Monday, 9 June 2025
SPECIAL

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผยความคืบหน้าคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ พบว่ามี ‘ตำรวจ’ 1 นาย เอี่ยวเรื่องนี้ด้วย!!

(2 พ.ค. 66) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะตำรวจคลี่คลายคดีการเสียชีวิตวางยาฆ่าชิงทรัพย์ จากนางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ ว่าในช่วงที่ 3-4 วันที่ผ่านมาคดีมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมเพื่อเร่งรัดสำนวนการสอบสวนที่เหลืออยู่ ตอนนี้ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 14 คน 14 คดี มีผู้รอดชีวิต 1 คน ซึ่งตอนนี้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับไปแล้ว 10 คดี และแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วพร้อมอายัดตัวผู้ต้องหา ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาอยู่ที่เรือนจำ ส่วนอีก 4 คดีที่เหลือวันนี้จะมาไล่เรียงทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ครบถ้วนทั้งหมด 14 คดี และตอนนี้ต้องมาดูพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงบุคคลใกล้ชิด ซึ่งยังไม่ขอเอ่ยชื่อ และวันนี้พบพยานหลักฐานแล้วว่ามีบุคคลใกล้ชิดเข้าไปเกี่ยวข้องและร่วมกันกระทำความผิด

ส่วนไซยาไนด์ตอนนี้พบแหล่งที่มาแล้ว อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วันนี้ได้ประสานอธิบดีกรมอุตสาหกรรมที่รับผิดชอบและดูแลเรื่องการอนุญาตการนำเข้า ซึ่งเมื่อนำเข้ามาแล้วจะต้องมีวิธีการควบคุมไม่ให้กระจายออกไป ไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และต้องใช้ตามวัตถุประสงค์ที่นำเข้ามา โดยวันนี้ได้ขออนุมัติหมายค้นเข้าตรวจค้นแหล่งที่มาของไซยาไนด์แล้ว เบื้องต้นมีรายงานว่าเป็นโรงงานแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ถ้าพบการกระทำผิดในส่วนนี้ก็จะดำเนินคดีด้วย และวันนี้ได้ประสานอธิบดีกรมโรงงานและเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา (อย.)

ส่วนการประชุมในวันนี้เป็นการตรวจสอบพยานหลักฐานและเรียบเรียงสำนวนทั้ง 10 สำนวน เพื่อเพิ่มความแน่นหนาของพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้สำนวนมีความรัดกุมที่จะสามารถให้ศาลพิพากษาลงโทษผู้กระทำความผิดได้ ส่วนอีก 4 คดี ก็จะเร่งรัดดำเนินการเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับให้ครบถ้วน ในส่วนทั้ง 10 คดี พยานหลักฐานจะแตกต่างกันบางส่วน แต่หลักการสำคัญคือความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดของนางแอม ซึ่งยืนยันว่าเป็นคนลงมือและก่อเหตุในลักษณะคล้ายกัน คือนำไซยาไนด์มาให้เหยื่อกิน ถึงแม้การชันสูตรพลิกศพจะพบสารไซยาไนด์ในร่างผู้เสียชีวิตเพียง 2 ราย แต่แผนประทุษกรรมพบว่าสามารถเชื่อมโยงไปถึงกรณีอื่นได้ ภายใน 1-2 วัน จะรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้

‘บุญยอด’ แนะ ‘ก้าวไกล’ พูดถึงใครต้องให้เกียรติกัน ต้องไม่สาดโคลนใคร ไม่ด้อยค่าใคร 

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 66 นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ตอบโต้พรรคก้าวไกลผ่าน ‘หมออ๋อง’ นสพ.ปดิพัทธ์ สันติภาดา จากพรรคก้าวไกล หลังจากมีการพูดจาดูถูกพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในแทบทุกการหาเสียงของพรรคก้าวไกล ในช่วงหนึ่งของเวทีดีเบต BIG DEBATE จังหวัดพิษณุโลก โดยกล่าวว่า…

“นักการเมืองไม่ควรพุ่งเป้าไปสู่คู่แข่งขันอย่างไม่เป็นธรรม เปรียบเหมือนกันกับไม่มีนักมวยคนใด หรือนักฟุตบอลคนใด ไปด่าว่าปรามาสคู่แข่งขัน เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และสิ่งที่กระทำมา ถ้ามันผิดหรือไม่ถูกต้อง สามารถใช้กระบวนการทางกฎหมายได้

