Saturday, 21 June 2025
SPECIAL

ถึงเส้นชัย! ‘กรณ์’ โชว์ฟอร์มว่ายน้ำ ข้ามทะเลสาบสงขลา 2 กม. มุ่งปลุกการท่องเที่ยว-ปลูกจิตสำนึกรักทะเลสาบ

ถึงเส้นชัย! ‘กรณ์’ ติดสปีด ฟิต ว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา 2 กิโลเมตร ทำลายสถิติตัวเอง มั่นใจปลุกท่องเที่ยว ฟื้นเศรษฐกิจสงขลา ดันมนต์เสน่ห์ท้องถิ่นเพิ่มรายได้ชุมชน 

(12 มี.ค66)  จ.สงขลา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และนางสาววิเวียน จุลมนต์ ที่ปรึกษาทีมนโยบายของพรรค ได้ร่วมกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 ด้วยการว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นทะเลสาบแห่งเดียวในประเทศไทยโดยใช้เส้นทางจากโรงสีแดง (หับ โห้ หิ้น) อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ไปยังเส้นชัยที่ Songkhla Pier ฝั่งหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา รวมระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยมีทีมรักษาความปลอดภัย ตลอดจนการวางแผนกู้ภัยทางน้ำ ที่ได้เตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี ปีนี้มีนักว่ายน้ำทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมเกือบ 200 คน จากปีแรก (2021) ที่มีผู้เข้าร่วม 30 คน เนื่องจากปีนี้ มีการโปรโมทผ่านตัวนายกรณ์ และ นายจูรี ทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก   

นอกจากนี้ ดาวติ๊กต๊อกชื่อดัง นายจูรี นุ่มแก้ว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 มาเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ให้หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครอีก 3 คนได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และ ทนายอาร์ม-นายพงศธร สุวรรณรักษา ว่าที่ผู้สมัครส.ส. เขต 9 เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง 

นายกรณ์ กล่าวว่า  ตนเข้าร่วมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลา ในกิจกรรม Singora Lake Swim 2023 เป็นปีที่ 2 เพื่อช่วยโปรโมทการท่องเที่ยววิถีชุมชน ตลอดจนอาหารพื้นเมืองที่จัดไว้บริการผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ และอัตลักษณ์ที่สำคัญของ จ.สงขลา ที่มีประวัติศาสตร์ และเรื่องราวยาวนานมาถึง 181 ปี สามารถผลักดันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ของจังหวัดได้แท้จริง นอกจากนี้ยังเป็นการรณรงค์ ลด เลิก ทิ้งขยะลงในทะเล อนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ปลูกจิตสำนึกให้รักท้องทะเลสาบที่มีแห่งเดียวในประเทศไทย และปีนี้พิเศษกว่าทุกปี ตรงที่ผู้จัดงานได้ร่วมระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ ให้กับ รพ.สต.หัวเขา อีกด้วย  

เสี่ยงถูกเท!! ‘ไพศาล’ ฟัน!! ถ้าไม่ยุบสภา รทสช. กระทบสุด ชี้!! หมดวันกำหนดสังกัดพรรค ‘รทสช.’ ยังมีไม่ถึง 15 คน

ฟันเปรี้ยง! ถ้าไม่ยุบสภา พรรคไหนกระทบมากสุด แคนดิเดตนายกฯ เสี่ยงถูกเท

(12 มี.ค.66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายและอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นส่วนตัวทางการเมือง ผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol มีเนื้อหาดังนี้...
 

จับตา ครม.จะให้ยุบสภาหรือไม่?

1.รัฐธรรมนูญบัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจอธิปไตย "โดยทางคณะรัฐมนตรี" ดังนั้นในการตราพระราชกฤษฎีกา คณะรัฐมนตรี จึงต้องมีมติให้นำความกราบบังคมทูลเพื่อขอรับพระบรมราชโองการให้ทรงตราพระราชกฤษฎีกา 

2.การเสนอร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา ต้อง "ระบุเหตุที่เสนอยุบสภา" ตามรัฐธรรมนูญมาตรา103

เหตุที่จะขอเสนอยุบสภา ต้องเป็นเหตุขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารกับสภาผู้แทนราษฎร จะไปอ้างเหตุอื่นเช่น ตกปลาในอ่างไม่ทัน หรือ กกต. กำหนดการเลือกตั้งไม่ถูกใจ หรือศาลตัดสินให้รัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เหตุตามรัฐธรรมนูญมาตรา103
 

อีกหนึ่งเรื่อง ที่เมื่อไรที่นึกถึง “ลุงตู่” นายกรัฐมนตรีประเทศไทย ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปี ลุงตู่ให้ความสำคัญเรื่องของ “กีฬา” เป็นอย่างมาก

เหตุผลประกอบส่วนหนึ่ง เนื่องจากในอดีต ลุงตู่เป็นผู้ที่ชื่นชอบในการเล่นกีฬาเป็นเดิมทุน ครั้งหนึ่งในการจัดรายการ Government Weekly EP.19 เทปนั้นได้เชิญนักกีฬาทีมชาติสองคน คือ กันตภณ หวังเจริญ นักแบดมินตันทีมชาติไทย และ วิชาสิรี รัตนนัย นักฮอกกี้น้ำแข็งทีมชาติไทย โดยบางช่วงบางตอน ลุงตู่ได้ย้อนเล่าเรื่องราวความชอบกีฬาให้ฟังว่า...

“ชอบกีฬาทุกอย่าง เพราะเป็นทหารมาก่อน ตั้งแต่เป็นนักเรียนเตรียมทหาร นักเรียนนายร้อย เขาก็ฝึกให้เรียนรู้กีฬาทุกประเภท สมัยเป็นเด็กก็ชอบฟุตบอล ชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนสมัยมัธยม เมื่อโตขึ้นเคยเล่นรักบี้ด้วย เมื่อเป็นผู้บัญชาการก็เล่นตระกร้อกับลูกน้อง เล่นกีฬาได้หลากหลาย วอลเลย์บอลก็เล่นได้ คือไม่เก่ง แต่เล่นได้ คือสิ่งที่เราได้ออกกำลังกาย และได้พบปะกับลูกน้อง ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา หรือผู้คนทั่วไป”

ไม่ใช่แค่ชอบเล่น แต่ลุงตู่ยังชื่นชอบในการดูกีฬาอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องติดตามและให้ความสำคัญกับนักกีฬาไทยทุกชนิด ลองสังเกตได้ว่า หากมีรายการกีฬาสำคัญ ๆ หรือทัวร์นาเมนต์กีฬาที่คนไทยให้ความสนใจ ลุงตู่มักจะไปปรากฏตัวร่วมงานอยู่บ่อย ๆ  

พร้อมทั้งตอกย้ำอีกด้วยว่า กีฬาในยุคสมัยนี้ กลายเป็น soft power ที่จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศอีกทางหนึ่ง รัฐบาลที่ผ่านมา จึงให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือกระทรวงดิจิทัลฯ ที่ให้การส่งเสริมกีฬาอีสปอร์ต จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

อาจเป็นภาพปกติ ยามเมื่อเหล่านักกีฬาทีมชาติ ที่กำลังเตรียมตัวเดินทางไปแข่งขันในรายการสำคัญ ๆ มักจะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรี เพื่อรับคำอวยพร แต่สำหรับ “ลุงตู่” ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ชื่นชอบกีฬา มากกว่าการมอบคำอวยพร คือการมอบแรงใจ ในฐานะคนชื่นชอบกีฬาเหมือน ๆ กัน เพื่อให้เหล่านักกีฬาได้นำไปต่อสู้ในเกมการแข่งขันต่อไป

 

การเลือกตั้งไทย ครั้งที่ ‘สกปรกที่สุด’ ในประวัติศาสตร์

26 ก.พ. 2500 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ประเทศไทยมีจัดการเลือกตั้งใหญ่ แต่เกิดเหตุการณ์หลายอย่างที่ไม่ชอบมาพากล อาทิ การใช้เวลานับคะแนนนานถึง 7 วัน 7 คืน เกิดกรณีใช้ความรุนแรงทำร้ายคู่แข่งการเมือง ตรวจพบบัตรเลือกตั้งที่ถูกกามาตั้งแต่โรงพิมพ์ การเวียนเทียนคนใช้สิทธิเลือกตั้ง และอีกหลากปรากฏการณ์ด้านลบที่เกิดขึ้น ทำให้วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2500 กลายเป็นภาพจำในประวัติศาสตร์การเมืองว่าเป็น "การเลือกตั้งที่สกปรกที่สุด" 

ที่มาของเหตุการณ์ครั้งนั้น ต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 2498  หลังจากการเดินสายรอบโลก เยือนสหรัฐอเมริกา ตามด้วยหลายประเทศในยุโรป ซึ่งล้วนยึดโยงกับแนวคิดเสรีประชาธิปไตย ทำให้จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีแนวคิดกลับมาเริ่มรณรงค์ “ประชาธิปไตย” และให้สัญญาว่าจะจัดการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2500 โดยหมายมั่นให้เป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม

จึงเป็นที่มาของการออกพระราชบัญญัติพรรคการเมือง พ.ศ.2498  และการประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2500โดยมีพรรคเสรีมนังคศิลา ที่จอมพล ป. เป็นหัวหน้าพรรค ลงสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมด้วยพรรคประชาธิปัตย์ คู่แข่งสำคัญ และพรรคการเมืองอื่น รวมทั้งสิ้น จำนวน 23 พรรค

หลังเลือกตั้ง ปรากฏว่าชัยชนะเป็นของพรรคเสรีมนังคศิลา ได้ 86ที่นั่งจากทั้งหมด 160 ที่นั่ง แต่ผลการเลือกตั้งกลับไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มนิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมสังเกตการณ์เลือกตั้งและพบการโกงการเลือกตั้งหลายรูปแบบ

การเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยคำถาม นำมาสู่การก่อตัวของกลุ่มนักศึกษาและประชาชนเคลื่อนไหวเรียกร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่ ขณะที่สื่อมวลชนได้ประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าเป็น "การเลือกตั้งที่สกปรก" แต่จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้แถลงผ่านสื่อว่าควรเรียกเป็น “การเลือกตั้งไม่เรียบร้อย”

นอกจากกระแสต่อต้านจากกลุ่มผู้ชุมชุม และสื่อมวลชนแล้ว ยังมีความเคลื่อนไหวสำคัญจากฟากพรรคการเมือง เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ โดย ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เขียนคำฟ้องต่อศาลในนามนายควง อภัยวงศ์ และ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์รวม 9 คน กล่าวหาว่าการเลือกตั้งมีความไม่ชอบธรรมในหลายเรื่อง 

ทั้งช่วงก่อน และระหว่างเลือกตั้ง ที่พบว่ามีการจัดเลี้ยงผู้กว้างขวาง และนายตำรวจผู้ใหญ่ให้การช่วยเหลือพรรคเสรีมนังคศิลา มีการเพิ่มชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างผิดปกติ รวมถึงมีการตรวจพบบัตรเลือกตั้งที่เรียกว่า ‘ไพ่ไฟ’ คือบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์จากโรงพิมพ์โดยมีการกาเลือกผู้สมัครไว้แล้วเป็นจำนวนมาก และมีการใช้ ‘พลร่ม’ คือใช้กลุ่มคนเวียนลงคะแนนให้พรรคเสรีมนังคศิลาหลายรอบ

ขณะที่วันเลือกตั้งก็พบการก่อกวน มีการใช้ความรุนแรงในหน่วยเลือกตั้ง รวมถึงบางหน่วยเลือกตั้งที่เปิดให้ลงคะแนนช้า หรือยืดเวลาลงคะแนนออกไปหลังเวลาปิดหีบ และการนับคะแนนในหลายเขตที่ไม่โปร่งใส 

ธรรมะประจำวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2566

ทุกข์นี่แหละ...
จะทำให้เราฉลาดขึ้น
ทำให้เกิดปัญญา

สุขนั่นสิ!
มันจะปิดหูปิดตาเรา
ความสุขสบายทั้งหลาย
จะทำให้เราประมาท

‘นิพนธ์’ หนุน!! เพิ่มค่าตอบแทน ‘อบต.-ผู้นำท้องถิ่น’ ชี้เป็นกลไกที่มุ่งไปสู่การทำงาน เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ปชช.

(11 มี.ค. 65) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การปฏิบัติงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการปกครองท้องที่ ในช่วงที่ผ่านมาหลังสถานการณ์โควิดผ่านพ้นไปว่า การทำงานทั้งสองส่วนคือทั้งท้องถิ่นและท้องที่นั้นถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด ทั้งสองส่วนก็มีส่วนสำคัญในการดูแลป้องกันความปลอดภัยในชีวิตให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด และยังมีปัญหาอื่น ๆ ที่จะต้องดูแลแก้ไข เช่น ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม และความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของประชาชนอีกหลายอย่าง ซึ่งรัฐบาลรวมถึงประชาชนต่างต้องพึ่งพิงการทำงานภายใต้ความรับผิดชอบของทั้งอบต. เทศบาล อบจ. รวมไปถึง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรฯ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน มาตลอด ซึ่งช่วยให้วิกฤตการณ์ต่าง ๆในประเทศได้คลี่คลาย ผ่านพ้นไปในทางที่ดี

‘กรณ์’ นำทีมลุยพื้นที่หาดใหญ่ ชี้นำแนวทางให้ชาวบ้าน ปชช. ต้อนรับคึกคัก ขอฝาก ‘ประเทศไทย’ ไว้ในมือกรณ์

(11 มี.ค. 66) ที่ จ.สงขลา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 เขต ได้แก่ นายกัณฑ์ นวกัณฑ์ เขต 1 นายจูรี นุ่มแก้ว เขต 2 ผศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ เขต 3 และ ทนายอาร์ม -นายพงศธร สุวรรณรักษา เขต 9 ร่วมทำกิจกรรมกับพี่น้องประชาชนชาวสงขลา เป็นวันที่สอง โดยในช่วงเช้า นายกรณ์ และนายจูรี ลงพื้นที่หาดใหญ่บริเวณตลาดคลองเรียน เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ รวมทั้งผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ส่งเสียงร้องทัก กันอย่างคึกคัก และขอถ่ายภาพตลอดเส้นทาง พร้อมกับบอกว่า เป็นแฟนคลับทั้งจูรี ที่สร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับชาวสงขลา และคนภาคใต้ ขณะเดียวกันก็ยังช่วยชาวบ้านขายของสร้างรายได้ให้ชุมชน ส่วนนายกรณ์ รู้จักและเห็นฝีมือการทำงานมาแล้วและเชื่อว่าถ้าได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในรัฐบาล จะสามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้อย่างแน่นอน 

ต่อมานายกรณ์ พร้อมด้วย ทนายอาร์มนายพงศธร ผศ.ดร.ประสิทธิ์ และ นายกัณฑ์ พบกลุ่มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ตามคำเชิญของ ยูนิกิฟาร์ม โดยมีชาวบ้านที่สนใจเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก โดยทางผู้ประกอบการต้องการให้พรรคชาติพัฒนากล้า ผลักดันนโยบายเพื่อเกษตรกรรายย่อย และอยากให้มีการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อทำสมาร์ทฟาร์ม ซึ่งแม้ว่าจะมีต้นทุนที่สูงกว่าแต่ราคาผลผลิตดีกว่าหลายเท่า และยังมีโอกาสทางการตลาดอีกมาก ตอนนี้ทางยูนิกิฟาร์มมีออเดอร์จากประเทศมาเลเซีย แต่ไม่สามารถผลิตได้ทันทำให้เสียโอกาสไป 

ซึ่งนายกรณ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร คือการแปรรูป และการจะแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร หัวใจก็อยู่ที่ วิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ชุมชน ยกตัวอย่าง ที่ตนเคยลงไปทำข้าวอิ่มที่ จ.มหาสารคามปีนี้เข้าปีที่ 10 ชาวบ้านขยายผลจากการทำข้าวเกษตรอินทรีย์ ไปสู่การนำปลายข้าว ผลิตเป็นเครื่องสำอาง ขนมอบกรอบหลายชนิด เหล่านี้ล้วนทำได้ หากมีการส่งเสริมกระบวนการแปรรูปอย่างเป็นระบบ และที่สำคัญต้องปฏิรูปสหกรณ์ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนเกษตรกรอย่างจริงจัง วันนี้ชาวบ้านแบกราคาปุ๋ยที่สูงมาก เราควรมีนโยบายลดต้นทุนโดยการสรรหาวัตถุดิบมาผลิตปุ๋ย ประเทศไทยมีเหมืองแร่โปแตสอยู่หลายแห่ง สามารถนำมาใช้เพื่อลดการใช้ปุ๋ยลงได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ระบบสมาร์ทฟาร์มคือการใช้ปุ๋ยแบบแม่นยำก็จะสามารถลดต้นทุนลงมาได้เช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องได้คนที่เข้าใจเข้าไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชน ความจนไม่ใช่การส่งต่อข้ามรุ่น แต่แก้ได้ ถ้าได้รับโอกาสที่ดี 

