Sunday, 22 June 2025
SPECIAL

‘แม่หญิงลี’ โผล่ฟังปราศรัย ส.ส.กทม. ‘เพื่อไทย’ เชื่อทำให้ฝันเป็นจริง พร้อมเชียร์ ‘อุ๊งอิ๊ง’ เป็นนายกฯ

(24 มี.ค.66) โผล่ฟังปราศรัยในงานเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย แบบปังปุริเย่ในช่วงเย็น สำหรับ ‘แม่หญิงลี’ และ ‘อีทิพย์’ ณ สเตเดียม วัน

สวมใส่เดรสสีแดงแรงฤทธิ์ ตอบคำถามสื่อมวลชนโดยในตอนหนึ่ง แม่หญิงลี มหาเทวีเจ้า กล่าวถึงนโยบายเกี่ยวกับแอลจีบีทีคิวว่า

“เราเป็นแอลจีบีทีคิว เพราะฉะนั้นต้องให้เกียรติเพศอย่างพวกเราด้วย ขอให้มีพื้นที่ให้เรา ที่มาเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าจะทำให้ฝันของเราเป็นจริง”

เมื่อถามว่า เพื่อไทยจะแลนด์สไลด์หรือไม่ พระมหาเทวีเจ้าทำท่ากางแขน ตอบว่า ‘แลนด์สไลด์ค่าาาา’

‘สกลธี’ รับเพิ่งรู้ ‘นฤมล’ เบี้ยวเวทีปราศรัย เหตุไม่สบาย ลั่น!! ขาดใครไม่สำคัญ วอนอย่าแบ่งแยกทีมเดียวกัน

‘สกลธี’ รับ เพิ่งทราบ ‘นฤมล’ เบี้ยวเวทีปราศรัย ลั่น วันนี้ขาดใครก็ไม่สำคัญ งานเดินต่อไปได้ วอน อย่าแบ่งแยกผู้สมัครว่าเป็นคนของใคร

(24 มี.ค.66) ที่เวทีปราศรัยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ศูนย์เยาวชนหลักสี่ การเคหะท่าทราย นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. ไม่มาร่วมการปราศรัยหาเสียงในวันนี้ ว่าเมื่อวันที่ 23 มีนาคมก็ยังมีการพูดคุยถึงการปราศรัยบนเวทีกันอยู่ แต่เมื่อสักครู่ระหว่างนั่งรถมาที่เวทีปราศรัย นางนฤมลก็ได้ติดต่อเข้ามาแจ้งว่า ไม่สบายมาก ต้องไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ ตนก็ให้กำลังใจไป

เมื่อถามถึงการแถลงข่าวสละตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของนางนฤมล นายสกลธี กล่าวว่า จริง ๆ ก็ได้ยินมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และก็ได้ติดตามดูการแถลงข่าวเมื่อเช้านี้อยู่ แต่ในส่วนของพื้นที่ กทม.นั้น ตนเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบในการทำงาน เพราะไม่ว่าตนหรือนางนฤมลจะอยู่ในพรรคหรือไม่ ตนก็เชื่อว่าระบบที่วางไว้สามารถดำเนินต่อไปอยู่แล้ว เพราะทุกอย่างถูกวางไว้อย่างชัดเจน และจบหมดแล้ว

เมื่อถามถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ที่เป็นบุคคลที่นางนฤมลชักชวนเข้ามาร่วงงานจะมีผลกระทบหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นที่ทำงาน ตนและนางนฤมลได้มีการพูดคุยกับผู้สมัครทั้ง 33 เขต เป็นปกติที่ผู้สมัครจะมีการแตกต่างของที่มา แต่เมื่อรวมทีมกันแล้วก็ขอให้เป็นทีมเดียวกัน วันนี้ไม่ว่าใครจะอยู่หรือไม่ ทีม กทม.ของพรรค พปชร.ก็จะเดินต่อไปได้ เพราะทุกคนก็กำลังใจดีอยู่

‘ธนาธร’ นำทีม ส.ส.ชลบุรี ขอคะแนนเสียงจากปชช. พร้อมขอโทษชาวชลบุรี มีอดีต ส.ส.งูเห่า ทรยศคนเขต  

‘ธนาธร’ ช่วยทีมชลบุรี หาเสียง เดินขอโทษทั่วหาดพัทยา มีอดีตส.ส.งูเห่า ทรยศคนเขต  

(24 มี.ค.66) ที่ชลบุรี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ ว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส.เขต 6 ชลบุรี พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยทีมงานลงพื้นที่หาเสียงตลาดสดเทศบาลเมืองศรีราชา มีประชาชนให้การต้อนรับเป็นจำนวนมากมาย โดย นายธนาธร กล่าวว่า ขอโทษชาวอำเภอศรีราชา ที่อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้ย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย จึงได้ส่งนายกฤษฎิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งแทนในนามของพรรคก้าวไกล ซึ่งมีอุดมการณ์ที่หนักแน่นและแน่วแน่ ไม่ใช่งูเห่าอย่างแน่นอน พร้อมที่นำเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการให้กับประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต และมีสวัสดิการรองรับ และหวังว่าชาวชลบุรีที่ชื่นชอบประชาธิปไตยจะให้การสนับสนุนต่อไป

จากนั้น เวลา 13.30 น. ที่ชายหาดพัทยากลาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายธนาธร พร้อมด้วย นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย อดีตผู้สมัครนายกเมืองพัทยา ได้เดินทางมาลงพื้นที่ช่วย นายยอดชาย พึ่งพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล เขตเลือกตั้งที่ 9 เพื่อพบปะประชาชน ผู้ประกอบการร่มเตียงในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อขอคะแนนเสียงจากประชาชน โดยมีประชาชนบางส่วนได้เข้ามาขอถ่ายรูปและให้กำลังใจนายธนาธร และผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดชลบุรีมีถึง 10 เขตเลือกตั้ง

ทั้งนี้ สำหรับในพื้นที่นี้ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2565 พรรคอนาคตใหม่ สามารถเอาชนะคู่แข่งไปได้ แต่ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ ได้ย้ายไปอยู่กับพรรคพลังท้องถิ่นไท ก่อนที่ครั้งนี้จะลงสมัคร ส.ส.สังกัดพลังประชารัฐ

‘ดร.พิสิฐ’ ติวเข้ม ผู้สมัคร ภาคอีสาน ชู นโยบาย 8+8 มั่นใจ!! นโยบาย ปชป.อยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ

(24 มี.ค. 66) ที่โรงแรมปัญจะดารา จังหวัดนครราชสีมา ดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) บรรยายติวเข้มด้านนโยบายของพรรคฯ ในการเลือกตั้งปี 2566 ให้กับว่าที่ผู้ลงสมัคร ส.ส. ภาคอีสานกว่า 70 เขต โดยเน้นนโยบาย 8+8 ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. ได้ประกาศไว้แล้ว

นายพิสิฐ กล่าวว่า วิกฤตการณ์ต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั้งในระดับโลกและในประเทศไทย ทั้งเศรษฐกิจที่ขยายตัวช้า การลงทุนต่ำ เงินเฟ้อ การขาดดุลทางการคลัง โดยมีสาเหตุที่เป็นเรื่องเรื้อรัง การขาดวินัยทางการเงินการคลัง และผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงการมีหนี้ของบรรดาข้าราชการและประชาชนที่ประสบปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลให้รายรับไม่พอรายจ่าย

‘เขตรัฐ’ เซ็ง!! ถูกมือมืดทำลายป้ายหาเสียง วอน ทุกพรรคใช้วิธีหาเสียงอย่างสร้างสรรค์