“พรรคก้าวไกลต้องกลับไปทบทวนเหมือนกันว่า เวลาจะพูดถึงใครต้องให้เกียรติกัน คุณดูถูก ดูแคลน ดูหมิ่น ทุกครั้งโดยไม่ให้เกียรติไม่ได้ เนื่องจากในกติกาการหาเสียงเลือกตั้งทุกครั้ง เราต้องไม่สาดโคลนใคร ไม่ด้อยค่าใคร ลองไปทบทวนดูก่อน และควรต้องตอบคำถามด้วยว่า หัวหน้าพรรคของคุณทำไมชอบโกหกประชาชนนักด้วย”

เกี่ยวกับเรื่อง ส.ว. 250 คน นายบุญยอด ก็ได้กล่าวอีกด้วยว่า “กติกาของรัฐธรรมนูญ 60 จะให้สิทธิ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ได้เพียง 5 ปี นั่นคือปีนี้จะเป็นปีสุดท้าย และนั่นคือกติกาที่ร่างไปแล้ว และผ่านประชามติไปแล้ว กติกาได้เกิดขึ้น พวกท่านได้เข้าสู่การแข่งขันเมื่อปี 62 จำนวน 1 ครั้ง และปี 66 อีก 1 ครั้ง

“ตามกติกานั้น ได้เกิดขึ้นในสภาฯ แล้ว และในวันนั้น คนคงพอจำได้มีคนที่เป็นแคนดิเดต 2 คนเท่านั้น คือ…พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ นี่คือข้อเท็จจริง 

กกต. จัดสิ่งอำนวยความสะดวก ‘คนพิการ-ผู้สูงอายุ’  เพื่อให้ได้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

วันนี้ (2 พ.ค. 66) นายวีระ ยี่แพร รองเลขาธิการกกต. ในฐานะประธานอนุกรรมการด้านการอำนวยความสะดวกคนพิการและผู้สูงอายุ ศูนย์อำนวยการและประสานงานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานกกต. กล่าวว่า สำนักงานกกต.ได้จัดเตรียมการอำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ ในการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ภายใต้แนวคิดผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนต้องได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังนี้

1. จัดทำสื่อคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. (อักษรเบรลล์) เพื่อใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส.แก่ผู้พิการทางสายตา พร้อมจัดทำไฟล์เสียงคำบรรยายคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. โดยสามารถสแกน QR Code เสียงบรรยายได้จากหน้าปกคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. ตรงมุมด้านล่างซ้ายมือของคู่มือประชาชนรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. (อักษรเบรลล์)

2. จัดทำวีดิทัศน์อินโฟกราฟิกและเพลงขับร้องโดยอรรณพ ทองบริสุทธิ์ ปอ AF 7 พร้อมล่ามภาษามือ เพื่อสื่อสารและสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. 

3. สำนักงานกกต.จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ได้จัดทำป้ายไวนิลแนะนำผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. โดยจะติดตั้งบริเวณด้านหน้าที่เลือกตั้งที่มองเห็นชัดเจน และติดตั้งภายในที่เลือกตั้งที่สามารถมองเห็นได้ในระดับสายตาเพื่อให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งรับทราบและสามารถจดจำข้อมูลของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย ข้อมูล ชื่อ-สกุล รูปถ่าย หมายเลขผู้สมัคร ตราสัญลักษณ์พรรคการเมือง 

4. สนง.กกต. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดให้ความรู้ความเข้าใจในการอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยจัดทำสื่อวีดิทัศน์สาธิตการใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้พิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ พร้อมล่ามภาษามือ เพื่อเป็นการสร้างความรู้ความเข้าใจในการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้พิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยมีการถ่ายทำที่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จังหวัดนนทบุรี ได้รับความร่วมมือจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน ทางสายตา และทุพพลภาพทางกาย มาร่วมแสดงและสาธิตในการถ่ายทำวีดิทัศน์ดังกล่าว วีดิทัศน์ดังกล่าวได้มีการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ของทั้งสองหน่วยงาน

นอกจากนี้ ในการลงคะแนนเลือกตั้ง สำนักงานกกต.ยังได้จัดให้มีการอำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุโดยในหน่วยเลือกตั้งปกติ จัดให้มีบัตรทาบสำหรับคนพิการทางสายตาและอำนวยความสะดวกอื่น ๆ โดยมีคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) รด.จิตอาสา ลูกเสืออาสา กกต. เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย เป็นผู้ช่วยเหลือในการใช้สิทธิลงคะแนน รวมทั้งยังจัดที่เลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการหรือทุพพลภาพหรือผู้สูงอายุ โดยผู้ใช้สิทธิที่ลงทะเบียน ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ ณ ที่เลือกตั้งกลางที่กำหนดไว้ 26 แห่ง ใน 21 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 2,380 คน

