ตร.รวบ!หนุ่มฮังการี อยู่เกินกว่า 10 ปี หนีคดีฉ้อโกงเงินประกันกว่า 42 ล้านบาท!!!

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้

สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. มอบหมายให้ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม.  พร้อมด้วย  พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม. แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ โดยมีรายละเอียดดังนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จับกุม นายลาจอส อายุ 48 ปี สัญชาติฮังการี โดยกล่าวหาว่า  “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมคอนโดมิเนียมย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ   

พฤติการณ์การกระทำผิด กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. ได้รับแจ้งจากสายลับว่าได้พบเห็นชายชาวต่างชาติมีตำหนิรูปพรรณคล้ายกันกับผู้ต้องหาตามประกาศทางเว็บไซต์ของตำรวจประเทศฮังการี ชื่อนายลาจอส กระทำความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย โดยสายลับได้พบเห็นนายลาจอส ในย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ประสานงานสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตฮังการี ประจำประเทศไทย

โดยรับแจ้งว่า นายลาจอส เป็นบุคคลเดียวกันกับที่ทางการประเทศฮังการีต้องการตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. จึงได้ตรวจสอบในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่า นายลาจอสเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2553 วีซ่านักท่องเที่ยว 60 วัน ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดรวม จำนวน 4,254 วัน และยังพบว่า กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือ ที่ 0002.4/4127 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2554 แจ้งว่า นายลาจอส เป็นผู้ต้องหาที่ทางการฮังการีต้องการตัวตามหมายจับของศาลฮังการีในความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร และฉ้อโกงเงินประกันภัย เป็นเงินจำนวน 401,394,145 โฟรินต์ฮังการี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 42 ล้านบาท

 

เจ้าหน้าที่ชุดจับจึงได้สืบสวนจนทราบว่านายลาจอสพักอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ จึงได้ไปตรวจสอบพบนายลาจอสจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” และจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย