Friday, 13 June 2025
SPECIAL

นรข.เข้มชายแดน กันลักลอบเข้าเมือง หลังคิงส์โรมันโควิดระบาด ด้าน ฉก.ม.3 สกัดลักลอบเข้าเมืองต่อเนื่อง

ค่ำวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา นายประจญ  ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง น.อ.จิรัฐ ผูกทอง ผบ.นรข.เขตเชียงราย ร่วมกับปกครอง ตำรวจ และทหาร ออกตรวจตราตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าออกเมือง โดยทาง หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง หรือ นรข.เขต เชียงราย ได้มีการลาดตระเวณ ทั้งทางบก และทางน้ำเพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง จาก สปป.ลาว โดยเฉพาะทางแม่น้ำโขง

ซึ่งที่ผ่านมามีการพบการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โควิด -19 ในพื้นที่คิงส์โรมัน ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เกาะดอนซาว เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเกือบ 300 ราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีส่วนหนึ่งที่เป็นคนไทย ซึ่งอาจจะมีการลักลอบเดินทางเข้ามาในเขตประเทศไทยได้

ในส่วนของ ชายแดนด้าน อ.แม่สาย ทางเจ้าหน้าที่่ ทหารร้อย ม.3 บก.ควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบคนไทยจำนวน 4 คน เดินอยู่บนถนนทางขึ้นวัดถ้ำผาจม หมู่ 1 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย ติดชายแดนไทย-เมียนมา จึงได้เข้าทำการควบคุมตัวเอาไว้ จากการตรวจสอบทราบว่าชื่อ น.ส.ทาลิธา  เรือนงาม อายุ  47 ปี  ชาว ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี น.ส.กนกพร สิทธิยอดปรีชา อายุ 35 ปีชาว ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นายนัทที บุญนาวา อายุ 35 ปี ชาว ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ และนายสมใจ สัมพันแพร อายุ  31 ปี ชาว ถ.นครถุง แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ

การสอบถามทั้ง 4 คน ก็สารภาพว่าเดินทางมาจากเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา หลังจากได้ลักลอบข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมาเพื่อหางานทำและเยี่ยมญาติ และเมื่อจะเดินทางกลับได้เสียค่าจ้างให้คนนำพาหัวละ 10,000-13,000 บาท  เจ้าหน้าที่จึงดำเนินคดี เป็นบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไม่เดินทางเข้ามาตามช่องทาง  ด่านตรวจคนเข้าเมือง  เขตท่า สถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลาฯ ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดารบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน  พ.ศ.2548 และข้อหาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบ คุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 (คำสั่ง จ.เชียงรายที่ 1380/2563ฯ ) จากนั้นควบคุมตัวดำเนินคดีและกักตัวเป็นเวลา 14 วันตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ตามกฎหมาย  อีกราย เจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจบริเวณท่าข้ามหลังวัดถ้ำผาจมใกล้เคียงกับจุดเดิม พบชายทราบชื่อภายหลังคือ นายซออะแว อู อายุ 29 ปีชาวสัญชาติอินเดีย  ได้ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย อ้างว่าจะเดินทางไปกรุงเทพฯ  สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าไม่มีงานทำที่แน่นอน และอาศัยอยู่ในฝั่ง ท่าขี้เหล็กมาหลายปัแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ผลักดันเพื่อกลับไปยังประเทศเมียนมา


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ / เชียงราย

สลด พระชาวเมียนมาร์ ผูกคอตัวเองมรณะภาพใต้ต้นไม้ในวัด

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 21 พ.ค.64 พ.ต.ต.วันชัย แสงอ่วม สว.(สอบสวน)สภ.บ้านบึง ได้รับแจ้งมีเหตุพระสงฆ์ผูกคอตัวเองมรณะภาพภายในวัดเจริญธรรม เลขที่ 186 ซอยหมู่บ้านบึงทองธานี ตำบลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ในที่เกิดเหตุพบเป็นป่าบริเวณหลังวัด พบเข้าตรวจสอบพบพระ ซ้อ ปิตะ( ชาวพม่า) อายุ 31 ปีสภาพใช้ จีวร ทำเป็นเชือกผูกคอตัวเองที่ต้นไม้มรณะภาพ กู้ภัยจึงรีบแกะจีวรนำร่างของพระซ้อ ปิตะ ลงมาจากต้นไม้

จากการสอบถาม นางลักคณา วงศ์ษารุทสิโรจ อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ชอบมาถือศีลที่วัดนี้เป็นประจำได้เล่าว่าพระซ้อ ปิตะ รูปนี้เป็นพระที่ไม่ค่อยพูดจา ดูนิ่งเฉยไม่ค่อยคุยกับใคร แต่ช่วงสองสามวันมานี้ ตนสังเกตดูว่าเหมือนพระรูปนี้ มีเรื่องอะไรอยู่ในใจ ก็เลยคุยกับพระรูปนี้แต่พระก็ไม่ได้บอกอะไร พอเช้าวันนี้ก็ได้รู้ว่า พระดังกล่าวได้ผูกคอมรณะภาพไปแล้ว

ทางด้านพระเอก เป็นพระลูกวัดได้เปิดเผยว่าพระซ้อ ปิตะ ได้บวชตั้งแต่เด็กเป็นเณร พอโตมาก็มาบวชพระตอนอายุ 20 ปี ก็มาจำวัดที่ไทยอยู่หลายวัดไม่มีญาติที่ใหน โดยมาอยู่คนเดียวเพื่อบวชเรียน จนมาอยู่ที่วัดนี้ โดยมาจำพรรษาอยู่ช่วงหลังสงกรานต์ปีนี้ พระซ้อ ปิตะ เป็นพระเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใครและไม่ค่อยคุยกับใครไม่มีใครรู้เรื่องสาเหตุว่าเครียดเรื่องอะไร จึงได้มาผูกคอตัวเองมรณะภาพแบบนี้