‘พท.’ จัดแคมเปญยกระดับชีวิตคนกรุงฯ ‘แล่นสไลด์ ไปเปลี่ยนชีวิตคนเมือง’  ชวนผู้สมัครส.ส. ใช้รถสาธารณะเดินทาง ตอกย้ำนโยบาย 20 บาทตลอดสาย

เพื่อไทยจัดใหญ่ ‘แล่นสไลด์ ไปเปลี่ยนชีวิตคนเมือง’ 5 พ.ค. ชวนผู้สมัคร ส.ส.กทม.เดินทางจากบ้านถึงพารากอนด้วยขนส่งสาธารณะ ตอกย้ำนโยบาย 20 บาท ตลอดสาย

(2 พ.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และผอ. ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งส.ส.พรรคพท. และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 20  ลาดกระบัง (ยกเว้นแขวงลำปลาทิว) พรรคพท.แถลงการจัดงาน “แล่นสไลด์ ไปเปลี่ยนชีวิตคนเมือง : จากการเดินทาง สู่การสร้างมหานครเพื่อคนไทย” ในวันที่ 5 พ.ค.ตั้งแต่เวลา 15.30 น. ณ ลานพาร์คพารากอน เขตปทุมวัน

นายประเสริฐ กล่าวว่า เพื่อปักธงนโยบายคมนาคมของพรรคพท. ซึ่งจะเป็นนโยบายยกระดับชีวิตคนเมือง จากกรุงเทพฯ พื้นที่ปริมณฑล สู่การกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ พรรคพท.จึงจัดงานดังกล่าวขึ้นโดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วน คือภารกิจและงานเสวนา กิจกรรมนี้เป็นการจัดงานครั้งใหญ่อีกหนึ่งครั้งก่อนปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายของพรรค พท.ที่จะจัดขึ้น เพื่อสื่อสารกับคนเมือง คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยเฉพาะ ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญของพรรคพท.ที่มีนโยบายคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน ผ่านการเข้าใจ และเข้าถึงพื้นที่จริงของผู้สมัครส.ส. ทุกเขต

ส่องดีกรี 2 ตัวตึง!! ‘ชัยวุฒิ ไข่ต้ม’ vs ‘วิโรจน์ ไข่ตุ๋น’

ส่องดีกรี 2 ตัวตึง!! ‘ชัยวุฒิ ไข่ต้ม’ vs ‘วิโรจน์ ไข่ตุ๋น’

ประเด็น สถาบันพระมหากษัตริย์ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างช้านาน

เมื่อไม่นานมานี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ  ได้กล่าวถึงประเด็น สถาบันพระมหากษัตริย์ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างช้านาน โดยระบุว่า

ตำรวจไซเบอร์ รวบแก๊งหลอกลวงเป็นชาวต่างชาติส่งพัสดุราคาแพงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จ่ายค่าธรรมเนียม สูญเงินกว่า 36 ล้านบาท

วันนี้ (2 พ.ค. 2566) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ได้สั่งการให้มีการจับกุมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหลอกลวงสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างจริงจัง

สืบเนื่องจากเมื่อต้นปี 2564 มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก โปรไฟล์ ชื่อ 'Helen' ส่งข้อความมาหาผู้เสียหายทางเฟซบุ๊ก อ้างว่า ถูกกักตัวอยู่ในค่ายทหารที่ประเทศซีเรีย โดยมีแผนที่จะหลบหนี เพราะในค่ายมีการสู้รบกันทุกวัน จึงขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหาย ให้รับพัสดุที่จะส่งมายังประเทศไทยไว้ให้ก่อน แล้วจะมารับพัสดุดังกล่าวภายหลังจาก เข้ามาประเทศไทย โดยแจ้งแก่ผู้เสียหายว่าในกล่องพัสดุดังกล่าวเป็นเงินสหรัฐ จำนวน 1,700,000 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 50 ล้านบาท ต่อมามีการติดต่อกันผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อ 'Helen' และ 'T' จากนั้นเฟซบุ๊กดังกล่าวก็มีการปิดตัวลง

‘อภิสิทธิ์’ ปะทะคารมเดือด ‘ธนาธร’ ถกประเด็นม.112 ชี้!! ‘ก้าวไกล’ ทำสับสน บางวันแก้ไข บางวันยกเลิก

เมื่อวานนี้ (1 พ.ค. 66) ในรายการยืนหนึ่งชิงนายก ที่มีพิธีกรนำโดย ‘พุทธ อภิวรรณ’ และ ‘ธีระ ธัญญอนันต์ผล’ ซึ่งมีตัวแทนจาก 2 พรรค อย่าง ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’  ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ที่ได้ถกถึงประเด็นการแก้หรือยกเลิก ม.112

นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวว่า “เอาตรงๆ ที่คนมองว่าเป็นเรื่องสุดโต่งมันเป็นประเด็นเรื่องเงื่อนไข ม.112 ซึ่ง ม.112 ก็มีความสับสนอีก เพราะว่าคุณพิธา บางวันก็บอกว่ายกเลิก บางวันก็บอกว่าแก้ 3 ประเด็น ถ้าเป็นแค่เรื่องแก้ไขบางผมว่าบางคนก็มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง แต่ถ้าบอกว่ายกถูกก็ถูกมองว่าสุดโต่ง”

ซึ่งนายธนาธร ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “อันนี้ผมว่าคุณอภิสิทธิ์ เข้าใจผิดแน่ๆ เลยนะครับ ไม่เคยมีใครบอกว่ายกเลิก”

นายอภิสิทธิ์ ได้สวนกลับว่า “คุณพิธา ได้ไปติกสติกเกอร์บนเวทีว่ายกเลิกหรือแก้ไข” 

นายธนาธร ได้แก้ต่างว่า “อันนั้นบังคับ Yes or No แต่นโยบายพรรคไม่ใช่แค่พูด ทำไปแล้ว เสนอกฎหมายเข้าสู่สภาฯ ”

นายอภิสิทธิ์ ได้ถามกลับว่า “แล้วทำไมถึงไปติดสติ๊กเกอร์ตรงยกเลิก แทนที่จะติดว่าแก้ไข”

นายธนาธร ได้ให้คำตอบว่า “อันนั้นคุณพิธา อาจจะคิดได้ในนามส่วนตัว”

นายอภิสิทธิ์ ได้สวนกลับว่า “แต่คุณพิธา เป็นหัวหน้าพรรค”

นายธนาธร ได้ย้อนไปว่า “คุณอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคหรือเปล่าครับ ในการเลือกตังครั้งที่แล้ว แล้วคุณพูดว่าอะไรครับ”

นายอภิสิทธิ์ จึงได้ตอกกลับไปว่า “ผมพูดแล้วผมลาออกครับ แล้วคุณพิธาจะลาออกไหมครับถ้าไม่ยกเลิก”

นายธนาธร ยังได้แก้ต่างอีกว่า “เขาไม่ได้พูดในเวทีสาธารณะเลยว่าจะยกเลิก ส่วนการติดสติกเกอร์เป็นความเห็นส่วนตัว”

ซึ่งพิธีกรฝีปากกล้าอย่าง พุทธ อภิวรรณ ได้ตั้งคำถามว่า “มันแยกได้เหรอครับ เขาเป็นหัวหน้าพรรค กับส่วนตัว เขาคือแคนดิเดตนายกฯ เลยนะ”

นายธนาธร ตอบกลับว่า “ลองกลับไปอ่านสิ่งที่คุณพิธาพูดนะครับ ว่าคุณพิธาพูดถึงเรื่องนี้ว่ายังไง การเสนอแก้ไขเป็นวิธีที่ดีที่สุด ถ้าเสนอแก้ไขเพื่อให้พูดจากันได้ยังทำไม่ได้ ก็ต้องอาจเสนอยกเลิก นี่คือสิ่งที่เขาพูด ไปลองฟังดูสิครับ”

พุทธ ได้ถามย้ำอีกว่า “เริ่มจากแก้ แต่การที่ไปติดสติกเกอร์ยกเลิกนี่กำลังจะหมายความว่าอย่างไร”

นายธนาธร ตอบกลับว่า “มันเรื่องส่วนตัวของเขา เขาจะไปติดอะไรก็ค่อยว่ากัน”

นายอภิสิทธิ์ ได้ตั้งคำถามอีกว่า “บังเอิญอันนี้ไม่ใช่ว่าคุณพิธาไปเดินอยู่แล้วมีคนมาให้ติดสติ๊กเกอร์โดยที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่มันอยู่บนเวทีเลย และเขาเองก็พูดด้วย ซึ่งผมเองไม่ได้ติดใจอะไรนะถ้าคุณพิธามาบอกว่าเปลี่ยนแปลงแล้วนี่คือนโยบาย”

เปิดคำดีเบต 'หมอมิ้ง' ยืนยัน!! ชูกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น แต่ก่อนหน้า 'พรรคไหน' เตะถ่วง พ.ร.บ.กัญชา ให้ค้างเติ่ง

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 66 นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นดีเบตบนเวที ‘ตัวจริงชิงสภา’ ทางช่องวัน 31 ในหัวข้อ ‘ประชันวิสัยทัศน์ : กัญชา’ โดยนายพรหมินทร์กล่าวว่า 

“ในฐานะที่เป็นแพทย์ เรารู้ดีว่ากัญชามีสรรพคุณทางการแพทย์ และสนใจเรื่องนี้มาหลายปี แต่แน่นอนว่าหากเราปล่อยให้ใช้โดยไม่มีกฎหมายควบคุม ก็จะเป็นปัญหาได้ โดยปัญหานี้เกี่ยวกับเรื่องของสมองและพฤติกรรม ดังนั้นหากจะให้นำมาใช้ต้องมีกฎหมายที่ดีในการควบคุม อย่างเช่น บุหรี่และเหล้า ล้วนแล้วแต่เป็นยาเสพติดแต่ก็มีกฎหมายควบคุม ดังนั้นกัญชาก็ต้องมีกฎหมายที่ดีควบคุมเสียก่อน จึงจะนำมาใช้ได้”

‘สุวัจน์’ โชว์วิสัยทัศน์ ชู 4 จุดแข็งของโคราช ดันไทยโกอินเตอร์  นำร่อง ‘ยูเนสโกรูท’ สู่ถนนท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

‘สุวัจน์’ จับเข่าคุย โคราชท่องเที่ยวอินเตอร์ นำร่อง ‘ยูเนสโกรูท’

(2 พ.ค.66) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า แสดงวิสัยทัศน์กับผู้ประกอบการสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโคราช ปากช่อง-สีคิ้ว-วังน้ำเขียว ว่าประเทศไทยมีความเข้มแข็งและยั่งยืนหนึ่งในด้านสินค้าเกษตรเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ 2.เรื่องท่องเที่ยวอินเตอร์ 3.เมืองไทยเมืองอาหารป้อนโลก และ 4.Soft power มาสร้างพลังทางเศรษฐกิจ ทั้ง 4 เรื่องเป็นจุดแข็งของประเทศไทย 

ฉะนั้น โคราชเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์ มีความสมบูรณ์ทางด้าน Soft Power ที่สามารถหยิบพวกนี้เป็นเศรษฐกิจได้หมดทั้งด้านกีฬามวย ด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรีมีเพลงโคราช อาหารเนื้อวากิว หมี่โคราช ไก่ย่าง ขนมจีน ดังนั้น การคมนาคมต้องทันสมัย มอเตอร์เวย์โคราชต้องเปิดใช้ปีนี้ รถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟรางคู่โคราชต่อไปถึงหนองคายไปเวียงจันทน์ไปจีน ประเทศคู่ค้าของเรามีประชากร 1,400 ล้านคน และต่อไปรัสเซีย ตามเส้นทางสายไหมเชื่อมไปยุโรป นี่คือแนวทางในการสร้างโคราชเป็นเมืองท่องเที่ยวอินเตอร์

“พัฒนาโคราชเป็นเมืองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวอินเตอร์ ยูเนสโก กําลังจะประกาศให้โคราชเป็นอุทยานธรณีโลก วันนี้เรามีเขาใหญ่เป็นมรดกโลก มีเขตพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราชเป็นมรดกโลก ฉะนั้น ถ้าเดือนพฤษภาคมนี้ โคราชได้รับการรับรองให้เป็นอุทยานธรณีโลก โคราชจะเป็น 1 ใน 3 จังหวัดของโลก ที่มี Triple Crown (ทริปเปิ้ลคราวน์) มีสามมงกุฎของยูเนสโกอยู่ที่นี่ เราจะดีไซน์การเชื่อมโยงสามมงกุฎนี้ด้วย “ถนนยูเนสโกรูท” แล้วพัฒนาให้เป็นถนนท่องเที่ยวระดับโลก เป็นพื้นฐานในการสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ยิ่งใหญ่ต่อไป” นายสุวัจน์ กล่าว

