ทับทิม-ไพลิน เฉิดฉายกลางเซี่ยงไฮ้ คนจีนเเห่ชมสินค้าไทยงานโชว์นานาชาติ (CIIE)
(4 พ.ย. 67) (ซินหัว) ชุน ไพลินดีเลิศ วัย 49 ปี ผู้ค้าอัญมณี และประธานสมาคมนักธุรกิจยุคใหม่ไทย-จีน ย้ายมาไทยตั้งแต่ยังเด็กและก่อตั้งบริษัท ไทยแลนด์ หย่งไท่ จิวเวลรี จำกัด (Thailand Yongtai Jewelry) ตอนอายุ 18 ปี ซึ่งนำสู่การมีส่วนร่วมในแวดวงธุรกิจการค้าอัญมณี โดยหนึ่งในภาพคุ้นตาสำหรับชุนคือการได้เห็นเหล่าผู้ชื่นชอบอัญมณีจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมชมศูนย์การค้าอัญมณีในกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทยที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางการแปรรูปทับทิมและไพลินระดับโลก
ชุนกำลังจะนำสินค้าร่วมจัดแสดงที่งานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) ครั้งที่ 7 ที่เตรียมจัดในนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน เขาเข้าร่วมงานทุกครั้งมาตั้งแต่ปี 2018 โดยปีนี้นับเป็นการเข้าร่วมงานครั้งที่ 7 แล้ว โดยชุนให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่าครั้งนี้ตนจะนำเครื่องประดับเกือบ 1,000 ชิ้น รวมทั้งทับทิมและไพลินมากกว่า 100 ชิ้นมาจัดแสดง
ชุนเคยคว้ารางวัลหลายรายการจากงานมหกรรมฯ ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนผ่านจากฐานะผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่เข้าร่วมสู่ผู้ประกอบการที่ร่วมจัดแสดงอย่างเป็นประจำ ชุนเชื่อว่าเสน่ห์ของงานมหกรรมนี้อยู่ที่ความอัศจรรย์ใจในทุกๆ ปี และผลประโยชน์ที่ได้รับในแต่ละครั้ง พร้อมเล่าย้อนถึงประสบการณ์การเข้าร่วมครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งเขาได้รับคำสั่งซื้อตามที่ตั้งเป้าไว้และสร้างสายสัมพันธ์อันดีที่มีค่า
ชุนเผยว่างานมหกรรมฯ เอื้อประโยชน์มากมาย ทั้งการได้เรียนรู้สิ่งใหม่และได้ขยับขยาย "กลุ่มมิตรสหาย" ผ่านแพลตฟอร์มนี้ การเข้าร่วมตลอดหลายปีทำให้ชุนเข้าใจความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปและแนวโน้มล่าสุดของผู้บริโภคชาวจีนดียิ่งขึ้น ซึ่งลูกค้าและพันธมิตรที่ได้จากงานมหกรรมฯ มีส่วนสนับสนุนการขยายธุรกิจของเขา
ขณะเดียวกัน ชุนบอกเล่าถึงประสบการณ์น่าจดจำจากงานมหกรรมฯ ปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยแม้ต้องเผชิญหน้ากับสารพัดความท้าทาย ทว่าชุนสามารถเข้าร่วมในฐานะผู้จัดแสดงอัญมณีจากต่างประเทศเพียงรายเดียวในงานมหกรรมปีนั้น
งานมหกรรมฯ ถือเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่สำหรับการเชื่อมต่อระดับโลก และชุนเชื่อว่าการที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดงานนี้อย่างต่อเนื่องนั้นถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญท่ามกลางการค้าระหว่างประเทศที่ตึงตัวขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากงานมหกรรมฯ ได้สร้างโอกาสใหม่ให้กับนานาประเทศ อาทิ ไทย ในการเข้าสู่ตลาดจีน ส่งผลให้ตลาดจีนอันกว้างขวางเป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับโลก
ตั้งแต่เข้าร่วมงานมหกรรมฯ ครั้งแรกจนถึงครั้งที่เจ็ด บูธของชุนขยายพื้นที่จากเดิม 36 เป็น 72 ตารางเมตร ขนาดบูธที่เพิ่มขึ้นสองเท่าสะท้อนถึงธุรกิจของชุนที่เติบโต รวมทั้งมนต์เสน่ห์และอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของงานมหกรรมฯ โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมาชุนได้เห็นถึงพัฒนาการของงานมหกรรมฯ พร้อมทั้งสนับสนุนให้บริษัทอื่นๆ ของไทยเข้าร่วมงานนี้ด้วย
นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 ชุนดำรงตำแหน่งประธานสมาคมฯ และยังเป็นรองเลขาธิการหอการค้าไทย-จีน โดยเขาทุ่มเททำงานเพื่อส่งเสริมการเชื่อมโยงและความร่วมมือระหว่างบริษัทไทยและจีน
ชุนระบุว่างานมหกรรมฯ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ประกอบการเหล่านี้อาจพบเจอความท้าทายในการเข้าร่วมงานมหกรรมการค้าขนาดใหญ่รูปแบบนี้ เพราะหลายรายไม่คุ้นเคยกับงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ ดังนั้นนอกเหนือจากนโยบายพิเศษที่ผู้จัดงานจัดให้แล้ว หอการค้าฯ ยังเสนอบริการต่างๆ อาทิ บริการแปลภาษา เพื่อช่วยให้ผู้จัดแสดงสินค้าใช้ประโยชน์จากโอกาสอย่างเต็มที่
ชุนเสริมว่าหอการค้าฯ ได้จัดการให้บริษัทไทยนับสิบแห่งเข้าร่วมงานมหกรรมในครั้งนี้ โดยเน้นที่กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคอาหารและการแพทย์เป็นหลัก พร้อมให้คำมั่นว่าจะให้บริการที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้เข้าร่วมทุกคน และหวังว่าผู้เข้าร่วมงานจะประสบความสำเร็จมากขึ้นผ่านงานมหกรรมนี
แฟ้มภาพซินหัว : ทับทิมที่สำนักงานของชุน ไพลินดีเลิศ ผู้ค้าอัญมณีและผู้จัดแสดงในงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน ที่กรุงเทพฯ วันที่ 23 ต.ค. 2024