Monday, 1 July 2024
SPECIAL

‘นิว ภาคภูมิ’ เจ้าของเว็บพนัน 27 เว็บ และมือขวา ‘สารวัตรซัว’  ผูกคอเสียชีวิตในห้องขัง คาด!! เกิดจากความเครียดหลังถูกจับ

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 66 มีรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุผู้ต้องหาผูกคอตายภายในห้องขัง สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายภาคภูมิ หรือ นายนิว ผู้ต้องหาเครือข่ายคดีเว็บพนันออนไลน์ของพ.ต.ท.วสุวัตต์ มุครสกุล หรือ สารวัตรซัว อดีตข้าราชการตำรวจ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดีเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์รายใหญ่

ข่าวแจ้งว่า สภาพศพของนายภาคภูมิ เสียชีวิตในสภาพใช้ผ้าห่มผูกคอตนเองโยงกับลูกกรงห้องขัง ไม่สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงขายาวสีเทาเพียงตัวเดียว คาดเสียชีวิตไม่เกิน 6 ชั่วโมง

สำหรับนายภาคภูมิ ถูกจับกุมได้เมื่อช่วงประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังดีเอสไอออกหมายจับในความผิดเกี่ยวกับพนันออนไลน์และการฟอกเงินของสารวัตรซัว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดหลังถูกจับกุม เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเจ้าของเว็บพนัน 27 เว็บไซต์ มีฐานอยู่ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และยังถูกแจ้งความดำเนินคดีก่อเหตุมอมเหล้าและกระทำอนาจารด้วย

‘บิ๊กป้อม’ สักการะพระพุทธชินราช ก่อนปราศรัยใหญ่ที่พิษณุโลก ลุยหาเสียงโค้งสุดท้าย ปลื้ม!! แฟนคลับฟันน้ำนมโผกอดให้กำลังใจ

(8 พ.ค. 66) ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค เดินทางมาที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สักการะพระพุทธชินราช และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นสิริมงคล ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ลานเอนกประสงค์ เทศบาลตำบลพรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยมีประชาชนมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ ทันทีที่ พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึง

ขณะที่ พล.อ.ประวิตร สักการะรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีเด็กชายรายหนึ่ง วิ่งเข้ามาหา พล.อ.ประวิตร จึงกวักมือเรียกเข้ามาหา และสวมกอดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และลูบหัวอย่างเอ็นดู พร้อมถามหยอกล้อว่า “เบอร์อะไรลูก” เด็กชายคนดังกล่าวตอบว่า “เบอร์ 1” ทำให้ พล.อ.ประวิตร อมยิ้มและบอกว่า “เบอร์ 37 สิ” จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กราบนมัสการพระสงฆ์ในพระอุโบสถ พระสงฆ์ได้พรมนํ้ามนต์ให้พร แก่ พล.อ.ประวิตร

‘ชวน’ รับ ผลโพลทำ ‘ปชป.’ เสียขวัญ เร่งทำคะแนนโค้งสุดท้าย เผย ส่งข้อความให้กำลังใจผู้สมัคร อย่าท้อ ทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย

‘ชวน’ รับ ผลโพลทำ ‘ปชป.’ เสียขวัญ ส่งข้อความถึงผู้สมัคร ทำให้ดีที่สุดจนนาทีสุดท้าย อย่าท้อ เสียดาย โพลชี้ จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ไม่ถึง 10 คน เร่งรณรงค์โค้งสุดท้าย ชี้!! เลขขั้วรัฐบาลชัดไม่น่ามีปัญหาตั้งรัฐบาล แต่อาจเป็นปัญหาถ้าพรรคการเมืองไม่ยอมรับ โยน กก.บห.คิด จะจับขั้วใคร

(8 พ.ค. 66) นายชวน หลีกภัย สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการ มุมการเมือง ทางไทยพีบีเอส ถึงปรากฎการณ์ ประชาชนตื่นตัว ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้ กันมากกว่า เป็นเรื่องดี

เมื่อถามว่า มีประชาชนกังวลเรื่องความพร้อมจัดการเลือกตั้งของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และห่วงเรื่องการทุจริตนั้น นายชวนกล่าวว่า กกต.คงพยายามจะทำให้ดีที่สุด แต่อาจมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่เรื่องความพร้อมและเรื่องการจับทุจริตหรือความไม่ชอบเรื่องการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องการใช้เงินเป็นเรื่องยาก ซึ่งนักการเมืองบ่นกันอยู่ว่า กกต.อาจไม่รู้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตยุติธรรม แม้ว่าจะมีกระแสเกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัยสำหรับการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งก็น่าจะรู้แต่ในทางปฏิบัติจริงอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีกระบวนการและวิธีการที่นักการเมืองใช้ ไม่ใช่หมาหอนแบบสมัยก่อน แต่อาจเป็นการทำอะไรล่วงหน้าเช่น จดชื่อเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปก่อน ต่างจากสมัยก่อน วิธีการยากที่จะไล่จับ อยู่ที่ความจริงจังและประสิทธิภาพของแต่ละคน

เมื่อถามถึงความเข้มข้นในการหาเสียงช่วงสุดท้ายนายชวน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีหากหาเสียงโดยวิธีการที่ชอบ เช่น การปราศรัยหรือประชาสัมพันธ์เพื่อเป็นการเตือนให้คนออกมาใช้สิทธิ์ และจนถึงขณะนี้ ประชาชนอาจจะยังไม่ทราบเรื่องตัวเลข เบอร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งถ้ารณรงค์ในช่วงใกล้เลือกตั้งเพิ่มมากขึ้นว่าเปลี่ยนระบบเป็นบัตรสองใบ พรรคเบอร์หนึ่ง ผู้สมัครเขตอีกเบอร์หนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ควรมีการเน้นย้ำ