‘ชวน’ หนุน ‘แนน ศิริภา’ ลุยขอคะแนนชาวฝั่งธนฯ ย้ำ!! 14 พ.ค. เข้าคูหาเลือกคนซื่อสัตย์ ทำงานเพื่อบ้านเมือง

‘นายหัวชวน’ เดินเท้าตลาดพลู ขอชาวฝั่งธนหนุน ‘แนน ศิริภา’ ย้ำ 14 พ.ค. เลือกคนซื่อสัตย์ เข้าสภาฯ ยกคดีส.ส.ตบทรัพย์ เป็นบทเรียนประชาชน อย่าเลือกนักการเมืองสีเทา 

(2 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ลงพื้นที่ย่านตลาดพลู เขตธนบุรี ขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้กับ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคฯ และผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ หมายเลข11 โดยนายชวน เดินพบปะทักทายบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น คนวัยทำงาน ที่มักจะมาท่องเที่ยวตลาดยามค่ำ ซึ่งเป็นอีกแลนด์มาร์คสำคัญของฝั่งธนบุรี มีร้านค้าอาหาร หลากหลายคงความดั้งเดิมและวิถีชีวิตของชาวตลาดพลูทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก 

นายชวน ได้ขอคะแนนเสียงให้ชาวฝั่งธนบุรี ช่วยกันเลือก น.ส.ศิริภา เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ และเป็นผู้หญิงที่มีความรู้ความสามารถ เชื่อว่า จะสามารถเป็นตัวแทนของชาวฝั่งธนบุรี ได้เป็นอย่างดี สมกับที่ตนสนับสนุนในฐานะที่เคยเป็นเลขาของตนระหว่างทำหน้าที่ในสภาฯ พร้อมกับ ขอคะแนนเสียงให้กับตนเอง ในฐานะผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ หมายเลข 26 พรรคประชาธิปัตย์ด้วย

‘พุทธิพงษ์’ ช่วย ‘แม่มณี’ อ้อนขอคะแนนชาวพระโขนง-บางนา ชูนโยบายลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ ย้ำ!! ทุกนโยบายทำได้ทันที

‘พุทธิพงษ์’ ทุ่มสุดตัวดัน ‘แม่มณี’ ตัวเต็งพระโขนง-บางนา สู้ศึกเลือกตั้ง

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่ชุมชมย่านวัดวชิรธรรมสาธิตวรวิหาร หรือวัดทุ่งสาธิต เขตพระโขนง เดินพบปะประชาชนพร้อมขอคะแนนให้ นางสาวมณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. พระโขนง-บางนา พรรคภูมิใจไทย หมายเลข 6 โดยพี่น้องประชาชนให้การตอบรับอย่างดี ต่างเข้ามาทักทายขอถ่ายภาพ บ้างก็มอบดอกไม้และผลไม้ให้นายพุทธิพงษ์และนางสาวมณีรัตน์ เพื่อเป็นการให้กำลังใจ

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ได้ตอกย้ำ ถึงนโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้พี่น้องประชาชนของพรรคภูมิใจไทย โดยการลดภาระค่าใช้จ่ายประจำแต่ละเดือนด้านพลังงาน ค่าน้ำมัน ค่าไฟ ที่หากได้รับโอกาสเป็นรัฐบาล มีนโยบายติดตั้งโซล่าเซลล์บนหลังคาทุกบ้าน ช่วยประหยัดไฟได้ 450 บาทต่อครัวเรือนโดยที่รัฐบาลจะมีการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ให้กับประชาชนฟรี พร้อมทั้งให้สิทธิ์ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในราคาผ่อน 6,000 บาท ให้ผ่อน 60 งวด เดือนละ 100 บาท วินมอเตอร์ไซค์ไม่ต้องใช้รถที่เติมน้ำมันสามารถเสียบชาร์จไฟจากแผงโซล่าเซลล์เองที่บ้านได้ ประหยัดไฟ ประหยัดพลังงานด้วย

‘ชัยวุฒิ’ ชูนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ในระยะยาว หนุนโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง-สิทธิครอบครองที่ดินถูกกฎหมาย 

‘พปชร.’ ชูนโยบายช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต ด้วยโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง พร้อมให้สิทธิครอบครองที่ดินถูกกฎหมาย 

