ปรากฏการณ์สลายขั้ว ‘เหลือง-แดง’ ไม่ว่าจะมองจากแง่มุมใด ก็น่าชื่นชม

ภายหลังจากการเลือกตั้งจบลง ไม่ใช่แค่เพียงประเทศไทยจะได้รัฐบาลที่มีความหลากหลายในแง่ของขั้วการเมือง ซึ่งบ้างก็ว่าเป็นการสลายขั้วการเมืองครั้งสำคัญ หากแต่ยังเกิดอีกปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ นั่นก็คือ ‘การสลายขั้วเหลือง-แดง’

ไม่ว่าเรื่องนี้จะมองในมุมไหน แต่หากมองในมุมคนไทย ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ดี ที่ให้ความหวังและน่าชื่นชม โดยเรื่องนี้ ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยกล่าวไว้ว่า...

“ทุกข์ของคนไทยตอนนี้ก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว โดยเฉพาะทุกข์ทางเศรษฐกิจและทุกข์เรื่องทำมาหากินที่ยังฝืดเคือง ดังนั้นการมีข่าวดี ๆ ออกมา ที่ช่วยลดความขัดแย้งแตกแยกในหมู่คนไทยด้วยกันเอง จึงเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง จงอย่าใจแคบ ความคิดก็อย่าคับแคบ มองภาพใหญ่ให้ออก มองป่าทั้งป่าให้ได้”

นั่นก็เพราะ การสลายขั้วขัดแย้งเหลืองแดงที่ดำรงมายาวนานกว่า 15 ปี แทบจะไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน แต่เมื่อพี่น้องเหลือง-แดงชาวไทย เริ่มเข้าหากัน พูดคุยกันด้วยเหตุและผล จึงถือเป็น ‘ข่าวดี’ สำหรับคนไทยและสังคมไทย Land of Compromise พร้อม ๆ ไปกับการปรับตัวของ ‘ระบบการเมืองไทย’ ที่กลับสู่การเมืองแบบธนาธิปไตย หรือ Money Politics ในสมัยพรรคไทยรักไทย ปี พ.ศ. 2544 หรือเมื่อ 22 ปีก่อน ก่อนที่จะเกิด ‘การเมืองที่แบ่งขั้วขัดแย้งรุนแรง’ (Polarized Politics)

นอกจากนี้ สิ่งตามมา คือ การยุติ หรือหมดหายไปของ ‘วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตย VS ฝ่ายเผด็จการ’ ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อครอบงำคนเสื้อแดง (เพื่อไทย) และด้อมส้ม (ก้าวไกล) ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้นรัฐบาลใหม่ที่ครองอำนาจรัฐได้ อันที่จริงคือ เพื่อไทย+รัฐบาลชุดเดิม ที่เขี่ยก้าวไกลออกจากวงจรอำนาจให้กลายเป็น ‘พรรคฝ่ายค้านถาวร’ ของระบบการเมืองไทย

ขณะเดียวกัน การกลับเมืองไทย เพื่อ ‘ติดคุกแบบ VVIP’ ของโทนี่ ก็มิใช่การฟื้นคืนชีพของ ‘ระบอบทักษิณ’ แต่ควรมองว่า เป็นการปรองดองทางการเมืองระหว่างตระกูลชินวัตรกับขั้วอำนาจเดิมมากกว่า ซึ่งแต่ก่อนทั้งสองฝ่ายต่างมีบทเรียนจากความขัดแย้งกันในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้สามารถปรับตัวเข้าหากันได้แบบ Win-Win ที่ไม่มีใครกินรวบหรือได้หมด

หลังจากนี้ จึงเป็นยุคที่พรรคการเมืองที่เอาใจใส่ แก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้จริง และทำงานเป็น ถึงจะได้ใจประชาชน เข้าสู่ยุคที่การเมืองไทยจะแข่งขันกันตรงนี้ ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว

ประเทศไทยผ่านวิกฤต ‘ชักศึกเข้าบ้าน’ มาได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนี้ การเมืองไทยจะเดินไปตามระบบที่ควรจะเป็น เพื่อฝ่าวิกฤตปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ และผลกระทบจากการฟาดฟันกันของประเทศมหาอำนาจ สร้างสุขให้กับคนไทยที่รักและยึดมั่นใน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์

#เหตุการณ์ที่ต้องจำ