‘กรณิศ’ ยัน!! ไม่เอากัญชาเสรี หนุนใช้เพื่อการแพทย์-ศก.เท่านั้น ขอโอกาส ปชช. หนุน ‘ภท.’ เข้าสภาฯ เพื่อเร่งออก กม.ควบคุม

(8 พ.ค. 66) นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตคลองเตย-วัฒนา เบอร์ 1 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ตอนนี้ประชาชนบางส่วนสงสัย และสอบถามกันเยอะว่าพรรค และตนสนับสนุนกัญชาเสรีหรือไม่ เพราะบางพรรคหาเสียงโจมตีนโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ของพรรค จนประชาชนเกิดความสับสน ตนขอย้ำกับทุกฝ่ายว่า ตนและพรรคไม่สนับสนุนกัญชาเสรี เพราะผู้บริหารพรรค สมาชิกพรรค และตนมีจุดยืน คือ สนับสนุนกัญชาเพื่อการแพทย์เท่านั้น สำหรับการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน

“ที่ผ่านมาพรรคได้แสดงจุดยืนด้วยการเสนอร่างพระบัญญัติกัญชา กัญชง เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพราะประเทศไทย จะต้องมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชา จึงจะทำให้การใช้และการคุ้มครองผู้บริโภคเกิดความสมดุล แม้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการขัดขวางจากกลเกมทางการเมือง และต้องตกไป กรณีนี้คิดว่าสังคมน่าจะเข้าใจได้กับเกมการเมืองในบางช่วงที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้พรรคได้คะแนนนิยมในเรื่องร่างกฎหมายดังกล่าว” นางกรณิศ กล่าว

‘สาธิต’ จ่อแจ้งความ ‘ก้าวไกล’ ปมปราศรัยใส่ร้าย ‘ปชป.’ ที่ระยอง ยัน!! ทำหน้าที่ รมต.-ส.ส.เต็มที่ เพื่อช่วยคนระยองผ่านพ้นวิกฤต

‘สาธิต’ แจงยิบ ซัดกลับ ‘ก้าวไกล’ ปราศรัยป้ายสี ยันทำหน้าที่ รมต.-ส.ส.จับมือทุกฝ่ายช่วยคนระยองฝ่า 3 ปัญหาร้อนสำเร็จ โร่แจ้งความบ่ายสอง เร่งเก็บหลักฐานร้อง กกต. ฟันผิด กม.เลือกตั้ง

(8 พ.ค. 66) ที่อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ถนนเพชรบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.ระยอง แถลงว่า กรณีที่พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร จัดการปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีกล่าวปราศรัยที่เข้าข่ายใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เกิดความเข้าใจผิดต่อตัวตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพวกตนไม่สนใจทำหน้าที่ใดๆ ใน 3 เหตุการณ์ คือ

1.) เหตุการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนการพนันแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง
2.) เหตุการณ์ทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิด-19 เข้ามาใน จ.ระยอง
3.) เหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลบริเวณ จ.ระยอง ซึ่งยืนยันว่าตนและ ส.ส.ระยอง ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเหล่านี้ไม่ได้ละเลย และไม่มีสักวันที่จะไม่คิดถึงประชาชนชาวระยอง

โดยขอชี้แจงว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 จากบ่อนพนันนั้น ตนในฐานะ รมช.สาธารณสุข ได้เร่งลงพื้นที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จนสามารถคลี่คลายได้ภายใน 14 วัน อีกทั้ง ตนพร้อมด้วย นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ และนายธารา ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมมือกับภาคประชาชนในจังหวัดออกมาเรียกร้องให้มีการปิดบ่อน และโยกย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับชั้นที่มีส่วนปล่อยปละละเลย ขณะเดียวกัน ตนได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องเรื่องนี้ และ นพ.บัญญัติ ได้ตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรด้วย

จนในที่สุด นายกฯ ได้ดำเนินการให้มีการสั่งโยกย้ายครั้งใหญ่ ทั้งการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และการย้ายผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และผู้กำกับ 5 เสือ ใน สภ.เมืองระยอง รวมถึงมีการจับกุมเจ้าของบ่อนใหญ่ใน จ.ระยอง ตนยืนยันได้เลยว่าพวกเราทำงานกันเป็นทีม และทำงานติดต่อกันประสบผลสำเร็จ ดังนั้น คนที่จะอวดอ้างผลงานตรงนี้ได้ไม่ใช่พรรคก้าวไกล แต่เป็นภาคประชาชนใน จ.ระยองที่ร่วมทำงานกับ ส.ส.ระยอง ของเขาอย่างเต็มกำลัง

ส่วนกรณีทหารอียิปต์นั้น ทันทีที่ทราบว่าทหารคนดังกล่าวถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 และมีประวัติว่าเคยเข้ามาใน จ.ระยอง ตนเร่งนำแพทย์และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปควบคุม และป้องกันการแพร่ระบาดใน จ.ระยอง ด้วยการลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงทั้งหมด นำตัวทหารรายนี้ไปตรวจ และนำกลุ่มผู้ใกล้ชิดกับทหารอียิปต์ไปสอบสวนโรค ทำตามกระบวนการทุกอย่าง จนสามารถควบคุมโรคได้ จากนั้นตนได้นำข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นแพทย์ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาจัดสัมมนาใน จ.ระยอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นสู่ จ.ระยอง รวมถึงร่วมมือกับทุกฝ่ายเป็นเวลาหลายวันในการคลี่คลายสถานการณ์ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนสู่ จ.ระยองได้สำเร็จ

สำหรับเหตุการณ์น้ำมันรั่วในทะเลมาบตาพุด จ.ระยอง ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2565 ตนพร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เมื่อวันที่ 27 ม.ค.2565 เพื่อบินสำรวจที่เกิดเหตุ และสั่งการให้ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมต้องแสดงความรับผิดชอบ อีกทั้งได้เรียกบริษัท SPRC ให้เร่งปฏิบัติตามแผนเพื่อแก้ไขปัญหา รวมถึงขอกำลังจากกองทัพเรือมาควบคุมเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหล ต่อมาวันที่ 28 ม.ค.2565 ตนและเจ้าหน้าที่ของหลายฝ่ายได้ลงพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยงเพื่อดำเนินการป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันไหลเข้าฝั่ง นอกจากนี้ ได้ทำงานอีกหลายอย่าง ทั้งการประกาศแจ้งเตือนและตั้งศูนย์บัญชาการให้ข้อมูลแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจ.ระยอง รวมถึงบังคับให้บริษัท SPRC ต้องเยียวยามากที่สุดเท่าที่ทำได้ ซึ่งเขาได้ชดเชยเยียวยาแล้วเกือบ 100% โดยยังขาด 3% ที่กำลังอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง

‘กรมโรงงานฯ’ จ่อแจ้งจับ ‘แอม-ไอซ์’ ใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ เตรียมประสาน ‘สคบ.’ ตรวจร้านออนไลน์ ยัน!! พร้อมเพิ่มความเข้มงวด

กรมโรงงานฯ จ่อดำเนินคดี ‘แอม’ และ ‘ไอซ์’ ดาราสาว ใช้ไซยาไนด์ผิดวัตถุประสงค์ โทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกิน 3 แสน อธิบดีฯ ยืดอกป้องลูกน้อง รับประกันต่อไปจะเข้มงวดมากกว่านี้

(8 พ.ค. 66) ที่ กองปราบปราม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวภายหลังร่วมประชุมใหญ่กับตำรวจชุดคลี่คลายคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ ‘แอม ไซยาไนด์’ และกรณี น.ส.ปรีชญา พงษ์ธนานิกร หรือ ‘ไอซ์’ ดาราสาวที่ได้ทำการสั่งซื้อไซยาไนด์ เพื่อนำไปใช้วางยาฆ่าสัตว์เลื้อยคลานว่า ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะผู้เสียหาย จะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับคนกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เปิดแผนไม่ลับ หยุดก้าวไกล-เพื่อไทยแลนด์สไลด์!! “ไม่เลือกลุงมันมาแน่” ปะทะ “มีเราไม่มีลุง” มนต์ไหนขลังกว่า

พรรคเพื่อไทยอุตส่าห์ย้ำแคมเปญผ่านป้ายหาเสียงตามถนนรนแคมและเสาไฟฟ้าทั่วประเทศว่า 'เพื่อไทยแลนด์สไลด์' แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลอะไรมาก สู้กระแสไวรัลปากต่อปากตามสภากาแฟและร้านอาหารที่ไม่ทันหย่อนก้นลงนั่งก็มีเสียงตะโกนถามมาแล้วว่า...พรรคก้าวไกลมาแรงจริงหรือเปล่า จะแลนด์สไลด์แทนเพื่อไทยจริงหรือ..??

ก็ต้องบอกว่าของเขาแรงจริง ๆ แต่ 'เล็ก เลียบด่วน' จะขอหมายเหตุเป็นข้อ ๆ เพื่อกระชับพื้นที่ดังนี้...

ข้อที่หนึ่ง) จุดร่วมที่ผู้บริหารพรรคก้าวไกลประกาศตอนนี้คือ ทะลุ 100 ที่นั่ง ส่วน 160 ที่นั่ง เป็นตัวเลขยุทธศาสตร์ตัวเลขเป้าหมายเท่านั้น

เลือกตั้งปี 2562 พรรคอนาคตใหม่หรือก้าวไกลปัจจุบันได้ ส.ส.รวม 81 ที่นั่ง เป็นส.ส.เขต 30 ปาร์ตี้ลิสต์ 51 ส.ส. เขตส่วนหนึ่งมาจาก 'ส้มหล่น' พรรคไทยรักษาชาติซึ่งเป็นแบงก์ร้อยหรือลูกแบงก์ของพรรคเพื่อไทยถูกยุบก่อนเลือกตั้ง

ข้อที่สอง) กระแสพรรคก้าวไกลมาแรงในขณะนี้มีมาจาก 3 สาเหตุ...1.นโยบายหลายอย่างดี ทันสมัยโดนใจคนรุ่นใหม่และชนชั้นกลางแม้บางประการจะออกอาการสุดโต่ง / 2.ภาพรวมการดีเบตพรรคก้าวไกลดูเด่นกว่าพรรคอื่น ข้อมูลชัดเจน และ 3.จุดยืนเชิงอุดมการณ์มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง เป็นจุดยืนที่ภาษาทหารต้องเรียกว่า 'สูงข่ม' พรรคเพื่อไทย คะแนนจากเพื่อไทยส่วนหนึ่งจึงเทมา

ข้อที่สาม) ก่อนยุบสภาพรรคก้าวไกล มีส.ส.ในพรรค 50 กว่าคน แนวโน้มการเลือกตั้งหนนี้ที่จะได้เป็นกอบเป็นกำคือ คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ถ้าได้คะแนนเพิ่มจากเดิม 6 ล้านเศษเมื่อปี 2562 เป็น 9 ล้านเสียง ซึ่งถ้า 1 ปาร์ตี้ลิสต์ใช้เสียง 3.7 แสน ก็จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ 24 คน สมมติได้ ส.ส.เขตอีก 50 คน ทั้งหมดจะอยู่ที่ 74 คนเท่านั้น...แต่ก็มากพอที่จะเกินครึ่งสภาหรือ 250 คน หากไปบวกรวมกับพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้านเดิม...

‘อนุทิน’ ชี้ หาเสียงด้วยวาทกรรม ไม่ได้ช่วยขับเคลื่อนประเทศ ลั่น!! ขอทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่แบ่งแยก คำนึงถึงประโยชน์ ปชช.

‘อนุทิน’ ชี้ โค้งสุดท้าย สาดวาทกรรม คนไม่เกี่ยวการเมือง จุ้นจนวุ่นวาย สร้างความแตกแยกไม่จบสิ้น เหน็บ บางพรรค ทำงานเหมือนบริษัท สั่งซ้ายหันขวาหัน ดักคอ พวกจับขั้วก่อน ถามประชาชนหรือยัง

(8 พ.ค. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการเลือกตั้งล่วงหน้า ว่า ตน ไม่ได้สนใจเรื่องนอกพรรคเลย เดินทางขึ้นเหนือล่องใต้จนจำไม่ได้แล้วว่าไปไหนบ้าง ตอนนี้ลงพื้นที่อย่างเดียว ไม่ได้ติดตามข่าวอื่น ซึ่งในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ลูกพรรคไม่ได้ติดต่อเรื่องใดๆ มาที่ตน ว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีความได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร วันนี้คงไม่คิดเรื่องอย่างนี้แล้ว เพราะต้องคิดอย่างเดียวว่า จะต้องทำให้ประชาชนมั่นใจและเลือกเขาเข้ามา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้พรรคภูมิใจไทยมีหมัดเด็ดในการหาเสียงอย่างไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เรานำเสนอนโยบาย ที่มั่นใจว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน และพยายามทำให้ประชาชนเห็นว่า พรรคภูมิใจไทยยึดมั่นของการเป็นพรรคการเมือง ที่ไม่เน้นความแตกแยก เราไม่ชอบความแตกแยก ไม่แบ่งฝ่าย ตั้งใจทำงาน เพื่อเอาประเทศไทยออกจาก ประเทศที่ไม่มีความสามัคคีของคนในชาติ ให้เร็วที่สุดให้ได้

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวแบ่งแยก และมีขั้วเก่าขั้วใหม่เกิดขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า “กระแสมันมีคนสร้างขึ้นมา กระแสถูกสร้างโดยคน ผมคิดว่าประชาชนแยกแยะออกว่า ไปเชื่อในข้อมูลใดแล้ว เขาได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ หรือทำให้เสียประโยชน์อะไร เขาแยกแยะออก ตอนนี้มันเหมือนไม่ใช่เรื่องของการเมือง คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง ก็เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองเยอะแยะไปหมด ไม่รู้เข้ามาทำไม เพราะมันเป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของนักการเมือง เป็นเรื่องของผู้สมัคร ก็ควรที่จะต้องจำกัดวงผู้เล่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้สมัครแต่ละคนที่เข้ามา ก็ต้องถือว่าผ่านคุณสมบัติเข้ามาแล้ว ซึ่งตรวจคุณสมบัติ โดย กกต.ว่า ผู้สมัครคนนั้นมีประวัติไม่ดีอะไรหรือไม่ หรือมีประวัติอาชญากรรมหรือไม่ ถ้ามีก็เข้ามาสมัครไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ต้องถือว่าเขามีคุณสมบัติครบถ้วน มันไม่ใช่หน้าที่ของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง และมาเที่ยวว่ากล่าวให้ร้าย ก็จะทำให้ความแตกแยกไม่จบไม่สิ้นเสียที พรรคภูมิใจไทยถึงไม่โต้ไม่ตอบ ไม่สนใจ เพราะถ้าไปโต้ตอบหรือไปสนใจ ก็จะทำให้มีความรู้สึก และถ้ามีความรู้สึกแล้ว ก็จะต้องโต้ตอบจนเกิดความขัดแย้งไม่จบไม่สิ้น เรามั่นใจว่าทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ประชาชนแล้ว เราก็จะเดินถนนของพรรคภูมิใจไทย”

เมื่อถามว่า หากผลเลือกตั้งออกมาเป็นไปตามกระแส จะทำให้ทิศทางของประเทศเปลี่ยนไปหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กระแสไหนล่ะ หากเป็นกระแสของพรรคภูมิใจไทยเราก็เชื่อมั่น ตอนนี้ต่างคนต่างมีแฟนคลับของตัวเอง ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน เวลาตนที่ไปปราศรัยที่ไหน ได้ให้สัญญากับชาวบ้านว่า ถ้าได้กลับเข้ามาทำงานให้ประชาชนอีก ก็จะดำเนินการตามนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แม้แต่นโยบายที่ทำมาแล้ว ก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้ดำเนินการต่อไป ไม่มีการกีดกัน ตนคิดว่าเราทำงานการเมืองสร้างสรรค์ดีกว่า พอแล้วสำหรับการทะเลาะกัน เพราะผลสุดท้ายคนที่เสียประโยชน์ คือประชาชน นักการเมืองไม่มีใครเสียประโยชน์ การที่จะบอกว่าไม่เอาพรรคนั้นไม่เอาพรรคนี้ หรือต้องการจับมือกับพรรคนั้นพรรคนี้ ก็ต้องถามว่าพรรคการเมืองเป็นของคนใดคนหนึ่งหรือเปล่า เข้ามาได้มามีบทบาท ก็เพราะประชาชนเลือกมา

‘กกต.-ไปรษณีย์’ นำทีมสื่อร่วมสังเกตการณ์นับบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ยัน ไม่มีบัตรเสีย-ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน มั่นใจ!! เลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ

‘กกต.-ไปรษณีย์’ นำทีมสื่อมวลชนสังเกตการณ์นับจำนวนบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ก่อนส่งถึง 400 เขต ภายในวันที่ 12 พ.ค. 66 ขออย่ากังวลปมจ่าหน้าซองผิด ตรวจสอบได้ส่งถึงทุกคะแนนไม่มีบัตรเสีย การันตีไม่ทำคะแนนตกน้ำ มั่นใจ!! ไม่กระทบการเลือกตั้งเป็นโมฆะ

(8 พ.ค. 66) ที่สำนักงานไปรษณีย์ สำนักงานใหญ่ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วย นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย ได้นำคณะสื่อมวลชนร่วมติดตามการนับจำนวนและคัดแยกบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ที่ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และบัตรลงคะแนนผู้พิการ ผู้สูงอายุ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ที่ส่งเข้ามาถึงประเทศไทยแล้ว

นายดนันท์ กล่าวว่า ในส่วนของบัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักรมีทยอยเข้ามา กว่า 60,000 ใบ หรือประมาณ 67% จาก 45 ประเทศ จากจำนวนทั้งหมด 67 ประเทศ มีคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ กรมการกงสุล กกต. และไปรษณีย์ตรวจคัดแยก ขณะนี้ บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าในประเทศ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ถูกได้ขนส่งมายังศูนย์คัดแยกเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างทำการคัดแยกโดยคณะกรรมการที่ประกอบด้วย กกต. และไปรษณีย์ โดยในเบื้องต้นอยู่ในส่วนของการตรวจนับ และคัดแยก ยังไม่ถึงการคัดกรองที่จำตรวจเรื่องของการจ่าหน้าซองบัตร

อย่างไรก็ตาม กระบวนการคัดแยก ตรวจสอบจะใช้เวลาภายในวันที่ 7-9 พ.ค. ช้าสุดคือ วันที่ 10 พ.ค.นี้ และเริ่มส่งไปยัง 400 เขต คาดว่าจะถึงภูมิลำเนาของภายในวันที่ 12 พ.ค.นี้ ยืนยันว่าการดำเนินการในศูนย์คัดแยกจะมีวอร์รูมคอยมอนิเตอร์ดูการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต.มาร่วมทำงานด้วย สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เข้าพื้นที่ต้องลงทะเบียน ยืนยันตัวตน ห้ามนำอุปกรณ์ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเข้าไป และเมื่อออกจากศูนย์ จะต้องมีการตรวจค้นก่อน สำหรับขั้นตอนการตรวจนับและคัดแยกบัตรเลือกตั้ง จะตรวจรหัสซ้ำ 3 รอบ เพื่อให้แน่ใจว่าบัตรลงคะแนนจะถูกส่งตรงตามที่ผู้ลงคะแนน

ด้าน นายแสวง กล่าวว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าประมาณ 91.83% ต้องขอบคุณผู้มาใช้สิทธิ์ ที่มาด้วยแรงศรัทธาประชาธิปไตย ซึ่งสำนักงาน กกต.สัญญาว่า จะรักษาทุกเสียงที่ประชาชนได้ลงคะแนนไว้ ส่วนกรรมการประจำหน่วย และอนุกรรมการประจำเขต ซึ่งการทำงานอาจจะมีการผิดพลาดบ้าง แต่ขอบคุณที่อดทนทั้งต่อสภาพอากาศ และแรงเสียดทานทางการเมือง ทำงานร่วมกว่า 16 ชั่วโมง รวมถึงประชาชนที่ร่วมกันตรวจสอบการทำงานของ กปน. และ กกต. ซึ่งมีทั้งเรื่องจริง เรื่องเท็จ แต่สั่งให้ ผอ.ทุกจังหวัด รายงานเข้ามาทุกเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าว ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร มีการแก้ไขอย่างไร เป็นเรื่องดีที่สิ่งที่เราทำอยู่นั้นอยู่ในสายตาของประชาชนเสมอ

ส่วนวันเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. จะไม่ให้มีสิ่งผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นอีก และคาดว่าเลือกตั้งในวันดังกล่าว การบริหารจัดการจะง่ายกว่านี้ เพราะไม่ต้องส่งไปรษณีย์ และบุคลากรที่จะทำงานมีมากกว่านี้ การลงคะแนนตรงตามหน่วยเลือกตั้งนั้นๆ ประชาชนจะไม่สับสน แต่คิดว่าเรื่องหีบไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่สำคัญคือ ปัญหาการจ่าหน้าซอง แต่ก็ยืนยันว่าเรามีกระบวนการตรวจสอบ ขอให้ผู้ใช้สิทธิ์มั่นใจว่า ซองบรรจุบัตรเลือกตั้งจะถูกส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิ์

นายแสวง ยังกล่าวถึงกระบวนการตรวจสอบคัดแยกบัตร กรณีกรรมการประจำหน่วยเขียนรหัสจังหวัด หรือเขตเลือกตั้งผิดพลาดว่า หลังปิดหีบจะมีการตรวจสอบว่าต้นขั้วที่ใช้ไป กับจำนวนบัตรที่ออกเสียงตรงกันหรือไม่ และกรรมการประจำหน่วยจะทำบัญชีมา เมื่อไปรษณีย์ได้รับถุงบัตรมาแล้ว ก็จะทำการตรวจเบื้องต้น เมื่อคัดแยกเสร็จก็จะดูว่า จำนวนซองที่คัดแยกกับยอดต้นขั้วตรงกันหรือไม่ ดังนั้น ยอดจะกระทบกันโดยอัตโนมัติ

“ถ้ามีการจ่าหน้าซอง ถ้าถูกต้องทั้ง 3 จุด ก็จะถูกแยกออกไปเลย แต่ถ้ามีปัญหากรอกครบแต่เขียนเขตหรือรหัสเลือกตั้งผิด จะยึดรหัสเขตเลือกตั้ง 3 ตัวท้าย ซึ่งอยู่ด้านล่างของซองเป็นหลัก แต่ถ้ากรอกไม่ครบ หรือไม่มีรายละเอียดใดๆ หรือไม่มีการกรอกอะไรเลย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมี แต่ถ้ามีจะถูกส่งมาให้คณะกรรมการ ที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และไปรษณีย์วินิจฉัยว่า ซองนี้จะไปลงเขตใด ซึ่งจะต้องไปสอบทานกับต้นขั้วก่อน ยอมรับว่าอาจจะยุ่งยากพอสมควร” นายแสวง กล่าว

เมื่อถามว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งส่วนใหญ่พบว่า มีการกรอกรหัส 3 ตัวท้ายผิด นายแสวงกล่าวว่า เขตเลือกตั้งนั้นคิดว่าประชาชนทราบ แต่รหัสเขต 3 ตัวท้าย ไม่รู้ว่าประชาชนเข้าใจหรือไม่ อาจจะเข้าใจว่า กปน.ต้องกรอกรหัสไปรษณีย์ที่ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของ กปน. แต่การที่เราออกแบบการจ่าหน้าซอง ให้เขียนถึง 3 ชั้น เพื่อที่เวลาเกิดปัญหาก็จะสามารถตรวจสอบได้ และสามารถส่งบัตรเลือกตั้งนั้นส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งที่ประชาชนผู้มีสิทธิ์อยู่ ดังนั้น ยืนยันว่า แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตการทำงานของ กปน. แต่ยืนยันว่าบัตรทุกใบไม่เป็นบัตรเสีย คะแนนเสียงไม่ตกน้ำ

‘กรณ์’ เคลียร์ชัด!! ‘เงินเดือน 4 หมื่นบาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี’ ชี้!! ช่วยลดหย่อนสูงสุด 4.8 แสนต่อปี ผู้เสียภาษีเป็นปลื้ม!!

เมื่อไม่นานมานี้ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรึ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ ฟังหูไว้หู ทางช่อง 9 MCOT HD ดำเนินรายการโดย ชุติมา พึ่งความสุข และอาจารย์วีระ ธีรภัทร ในหัวข้อ ‘The Special: คุยกับ ชาติพัฒนากล้า’ ในบางช่วงบางตอนได้พูดถึงนโยบายเงินเดือน 4 หมื่นบาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี โดยนายกรณ์ระบุว่า..

หากคุณมีเงินเดือน 6 หมื่นบาท ถามว่าคุณได้ประโยชน์จากนโยบายนี้ไหม คำตอบคือ ได้!! เพราะว่าผมเขียนว่า 4 หมื่นบาทแรกไม่ต้องเสียภาษี นี่คือความหมายที่ต้องการจะสื่อนะครับ และก็เป็นแบบนี้ในทุก ๆ เดือน ไม่ใช่เอาเงินทั้งหมด 12 เดือนมารวมกัน แล้วคิดแค่ 4 หมื่นบาทแรกนะครับ แต่ต้องคิดแบบนี้ครับ เอาเงินเดือนในทุกเดือน ๆ มาคูณ 12 และหักลบค่าใช่จ่าย ลดหย่อนต่าง ๆ และหัก 480,000 ออกไป แล้วเหลือเท่าไหร่ค่อยมาเอามาคำนวณภาษี

“ก่อนหน้านี้ เกณฑ์การเสียภาษีอยู่ที่ 26,000 บาท ซึ่งมันนานมาแล้ว และค่าครองชีพทุกวันนี้ก็สูงขึ้น เท่ากับว่า 40,000 บาทในวันนี้ ก็คือ 26,000 เมื่อวันนู่นนั่นแหละ” นายกรณ์กล่าว

นายกรณ์ ยังกล่าวอีกว่า ผมเจอคำถามที่ว่า แบบนี้รัฐไหวเหรอ? ในแง่ของรายได้จากภาษีมันลดลงจริง ๆ แต่ลดลงแค่นิดเดียว พอเราบอกว่า 4 หมื่นบาทแรกไม่ต้องเสียภาษี ทุกคนที่มีเงินเดือนได้ประโยชน์หมด หรือจำนวนกว่า 4 ล้านคน แต่สมมติว่ามีเงินเดือนเกิน 4 หมื่นบาท ก็จะได้ประโยชน์ 7,500 ต่อเดือน แต่หากคิดเป็นสัดส่วนของรายได้ กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยเขาจะประหยัดมากกว่า แต่โดยรวมทั้งหมดจะทำให้รายได้จากภาษีส่วนบุคคลของรัฐลดลงปีละ 2.1 หมื่นล้าน ชาติพัฒนากล้าคำนวณมาเรียบร้อยแล้ว เทียบกับรายได้ปกติประมาณ 1.5 หมื่นล้าน ก็ถือว่าลดลงไม่เยอะ 

นอกจากนี้นายกรณ์ยังกล่าวถึงสาเหตุที่คิดนโยบายนี้ในช่วงเวลานี้อีกว่า…มีเหตุผลอยู่ 3 ประเด็น 

1.ค่าครองชีพที่สูงขึ้น กลุ่มคนมีเงินเดือนคือกลุ่มที่เสียภาษีตลอด และหลีกเลี่ยงไม่ได้ แบกรับภาระมาเยอะ 

2. ลดภาษีนิติบุคคลมา 10 กว่าปีแล้ว จาก 30% ลดลงมาเหลือ 20% ถ้าไปดูกันจริง ๆ มันมีสิ่งที่เรียกว่า ลักลั่นอยู่ ก็เลยเป็นสาเหตุให้คนที่มีรายได้สูง เช่น หมอ นักแสดง เขาไปตั้งบริษัท และรับรายได้ผ่านบริษัท เพราะบริษัทจ่ายภาษีน้อยกว่าภาษีบุคคล

และ 3. ปีนี้ สำนักงบฯ ประเมินแล้วว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.7 หมื่นล้าน จึงมองว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มทำนโยบายนี้

‘อภิสิทธิ์’ ลุยตลาดพลู ชวนเจ้าของประเทศไปใช้สิทธิ์ 14 พ.ค. นี้ อ้อนขอคะแนนให้ ‘แนน ศิริภา’ การันตีความสามารถ พร้อมรับใช้ปชช.

(8 พ.ค. 66) ที่ตลาดพลู เขตธนบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงให้ น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ หมายเลข 11 พรรคปชป. โดยนายอภิสิทธิ์ ขึ้นรถปราศรัยขนาดเล็กปราศรัย เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. นี้ เพื่อยืนยันสิทธิและยืนยันความเป็นเจ้าของประเทศ เพื่ออนาคตของทุกคน โดยขอให้พี่น้องชาวธนบุรี คลองสาน และราษฎร์บูรณะ เข้าคูหาเลือก น.ส.ศิริภา เบอร์ 11 บัตรสีม่วง มาเป็นผู้แทนของพี่น้องชาวฝั่งธนบุรี ส่วนบัตรสีเขียว เลือกหมายเลข 26 พรรคประชาธิปัตย์

โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนเข้ามาให้กำลังใจ ขอถ่ายรูปกับ นายอภิสิทธิ์ และบอกคิดถึงนายอภิสิทธิ์ เป็นจำนวนมาก โดยนายอภิสิทธิ์ พร้อมกับ น.ส.ศิริภา ได้เดินเท้าพบปะพี่น้องประชาชน ที่มาเดินทางมาท่องเที่ยวตลาดพลู รวมถึงประชาชนที่มารอใช้บริการรถไฟที่สถานีรถไฟตลาดพลู เพื่อขอคะแนนเสียงและแสดงความตั้งใจในการเลือกตั้งครั้งนี้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า น.ส.ศิริภา เป็นคนรุ่นใหม่ของปชป. ตนได้มีโอกาสทำงานกับ น.ส.ศิริภา  โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการต่างประเทศ ของพรรคปชป. น.ส.ศิริภาเป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคที่มีบทบาทสำคัญ ในการเป็นตัวแทนของประเทศไทย ในการประชุมในการประชุมตัวแทนของพรรคการเมืองในระดับภูมิภาคมาแล้วหลายครั้ง ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ และยังเป็นเลขาส่วนตัวของ นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ จึงขอยืนยันว่า น.ส.ศิริภา เป็นบุคคลที่มีความพร้อม มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ที่จะรับใช้พี่น้องประชาชน ในนามของพรรคประชาธิปัตย์

‘กรณ์’ ชีพจรลงเท้า!! ลุยช่วย ‘อรทัย-เทมส์’ หาเสียง จ.ภูเก็ต ชาวบ้านพร้อมเทคะแนนให้ มั่นใจ!! เป็นม้ามืดเข้าวิน 2 เขต

(8 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช พร้อมด้วย นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 1 จ.ภูเก็ต ลงพื้นที่ ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง พบแกนนำชาวบ้านกลุ่มธุรกิจประมงชายฝั่ง เลี้ยงปลาช่อนทะเล หรือ Black Salmon เป็นสัตว์เศรษฐกิจใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ที่หวังจะเป็นตัวขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชนชายฝั่ง ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้มั่นคงให้กับชาวบ้าน โดยนายกรณ์ ได้แนะนำเกี่ยวกับนโยบายกองทุนสร้างสรรค์ สู่การท่องเที่ยว พูดถึงนโยบายกองทุนสร้างสรรค์รายละ 1 ล้านบาท  

ต่อมาได้เข้าเยี่ยมประชาชนที่ตลาดสี่กอ อ.กะทู้ โดยมีประชาชนในตลาดให้ความสนใจกับนโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด โดยชาวบ้านเล่าว่า ช่วงโควิดระบาดหนัก แม่ค้ามีภาระจึงไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้จนต้องพึ่งหนี้นอกระบบ ดอกเบี้ยแพงและยังไม่รู้ว่าจะผ่อนหมดเมื่อไร จึงหวังว่า นางสาวอรทัย เบอร์ 1 จะได้เป็นผู้แทนผลักดันให้นโยบายนี้เป็นจริง พ่อค้าแม่ค้ากะทู้พร้อมเทคะแนนให้ 

จากนั้นนายกรณ์ ลงพื้นที่เขต 2 ภูเก็ต เพื่อช่วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ผู้สมัคร ส.ส. เบอร์ 7 ที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ที่ตลาดนาคา โดยมีนักท่องเที่ยว และพ่อค้าแม่ค้าให้การต้อนรับนายกรณ์ และคณะอย่างคึกคัก พร้อมกับส่งเสียงพร้อมสนับสนุนให้นายเทมส์เป็นผู้แทน เนื่องจากที่เป็นคนลงพื้นที่ต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีตั้งแต่ช่วงโควิด

‘ชัยวุฒิ’ เชื่อโค้งสุดท้าย คนกรุงเชียร์ลุงป้อม มั่นใจช่วยประเทศไทย ‘ก้าวข้ามขัดแย้ง’ 

(8 พ.ค. 66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมกับนายพณิชย์ วิทยาภัทร์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 2 เบอร์ 11 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ชุมชนบ้านครัวเหนือ เขตราชเทวี รับฟังปัญหาพี่น้องในชุมชน พร้อมบอกเล่านโยบายของพรรคพลังประชารัฐให้กับพี่น้องในพื้นที่ได้รับฟัง นอกจากนี้ยังได้พบชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในชุมชนได้สอบถามถึงนโยบายของการหาเสียงของพรรคพลังประชาชน โดยนายชัยวุฒิได้ตอบคำถามของชาวต่างชาติเรื่องนโยบายให้นักท่องเที่ยวฟัง เมื่อตอบคำถามเรียบร้อย ก็นำทีมหาเสียงในชุมชนต่อและได้เห็นวิถีชีวิตของพี่น้องชุมชนชาวคลองแสนแสบ และยังได้เข้าไปเยี่ยมชมร้านลุงอู๊ดบ้านครัวผ้าไหมไทย ซึ่งเปิดมากว่า 100 ปี ได้เห็นการทอผ้าใหม่และสอบถามถึงเรื่องของเส้นไหมที่นำมาทอ ประวัติความเป็นมาของร้านและความเป็นมาของชุมชนมุสลิมที่คลองแสนแสบนี้

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “เมื่อก่อนสมัยที่ตนอยู่เตรียมอุดมศึกษา ต้องมาเรียนพิเศษที่กิ่งเพชร กิ่งเพชรเป็นย่านชุมชนที่อยู่กันหนาแน่นพอสมควร และก็มีตึกเก่าๆ เยอะ 8 ปี ไม่มีอะไรเลยครับ มีร้านกาแฟขึ้นมาอีกร้านนึง ซึ่งก็เป็นความสามารถของนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ที่มาปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเยอะนะเดินมาในซอยไม่น่าเชื่อว่าคนต่างชาติจะเยอะ ตนคิดว่าต่างชาติน่าจะชอบวิถีคนไทย คือ เรียบง่าย ค่าครองชีพไม่สูง คนไทยใจดี เที่ยวไหนก็ไม่มีปัญหา ไม่มีอันตรายเหมือนอยู่ประเทศอื่น คนก็เลยมาเที่ยวกันเยอะ”

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อด้วยว่า “กทม. เป็นพื้นที่ฐานเสียงเก่าของพรรค ประชาชนคุ้นเคยอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้รับการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ อย่างการมาลงพื้นที่วันนี้ได้ทำความเข้าใจกับประชาชนในหลายๆ เรื่องที่ประชาชนสงสัย สุดท้ายตอนนี้ชาวบ้านเข้าใจแล้ว ต่างก็เชียร์ลุงป้อม อยากให้ลุงป้อมมาดูแลบ้านเมือง ก้าวข้ามความขัดแย้ง ทำให้กรุงเทพฯ อยู่ในความสงบสุข ที่มาเดินในย่านราชเทวี เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีคนมาท่องเที่ยว ช็อปปิ้งเต็มไปหมด มีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้น สิ่งต่างๆเหล่านี้จะเดินหน้าต่อไปได้ บ้านเมืองต้องสงบสุข เราต้องไม่ทะเลาะกัน เพราะความขัดแย้ง ความรุนแรง จะทำให้นักท่องเที่ยวหรือการพัฒนาต่างๆ มีปัญหาอย่างแน่นอน นี่คือสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ต้องการ”

‘ตำรวจ’ คุมตัว ‘อดีตพระอาจารย์คม’ พร้อมพวกอีก 2 ราย ฝากขังศาลอาญา หลังยักยอกเงินวัด 180 ลบ. พร้อมค้านประกัน

(8 พ.ค. 66) พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อขอฝากขัง 3 ผู้ต้องหา ได้แก่ 1. นายคม หรืออดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี 2. นายวุฒิมา หรือพระหมอ อายุ 38 ปี 3. น.ส.จุฑาทิพย์ อายุ 35 ปี

โดย ท้ายคำร้องได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานในคดี

สำหรับคดีนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้จับกุม 1. นายคมฯ หรืออดีตพระอาจารย์คม อายุ 39 ปี 2. นาย วุฒิมา หรือพระหมอ อายุ 38 ปี และ 3. น.ส.จุฑาทิพย์ฯ อายุ 35 ปี

‘ชนินทร์’ อ้อนขอโอกาส ปชช. อีกครั้ง หากในอดีตยังคงโกรธ ‘ปชป.’ พร้อมปล่อยคลิป “คุณคือลมหายใจ” เพื่อส่งสารไปยังคนกรุงเทพฯ

(8 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.นี้ พรรคการเมืองต่างปรับยุทธศาสตร์การหาเสียง โดยความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ พื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความน่าสนใจ คือ นายชนินทร์ รุ่งแสง ผู้สมัครส.ส.กทม. เขตบางกอกน้อย บางพลัด เบอร์ 7 ภายหลังที่การหาเสียงสะดุดไปหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากติดโควิดและประสบอุบัติเหตุ ล่าสุดเมื่อออกจากโรงพยาบาล นายชนินทร์จึงเร่งหาเสียง และเพิ่มจัดทำคลิป “คุณคือลมหายใจ” เพื่อส่งสารไปยังคนกรุงเทพฯ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/Chaninroongsang และแอปพลิเคชันติ๊กต็อก https://www.tiktok.com/@bang_chanin

นายชนินทร์ กล่าวว่า ความรู้สึกในคลิปดังกล่าวเปรียบได้ว่าตนเป็นตัวแทนของเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนในกรุงเทพฯ ที่ทำงานอย่างไม่ย่อท้อให้กับพื้นที่ของตัวเองตลอด 4 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในการจัดทำนี้ได้เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพฯ แล น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง มาร่วมในคลิปนี้ด้วย ซึ่งตนได้เลือกเพลงประกอบที่มีเนื้อหาใจความประกอบตรงกับสถานการณ์


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top