(1 พ.ค. 66) สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี เปิดเวทีบิ๊กดีเบต เลือกตั้ง66 #วาระคนไทย ที่จังหวัดพิษณุโลก

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า เกษตรกรเป็นประชากรกลุ่มหลักของประเทศ พรรคพลังประชารัฐมีความห่วงใยเกษตรกร เนื่องจากปัญหาต้นทุนการผลิตปัจจุบันสูงขึ้นมาก ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาปุ๋ยที่แพงขึ้น พรรคพลังประชารัฐเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรีบเข้ามาดูแล ด้วยการลดราคาเชื้อเพลิง น้ำมันเบนซินลดลง 18 บาทต่อลิตร ดีเซล 6 บาทต่อลิตร และผลักดันให้เกิดโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง การจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร การประกันรายได้ให้กับเกษตรกร ครอบครัวละ 30,000 บาท ที่สำคัญในระยะยาวเพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ทางพรรคจะนำเทคโนโลยี สมาร์ทฟาร์ม ในการนำ AI มาช่วยวางแผนการผลิต และพัฒนาระบบชลประทานเพื่อให้มีน้ำพอเพียงต่อการทำเกษตรกรรม

ในเรื่องของการที่ประชาชนบุกรุกพื้นที่ป่า ทางพรรคพลังประชารัฐเข้าใจถึงปัญหานี้เป็นอย่างดี โดยทางพรรคจะเร่งรัดการออกเอกสารสิทธิ์สำหรับพี่น้องที่อยู่มาก่อนจะเป็นพื้นที่ป่า เพื่อให้ประชาชนได้ใช้พื้นที่ป่าทำมาหากินและอยู่อาศัยได้อย่างถูกกฎหมาย พร้อมชะลอการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่บุกรุกพื้นที่ป่า ส่วนเรื่องของการเปลี่ยนที่ดินสปก. เป็นโฉนดนั้น ทางพรรคพลังประชารัฐพร้อมที่จะทำทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีเอกสารสิทธิ์ที่มั่นคง เปลี่ยนมือได้ และสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ในอนาคต  รัฐบาลยังมีการนำโครงสร้างภาษีที่ดิน ลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนได้ เพราะสำหรับผู้ที่ครอบครองที่ดินถ้าไม่ได้ทำประโยชน์ต้องเสียภาษีให้กับรัฐในอัตราร้อยละ 3 แต่สำหรับผู้ที่ใช้ประโยชน์จากที่ดินจะเสียภาษีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งตรงนี้จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ ส่วนการกระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมนั้น เรื่องนี้รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่แล้ว ตอนนี้ต้องไปดูแลจัดหาที่ทำกินให้ ออกเอกสารสิทธิให้ สร้างที่อยู่อาศัยสำหรับพี่น้องประชาชน ให้ดำรงชีวิตอยู่ได้

'พงศ์กวิน-ดร.ตั้น' นำทัพ 'เพื่อไทย' ลุยหาเสียงพื้นที่บางแค ลั่น!! พท.เข้าสภาเกิน 310 เสียง ปักหมุด กทม.25 ที่นั่ง

'พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ' ลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย ลงพื้นที่เขตบางแค ประกาศ พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เกิน 310 เสียง! กทม. กวาด ส.ส. เกิน 25 คน แน่นอน!

'โซนบางแค' ถือเป็นอีกสนามเลือกตั้งที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนัก โดยมีผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยที่น่าจับตาและถือว่ามีฐานเสียงจำนวนมากในย่านนี้

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2566 ตลาดพลอยทะเลโรงท่อ แขวงบางไผ่ เขตบางแค นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ตลาดพลอยทะเลโรงท่อและขึ้นเวทีปราศรัย พร้อม ดร.ตั้น กฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ลงสมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 29 เบอร์ 9 ภายใต้การต้อนรับจากคนในพื้นที่อย่างอบอุ่น

นายพงศ์กวิน กล่าวว่า "การพบปะและทักทายพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การมาหาเสียง แต่เป็นการมารับฟังเสียงของประชาชน ว่าต้องการให้ช่วยเหลืออะไร ซึ่งประชาชนจำนวนมากได้เข้ามาทั้งพูดคุยและฝากเรื่องมากับพรรคเพื่อไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากผู้สมัครฯ ในพื้นที่นี้ได้มีโอกาสเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน ขอให้มั่นใจได้ว่าจะดูแลและจัดการทุกปัญหาอย่างแน่นอน เพราะเดิมทีนั้น ท่านดร.ตั้น ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตนี้ ก็ทำหน้าที่เสมือน ส.ส.พื้นที่แม้จะไม่ได้เป็น ส.ส.มาอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปีที่ผ่านมาอยู่แล้ว"