“วันนี้เกษตรกรแบกรับต้นทุนพลังงานที่สูงมาก หากมีการต่อสู้เรื่องพลังงานได้จะลดต้นทุนไปได้มาก  พรรคชาติพัฒนากล้า ต่อสู้เรื่องการรื้อโครงสร้างพลังงาน ชนกับทุนใหญ่ เหตุผลที่เรากล้าทำเพราะคิดว่า การทะเลาะกับทุนใหญ่เพื่อพี่น้องประชาชน คุ้มกว่าทะเลาะกันเองโดยที่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว 

นอกจากนี้ นายกรณ์ ยังได้นำเสนอนโยบายเพื่อผู้สูงอายุ ทั้งนโยบายสูงวัยไฟแรง จ้างผู้สูงอายุทำงาน 5 แสนตำแหน่ง รวมไปถึง นโยบายสร้างบ้านให้ผู้สูงอายุหรือ อารยสถาปัตย์  50,000 บาทต่อครัวเรือน ลดปัญหาผู้สูงอายุล้มในบ้านที่มีมากถึงปีละ 4 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของผู้สูงอายุทั้งประเทศ โดยตั้งเป้า 1 ล้านครัวเรือนต่อปี และยังมีกองทุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์สำหรับคนทุกวัย เพื่อสร้างธุรกิจสร้างสรรค์ สูงสุด 1 ล้านบาทไม่จำกัดวุฒิการศึกษา 

'อิ๊งค์' อ้อน 'คนพิจิตร' ขอแลนด์สไลด์ 310 เสียง ฟาก 'ชลน่าน' ย้ำไม่จับมือ 'ลุงป้อม' หลังเลือกตั้ง

(11 มี.ค.66) ที่เวทีปราศรัยวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ โดย น.ส.แพทองธาร แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร พี่ชาย ร่วมเวที มีประชาชนรอรับฟังคำปราศรัยจนเต็มหน้าลานวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร

ทั้งนี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า วันนี้เราต้องชูธง ปักชัย เพื่อไทยแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียง ถ้าเราไม่ได้ 310 พี่น้องชาวพิจิตรจะต้องอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไปอีก 4 ปี ตอนแรกเราต้องการ 250 เสียงเพื่อชนะ ส.ว.ก่อน แต่จากการลงพื้นที่ประชาชนให้มาเกิน 250 เสียงแล้ว เมื่อมีคนออกมาบอกว่าพรรค พท.ได้ส.ส. 270 เสียงก็จะดันพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ถ้าเราไม่ได้คะแนนจากพี่น้องชาวพิจิตร เสียง 310 อาจเป็นไปไม่ได้เลยต้องมาขอคำมั่นสัญญาจากพี่น้องชาวพิจิตรจะเลือกพท.ทั้ง 2 ใบ มีคนออกมาตั้งข้อสังเกตหลังเลือกตั้งพรรคพท.จะจับมือกับพรรคนั้นพรรคนี้ ยืนยันหลังการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะไม่จับมือกับลุงป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพรรคพลังประชารัฐ) พรรคเพื่อไทยจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ถ้าเราได้ 310 เสียงจะได้นายกฯจากประชาชนและเราจะได้ผลักดันนโยบายที่พรรคเพื่อไทยประกาศไว้ 

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า ดีใจได้มาเจอคนพิจิตรด้วยตัวเอง คนที่พรรคพูดกันว่าตนจะเดินทางได้ถึงเมื่อไหร่ แต่พอบอกมาพิจิตรจึงต้องมา ถ้าพิจิตรแลนด์สไลด์นายกฯ มาจากพท.แน่นอน ทั้งนี้ จ.พิจิตรมีปัญหามากมาย การเกษตร เราจะทำให้ราคาสินค้าเกษตรดียกแผง ข่าวราคาดี ปุ๋ยต้องถูกลง พรรคพท.จะมีนโยบายใช้เทคโนโลยีมาช่วยประชาชน พรรคพท.จะทำให้ประชาชนมีที่ดินทำกินอย่างเท่าเทียมกัน ตนขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขตของจ.พิจิตร ให้แลนด์สไลด์ เลือกพท.ทั้งคนทั้งพรรค และพิเศษที่สุดที่ จ.พิจิตร ตนขอแนะนำนายเศรษฐาที่เป็นประธานที่ปรึกษาของพรรค และอยู่ในทีมเศรษฐกิจ มั่นใจได้เลยว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นแน่นอน