(24 มี.ค. 66) นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตวัฒนา-คลองเตย พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่า ขณะนี้ป้ายหาเสียงที่ได้นำไปติดตั้งไว้ตามจุดต่าง ๆ เพื่อแนะนำตัวก่อนการเลือกตั้ง ถูกทำลายจนได้รับความเสียหายหลายป้าย จึงลงไปตรวจสอบพบว่า ป้ายหาเสียงถูกขีดเขียนข้อความ บางจุดถูกรื้อทำลายจนไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้ ตนจึงได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ และพยายามที่จะขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ แต่กลับได้รับแจ้งว่า กล้องเสีย จึงไม่สามารถที่จะไปย้อนดูภาพได้ ตนและทีมงานจึงได้พยายามติดตามหาหลักฐานด้วยตัวเอง จนกระทั่งได้ภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อที่ใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อนำมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ดำเนินการหาผู้กระทำผิด

‘บิ๊กตู่’ เผย ‘กองทัพ’ ไฟเขียว หาเสียงเขตทหารได้ ลั่น!! ทหารพร้อมสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย 

(24 มี.ค. 66) ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีกองทัพถูกจับตาในเรื่องของความเป็นกลางทางการเมืองเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ว่า ได้มีการแถลงไปแล้ว พูดไปแล้ว ว่าต้องสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตย ในเรื่องของการเลือกตั้ง ก็แล้วแต่ และการจะเข้าไปในหน่วยทหารก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ก็ต้องให้ทุกพรรคการเมือง ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง ไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน หลักการมีเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพี่น้องผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.อ.ประยุทธ์ แค่นเสียง พร้อมกล่าวว่า “โธ่เว้ย!” ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์

‘ก้าวไกล’ ลงพื้นที่หาเสียงทั่วชลบุรี ชู ‘แก้ปัญหาประมง’ คืนความเป็นธรรมให้ ปชช.

(24 มี.ค.66) แกนนำพรรคก้าวไกลและผู้ช่วยหาเสียงของพรรค เดินสายลงพื้นที่จังหวัดชลบุรีเพื่อแนะนำนโยบายพรรคและแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นำโดย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล วรรณวิภา ไม้สน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล

โดยช่วงเช้า ศิริกัญญาและคณะ ลงพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านแหลมฉบัง หมู่ 3 ตำบลสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชน กรณีเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรม หลังจากติดตามมาอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี ที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร โดยพบว่ายังมีประชาชนจำนวนมากไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา และอาจมีการเวนคืนผิดพลาดหรือผิดวัตถุประสงค์

ทั้งนี้ ประชาชนได้ฝากพรรคก้าวไกลติดตามเรื่องการซื้อคืนเรือประมง ซึ่งศิริกัญญาในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ก็เกิดคำถามต่อสาเหตุที่ทำให้กรณีดังกล่าวค้างคามาตลอด โดยให้ความเชื่อมั่นว่าหากพรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ให้เป็นรัฐบาล จะมีการแก้ไขกฎหมายประมงให้เป็นธรรมมากขึ้น และให้เกิดการเยียวยาโดยเร็วที่สุด

'บิ๊กป้อม' จัดคณะกรรมการ 5 ชุด สู้ศึกเลือกตั้ง 66  ‘สนธิรัตน์’ ผงาดนั่ง ปธ.ฝ่ายกลยุทธ์การเมือง

(24 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.66 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามคำสั่งพรรค แต่งตั้งคณะกรรมการ จำนวน 5 คณะ เพื่อให้การดำเนินงานของพรรค ในด้านประสานงานและสนับสนุนการดำเนินการของคณะกรรมการฝ่ายต่าง ๆ รวมทั้งดูแลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์และบริหารการเลือกตั้งของพรรค เป็นไปด้วยความถูกต้อง มีประสิทธิภาพ บรรลุตามวัตถุประสงค์ และนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ 

โดยคณะกรรมการทั้ง 5 ประกอบด้วย 
1.คณะกรรมการฝ่ายอำนวยการ มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นประธานกรรมการ กรรมการ 6 คน ได้แก่ นายวราเทพ รัตนากร พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายวิเชียร ชวลิต พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ นายณรงค์ โยธนัง 

2.คณะกรรมการฝ่ายกฎหมาย มีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานกรรมการ กรรมการ 5 คน ได้แก่ นายประสาร หวังรัตนปราณี นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ นายวิเชียร ชวลิต นายภาส ภาสัทธา นายทศพล เพ็งส้ม