'พุทธิพงษ์' ชี้!! คน กทม. โหยหาการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเดิม มั่นใจ!! นโยบาย 'ภูมิใจกรุงเทพ 24/7' ตอบโจทย์ทุกมิติ

(2 พ.ค.66) จากรายการ ‘ถลกข่าว ถลกคน’ รายการเกาะติด-เจาะลึกการเลือกตั้ง 2566 โดยสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ร่วมกับ TV Direct ช่อง 76 (จานดาวเทียม PSI) ได้เชิญนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกทม. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มาพูดคุยในเรื่องเหตุผลที่ปักธงเข้าร่วมทำงานกับพรรคภูมิใจไทย และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทย

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะมาเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ตนได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคหลายคน ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่แห่งพรรคภูมิใจไทย นอกจากนี้ก็มีพรรคการเมืองอีกหลายพรรคที่ได้เข้ามาชักชวนให้ไปร่วมงานด้วย แต่สุดท้ายก็เลือกปักธงที่ภูมิใจไทย ซึ่งทางพรรคภูมิใจยื่นโอกาสให้ได้คัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ใน 33 เขตของกรุงเทพ และให้โอกาสร่วมร่างนโยบาย 'ภูมิใจกรุงเทพ 24/7' ถึงแม้จะมีขั้นตอนที่มากมาย แต่เต็มใจทำเพื่อพี่น้องประชาชน

"โดยส่วนตัว ไม่ได้มีปัญหากับพรรคไหนเลย สามารถไปอยู่ตรงไหนก็ได้ แต่ก็ตอบได้ง่ายๆ เลยคือเรื่องของ ‘โอกาส’ ทางพรรคภูมิใจไทยให้โอกาสผมได้ทำงาน" นายพุทธิพงษ์กล่าว

นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ผมดูแลพื้นที่กรุงเทพ ก็มีนโยบายที่ดูแลคนกรุงเทพฯ ซึ่งไม่เคยมีคนทำมาก่อน เคยคิดหรือไม่ว่าทำไมค่าไฟเราแพงอยู่ทุกวัน ไม่เคยลดลง ไม่เคยนิ่งอยู่เฉยๆ แต่กลับพุ่งขึ้นตลอด ถ้าหากเราไม่คิดเรื่องการพักหนี้ให้กับพี่น้องประชาชน แล้วมาพูดว่าจะเดินหน้าเศรษฐกิจ ทำนู่นทำนี่ มันทำไม่ได้หรอก

“ถามว่า มันใช่เรื่องเหรอที่ต้องไปนั่งเข้าคิว เพื่อเอาชีวิตรอด เราอยากให้การเมืองเปลี่ยน อยากได้การเมืองที่ไม่มีผลประโยชน์ อยากได้การเมืองที่มันสมัย การเมืองที่คิดไปข้างหน้า” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ต่อข้อคำถามที่ว่าจนถึงนาทีนี้หลายคนก็ยังมองว่า ‘ภูมิใจไทย’ ไม่สามารถปักธงในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้เลย นายพุทธิพงษ์ตอบว่า หลายคนบอกว่าจุดอ่อนของภูมิใจไทยคือไม่เคยมี ส.ส. ในกรุงเทพฯ เลย แต่ผมกลับมองต่างออกไป ผมเชื่อว่าวันนี้คน กทม. ต้องการการเปลี่ยนแปลง คนกรุงเทพ เวลาจะเลือก ส.ส. เขาจะเลือกด้วยเหตุผลว่า ครั้งนี้จะเลือกไปเพราะอะไร เลือกไปทำอะไร เลือกเพื่ออะไร?

"การเลือกตั้งทุกครั้ง พื้นที่กรุงเทพถือเป็นพื้นที่ที่หักปากกาเซียน บางครั้ง พรรคที่ได้ ส.ส. ในกรุงเทพเยอะๆ สุดท้ายหลังเลือกตั้งจบไม่เหลือ ส.ส. เลยก็มีนะครับ และที่ผ่านมา พรรคที่ได้เยอะ ก็เป็นพรรคที่ไม่เคยมี ส.ส. ในกรุงเทพเลย" นายพุทธิพงษ์กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top