'เศรษฐา' น้อมรับ 'วันชัย' เตือนต้องสลัดภาพนักธุรกิจ ชี้!! ดูกันยาวๆ เชื่อ!! ไม่ซ้ำรอยอดีตสองนายกฯ

(11 มี.ค. 66) ที่วัดท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคพท. พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย, น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตส.ส.พิจิตร พรรคพท. พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรค ทั้งนายภูดิท อินสุวรรณ์, นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร และนายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ เข้าสักการะหลวงพ่อเพชรเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ จ.พิจิตรที่เวทีปราศรัยวิทยาลัยเทคนิคพิจิตร มีประชาชนจำนวนหนึ่งสวมเสื้อแดงรอมอบดอกไม้ให้กำลังใจ 

โดย น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้จะแนะนำนายเศรษฐาให้ประชาชนได้เห็น เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาปราศรัยร่วมกันกับทีมพรรคพท.โดยมาในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และอยู่ในทีมเศรษฐกิจด้วย 

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาพื้นที่ จ.พิจิตร เป็นของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 เขต จะทำให้แลนด์สไลด์ได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "เรามั่นใจอย่างมากด้วยนโยบายของเรา และว่าที่ผู้สมัครส.ส.ที่ทำงานกันอย่างหนัก ฉะนั้นเรามั่นใจและต้องได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนด้วย ขอทั้ง 3 เขตเลย"

เมื่อถามถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ออกมากล่าวเตือนนายเศรษฐา ระวังจะเป็นเหมือนอดีตนายกฯ พรรค พท. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “สิ่งที่อิ๊งค์เห็นคือคุณพ่อ คุณอาทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองมากมาย การที่เราขึ้นเวทีและพูดถึงนโยบายเมื่อ 20 ปีที่แล้วยังใช้ได้อยู่ เพียงแต่เพิ่มเรื่องเทคโนโลยีเข้ามา นั่นคือบทพิสูจน์ว่าประชาชนได้รับประโยชน์อะไรบ้างจาก คุณพ่อ คุณอา ที่เป็นนักธุรกิจมาก่อน แต่เมื่อเป็นมุมมองของคนก็ต้องรับฟัง”

‘โรม’ นำทีมหาเสียงกำแพงเพชร ชี้ 8 ปี รบ.ประยุทธ์ล้มเหลว ชูปราบปรามยาเสพติด-ทุจริตคอร์รัปชัน วอน! ขอโอกาสจาก ปชช.

(11 มี.ค. 66 ) รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อช่วยหาเสียง ร่วมกิจกรรมแห่รถรอบเมือง และเดินในงาน ‘นบพระเล่นเพลง’ ร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กำแพงเพชร พรรคก้าวไกล จำนวน 4 คน ได้แก่ สุกิจ ศุภกิจเจริญ สมชาย ผลมา ประพันธ์ จิตคำ และ จันทร์ดี หลวงนัน

โดยช่วงเช้า แวะพูดคุยกับประชาชนที่ตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชร รังสิมันต์กล่าวว่า ผลตอบรับที่ได้กลับมาดีเกินคาด เชื่อว่า 8 ปีที่ผ่านมาทำให้ชาวกำแพงเพชรและคนไทยทุกคนเห็นแล้วว่ารัฐบาลที่มีที่มาจากเผด็จการไม่ได้อยู่ข้างประชาชนฝ่ายใดเลย พวกเขาหลอกลวงว่าจะเข้ามาแก้ไขความขัดแย้ง ปราบปรามคอร์รัปชัน แต่ถ้าประชาชนได้ฟังการอภิปรายของตนและ ส.ส. พรรคก้าวไกล ก็จะทราบว่าทุกวันนี้มีการโกงกินบ้านเมืองอยู่ทุกหย่อมหญ้า แม้แต่กระบวนการยุติธรรมก็ถูกสั่นคลอนความน่าเชื่อถือ