‘บิ๊กตู่’ เผย ยังไม่ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 รทสช. ปัดตอบกรณีดึง ‘อาคม’ รมว.คลัง ร่วมงานพรรค

(24 มี.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานในพิธีมอบรางวัล รัฐวิสาหกิจดีเด่นปี 2564 ‘ก้าวสู่ยุควิถีใหม่ด้วยพลังรัฐวิสาหกิจไทยอย่างยั่งยืน’

โดยเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่าเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ตัดสินใจลง ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรค รทสช.แล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า “ยังยังไม่ได้ตัดสินใจ”

‘ปคบ.-อย.’ บุกทลายโกดังอาหารเสริม-เครื่องสำอางปลอม พบนำเข้าจากจีน ตรวจยึดของกลางมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท!!

(24 มี.ค. 66) ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.4 บก.ปคบ., ภก.วีระชัย นลวชัย รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติกรณีทลายโกดังเก็บผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, ยาปลอม และเครื่องสำอางปลอม ขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตรวจยึดของกลาง 19 รายการ รวม 6,320 กล่อง มูลค่าสินค้าปลอมกว่า 10,000,000 บาท

‘เพื่อไทย’ จัดทำปาร์ตี้ลิสต์ 100 รายชื่อ เสร็จแล้ว เตรียมยื่นส่ง กกต. เพื่อทำไพรมารีโหวต 4-7 เม.ย.นี้

(24 มี.ค. 66) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยว่าจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้มีการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 2566 โดยในส่วนของการเตรียมพร้อมของพรรคเพื่อไทยนั้น ในส่วนของรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อที่ กกต. ให้ยื่นรายชื่อผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อ ในวันที่ 4 – 7 เมษายนที่จะถึงนี้ ขณะนี้ทางพรรคเพื่อไทยพร้อมแล้ว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องประวัติต่าง ๆ ของผู้สมัคร โดยกำลังจะนำรายชื่อเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาพิจารณารายชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งระบบเขตและระบบเลือกตั้ง และจะนำรายชื่อทั้งหมดส่งไปทำไพรมารีโหวตและเมื่อเสร็จจากขั้นตอนทำไพรมารีโหวต ก็จะนำรายชื่อส่งกลับมาให้คณะกรรมการบริหารพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

‘นฤมล’ สละปาร์ตี้ลิสต์ เปิดทางคนรุ่นใหม่ทำงาน ยัน!! ไม่กลับคำ แม้ผู้ใหญ่พิจารณาลำดับใหม่

เมื่อเวลา 09.50 น. (24 มี.ค.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวทิศทางการทำงานการเมืองกับพรรค พปชร.ว่า พรรค พปชร.มีบุคลากรคุณภาพจำนวนมาก ทั้งผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคมาตั้งแต่ปี 2561 ผู้ที่เข้ามาร่วมพัฒนาพรรคระหว่างทาง และผู้ที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับพรรค ทุกคนต่างมีความสามารถที่หลากหลายอันเป็นประโยชน์ต่อพรรค และต่างมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน

นางนฤมล กล่าวว่า สำหรับตนเองมีความตั้งใจมาทำงานการเมือง เพราะปรารถนาที่จะตอบแทนพระคุณแผ่นดินไทย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่เสียภาษีส่งให้ตนได้เรียนต่อต่างประเทศ ทำให้เด็กยากจนคนหนึ่งที่ต้นทุนชีวิตต่ำมาก ได้มีโอกาสที่ดีในชีวิตมากมาย ตนได้รับโอกาสจากพรรคให้ได้เข้ามาทำงานการเมือง จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ ด้วยความหวังและความตั้งใจที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาทำประโยชน์ตอบแทนผู้มีพระคุณ ซึ่งคือพี่น้องประชาชน

"การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แหม่มได้รับโอกาสจากผู้บริหารพรรคให้ได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 เป็นผู้หญิงคนเดียวใน 10 ลำดับแรก โดยที่ไม่ได้ร้องขอจากท่านใดเลย แต่เป็นความเมตตาล้วนๆ ของผู้บริหารพรรค ณ ขณะนั้น ที่เห็นเราทุ่มเททำงานให้พรรคตั้งแต่ยังตั้งไข่เมื่อมกราคม 2561 ทั้งที่แหม่มเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ไม่ใช่เด็กบ้านใหญ่ ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ แหม่มจึงอยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทางการเมืองได้เข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ บ้าง หากเราที่เคยได้รับโอกาสมาแล้ว ไม่เสียสละ คนใหม่ๆ ก็จะแทบไม่มีโอกาสที่จะได้ขึ้นมา จึงได้แสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาและผู้บริหารพรรคว่าขอสละสิทธิที่จะได้รับการเสนอชื่อในบัญชี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ดังนั้นวันนี้ ทางพรรคจึงจะมีการพิจารณาบัญชีรายชื่อกันใหม่อีกครั้ง"

นางนฤมล กล่าวว่า เคยพูดเสมอว่าถึงเวลา พปชร.ต้องผลัดใบ ให้พลังใหม่ได้เข้ามาทำงาน ครั้งนี้อาจจะได้ผลัดหนึ่งใบ ได้เห็นพลังใหม่หนึ่งใบผลิดอกออกผล ครั้งหน้าก็อาจจะได้ผลัดเพิ่มอีกหลายใบ ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้จึงจะเติบโตอย่างเข้มแข็งและสวยงาม และสำหรับตน การทำงานทางการเมืองไม่ได้มีเพียงการทำงานในสถานะ ส.ส.เพียงเท่านั้น ยังมีงานอีกมากมายหลายรูปแบบที่เราสามารถช่วยพรรค ช่วยผู้สมัคร และรับใช้พี่น้องประชาชนได้ ที่สำคัญที่สุด คือ อุดมการณ์ทางการเมือง เพราะสำหรับตน การทำงานการเมือง คือ การเสียสละ ไม่ใช่การเอาชนะ และไม่ใช่การยึดติดในตำแหน่ง ที่ตนเชื่อเสมอว่า เมื่อเราไม่ยึดติด เราจะมีอิสระทางความคิด ซึ่งนำไปสู่อิสระในการตัดสินใจในทุกๆ เรื่องเพื่อส่วนรวม

ผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตทางการเมืองหลังจากที่เสียสละไม่ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และจะช่วยงานพรรคอย่างไรบ้าง นางนฤมล กล่าวว่า จะช่วยงานอย่างอื่น เพราะมีความรับผิดชอบกับบุคคลที่พาเข้ามาทำงานกับพรรค และเสียใจที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนได้สมหวังในการลงรับสมัครเลือกตั้ง ที่เป็นผลมาจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ และเกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ทำให้เกิดผลกระทบ เพราะเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องนำพาเขาไปสู่การเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ตนยังช่วยงานสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้สมหวัง แล้ววันนี้ยังเป็นแม่ทัพในกทม.และขึ้นเวทีปราศรัยได้ไม่มีใครห้าม

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าสาเหตุเป็นเพราะลำดับบัญชีรายชื่อของนางนฤมล ตกไปอยู่ลำดับที่ 20 กว่าทำให้เกิดความไม่พอใจ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่มี และการประชุมพรรค วันที่ 22 มี.ค.ที่มีชื่อของตนอยู่ในลำดับตามที่เป็นข่าวและเป็นตามนั้นจริงๆ แต่เมื่อมองลำดับ 20 - 30 อันดับแรก ไม่เห็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจ ทุ่มเททำงานให้พรรค จะมีโอกาสเข้ามาทำงาน ถ้าเราไม่ถอยไม่เสียสละ ถ้าคิดว่าเป็นผู้บริหารต้องได้ลำดับต้น คนรุ่นใหม่จะไม่มีทางเข้ามาได้ และหลายพรรคการเมืองก็เป็นลักษณะที่คล้ายกัน จึงอยากให้เขาเข้ามามีโอกาสทำงานการเมืองแต่โอกาสจะเป็นไปได้น้อยถ้าไม่เสียสละ ส่วนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้อยู่ในบัญชีรายชื่อต้องหารือกับกรรมการสรรหาก่อนว่าจะเป็นใคร และตนได้เสนอชื่อไปแล้ว เป็นคนที่ทำงานมาร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคจัดลำดับให้ขยับมาอยู่ 1 - 3 จะเปลี่ยนใจหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหากดูจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรค พปชร.ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 19 คน ครั้งนี้คาดว่าจะได้ใกล้ๆ เดิม หากอยู่ในลำดับ 10 - 20 ก็มีโอกาสเข้าสภาทั้งสิ้น และ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้คัดค้านโดยระบุว่าตามใจ

