'บัสบาส' ผู้ต้องขังคดี ม.112 เรือนจำเชียงราย เลิกอดอาหารแล้ว นิ่งหลังรู้ 'บุ้ง' เสียชีวิต คาดยังชั่งน้ำหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไป

(16 พ.ค.67) นายพัศพงศ์ ใจคล่องแคล่ว ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงราย ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย เปิดเผยว่า นายมงคล ถิระโคตร หรือ ‘บัสบาส’ อายุ 30 ปี ชาว อ.พาน จ.เชียงราย ต้องคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคดีเกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ต่างกรรมต่างวาระ มีโทษจำคุกรวมกันเป็นเวลา 55 ปี ซึ่งถือเป็นอัตราโทษที่สูง ถูกส่งตัวเข้าสู่เรือนจำกลางเชียงรายเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 หรือเป็นเวลา 4 เดือนกว่า

ขณะนี้เป็นผู้ต้องขังอยู่ในแดน 1 หรือแดนควบคุมพิเศษ เรือนจำกลางเชียงราย ซึ่งจะคุมขังรวมกับนักโทษคนอื่น ๆ รวมกันประมาณ 200 คน โดยใช้ชีวิตตามปกติ โดยยังอยู่ในระหว่างอุทธรณ์และฎีกาซึ่งถือว่ายังไม่ใช่นักโทษเด็ดขาด และทราบมาว่าทนายความของนายมงคลได้ยื่นประกันตัวเพื่อให้ออกไปสู้คดีอยู่

นายพัศพงศ์กล่าวว่า ระหว่างถูกคุมขังพบว่านายมงคลได้มีการอดอาหารเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ก่อนจะยกเลิกไปเมื่อวันที่ 24 เม.ย. จากนั้นก็ใช้ชีวิตในแดน 1 ตามปกติ รับประทานอาหาร และปฏิบัติตามกฎระเบียบของเรือนจำ โดยระหว่างอดอาหารเป็นเวลา 1 เดือนกว่าก็ยังดื่มน้ำและเครื่องดื่มตามปกติ ซึ่งตนได้ให้เจ้าหน้าที่เรือนจำเฝ้าระวังเรื่องสุขภาพและให้นักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยดูแลสภาพจิตใจรวมทั้งให้พยาบาลเข้าไปตรวจร่างกายทุกอาทิตย์ ยกเว้นมีอาการอ่อนแรงหรือใจสั่นก็จะให้พยาบาลเข้าไปตรวจเป็นกรณีพิเศษ

ทั้งนี้ เราได้บอกกับเขาว่าการอดอาหารจะทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารและได้รับผลกระทบแต่นายมงคลก็ยืนยันจะอดอาหารอยู่ เจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลก็ไม่สามารถบังคับได้ ก็หันมาดูแลเรื่องสุขภาพทำให้ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาใด ๆ โดยนายมงคลยังมีร่างกายที่แข็งแรงดีอยู่

สำหรับกรณี น.ส.บุ้ง ที่เสียชีวิตนั้น นายพัศพงศ์กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่านายมงคลยังคงนิ่งเฉยและไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ รวมทั้งไม่ได้อดอาหาร คาดว่าอาจจะยังคงชั่งน้ำหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพราะเขาเคลื่อนไหวในลักษณะเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 112 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด ซึ่งนายมงคลได้คุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำว่าจะปฏิบัติตามกฎระเบียบของเรือนจำตามปกติ ในส่วนของการต่อสู้ก็ยังจะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หลังจากยกเลิกการอดอาหารครั้งดังกล่าวแล้ว

"ฝากประชาสัมพันธ์เรื่องผู้ต้องขังกรณีเจ็บไข้ เจ้าหน้าที่เรือนจำจะดูแลเรื่องสุขภาพ ความเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง ฝากพี่น้องประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนโทษคดีที่สูง ๆ เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว กรมราชทัณฑ์เรามีหน้าที่ควบคุม แก้ไข ฟื้นฟู ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ สุขภาพ ตามหลักสิทธิมนุษยชนและระเบียบของทางราชการโดยเคร่งครัด จะเห็นได้ว่าแม้ป่วยตอนตี 1 ตี 2 ถ้าพยาบาลในเรือนจำดูแล้วไม่สามารถรักษาได้ก็จะเรียกรถ 1669 ให้ไปรับผู้ต้องขังเพื่อนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด ซึ่งทางผู้บริหารระดับสูงได้เน้นยำให้ปฏิบัติต่อผู้ต้องขังตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเครงครัด" นายพัศพงศ์กล่าว