ล่าสุดคือกรณี อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ที่มีข้อครหาเกี่ยวข้องพัวพันกับการฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุนมินลัต’ ตั้งแต่ตนอภิปรายในสภาฯ เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้ ยังไม่เห็นความคืบหน้าของการนำตัว ส.ว.อุปกิต มาแจ้งข้อหาเพื่อจะฟ้องคดีต่อไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ตำรวจสืบนครบาล (บก.สส. บช.น.) ที่จับทุนมินลัตและขยายผลมาถึง ส.ว.อุปกิต ได้เคยขอหมายจับต่อศาลแล้ว และศาลก็อนุมัติหมายจับให้ แต่ในวันเดียวกันกลับถอนการอนุมัติ จนแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบการขอหมายจับอุปกิตยังทนไม่ไหว ต้องออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจง ระบุว่าการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ประวิงเวลาในการดำเนินคดีกับอุปกิต จะก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงต่อศรัทธาของประชาชน และการเพิกถอนหมายจับด้วยเหตุผลว่าเป็น ‘บุคคลสำคัญ’ ก็ทำลายหลักการว่า ‘บุคคลย่อมเสมอภาคภายใต้กฎหมาย’ ดังนั้น หากเราปล่อยให้บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมายังอาจถูกแทรกแซง แล้วประชาชนจะหันไปพึ่งพาใครได้ ประเทศไทยจะมีอนาคตได้อย่างไร

เกิดเหตุกราดยิง ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ดับ 1 เจ็บ 2 ล่าสุดคนร้ายเข้ามอบตัวแล้ว

(11 มี.ค. 66) มีรายงานว่า เกิดเหตุยิงกันบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ หน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเหตุว่าเป็นคนคลุ้มคลั่ง ใช้อาวุธปืนกราดยิง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย

ตรวจสอบผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง สถานที่เกิดเหตุอยู่บนคู่ขนานทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ท้องที่ สภ.บางแก้ว ล่าสุดคนร้ายได้เข้ามอบตัวแล้ว

รักทั้งคู่ ‘นิโรธ’ เลือกแล้ว!! ยื่นลาออก ‘พปชร.’ หันหา ‘บิ๊กตู่’ ชี้!! ‘พปชร.’ มีคนเก่งอยู่เยอะ ขอช่วย ‘รทสช.’

‘นิโรธ’ เลือกแล้ว! ยื่นใบลาออก ทิ้งพปชร. ช่วย ‘บิ๊กตู่’ ที่รทสช. ยัน ยังรักทั้งคู่

(11 มี.ค.66) นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจที่จะย้ายพรรค ไปทำงานและช่วยงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพื่อช่วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค รทสช. และว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และจะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค รทสช. ในพื้นที่จ.นครสวรรค์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยพื้นที่ดังกล่าวพรรค รทสช.ต้องการกำลังเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งเพื่อให้ได้ สส.มากที่สุด โดยได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค พปชร. ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา และเตรียมเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ต่อไป
 

นโยบายครอบคลุม ‘ปชป.’ เดินหน้าปล่อยนโยบายก๊อก 2 เพิ่ม 8 เรื่อง เอื้อประโยชน์ให้ด้านการเกษตร เพื่อดันเศรษฐกิจไทย

‘ปชป.’ เปิดนโยบายก๊อก 2 เพิ่ม 8 เรื่อง อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด เรียนฟรีถึงปริญญาตรี 12 สาขา เอื้อความต้องการตลาดแรงงาน เดินหน้ารักษาฟรี ตรวจสุขภาพฟรี บัตรประชาชนใบเดียวไม่ต้องเสีย 30 บาท พร้อมจัดเต็มต่อ SME ลืมตาอ้าปาก พร้อมปลดล็อกกองทุน กบข.ซื้อบ้านได้ เพิ่มเงิน อกม. 1 พันบาทต่อเดือน  

(11 มี.ค.66) เมื่อเวลา 10.10 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และนายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานนโยบายพรรค ร่วมกันแถลงนโยบายพรรคที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

โดย นายจุรินทร์ ได้นำแถลงเปิดตัวชุดนโยบายของพรรคว่า หลังจากพรรคประชาธิปัตย์เปิดตัว 1 ชุด 8 นโยบาย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ วันนี้จึงถือเป็นชุดที่ 2 ที่จะเปิดอีก 8 นโยบาย ได้แก่ 

