ส.อ.ท. หั่นเป้าผลิตรถยนต์ปี 67 เหลือ 1.5 ล้านคัน ยอดขายในประเทศ-ส่งออกทรุด หวังมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปีดันยอด

(25 พ.ย.67) นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงถึงการปรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ประจำปี 2567 จากเดิม 1,700,000 คัน เป็น 1,500,000 คัน ลดลง 200,000 คัน หลังตลาดทั้งในและต่างประเทศได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โดยเป้าหมายการผลิตใหม่แบ่งเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศ 450,000 คัน ลดลงจากเดิม 550,000 คัน และการผลิตเพื่อส่งออก 1,050,000 คัน ลดลงจากเดิม 1,150,000 คัน

ข้อมูลการผลิตรถยนต์ในเดือนตุลาคม 2567 พบว่า ผลิตได้ 118,842 คัน ลดลง 25.13% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมปี 2566 และลดลง 2.81% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนปี 2567 เนื่องจากการผลิตเพื่อส่งออกลดลง 7.00% และการผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงถึง 51.70% ขณะที่ยอดรวมการผลิตระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2567 มีทั้งหมด 1,246,868 คัน ลดลง 19.28%

ปัจจัยที่มีผลต่อการลดลงของยอดขายรถยนต์ในประเทศมาจากการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ โดยจำนวนบัญชีผู้กู้ซื้อรถยนต์ในไตรมาสสามลดลงเหลือ 6,365,571 บัญชี ลดลงจากไตรมาสสอง 75,377 บัญชี และลดลงจากไตรมาสสามปี 2566 จำนวน 199,655 บัญชี ขณะที่ยอดหนี้รวมของผู้กู้ซื้อรถยนต์อยู่ที่ 2,465,204 ล้านบาท ลดลง 2.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสสอง และลดลง 5.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสสามปี 2566

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้จะมีงานมอเตอร์เอ็กซ์โปในปลายเดือนนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดได้ แต่สถาบันการเงินยังคงมีมาตรการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ เนื่องจากอัตราส่วนของหนี้เสียยังสูง ดังนั้นคาดว่าเป้าหมายยอดขายในประเทศปีนี้ที่เคยตั้งไว้ที่ 550,000 คัน จะปรับลงเป็น 450,000 คัน

ในส่วนของตลาดส่งออก ปัจจัยสำคัญคือสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสที่อาจกระทบตลาดในตะวันออกกลางและยุโรป รวมถึงสงครามยูเครนกับรัสเซียที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์และสินค้าอื่น ๆ หากสถานการณ์ยังคงตึงเครียด


ขอบคุณข้อมูล ฐานเศรษฐกิจ