ทางด้านตำรวจ จึงให้กู้ภัยฯ นำร่างของพระซ้อ ปิตะ ไปชันสูตรเพิ่มเติมและจะได้ติดต่อทางญาติมารับร่างไปบำเพ็ญพิธีตามศาสนาต่อไป  


ภาพ/ข่าว  นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

ตาก – ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

ที่บริเวณห้องประชุมชั้น 2 หอการค้าจังหวัดตาก สำนักงานอำเภอแม่สอด  ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ อดีตประธานหอการค้าจังตากตาก 2 สมัย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ หอการค้าจังหวัดตาก ร่วมแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว

โดยมี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วย นายนิยม ไวยรัชพานิช รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก นายจริยาทร สูหู่ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตาก นายแพทย์ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด และนายอารีย์ เดวี พาณิชย์จังหวัดตาก ร่วมกันแถลงข่าวเปิด "โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนชาวจังหวัดตากได้รับวัคซีนให้มากที่สุด สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้รับบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และเชิญชวนร้านค้าต่าง ๆ มอบส่วนลดพิเศษให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ด้วย

สำหรับ โครงการ TAK SAFE (ตากปลอดภัย)" ปัจจุบันมีหน่วยงาน หรือร้านค้า สถานประกอบการเข้าร่วมกิจกรรม "มีภูมิรับสิทธิ์" แล้วกว่า 100 ร้านค้า และมีประชาชนเข้าร่วมรับสิทธิ์ฯ แล้วเกือบ 20,000 คน ซึ่งโครงการดังกล่าว มุ่งหวังให้เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายในพื้นที่ มากกว่า 20% จากก่อนการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยให้ได้รับสิทธิประโยชน์เข้าไปซื้อสินค้าในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นเรื่องความปลอดภัยจากโควิด-19 ในร้านค้าของอำเภอแม่สอด และอำเภอใกล้เคียง รวมทั้งจะมีการเชื่อมโยงไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และอุตรดิตถ์ ด้วย 

นอกจากนี้ หากพนักงานในร้านใดได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ทางโรงพยาบาลแม่สอดจะออกป้ายให้ไปติดที่ร้าน เพื่อยืนยันว่า ผู้ให้บริการได้ผ่านการฉีดวัคซีนครบแล้ว จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการได้อีกทางหนึ่ง  โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้มอบป้ายผู้ให้บริการที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้ว ให้แก่ โรงแรมเดอะ ทีค , ร้านอาหารข้าวเม่าข้าวฟาง , ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่สอด , สำนักงานตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดตาก และแม่สอดคลีนิคกายภาพบำบัด  พร้อมทั้ง  ได้เชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ด้วยการใช้แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” โดยสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ โรงพยาบาล , รพ.สต. หรือแจ้งที่ เจ้าหน้าที่ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ของตนเองก็ได้ เช่นกัน


ภาพ/ข่าว  วรภา พันลุตัน จ.ตาก

ปทุมธานี - พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีตรวจเยี่ยม " โครงการประรัฐร่วมใจต้านภัยยาเสพติด" (ปักกลด)

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.30 น. ณ บริเวณชุมชนวังทองธานี ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรุธ ประสิทธิเมตต์ รอง ผบก.ฯ  เดินทางมาตรวจเยี่ยม “โครงการประชารัฐร่วมใจต้านภัยยาเสพติด”(ปักกลด) พบ พ.ต.อ.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.ธีรภาพ เครือละไม้ รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.กชกร ไทรศาศวัต สวปฯ นายจักรพงษ์ ชุนเกษา ผู้นำชุมชน จนท.ตร.ชุด ปักกลด รอรับการตรวจเยี่ยมดังกล่าว พล.ต.ต.ชยุตฯ ได้แนะนำตัวและกล่าวขอบคุณผู้นำชุมชนที่เป็นตัวแทนมาร่วมกิจกรรม พร้อมกับ

    1.สอบถามปัญหาและความต้องการของประชาชนในชุมชน

    2.มอบเงินให้ จนท. ตร.ชุดปักกลด เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

    3.ร่วมดำเนินกิจกรรม ตามโครงการจิตอาสา มอบหน้ากากอนามัยและสเปรย์แอลกอฮอล์ให้แก่ประชาชน บริเวณชุมชนวังทองธานี  

   4.เดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ถุงมือยาง ทิชชู่เปียก เงินสด และสิ่งของที่จำเป็นให้กับผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ จำนวน 2 ราย

เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 และให้กำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไป ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ชยุตฯ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบผ้าอ้อมสำเร็จรูป หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ทิชชู่เปียก สิ่งของที่จำเป็นและเงินสด ให้กับ ด.ต.ภนวัต พุทธศรี ผบ.หมู่ ป.สภ.คูคต ซึ่ง ป่วยติดเตียง และมอบเงินสดให้กับ พ.ต.ท. เฉลียว บุญฤทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.คูคต ซึ่งกักตัว 14 วัน หลังจากหายป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการดำรงชีวิตต่อไป ณ แฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.คูคต 


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ/รายงาน

ประจวบคีรีขันธ์ - ปศุสัตว์ประจวบฯ เตือนเกษตรกรเลี้ยงโคกระบืออย่าซื้อวัคซีนป้องกันโรคลัมปี สกิน ลักลอบนำเข้าผิดกฎหมาย

วันที่ 21 พฤษภาคม นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ บัณฑุกุล ปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้เกษตรอำเภอทุกอำเภอ ออกให้คำแนะนำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโคและกระบือ หลังพบการระบาดในพื้นที่ ต.สามกระทาย อ.กุยบุรี ต.ไร่ใหม่ อ.สามร้อยยอด ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี และ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน โดยมีรายงานโคนม โคเนื้อป่วยติดเชื้อรวมกว่า 200 ตัว ขณะนี้ได้ประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ชั่วคราวในพื้นที่ที่เกิดโรคแล้ว ห้ามการเคลื่อนย้ายโคกระบือเข้า-ออกพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ออกทำการสอบสวนควบคุมโรคด้วยการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงชนิดพ่นบนตัวสัตว์และบริเวณคอกโรงเรือนในรัศมี 1 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค

“โรคลัมปี สกิน ไม่ติดจากสัตว์สู่คน สัตว์ที่ติดเชื้อมีอัตราการป่วยน้อยเพียงร้อยละ 10-50 อัตราการตายไม่ถึงร้อยละ 10 แต่ส่งผลเสียต่อผลผลิต เช่น โคนมอาจจะให้น้ำนมลดลง หรือโคเนื้อเมื่อป่วยก็จะกินอาหารได้น้อย ความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายก็น้อยตามไปด้วย ส่วนโคกระบือที่ตั้งท้องอยู่อาจจะแท้งได้ สำหรับแนวทางรักษาขณะนี้รักษาตามอาการ และกำลังจะมีการนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคเข้ามาในเดือนพฤษภาคมนี้ นี้ เพื่อฉีดให้กับสัตว์ของเกษตรกรฟรี ดังนั้นในช่วงนี้จึงขอให้เกษตรกรระมัดระวังอย่าซื้อวัคซีนลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพราะยังไม่ผ่านการทดสอบและรับรองจากภาครัฐ อาจจะส่งผลเสียต่อสัตว์ได้ “นายสัตวแพทย์ยุษฐิระ กล่าวว่า

สำหรับอาการของโรคลัมปี สกิน ในโคและกระบือ จะพบตุ่มขึ้นตามตัวสัตว์ ลักษณะคล้ายอีสุกอีใส เนื้อสัตว์ที่พบการติดเชื้อสามารถบริโภคได้แต่ไม่แนะนำให้บริโภค โรคนี้ติดต่อทางแมลงดูดเลือดทุกชนิด เช่น เห็บ ยุง เหลือบ จึงแนะนำให้เกษตรกรดูแลรักษาความสะอาดคอกโรงเรือนอย่างสม่ำเสมอ กางมุ้ง หรือฉีดพ่นยาฆ่าแมลงบริเวณพื้นคอกโรงเรือน หรือใช้ยาฆ่าแมลงชนิดพ่นบนตัวสัตว์จะช่วยป้องกันสัตว์ป่วยติดเชื้อได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “วันนิกา สร้อย เสรีรัตนเกียรติ” โพสต์ข้อความ โดยมีการแชร์ข้อความจำนวนมาก หลังจากระบุว่า “ ไม่ได้อวดรู้ดีกว่าหมอปศุสัตว์นะค่ะ แต่มาเสนอเพราะมีประสบการณ์โรคลัมปีสกรินและรักษาหาย วัวที่เลี้ยงจาก 3000 ตัว มีแยกเป็นวัวแดง 80 ตัว มีตัวเป็นโรค 30 ตัว รักษาโดยฉีดยาแก้ไข้ ยาพยาธิธรรมดา ไข้หายตุ่มไม่หาย แต่พอฉีดยาพยาธิ Fนอก เริ่มเห็นตุ่มหัวดำ หัวแตก อีก 5 วัน ฉีดพยาธิซ้ำอีก อีก 7-8 วันซ้ำอีก ตัวที่เป็นหนักเป็นก้อนเท่าลูกมะนาว เวลาหลุดจะเป็นหลุมเนื้อหลุดออกมา ฉีดยาแก้อักเสบ พ่นยาไม่ให้แมลงวันเพาะหนอน แล้วมันก็แห้งเป็นปกติ จากวัว80 ตัว เป็น30ตัว รักษาแบบนี้หายทุกตัว และตอนนี้ก็ฉีดยาพยาธิFนอกกันไว้ทุกตัว ก็ยังไม่มีเป็น 95% คลุมอยู่ ถ้าใครพอจะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อใครได้บ้างโทรมาคุย ได้นะคะ จากผู้มีประสบการณ์จริง หายจริง ผ่านมาจะ2เดือนแล้ว ถ้าไม่มีประโยชน์ต่อใครก็ผ่านเลยข้อความนี้ไปนะคะ”


ภาพ/ข่าว นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ - แม่ทัพภาค 1 กำชับทุกหน่วยที่ประจวบฯ คุมเข้มแรงงานต่างด้าวเถื่อน

วันที่ 21 พฤษภาคม พลโทเจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 1 พร้อมด้วยพลโทสุขสรรค์ หนองบัวล่าง แม่ทัพน้อยที่ 1 และคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไปติดตามแนวทางการขับเคลื่อนมาตรการสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 จากหน่วยงานด้านความมั่นคง โดยมี นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯพลตรีประยุกต์ อุ่นอบ ผบ.มทบ.15 พลตรี บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 ผบ.กองกำลังสุรสีห์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสิงขรที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จากนั้นมีการรายงานแผนงานการปฏิบัติร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ประจวบฯ เพื่อขับเคลื่อนมาตรการสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมาตรการป้องกันโควิด 19 จากฝ่ายปกครองจังหวัด ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 กองร้อย ตชด.ที่ 146 กอ.รมน.จังหวัด ศรชล.จังหวัด แรงงานจังหวัด จัดหางานจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อุตสาหกรรมจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดประจวบฯ

พลโทเจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 ให้กำลังใจทุกภาคส่วนที่มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม และประเทศชาติ พร้อมกับกำชับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ สถานประกอบการห้ามรับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าทำงาน พร้อมทั้งร่วมกันตรวจโรงงาน สถานประกอบการและ หอพัก อย่างเข้มงวด รวมถึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนช่วยสำรวจตรวจสอบ หรือให้ข้อมูลเบาะแสขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กาฬสินธุ์ – เยียวยาชาวบ้านประสบภัยพายุหัวเดียว ถล่มบ้านพังเสียหาย

ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชน ในเขตตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังได้รับความเสียหายถูกพายุพัดบ้านเรือนเสียหาย 60 หลังคาเรือน พร้อมนำถุงยังชีพ ไข่ไก่ ช่วยเหลือเบื้องต้น และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัยและลดภาระค่าครองชีพช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่บ้านเว่อ หมู่ 2 และบ้านร่มเย็น หมู่ 15 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหายบ้านเรือนชาวบ้าน หลังจากถูกพายุ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าพายุหัวเดียวพัดพังเสียหายหลายสิบหลังคาเรือน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีนายทรงวุฒิ ภูฉายา ผู้ใหญ่บ้านเว่อ หมู่ 2 นางพชรพรรณ วังกะฮาต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มเย็น หมู่ 15 นำสำรวจและให้ข้อมูล จากนั้นได้นำถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค ไข่ไก่ไปมอบให้กับครัวเรือนที่ประสบวาตภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัยและลดภาระค่าครองชีพช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19 ที่วัดโพธิ์ชัยบ้านเว่อ-บ้านร่มเย็น

นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนบ้านเว่อและบ้านร่มเย็นว่าเกิดเหตุวาตภัย พัดบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตนในฐานะที่ปรึกษารมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเป็นห่วงในสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้อง ซึ่งส่วนมากประกอบอาชีพเกษตรกรรม จึงได้มาให้กำลังใจ พร้อมจัดหาถุงยังชีพ ประกอบด้วยเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และไข่ไก่ นำมามอบให้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ลดภาระด้านค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะลดรายจ่ายด้านค่าครองชีพ ในช่วงประสบสถานการณ์โควิด-19  ในส่วนการช่วยเหลือเยียวยาด้านอื่นๆ ก็จะได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง ท้องถิ่น ท้องที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าให้ความช่วยเหลือในโอกาสต่อไป

ด้านนางพชรพรรณ วังกะฮาต ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านร่มเย็น หมู่ 15 กล่าวว่า เหตุวาตภัยพัดบ้านเรือนดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งพายุที่เกิดขึ้นนั้นมาในลักษณะของลมพายุหมุน ชาวบ้านเรียกว่าพายุหัวเดียว พัดพุ่งมาในแนวตรง ประมาณ 20 นาที มีฝนและลูกเห็บตกมาด้วย นับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงที่สุดในชีวิตที่ประสบมา ซึ่งบ้านเรือนของตนที่เพิ่งสร้างเสร็จ ก็ได้รับความเสียหายด้วย โดยความรุนแรงของลมได้พัดเอาตัวบ้านจนสั่นสะเทือน หลังคาเปิด เสาบ้านหัก สังกะสีปลิวว่อนไปกลางกลางทุ่งนา ประเมินความเสียหายเบื้องต้น 1 แสนบาททีเดียว

ขณะที่นายทรงวุฒิ ภูฉายา ผู้ใหญ่บ้านเว่อ หมู่ 2 กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ร่วมกับผู้นำชุมชน สำรวจความเสียหาย และขอความช่วยเหลือในการฟื้นฟูและเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น จากการสำรวจนอกจากบ้านเรือนชาวบ้านจะได้รับความเสียหายจำนวน 60 หลังคาเรือนแล้ว ยังพบว่าหลังคาศาลาวัด หลังคาอาคารเรียน ยังได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากอีกด้วย ทั้งนี้ ได้รายงานความเสียหายไปยังเทศบาลตำบลบัวบาน และนายอำเภอยางตลาด เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและเยียวยาในลำดับต่อไป ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณนางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือในการมอบถุงยังชีพ ไข่ไก่ และให้กำลังใจชาวบ้านในครั้งนี้

ตำรวจ ทหาร ปล่อยแถวกวาดล้างอาชญากรรม และรณรงค์ป้องกัน โควิด-19

เย็นวันที่ 20 พ.ค.64 ที่ สภ.เมืองเชียงราย พล.ต. ศุภฤกษ์  สถาพรผล ผบ.มทบ.37 มอบหมายให้ กยก.มทบ.37 จัดกำลังพล เจ้าหน้าที่จาก ร้อย.สห.มทบ.37 ร่วมกับ พ.ต.อ.โสภณ  ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ปล่อยแถวระดมกวาดล้างแรงงานต่างด้าว โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ฝ่ายปกครอง บูรณาการ และเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในห้วง 19-25 พฤษภาคม 64 บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์ เชียงราย

หึงโหด จ่อยิงสาวดับคาที่นอน ก่อนจ่อยิงขมับตัวเองดับตาม

เมื่อเวลา 18.00น.​ วันที่  20 พฤษภาคม 2564​ พ.ต.ท. ปริญญา กุลรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ. พระนครศรีอยุธยา​ รับแจ้งมีเหตุผู้ใช้อาวุธปืนยิงมีผู้เสียชีวิต 2 รายภายในห้องเช่าเลขที่7/17 ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา​จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ก่อนประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และมูลนิธิร่วมกตัญญูอยุธยาสนับสนุน​ในจุดเกิดเหตุ​แล้วรีบรุดไปตรวจสอบ

ภายในจุดเกิดเหตุ​ที่ห้องเช่าห้องที่ 1พบว่าบนที่นอนมีศพน.ส.โรจนี สืบพงษ์เดช อายุ 47 ปี  มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธ​ปืนที่ศีรษะด้านซ้ายและ​มีผ้าห่มคลุม​ร่างกายอยู่ และบนร่างของหญิงสาวพบร่างของนายพงษ์ ไม่ทราบนามสกุลอายุประมาณ 40-50 ปี  มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะด้านขวาในมือขวา มีอาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด 38 จำนวน 1 กระบอก พบในรังเพลิงมีปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ที่พื้นห้องพบกระสุนปืนอีก1นัดยังไม่ใช้งานที่บริเวณ​พื้นห้องพบเลือดไหลนองสภาพแห้ง ผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วันภายในห้องยังเปิดแอร์อยู่ตรวจสอบในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือค้นหาสิ่งของใด ๆ

สอบถามเพื่อนผู้​ตายบอกว่าฝ่ายหญิงทำงานเป็นพนักงานนวดแผนไทยอยู่แถวเจดีย์​นักเลง​ ปกติเพื่อน​จะไปทำงานทุกวันแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเห็น​ว่า​ไม่ไปทำงานตนจึงได้เดินทางมาหาผู้​ตายแต่ห้องถูก​ปิดอยู่ตนคิดว่าไม่มีคนอยู่​ในห้องแต่สงสัยว่าทำไมแอร์​ภายในห้องยังทำงานอยู่จึงได้แจ้งให้เจ้าของห้องทราบเพื่อนำกุญแจ​สำรองมาเปิดดู​ก็ผบว่ามีผู้ถูกยิง2รายจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่​ตำรว​จ​ให้มาตรวจสอบโดยเพื่อนของตนนั้นได้คบหากับฝ่ายชายมาประมาณ​เกือบ​2ปีแล้วแต่อยู่​กันคนละพื้นที่ปกติฝ่ายชายมาหาผู้หญิง​เป็น​ประจำแต่ช่วงหลังเพื่อนเล่าให้ฟังว่าฝ่ายชายชอบหึงหวงว่าจะมีคนมาติดพันตนจึงทะเลาะ​กัน​บ่อยจนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาฝ่ายชายก็มาหาอีกและอาจเคลียร์​ปัญหา​กัน​ไม่​ได้​ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธ​ปืน​ยิง​แฟนตัวเองก่อนใช้ปืนกระบอกเดียว​กันจ่อยิงขมับตัวเองดับตามเพื่อจบปัญหา​ในครั้งนี้

ทางด้านเจ้าหน้าที่​ตำรวจสอบสวนเบื่องต้นพบว่าฝ่ายชายเป็น​คนชอบหึงหวงฝ่ายหญิง​ระแวงว่าจะปัญใจให้ชายอื่นก่อนมาพบฝ่ายหญิง​เพื่อเคลียร์​ปัญหา​หัวใจ​ก่อนใช้อาวุธ​ปืนที่พกติดตัวมาจ่อยิงขมับของแฟนสาวและยังขมับของตัวเองตายตามเพื่อจบปัญหา​ความรักในครั้งนี้ซิ่งเจ้าหน้าที่​ตำรวจจะตรวจสอบกล้องวงจรปิด​ใกล้เคียงอีกครั้ง


ภาพ/ข่าว​  สุนทร​ สอนแสนสุข ผู้​สื่อข่าว​จังหวัด​พระนคร​ศรี​อยุธยา​

จนท.ตรวจพื้นที่อนุญาตดูดทรายแม่น้ำโขง พบคลาดเคลื่อนผิดเงื่อนไขทั้งหมด ซ้ำใช้ไม้ไผ่ปักหลักเล็ง

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม2564 นายปิติพัฒน์ สุธีรัตน์วัฒนา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดมุกดาหาร ดาบตำรวจพร้อมพงษ์ มาพงษ์ รองหัวหน้ากลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. จังหวัดมุกดาหาร และองค์การบริหารส่วนตำบลบางทรายน้อย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการดูดทรายของผู้ประกอบการท่าทรายที่ได้รับอนุญาตให้ดูดทรายในพื้นที่ตำบลบางทรายน้อย อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าผู้ประกอบการท่าทรายได้ทำการดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาต จนทำให้ระบบนิเวศน์เสียหาย ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงเดือดร้อน และก่อให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอย่างมากมายมหาศาล   

โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดมุกดาหาร ได้ทำการนำเครื่องมือรับสัญญาณดาวเทียมแบบจลน์โดยโครงข่ายดาวเทียม RTK GNSS Network ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยมีค่าความผิดเพี้ยนน้อยมาก มาใช้หาค่าพิกัดพื้นที่ได้อนุญาตให้ดูดทรายของผู้ประกอบการรวม 4 ราย ประกอบด้วย  หจก.เอ พี แมชชีนเนอรี่ คอนสตั้คชั่น หจก.ท่าทรายโชคบริบูรณ์ หจก.ป.มุกดาหาร และ น.ส.วาสนา กำยาน

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นพบว่าผู้ประกอบการบางรายไม่ได้จัดทำหมุดหลักฐานแผนที่ด้วยการปักหลักคอนกรีตบนฝั่งพื้นดินด้านซ้ายและขวาให้มีความคงทนถาวรโดยใช้เพียงลำไม้ไผ่มาปัก และมีการเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมไปปักที่ใหม่ เมื่อเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือรับสัญญาณดาวเทียมตรวจสอบค่าพิกัดปรากฏว่าไม่ตรงกับค่าพิกัดตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตให้ดูดทรายของผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย โดยมีค่าพิกัดที่ทำการตรวจสอบกับหลักหมุดในเบื้องต้นผิดเพี้ยนไปจากตำแหน่งที่ได้รับอนุญาตประมาณ 20 ถึง 600 เมตร ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีผู้ประกอบการดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาต อันเป็นการผิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ดูดทรายเนื่องจากไม่ได้ดูดทรายแต่เฉพาะในบริเวณพื้นที่ได้รับอนุญาต อันอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้ทันที

นายปิติพัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบตำแหน่งหลักเล็งพื้นที่ได้รับอนุญาตให้ดูดทรายของผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย พบว่ามีความคลาดเคลื่อนลงมาทางทิศใต้ในแนวทางเดียวกันทุกแปลง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะนำค่าพิกัดที่วัดได้ในวันนี้ไปดำเนินการหาค่าความคลาดเคลื่อนโดยละเอียดบนแผนที่อีกครั้ง โดยหากพบว่ามีการคลาดเคลื่อนหรือหลุดไปจากพื้นที่ได้รับอนุญาตมาก ก็จะต้องสั่งให้ผู้ประกอบการหยุดดูดทรายเป็นเวลา 3 วัน โดยจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการจัดทำหลักเล็งใหม่ให้ถูกต้องตรงกับพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ดูดทรายทุกหลักต่อไป

ดาบตำรวจพร้อมพงษ์ กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหารได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบว่าผู้ประกอบการได้ทำการดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาตตามที่ถูกร้องเรียนจริงหรือไม่ ในเบื้องต้นเมื่อผู้ประกอบการทราบว่าหลักเล็งพื้นที่ดูดทรายมีความคลาดไปจากพื้นที่ได้รับอนุญาตก็ได้รับปากที่จะไปดำเนินการของรังวัดสอบเขตเพื่อปักหลักเล็งใหม่ให้มีความถูกต้องตรงตามพิกัด ขณะที่ผู้นำหมู่บ้านก็จะช่วยทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งหากมีการจัดทำหลักเล็งพื้นที่อนุญาตดูดทรายใหม่ถูกต้องก็จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย ทั้งยังสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้โดยง่ายอีกด้วย ทั้งนี้ ความคลาดเคลื่อนของหลักเล็งอาจเกิดจากความผิดพลาดทางด้านเทคนิคหรือการรางวัดในขณะที่ดำเนินการปักหลักโดยอาจเป็นการทำโดยไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิด ซึ่งเมื่อตรวจพบว่ามีความบกพร่องก็ต้องดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป

อนึ่ง ที่ผ่านมามีชาวบ้านออกมาร้องเรียนทั้งเป็นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หน่วยงานราชการและผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีการลักลอบดูดทรายในแม่น้ำโขงและดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนมากแต่แทบจะไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมาตรวจสอบหรือจับกุมดำเนินคดี โดยมักจะอ้างว่าอาจเป็นการดูดในเขตประเทศลาวทั้งที่ยังไม่ได้ออกมาตรวจสอบ จนทำให้มีนายทุนนำเรือมาดูดทรายในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในจังหวัดอื่นที่มีพื้นติดแม่น้ำโขงมีการตรวจสอบจับกุมดำเนินคดีอย่างเข้มงวด


ภาพ/ข่าว  ชุดฉก.พญาอินทรีย์ / เดวิท โชคชัย

กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ยิงปืน ค.3 ลูก ตกลงพื้นที่บ้านท่าตาฝั่งของไทย สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ปลอดภัย และทำหนังสือประท้วงแจ้ง TBC ไทย-เมียนมา จ.แม่ฮ่องสอน

กรณีมี ได้มีการยิงกระสุนปืน ค. ตกลงมายังฝั่งไทย บ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน  3 ลูก ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของฝ่ายได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอพยพประชาชนบ้านท่าตาฝั่งไปอยู่พื้นที่ปลอดภัย ด้าน ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 แม่ฮ่องสอน เร่งส่ง ค.120 มม.เข้าพื้นที่เพื่อปกป้องอธิปไตย

พ.อ.สุจินต์ ทรัพย์สิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหาราบ ที่ 7 เปิดเผย ว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ได้มีการอพยพราษฎรบ้านท่าตาฝั่ง หลังจากได้มีกระสุนปืน ค. จำนวน 3 ลูก ของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ตกมายังพื้นที่ทางเหนือของบ้านท่าตาฝั่ง ประมาณ 2 กิโลเมตร  ซึ่งทาง ฉก.ร.7 ได้ทำหนังสือประท้วงไปยัง คณะกรรมการส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา หรือ TBC เนื่องจากพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง มีฐานทหารเมียนมา ตั้งอยู่ และยังมีกองกำลังทหารกะเหรี่ยง KNU ด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงยังต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นฝ่ายใด และทางการไทยต้องดูแลความเรียบร้อยพื้นที่ชายแดนอย่างเต็มที่ จึงได้ให้ประชาชนบ้านท่าตาฝั่ง อพยพไปในที่ปลอดภัยแล้ว  

ขณะที่ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจ.แม่ฮ่องงสอน สรุปสถานการณ์เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 พ.ค.64 ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2564​ เวลา 09.30 น. กองกำลังชนกลุ่มน้อยกลุ่มกะเหรี่ยง KNU มีการปฏิบัติการทางทหาร ต่อฐานด๊ากวิน ของทหารเมียนมา ด้านตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง อำเภอแม่  สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยการยิงเครื่องยิงลูกระเบิด  ปืนกล และปืนเล็กยาว (ไม่ทราบการสูญเสีย) และปัจจุบันยังคงไม่มีการปฏิบัติการทางอากาศในฝั่งประเทศเมียนมา เป็นระยะเวลา 20 วัน ในส่วนการพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย เนื่องจากผู้ประกอบการส่งออกสินค้าได้ยื่นเรื่องขอให้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านแม่สามแลบซึ่งคณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน  ได้ประชุมพิจารณาหารือประเด็นการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแลบ  โดยประเมินสถานการณ์การสู้รบรวมถึงปัจจัยต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ถึงแม้ว่าปัจจุบันไม่มีสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมาและกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง KNU ที่รุนแรง แต่เพื่อความปลอดภัย คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทย – เมียนมา ด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงมีมติให้ประเมินสถานการณ์การสู้รบ และปัจจัยอื่นอีกเป็นระยะเวลา 10 วัน เพื่อประกอบการพิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านแม่สามแลบ

ทั้งนี้หากสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ หรือไม่กระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จะได้พิจารณาเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านแม่สามแลบต่อไป ซึ่งตลอดระยะเวลาการเกิดความไม่สงบชายแดนไทย-เมียนมา ริมฝั่งลำน้ำสาละวิน ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 64 ถึง ปัจจุบันมีราษฎรชาวเมียนมาที่เดินทางข้ามมายังประเทศไทยจากเหตุความไม่สงบในเมียนมาพักในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวจำนวน 4 แห่ง รวม 1,775คน


ภาพ/ข่าว  สุกัลยา / ถาร  อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน

รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบคฤหาสน์หรู ก่อนเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม ด้านทนายเผย วอนฟังข้อเท็จจริง

จากกรณีเกิดเหตุชาวจีนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติภาค 2 ขณะนำหมายค้นเข้าตรวจสอบ จนได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ ร.ต.อ.พันเทพ ศรีบุญนาค และ ด.ต.กรีฑา ทิพย์เนตร ซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัว เหตุเกิดที่คฤหาสน์หรู บนเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ในสนามกอล์ฟพื้นที่สภ.ห้วยใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐาน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา​ 13.30​ น.​ วันที่ 20​ พฤษภาคม 2564 พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์​  รอง​ ผบ.ตร.​ พล.ต.ต.ชัยพต์พจน สุวรรณรักษ์​ รอง​ ผบช.ภาค​ 2​  พล.ต.ต.ธิติ​ แสงสว่าง​ รรท.​ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี​  เดินทางเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุภายบ้านเลขที่​ 113 /76  ม.9​  ต.ห้วยใหญ่​ อ.บางละมุง​ จ.ชลบุรี​  ซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟฟิกนิก​อีกครั้ง โดยไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปข้างในบ้าน ซึ่งใช้เวลาตรวจสอบภายในบ้านประมาณ​ 1​ ชม. ก่อนที่จะเดิน​ออกมา โดยแจ้งว่า ขอไปประชุมเพื่อฟังรายงานเรื่องดังกล่าวก่อน ที่ห้องประชุมชั้น​ 3​ ของ​ สภ.ห้วยใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเข้ารายงานเรื่องดังกล่าว ซึ่งก็ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าฟังแต่อย่างใด พร้อมแจ้งว่าเสร็จประชุมแล้วจะออกมาให้ข้อมูลภายหลัง

ด้านนายอนิรุจน์ คงทรัพย์ ทนายส่วนตัวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดกับตัวผู้ก่อเหตุ แต่ได้พูดคุยบุคคลในบ้านทราบว่ายังไม่เห็นตรงนั้น ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุนั้นมีธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทำมาแล้วประมาณ 2-3 ปี ในส่วนของยาเสพติดนั้นตนเองเท่าที่ทราบไม่มีประวัติ ตอนนี้ขอให้รอฟังขอเท็จจริงก่อน ตามที่มีการนำเสนอไปนั้นค่อนข้างรุนแรงเกี่ยวกับผู้ต้องหา อยากให้มองว่าการเข้าตรวจค้นของตำรวจถูกต้องมั้ย วิธีการในการทำที่เกิดขึ้นโดยมีการปะทะกันเกิดเหตุอะไร ซึ่งตรงนี้เป็นส่วนสำคัญของคดี ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นการซื้อในรูปแบบบริษัท ส่วนกรณีที่มีการขู่อุ้มนั้นโดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่ามีชาวต่างประเทศถูกปล้น ซึ่งตัวผู้ก่อเหตุก็เป็นชาวต่างชาติ จึงคาดว่าอาจเกิดความกลัว เมื่อมีคนเข้าบ้านไปโดยที่ไม่ทราบว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร และมาในชุดนอกเครื่องแบบ และเมื่อมีการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ในส่วนของอาวุธปืนนั้นเท่าที่ทราบน่าจะถูกต้อง ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็ยังอยู่ในอาการตกใจ

 

เชียงใหม่ – จัดกิจกรรมคลายร้อน เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยว รับชมกิจกรรมผ่านช่องทาง Live ในช่วงการปิดให้บริการชั่วคราว

สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน ) โดยสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จัดกิจกรรมคลายร้อน และทำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกายและใจให้กับสมาชิกสัตว์ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมรับชมการดูแลสมาชิกสัตว์อย่างใกล้ชิดผ่านกิจกรรม Live ในช่องทาง Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari ลุ้นรับรางวัลสุด Exclusive เป็นประจำทุกสัปดาห์

นายเบญจพล นาคประเสริฐ กรรมการบริหาร ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร เปิดเผยว่า ในช่วงการปิดให้บริการชั่วคราวนี้ นอกจากการดำเนินการด้านมาตรการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 แล้ว ยังมีการดูแลสวัสดิภาพสัตว์เป็นอย่างดี  ทั้งด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจ มีการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค การเสริมวิตามิน การดูแลด้านโภชนาการ รวมทั้งการจัดกิจกรรมผ่อนคลายให้กับสัตว์  โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่สภาพอากาศมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น และการไม่ได้ทำกิจกรรมเหมือนในช่วงการเปิดให้บริการตามปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้สัตว์เกิดความเครียดได้ ดังนั้นจึงได้จัดกิจกรรมคลายร้อนให้กับสัตว์ชนิดต่าง ๆ และจัดกิจกรรมเพื่อให้สัตว์ได้ออกกำลังกาย เช่น การฉีดน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเสือโคร่ง

การจัดกิจกรรมผ่อนคลายและส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้กับสัตว์ที่อยู่ในส่วนแสดง Night Predator โดยทำกิจกรรมออกกำลังตามพฤติกรรมธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิด เช่น การว่ายน้ำจับปลาเป็นอาหารของนาคเล็กเล็บสั้น การล่าเหยื่อของสิงโต การปีนป่ายไต่เชือกกินอาหารของหมีขอ การกระโดดปีนต้นไม้ล่าเหยื่อของเสือโคร่งขาว และการว่ายน้ำของเสือโคร่ง เป็นต้น  นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 อย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งดำเนินการให้บุคคลากรผู้ปฏิบัติงานทุกคนฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ครบ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอีกครั้ง 

ทั้งนี้ ในช่วงการปิดให้บริการชั่วคราว เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้จัดกิจกรรมให้บริการนักท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ และการจัดกิจกรรม Live ใน Facebook : เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี Chiang Mai Night Safari เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับชมกิจกรรมการดูแลสัตว์อย่างใกล้ชิด พร้อมลุ้นรับของที่ระลึกพิเศษ เป็นประจำทุกสัปดาห์

และในวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม นี้ เวลา 15.30 น. จะพานักท่องเที่ยวชมกิจกรรมการดูแลสัตว์ในส่วนแสดง Night Predator กับกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพตามพฤติกรรมธรรมชาติของสัตว์แต่ละชนิด ซึ่งนักท่องเที่ยว


ภาพ/ข่าว  นภาพร เชียงใหม่

ถอดรหัส 'วันทอง' รอยต่อ 'ความสำเร็จ' ขึ้นแท่น “นัมเบอร์วัน” ละครหลังข่าว | LOCK LENS GURU EP.20

???? GURU : อาจารย์อาทิตยา ทรัพย์สินวิวัฒน์ อาจารย์ประจำสาขานวัตกรรมการสื่อสาร วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

▶️ หัวข้อ : ถอดรหัส 'วันทอง' รอยต่อ 'ความสำเร็จ' ของช่องวัน ขึ้นแท่น “นัมเบอร์วัน” ละครหลังข่าว

อ่านคอลัมน์เพิ่มเติม : https://thestatestimes.com/post/2021050213

 ???? ดำเนินรายการโดย เจ THE STATES TIMES 

.

.

เชียงใหม่ - มทบ.33 จัดทำโครงการปันน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน จัดรถครัวสนามทำอาหารปรุงสดให้แก่ประชาชน สู้โควิด-19

มทบ.33 จัดทำโครงการปันน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน จัดรถครัวสนามทำอาหารปรุงสด , แจกจ่ายหน้ากากอนามัย และพืชผลทางการเกษตร ให้แก่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของ โรคโควิด-19

เมื่อ 20 พ.ค. 64 เวลา 10.00-12.00 มทบ.33  จัดรถครัวสนามทำอาหารปรุงสดใหม่  จำนวน 400 กล่อง พร้อมน้ำดื่ม และหน้ากากอนามัย บรรทุกหลังรถจักรยานยนต์(เดลิเวอรี่) จำนวน  10 คัน บริการส่งอาหารกล่อง ปรุงสดใหม่ ถึงบ้าน ประชาชน ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง และจัดรถพุ่มพวง แจกจ่ายผลผลิตทางการเกษตร (ผักกาด ,ผักบุ้ง, แตงกวาญี่ปุ่น, มะนาว ,พริก ,ไข่ไก่  และมะม่วง ) แจกจ่ายให้กับประชาชน เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชนชุมชนรอบค่ายที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิค - 19 ณ ชุมชนต้นขาม ต.ท่าศาลา อ.เมือง จว.ช.ม. โดยได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19  อย่างเคร่งครัด ซึ่งได้สร้างความประทับใจและความพึงพอใจต่อประชาชนในพื้นที่ เป็นอย่างดี


ภาพ/ข่าว  นภาพร / เชียงใหม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top