1.อินเตอร์เน็ตฟรี 1 ล้านจุด ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน ทุกห้องเรียน ซึ่งหมายถึงชุมชนในเขตเมือง เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชนในกทม. ด้วย

2. นโยบายเรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดต้องการ จากการสำรวจเบื้องต้นโดยกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พบว่า ตลาดมีความต้องการประมาณ 1.8 แสนคน โดยประมาณ ใน 12 สาขาสำคัญ ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนตั้งรัฐบาล จะสนับสนุนให้มีการเรียนฟรีในสาขาเหล่านี้ เพื่อที่เรียนจบจะได้มีงานทำได้ทันที 

3. นโยบายตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งมี 2 เรื่องในนโยบายเดียวกัน คือ รักษาฟรี และตรวจสุขภาพฟรี เป็นการต่อยอดนโยบายเดิมของพรรคที่ทำมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นรมว.สาธารณสุข (สธ.) ในปี 2531 และตนเป็นเลขานุการรมว.สธ. ต่อมาเมื่อตนเป็นรมว.สธ ในปี 2553 ตนได้ริเริ่มนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรี 48 ล้านคน โดยไม่ต้องเสีย 30 บาท ซึ่งดำเนินการได้อย่างราบรื่น วันนี้จึงเป็นการต่อยอดจากสิ่งที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว 

เล่นการเมืองแบบเก่า ‘ลิณธิภรณ์’ ซัดคนยื่นยุบพรรค พท. หวังสกัดแลนด์สไลด์ ชี้!! เป็นการทำลายความหวัง เริ่มต้นชีวิตใหม่ของปชช.

‘ลิณธิภรณ์’ สับพวกยื่นยุบพรรคพท. ไร้เหตุผล เล่นการเมืองแบบเก่า หวังสกัดแลนด์สไลด์

(11 มี.ค.66 ) น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมามีความพยายามจากหลายฝ่ายในการยื่นยุบพรรคพท. ทั้งที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งในอีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า เป็นความหวังของพี่น้องประชาชนที่จะแสดงออกถึงเจตจำนงในการใช้สิทธิที่พึงมี เลือกผู้แทนราษฎรและเลือกพรรคการเมือง 

ซึ่งเป็นที่พึ่งที่หวังในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ปรากฏว่าผู้ไม่หวังดีกำลังใช้อำนาจของกระบวนการยุติธรรมไปในทางที่ผิด เล่นการเมืองแบบเก่าโดยใช้ข้อกฎหมายที่ไม่มีเหตุหรือมูลความจริงมาสกัดกั้น นำมาเป็นเหตุอ้างในการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่เหตุของการยุบพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มี 4 ประเด็นหลัก คือ 

1. กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
2. กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 
3. กระทําการฝ่าฝืนมาตรา 20 วรรคสอง มาตรา 28 มาตรา 30 มาตรา 36 มาตรา 44 มาตรา 45 มาตรา 46 มาตรา 72 หรือมาตรา 74 ซึ่งว่าด้วยการดำเนินการของพรรค ว่าจะต้องไม่แสวงหากำไร ไม่ถูกครอบงำ ต้องยึดหลักประชาธิปไตย และปฏิบัติตามข้อบังคับเรื่องการเงิน 
4. มีเหตุอันจะต้องยุบพรรคการเมืองตามที่มีกฎหมายกําหนด

กลายเป็นกระแส เมื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกบรรดานักข่าวถามถึง ทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ

กลายเป็นกระแส เมื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถูกบรรดานักข่าวถามถึง ทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเชื่อมโยงไปถึงทีมเศรษฐกิจของ (ว่าที่) แคนดิเดตนายกฯ แห่งพรรคเพื่อไทย นามว่า “เศรษฐา ทวีสิน” งานนี้ “ลุงตู่” ถึงกับสวนถามนักข่าวทันควัน “เขาเด่นตรงไหนล่ะ ที่เสนอชื่อเขามา เขาเก่งตรงไหน เขาทำอะไรมา เขาทำธุรกิจ และประเทศชาติไม่ใช่ธุรกิจ”

 

เท่านั้นยังไม่พอ ยังเน้นแบบชัดเจนอีกประโยค  จำคำพูดผมเอาไว้นะ คำว่าเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ใช่เศรษฐกิจหรือธุรกิจของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เข้าใจหรือไม่”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top