'จีน' ผงาดชาติผู้สนับสนุนรายใหญ่แทน
(24 ม.ค.68) องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ระบุว่าได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันพุธ เกี่ยวกับการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของ WHO โดยการถอนตัวนี้จะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 มกราคม 2569
ทั้งนี้ กระบวนการถอนตัวจะใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ปี หลังจากประเทศที่ต้องการลาออกแจ้งเรื่องอย่างเป็นทางการต่อ WHO โดยรัฐบาลสหรัฐฯ จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายค้างชำระทั้งหมด ตามมติของสภาคองเกรสซึ่งกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2491
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของ WHO ด้วยสัดส่วนประมาณ 18% ของงบประมาณทั้งหมด สำหรับปี 2567-2568 งบประมาณของ WHO อยู่ที่ประมาณ 6,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 230,894 ล้านบาท) ตามด้วยประเทศจีนมาเป็นอันดับ 2 ซึ่งการออกของสหรัฐกำลังจะเปิดทางให้จีนกลายเป็นชาติผู้สนับสนุน WHO เป็นอันดับหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า หน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ เช่น ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้ยกเลิกการประชุมกับหน่วยงานภายนอก ระงับการเผยแพร่สิ่งพิมพ์บางฉบับ และสั่งให้พนักงานหยุดการเดินทาง หลังได้รับคำสั่งจากกระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์
แหล่งข่าวเผยว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา การประชุมระดับรัฐและรัฐบาลกลางเกี่ยวกับไข้หวัดนก H5N1 ซึ่งส่งผลกระทบต่อโคนมและปศุสัตว์ในหลายรัฐ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันพฤหัสบดี (23 ม.ค.) ได้ถูกยกเลิก นอกจากนี้ การฝึกอบรมผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขก็ถูกเลื่อนออกไป
ปกติแล้ว การประชุมเกี่ยวกับไข้หวัดนก H5N1 จะจัดเป็นประจำ แต่แหล่งข่าวระบุว่าการประชุม 'One Health' ซึ่งมุ่งเน้นผลกระทบต่อสุขภาพของคนและสัตว์ ที่กำหนดจัดในวันพฤหัสบดีนี้ ถูกยกเลิกอย่างไม่คาดคิด
แม้ว่าการเปลี่ยนผ่านระหว่างประธานาธิบดีมักส่งผลให้เกิดการชะลอการสื่อสารอยู่บ้าง แต่แหล่งข่าวกล่าวว่าการระงับกิจกรรมครั้งนี้มีขอบเขตที่กว้างขวางผิดปกติ
การยกเลิกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่โดโรธี ฟิงค์ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกคำสั่งให้หยุดการเผยแพร่เอกสารและการสื่อสารต่อสาธารณะทั้งหมดทันที รวมถึงห้ามเจ้าหน้าที่ปรากฏตัวต่อสาธารณะ โดยคำสั่งนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ในขณะเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเริ่มแสดงความกังวลต่อการระบาดของไข้หวัดนก H5N1 ซึ่งพบว่ามีผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ แล้วเกือบ 70 ราย ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดย CDC รายงานว่าส่วนใหญ่เป็นคนงานฟาร์มและมีอาการเพียงเล็กน้อย