เมื่อถามว่า หากผลเลือกตั้งพรรค พปชร.ได้กลับมา 12 ที่นั่งใน กทม.จะส่งผลต่ออนาคตของนางนฤมลหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรในเรื่องนี้ เพราะแค่จัดผู้สมัครลง 33 เขต ก็ลำบากใจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเสียสละครั้งนี้จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานจริงหรือเป็นแค่การเปิดช่องให้กับเด็กของคนบางกลุ่มเข้ามาทำงาน นางนฤมล กล่าวว่า ได้ฝากกรรมการสรรหาพิจารณาและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ แต่ท้ายที่สุดต้องเคารพมติของกรรมการ

‘ลุงหนู’ เห็นพ้อง ‘บิ๊กป้อม’ ผู้ได้เสียงมากสุด รวมเสียงข้างมากได้ ควรเป็นนายกฯ

หลังมีกระแสกรณีที่พรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐร่วมรับประทานอาหารมื้อเที่ยงที่ป่ารอยต่อฯ เมื่อ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็น โดยระบุว่า “ไม่ควรเอาคำพูดคนอื่นในวงสนทนามาเล่า ผม และพล.อ.ประวิตร หลักการเดียวกัน ผู้ได้เสียงมากสุด รวมเสียงข้างมากได้ ควรเป็นนายกฯ” 

‘ภูมิใจไทย’ ดันนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิต ‘คนพิการ’ ให้เข้าถึงอุปกรณ์เพื่อใช้ชีวิต - มีศักดิ์ศรีเท่าคนทั่วไป

เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.66) น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร่วมเสวนาในหัวข้อ 'คนพิการอยู่ไหนในการเมืองไทย' จัดโดยมหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมนำเสนอนโยบายด้านผู้พิการ ต้องการให้คนพิการมีความภูมิใจ มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มีพลังที่ไม่ใช่ภาระ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ เป็นพลเมืองดีของสังคม

น.ส.อนุสรี กล่าวว่า การส่งเสริมให้มีงานทำ มีอาชีพ มีรายได้ โดยคิดในกรอบภาพรวมใหญ่ มีกับดักหลายด้านที่ทำให้ทำไม่ได้ จึงต้องปฏิรูปกฎหมายส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่ระบบการลงทะเบียนคนพิการต้องไม่ตกหล่น มีการบริการถึงที่อย่างทั่วถึง และการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการลงทะเบียนออนไลน์ คนพิการต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิคนพิการอย่างเท่าเทียมสมบูรณ์

น.ส.อนุสรีกล่าวว่า มี 4 หน่วยงานรับผิดชอบ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กระทรวงแรงงาน (รง.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แต่ขาดการบังคับใช้กฎเกณฑ์ทางกฎหมายว่าหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเป็นอย่างไร

‘มณีรัตน์’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตพระโขนง-บางนา เตรียมลงพื้นที่แนะนำตัว พร้อมรับฟังปัญหา ปชช.

(24 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ‘มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์’ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภูมิใจไทย เขตพระโขนง-บางนา กรุงเทพฯ เตรียมลงพื้นที่พบปะประชาชน เพื่อแนะนำตัวและชูนโยบายพรรค พร้อมรับฟังปัญหาของชาวชุมชนหน้าวัดบุญรอด ซ.สุขุมวิท 62 เวลา 10.00 น. และที่ตลาดสี่แยกบางนา เวลา 17.00 น. ในวันพรุ่งนี้ (25 มี.ค.) 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top